Bloggang.com : weblog for you and your gang
ลมหายใจของใบไม้
Group Blog
ลานอโศก
ห้องบริหารจิต
รอยอินทร์
ศิลปวัฒนธรรมไทย
วิ่งตามนาย
ข้อคิดคำเขียน
มองผ่านเลนส์
เพลงภูต
ร่ำไปในใบเรียว
ปลายทางที่โค้งฟ้า..ฯ
เรื่องสั้นหลายวันจบ
มีสุขร่วมเสพ..ฯ
เก็บรักมาเก็บไว้ที่ในรัก
อโรคยาปรมาลาภา
คลีนิคกายภาพ
วิทยายุทธ
แสนรักษ์
เพลงเพื่อแผ่นดิน
Music Box
เพลงเพื่อคุณ
MV Romance XL
MV น่ารัก
เพลงประกอบ
ฟังเพลงออนไลน์
รวมเพลงขิม
รวมเพลงขลุ่ย
เพลงลูกทุ่งไทย
ห้องภาพ
คนแถวหน้า
แดนสนธยา
มุมเตือนภัย
ถนนดวงดาว
บ้านและสวน
ตกแต่งสวน
ท่องไปในโลกกว้าง
คู่สร้าง-คู่สม
มุมซ่อมสวย
หยุดก่อนโลก..ฉันจะลง
ทัศนา-จร
เวทีดาว
ตลาดนัดงาน
เก็บออมรอมจ่าย
ซ่อมได้
ครัวไทย
ไทยน้ำทิพย์
บ้านเล็กในป่าใหญ่
ย่อโลก
หน้าต่างโลก
แฟชั่น
ชีวิตต้องสู้
คนรักรถ
กระฉ่อนเว็บ
งานสร้าง
กฏ+หมาย
สินทรัพย์
ศาสตร์แห่งตัวเลข
สมุนไพรไทย
อัญมณี
เทคนิคการถ่ายภาพ
รวมโค้ดแต่งบล็อก
มุมกีฬา
เรือนจำกลาง
สาวเอยจะบอกให้
ระเบียงรุ้ง
Lab
<<
ธันวาคม 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
24 ธันวาคม 2553
:::เคล็ดลับการเขียนขอบปาก:::
:::สวยอย่างมีสมอง:::
All Blogs
:::เคล็ดลับสาวสองพันปี:::
:::แต่งหน้าอย่างไรให้เครื่องสำอางติดทน:::
:::เคล็ดลับสาวผิวสวย:::
:::แต่งหน้าตามโครงสร้างหน้า:::
:::แต่งหน้าชะลอแก่:::
:::แต่งจมูกให้สวยถูกใจ:::
:::แต่งหน้าสไตล์ Lady GaGa:::
:::แต่งดวงตาแบบSmoky Sweet Pink :::
:::Makeup for Small Eyes:::
:::เขียนขอบตาง่ายๆ:::
:::แต่งหน้าสไตล์ Black Swan:::
:::เคล็ดลับการแต่งหน้าจากมือโปร โจนัส วราเมล เซเลบริตี้:::
:::เติมสีสรรให้หน้าสดใส:::
:::แต่งหน้าออกเดท:::
::แต่งหน้าเปลี่ยนชีวิต(ยังงัย):::
:::แต่งหน้าสูตรหวานสามสไตล์:::
:::สารพัดสูตรคงสภาพผิวงาม:::
:::แต่งหน้าไปงานปาร์ตี้:::
:::เทคนิคการลงแป้งฝุ่นให้เนียนได้ทั้งวัน:::
:::เคล็ดลับการเขียนขอบปาก:::
:::สวยอย่างมีสมอง:::
:::เปลี่ยนลุคเป็นสาวเปรี้ยว :::
:::แต่งหน้าแบบซองเฮเคียว:::
:::แต่งสวยไปงานเลี้ยงกลางวัน:::
:::แต่งหน้าสไตล์ญี่ปุ่น:::
:::สาธิตการแต่งหน้าสำหรับสาวตาเล็ก:::
:::เคล็ดลับสาวสองพันปี:::
:::Eyebrow Design:::
::: Make- up Kit :::
:::แต่งหน้าสำหรับสาวแว่น:::
:::แต่งหน้าวัยใสเดินชายหาด:::
:::แต่งหน้าสไตล์ แคนดี้ ป้อบ พิงค์ :::
:::แต่งหน้าแบบเจ้าสาววัยใส:::
:::FRESH SCHOOL MAKEUP:::
