กลับมาแล้ว พร้อมเด็กชายตาแป๋ว

Smiley ห่างหายไปนานจากการเขียนบล็อค เนื่องภารกิจของความเป็นแม่ ที่กลับบ้านแล้วต้องพร้อมที่จะรับช่วงเลี้ยงลูกต่อจากคุณยายเพื่อให้คุณยายได้พัก พ่อตัวดีของหม่ามี๊ปีนป่ายไปนั่นมานี่ตลอดเวลา สุขภาพแข็งแรงพอสมควรเพราะกินนมแม่ 9 เดือนครึ่ง (จริง ๆ ตั้งใจจะให้ถึง 1 ขวบแต่พ่อคุณกินดุมาก นมในสต็อคหมดเร็วกว่าที่คาดไว้)


วันที่ 24 กรกฎาคม 2553 ไปตรวจกับคุณหมอตามปรกติ เรารู้สึกได้ว่าลูกดิ้นน้อยลง คุณหมอเองก็ Ultrasoundดูแล้วพบว่า เด็กแทบจะไม่ขยับตัวเอย น้ำคร่ำก็เหลือน้อยเกินไปแล้ว เราอยากคลอดเองคุณหมอก็เลยบอกว่า หมอให้รอได้อีก 1 อาทิตย์ แต่เราจะต้องนับและสังเกตการดิ้นของลูกอย่างใกล้ชิดมาก ๆ ถ้าผิดปกติให้รีบมาที่โรงพยาบาลทันที ฟังแล้ว เครียดไปเลย มีคำถามกับตัวเองเลยว่า เราต้องเป็นโรคประสาทแน่ ๆ อายุครรภ์ตอนนั้น 38 สัปดาห์ 3 วัน เราถามคุณหมอว่าถ้าเค้าออกมาตอนนี้เลยเค้าจะปลอดภัยใช่ไหม เราจะรู้เลยใช่ไม๊เค้าผิดปกติเรื่องอะไร คุณหมอบอกว่า ใช่ ด้วยความร้อนใจ เราและสามีตัดสินใจผ่าคลอดวันรุ่งขึ้นเลย เพราะเป็นห่วงลูกมาก อีกอย่างนึงอยู่ในท้องเราก็มองไม่เห็นเค้าว่าเค้าสุขสบายดีหรือเปล่า สุดท้าย นัดผ่า จองให้พักฟื้นเรียบร้อย แต่หัวใจของคนเป็นแม่ ยังคงหวาด ๆ กลัว ๆ กับการขึ้นเขียงอยู่ เพราะเตรียมลมไว้เบ่งมาตลอดไม่ใช่เตียงพุงไว้ผ่า


วันผ่าเราก็แสนจะตื่นเต้นหมอรมยามาแล้วยาวิ่งไม่ทันฤกษ์ที่แม่สามีอยากได้ คุณหมอเราต้องวางยาสลบ เราเหมือนโดนทุบหัว ตื่นมาเห็นแต่เพดานสีขาว คนเดินผ่านไป ผ่านมาและหายใจได้โล่งปอดขึ้น (ตอนท้องแก่หายใจไม่ค่อยออกเพราะลูกตัวใหญ่มาปิดกระบังลม)เราถามพยาบาลถึง 2 คนว่าลูกเราโอเคมั้ย ครบหรือไม่ พยาบาลใจดีบอกเราว่า ปลอดภัย แข็งแรงค่ะคุณแม่และน่ารักน่าชังมาก ๆ  เราถูกเข็นไปที่ห้องพัก ยาสลบและยาชาเริ่มหมดฤทธิ์แล้ว แผลผ่าคลอดเจ็บสุด ๆ ยิ่งตอนย้ายจากเตียงผ่าตัดมาเตียงคนไข้นี่แทบกรี๊ด เราไม่รู้เลยว่าเราต้องเจอกับอะไรที่หนักกว่านั้นมากนัก