:::BLACK & GOLD eye shadow make up:::
:::แต่งหน้า สไตล์ บิล เคาลิทร์:::
:::แต่งหน้าสุดเปรี้ยว สไตล์ ลีโอนา เลวิส:::
:::แต่งหน้าสไตล์ บริสเนย์:::
:::ซ่อมปากให้สวยได้ง่ายๆ:::
:::แต่งหน้าตามสไตล์อย่างสมวัย:::
:::การดูแลผิวหน้าในแต่ละช่วงวัย:::
:::6 วิธีคงความงามให้ผิวพรรณ:::
:::การเลือกใช้ครีมกันแดด:::
:::เลือกผมอย่างไรให้รับกับใบหน้า:::
:::แก้ปัญหาขอบตาดำ:::
:::วิธีปัดมาสคาร่าให้ขนตาดูงอนงาม:::
:::7 steps คิ้วสวย
:::วิธีเลือกแปรงปัดแก้ม..ให้สวยโดนใจ:::
:::20 ขั้นตอนการแต่งหน้า:::
:::แต่งหน้าสไตล์เร่าร้อน:::
:::วิธีการซ่อมคิ้ว ตา จมูกให้สวย:::
:::แต่งหน้า แบบ FRESH STYLE:::
:::แต่งพรางรูปหน้า:::
:::แต่งรูปปากให้สวย"เย้ายวน":::
:::เขียนเปลี่ยนรูปตาให้สวยเท่าใจ:::
:::วิธีเลือกใช้ลิปสติคให้เข้ากับสีปาก:::
:::วิธีการแต่งตาและทาปากให้ลงตัว:::
:::การแต่งหน้าเพื่อลบเลือนจุดบกพร่อง:::
:::เทคนิคสวยกับการใช้บรัชออน:::
:::เทคนิคการเขียนคิ้ว:::
:::เทคนิคการแต่งหน้า 3 สไตล์:::
:::เบ็ดเตล็ดของการแต่งหน้า:::
:::เทคนิคการแต่งหน้า...แบบง่าย:::
:::เทคนิคการแต่งหน้าให้ดูอ่อนกว่าวัย:::
:::เคล็ดลับชะลอแก่ 2:::
:::กำจัดรอยย่นบนใบหน้า:::
:::ชะลอแก่อย่างง่ายง่าย:::
:::อย่าทำร้ายกันอีกเลย:::
:::ซ่อมสวย 2 :::
:::ซ่อมสวย 1:::
:::สวยอย่างมีสมอง:::
ทุกวันนี้ผู้หญิงสามารถเลือกสวยได้ในสไตล์ที่พอใจ แต่แค่ความสวยอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะถ้าเป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยและฉลาดด้วยแล้ว ความสุขความสำเร็จและสุขภาพที่ดีก็อยู่แค่เอื้อม มาดูกันว่าจะจัดการให้ตัวเองฉลาดขึ้นรับปีใหม่ได้อย่างไรบ้าง
หลายคนเข้าใจว่าความฉลาดเป็นเรื่องของไอคิวที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด นี่เป็นข้อเท็จจริงเพียงส่วนเดียว เพราะอีกส่วนหนึ่งนั่นคือ ความฉลาดเป็นเรื่องที่ฝึกฝนและทำให้เกิดขึ้นได้ เพียงแต่มีเป้าหมาย แล้วตั้งใจมุ่งมั่น ทำตามวิธีและขั้นตอน เพื่อเดินไปสู่ความสำเร็จ โดยทั่วไปแล้วสมองคนเรามีน้ำหนักราวร้อยละ 3 ของน้ำหนักตัว จากแรกเกิดมีเซลล์ประสาทอยู่ประมาณ 1 แสนล้านเซลล์ และมีเซลล์เชื่อมต่อกันคล้ายรังผึ้งอีกราว 1 ล้านล้านเซลล์ เมื่ออายุครบปีสมองจะสร้างเซลล์ประสาทเชื่อมโยงกันนับล้านจุด ยิ่งถ้ามีการกระตุ้นสร้างเสริมที่ถูกวิธีและต่อเนื่อง เด็กก็จะยิ่งฉลาดมากขึ้น พอถึงอายุ ๒ ขวบ สมองจะมีจุดเชื่อมต่อมากกว่าแรกเกิดสองเท่า