พอเรามาถึงห้องพัก สามีดีใจมากที่เห็นหน้าเรา รีบเดินเข้ามาหา ถามว่าโอเคมั้ย เราบอกโอเค เข็ดมั้ย เรายิ้ม ๆ บอก ไม่เข็ด (5555555) พอเตียงคนไข้จอดสนิท คุณพยาบาล 5 คนก็ปิดม่านและมายืนล้อมเตียงเรา น้องพยาบาลสาว เปิดผ้าเราออกตั้งแต่หน้าขาจนมาถึงเอว เรางงถามว่า"มีอะไรหรือเปล่าคะ" น้องพยาบาลเอามือกดที่หน้าท้องเราเบา ๆ (ซึ่งความรู้สึกเราตอนนั้นขอโทษนะคะ เจ็บโคตร) พี่พยาบาลส่ายหน้าเล็กน้อยและบแกเราว่า


" คุณแม่คะ หมอเอาลิ่มเลือดออกไม่หมด พยาบาลต้องบีบที่หน้าท้องคุณแม่เพื่อเอาเลือดออกมา ไม่อย่างนั้นคุณแม่จะตกเลือด คุณแม่อดทนนะคะ พยาบาลจะบีบแล้วค่ะ" สามีเราตกใจมากโผล่หน้ามาดูในม่านว่าทำอะไร คุณพยาบาลหันไปบอกสามี"คุณพ่อไม่ต้องตกใจค่ะ รอด้านนอกก่อนนะคะ) แล้วเค้าฝ่ามือวางที่ท้องน้อยเราแล้วขยุ้มบีบเหมือนบีบมะนาวให้หมดน้ำ มันสุด ๆ ไปเลยจริง ๆ เราไม่ร้องออกมาสักคำแต่หน้าเราคงแสดงออกมาหมด น้องพยาบาลถึงกับสูดปากแทนเรา เอามือบาง ๆ มาจับมือของเราไว้ พี่พยาบาลบีบอยู่อย่างนั้น 4-5 ครั้ง แล้วหันไปมองลิ่มเลือดที่ออกมา หันไปสอนน้อง "เห็นมั้ย ต้องบีบแบบนี้นะ แค่เอามือกด ๆ ไม่ได้ ลิ่มเลือดออกมาตั้ง 2 ก้อนใหญ่ ๆ " น้องพยาบาลพยักหน้า ทำความสะอาดให้เราและแต่งกายให้เราใหม่ เปิดม่านให้สามีเข้ามา หันมาบอกเราว่า "พี่สุดยอดเลยค่ะ ไม่ร้องสักคำ เยี่ยมมาก" เรายิ้มให้และขอบคุณเค้าที่ยืนอยู่ข้างเรา


สรุป เราต้องนอนราบ 24ชั่วโมงเพราะยาที่บล็อคหลัง เราเป็นคนสุดท้ายที่ได้เห็นลูก สามีสงสารเดินไปถ่ายรูปลูกที่ห้องเนิร์สเซอรี่มาให้ดูแทบทุกชั่วโมง พยาบาลสอนให่นมเรื่องวัคซีน เรื่องการอาบน้ำเด็ก เราหน้าอกเริ่มคัดจึงต้องปั๊มออกให้ลูกกิน ความรู้สึกครั้งแรกที่ลูกดูดนมจากออกมันตื้นตันจริง ๆ ค่ะ นี่แหละคือหน้าที่ที่สมบูรณ์และถูกต้องของหน้าอกผู้หญิง ไม่ได้มีไว้ให้ชายพึงใจ แต่มีไว้ให้ลูกดูดนมเป็นอาหารต่างหาก


เรากลับมาเลี้ยงลูกที่บ้านหลังจากที่ฝึกวิชาทั้งหลายแหง่จากโรงพยาบาลมาแล้ว 3 เดือนแรกเป็นความโกลาหลที่สุดในชีวิต เหนื่อยที่สุดในชีวิต ในขณะเดียวกันก็มีความสุขที่สุดในชีวิต ลูกชายเรากินเก่ง เลี้ยงง่ายและอารมณ์ดีสุด ๆ พอลูกครบ 6 เดือนเราหยุดปั๊มนมเพราะไม่มีที่เก็บแล้ว พ่อคุณกินไม่ทัน 2 ช่องฟรีซกับ 1 ตู้แช่ขนาด 3.5 คิว ตอนนี้หนุ่มน้อย 10เดือนจะ 11 เดือนแล้ว ธุจ้าได้ ปีนป่ายประจำ เกาะยืน เกาะเดิน และคลานเร็วมาก หน้าทิ่มบ้างล้มบ้างเป็นธรรมดา