และต้องการพลังงานสองเท่าของผู้ใหญ่ หลังจากนั้นการสร้างใยประสาทจะลดลงบ้าง เมื่อถึงวัยประมาณ 15 ปีสมองจึงจะหยุดขนาด และมีน้ำหนักโดยรวมประมาณ 1.4 กิโลกรัม เดิมเคยเชื่อกันว่า ขนาดของสมองมีผลต่อความฉลาด แต่งานวิจัยล่าสุดของนักวิจัยอังกฤษบ่งชี้ว่า ขนาดไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญ อยู่ที่ความหลากหลายของโปรตีนตรงส่วนเชื่อมต่อประสาทมากกว่า โดยเฉพาะประสบการณ์และการกระตุ้นการเรียนรู้จะช่วยให้ฉลาดขึ้นได้ แม้ว่ายิ่งอายุมากขึ้น การสร้างสายใยและจุดเชื่อมต่อจะเพิ่มน้อยมาก แต่ก็เกิดได้ตลอดเวลาขึ้นอยู่ที่การกระตุ้นและใช้งานสมองบ่อยๆ
Brain Exercise
ไม่ว่าใครก็คงอยากมีสมองที่ฟิตและเฟิร์ม ความคิดปราดเปรื่องและคล่องแคล่วว่องไวอย่างที่เรียกกันว่า หัวไว แต่การที่สมองจะคล่องแคล่วได้นั้นเกิดจาการใช้งานบ่อยๆ การฝึกใช้ความคิด และใช้งานสมองบ่อยๆจะช่วยกระตุ้นให้สมองฉับไว ศาสตราจารย์ลอเรนซ์ ซี แคตซ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยา ชาวอเมริกัน เป็นผู้นำเอา นิวโรบิกส์ เอ็กเซอร์ไซส์ที่เป็นการออกกำลังกายสมองมาใช้ ด้วยการนำแนวคิดการออกกำลังแบบแอโรบิกที่ทำให้ร่างกายแข็งแรง ด้วยการขยับกล้ามเนื้อหลายๆส่วนมาประยุกต์กลายเป็นวิธีบริหารสมองที่ใช้ประสาทสัมผัสไปกระตุ้นกล้ามเนื้อสมองหลายๆส่วนให้ขยับและตื่นตัว ทำให้แขนงเซลล์ประสาทแตกกิ่งก้านสาขา เซลล์สมองสื่อสารกันมากขึ้น ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆและช่วยให้สมอง สมองฟิตยิ่งขึ้น ทำได้โดยกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ให้ทำงานเชื่อมโยงกัน เมื่อฝึกออกกำลังสมองบ่อยๆ สมองจะมีการหลั่งสารนิวโรโทรฟินส์ที่เปรียบเป็นอาหารสมอง ช่วยกระตุ้นให้เส้นใยสมองที่เชื่อมระหว่างเซลล์ประสาททำงานดีขึ้น จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้เนื้อเซลล์เจริญเติบโตและเซลล์สมองแข็งแรง
การทำกิจกรรมซ้ำๆทุกวัน จะไม่ช่วยให้สมองได้รับการกระตุ้น เพราะทำไปตามความเคยชินแบบไม่ต้องใช้ความคิด สมองจึงทำงานลดลง เมื่อเซลล์สมองถูกกระตุ้นลดลงจึงเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้เซลล์สมองฝ่อ ถ้าได้ทำสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อนจะช่วยกระตุ้นสมองอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 นอกจากนี้เมื่อมีความสุขกับกิจกรรมใหม่ๆทำให้ร่างกายหลั่งสารสุขคือ เอ็นดอร์ฟินออกมาซึ่งจะส่งผลดีต่อสมอง และยังส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย ทำได้โดยเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ใหม่ๆ พบเจอคนใหม่ๆ และแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ทำให้สมองได้คิดวิเคราะห์ แก้ปัญหามากขึ้น หางานอดิเรกใหม่ๆทำ เช่น หัดเล่นกีฬาที่ไม่เคยเล่น ต่อจิ๊กซอว์ ทำงานฝีมือต่างๆ เรียนภาษาใหม่ๆ หัดเล่นดนตรี ฝึกใช้ทั้งมือซ้ายและขวาให้ถนัด รวมทั้งการพบปะสังสรรค์ก็มีส่วนช่วยพัฒนาสมองได้ เพราะการเข้าสังคมทำให้สมองได้แก้ปัญหามากขึ้น ทำให้มีการสื่อสารระหว่างเซลล์สมองมากขึ้น
Food For Smart Brain
1. เลือกกินอาหารบำรุงสมอง
อาหารการกินที่ดีส่งผลถึงสมองด้วย ดังนั้นควรเลือกกินอาหารที่ช่วยบำรุงสมอง เช่น ในถั่วเหลืองและไข่แดง ซึ่งมีเลซิตินอยู่มาก จะช่วยในเรื่องเสริมสมาธิและความจำระยะสั้น รวมทั้งช่วยเพิ่มไขมันที่ดี (HDL) และจะช่วยขับไขมันชนิดเลวที่เป็นอันตรายออกจากเส้นเลือดด้วย การกินปลามากๆก็ช่วยส่งผลดีต่อความจำและการเรียนรู้ เพราะในอาหารจำพวกปลา โดยเฉพาะปลาทะเล เช่น แซลมอน ปลาทู ปลาทูน่า ปลามีกรดไขมันที่จำเป็นซึ่งร่างกายผลิตเองไม่ได้คือโอเมก้า 3 หรืออาจกินแบบที่สกัดเป็นน้ำมันปลาแทนก็ได้ ส่วนใบบัวบกมีสรรพคุณช่วยให้เลือดหมุนเวียนไปเลี้ยงสมองและส่วนต่างๆของร่างกายดีขึ้น จึงป้องกันสมองเสื่อมและบรรเทาความเสื่อมของสมองได้ด้วย ทั้งยังช่วยให้ร่างกายและสมองคลายความเหนื่อยล้าได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ จิงโกะ หรือสารสกัดจากใบแป๊ะก๊วยและสารสกัดจากเมล็ดองุ่น ก็สามารถช่วยเสริมความจำได้
2.
ดื่มน้ำมากๆ
ในสมองมีน้ำเป็นองค์ประกอบอยู่มากถึงร้อยละ 85 ถ้าได้รับน้ำไม่เพียงพอ สมองจะทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้สมองล้าและเกิดความเครียดได้ง่าย เพราะฉะนั้นควรดื่มน้ำมากๆและจิบน้ำบ่อยๆจะช่วยให้ร่างกายสดชื่น สมองแจ่มใส ความคิดเปล่งประกาย
3.
นั่งสมาธิเป็นประจำ
การนั่งสมาธิช่วยให้อะไรดีขึ้นหลายๆอย่าง เช่น จิตใจ สุขภาพ และอารมณ์ ตลอดจนช่วยให้ความจำดีขึ้น เป็นภาวะที่ร่างกายเหมือนจะหลับ แต่ก็ไม่ได้หลับ และมีสติรู้ตัวอยู่เสมอ ช่วยให้จิตใจสดชื่นแจ่มใส สมองเปิดรับข้อมูลใหม่ๆและจดจำได้เป็นเวลานาน สมาธิยังช่วยรักษาจิตใจที่ปั่นป่วนกดดัน สมาธิสั้น วุ่นวาย ไม่อยู่นิ่งให้สงบขึ้นอีกด้วย จึงช่วยให้เข้าใจสถานการณ์ และรับมือกับเรื่องราวต่างๆได้ดีขึ้น
4.
หลับอย่างมีคุณภาพช่วยเสริมความจำ
การนอนหลับอย่างมีคุณภาพจะช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของสมอง และช่วยเสริมความจำได้เป็นอย่างดี สมองก็เปรียบเหมือนคอมพิวเตอร์ที่ได้รับข้อมูลใหม่ๆป้อนเข้ามาทุกวัน ระหว่างที่ร่างกายนอนหลับจะมีการจัดระเบียบข้อมูลต่างๆที่ได้รับมา ส่วนที่ไม่สำคัญก็จะถูกโยนทิ้งไป หลังการนอนหลับอย่างพอเพียงและอย่างมีคุณภาพจะทำให้สมองปลอดโปร่ง ช่วยให้เตรียมพร้อมที่จะรับข้อมูลและการเรียนรู้ใหม่ๆที่จะเข้ามาได้อย่างเต็มที่ ทางที่ดีควรเข้านอนและตื่นให้เป็นเวลา
5.
ฝึกหายใจลึกๆ
ทุกวันนี้เราใช้งานสมองไม่ถึงร้อยละ 10 ของสมรรถภาพการทำงานของสมอง ถ้าสมองได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ ก็จะช่วยให้สมองสดชื่น ทำงานได้ดียิ่งขึ้น การหายใจเข้าแต่ละครั้ง สมองต้องการออกซิเจนถึงร้อยละ 20 ของออกซิเจนที่เข้าสู่ร่างกายทั้งหมด ดังนั้นการหายใจเข้าช้าๆลึกๆ ก็เท่ากับช่วยส่งออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น เพราะฉะนั้นควรฝึกนั่งหลังตรงและสูดลมหายใจเข้าอย่างช้าๆลึกๆเพื่อให้ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากๆจะช่วยเสริมพลังสมองมากขึ้น■
//www.elle.co.th
Create Date : 24 ธันวาคม 2553
Last Update : 24 ธันวาคม 2553 5:49:30 น.
0 comments
Counter : 1057 Pageviews.
Share
Tweet
Peakroong
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [
?
]
"หากต้องตัดสินใครสักคน
เริ่มจาก "ทำไม"คงจะดีกว่า"อย่างไร"
เพราะสิ่งที่มองเห็นไม่แน่ว่ามีอยู่จริง
สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าไม่มี
สิ่งที่คิดว่าใช่อาจไม่ใช่
สิ่งที่ไม่คิดว่าใช่สำหรับคุณ
มันอาจใช่เลยสำหรับใครอีกคน"
"
๐ ให้ลมหายใจของใบไม้เป็นบันทึกคนกล่อง
คำเขียนของคนล้มลุกคลุกคลาน
แต่ยังมีลมหายใจเป็นของตัวเอง
แม้ไม่ใช่ทุกอย่างที่มีหากเป็นทุกอย่างที่เป็น
เก็บความว่างเปล่าไว้เติมเต็ม..
๐ ขอบคุณตัวละครทุกตัว
ทั้งที่มีอยู่จริงและที่ไม่มีตัวตน
ขอบคุณวันเวลา-ครูบา-อาจารย์
ที่สอนให้เก็บเกี่ยว ฝึกให้คิด สอนให้เขียน
๐ ขอบคุณเพื่อนเพื่อนชาวไซเบอร์
ที่กรุยทางให้สร้างสรรรค์บล็อคได้เท่าใจ
ขอบคุณทุกภาพงดงามจากบล็อกน้องญามี่
ขอบคุณ
https://www.thaipoem.com
ที่ให้เพลงประกอบเป็นอมตะนิรันดร์กาล
๐ ขอบคุณความเป็นเธอ..
ที่ส่งผ่านการ"ให้"มาเสมอฝัน
ขอบคุณความเป็นฉัน..
คนเกี่ยวประสบการณ์ระหว่างวันมาถักทอ
'ปีฆรุ้ง
27 มกราคม 2553
Friends' blogs
Peakroong
Webmaster - BlogGang
[Add Peakroong's blog to your web]
Links
ร้านค้าออนไลน์
สโมสรสร้างสรรค์ทางเลือก
ทางด่วน
Facebook
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.