ดีใจที่ได้มีวันนี้ วันที่เจ้าตัวเล็กกำลังเติบโต เหนื่อยแสนเหนื่อยยังไงมันก็คือความสุขในชีวิตของทั้งเราและสามี ตอนนี้ชีวิตของเราสมบูรณ์แล้ว พ่อตัวเล็กน่ารัก สมกับที่เรารอคอยมาตลอด ขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้มีวันดีดีแบบนี้Smiley








Free TextEditor




 

Create Date : 09 มิถุนายน 2554    
Last Update : 9 มิถุนายน 2554 10:44:52 น.
Counter : 1416 Pageviews.  

36 สัปดาห์ - มรสุมไตรมาสสุดท้าย มันเป็นอย่างนี้นี่เอง !!!!

Smileyตั้งแต่ตั้งครรภ์มาไม่เคยรู้สึกแย่ ๆ เลยสักครั้งเดียว เช่นท้อแท้กับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเอง หรือเหนื่อยกับการอาเจียนเพราะแพ้ท้องในช่วงไตรมาสแรก บางครั้งเห็นแม่ ๆ มาตั้งกระทู้ถามกันว่า ระหว่างไตรมาสแรกกับไตรมาสสุดท้าย ไตรมาสไหนทรมานมากกว่ากัน เราก็ยังงง ๆ จนกระทั่งขึ้นสัปดาห์ที่ 36 ความเข้าใจเกิดขึ้นทันที


เริ่มตั้งแต่หายใจไม่ทั่วท้อง ทั่วปอด จนบางครั้งอยากจะมีถังอ๊อกซิเจนส่วนตัว ตอนกลางคืนเวลาตื่นมาเข้าห้องน้ำ นอนต่อไม่ได้เพราะหายใจไม่ออกไม่ว่าเราจะพลิกตะแคงไปข้างไหน หลับไม่สนิทตื่นบ่อยเพราะท้องใหญ่แล้ว อึดอัด จะลุกจะเดินจะยืนจะนั่ง รู้สึกว่าร่างกายของเราเองหนักมาก โดยเฉพาะเวลาที่นั่ง ๆ อยู่แล้วอยากจะลุก สามีต้องมาช่วยพยุง (เหมือนเมียอ้วนเป็นคนแก่) ท้องขยายใหญ่มากจนกลัวว่าโลชั่นที่ทาเช้าเย็นจะไม่พอ (อย่าแตกลายเลยนะ เพี้ยง  ๆ ๆ ๆ ) พ่อคุณในท้องตัวใหญ่ขึ้นเวลาขยับตัวเห็นพุงเคลื่อนที่เป็นคลื่นเลย


บางวันลูกตื่นแล้วแต่เรายังอยากนอนอยู่ ไม่ว่าจะนอนท่าไหน พ่อคุณก็ไม่ถูกใจ สามีสงสารเอามือมาจับพุง(เวลาป๊าจับพุงลูกจะไม่ดิ้น) ที่ไหนได้ น้องปุญญ์ทักทายป๊าจนมือกระตุก ตาป๊าก็นอนหัวเราะด้วยความดีใจ สรุปว่าไม่ได้นอนทั้งคู่ คนนึงลูกดิ้นอยู่ในท้อง อีกคนดีใจที่ได้จับท้องเวลาลูกดิ้นจริง ๆ เสียที ตาโหลทั้งป๊าทั้งแม่


ของที่เตรียมไว้ให้ลูกขาดอีกไม่กี่ชิ้นเท่านั้น คุณหมอบอกว่าตอนนี้พร้อมจะคลอดได้ทุกเมื่อ ให้เตรียมตัวไว้ หัวลูกยังไม่ลงต่ำมาก ยังไม่ต้องกังวล ตอนนี้ลูกกลับหัวแล้ว สามารถคลอดเองได้ แต่ขึ้นอยู่กับสภาพตอนนั้นด้วยว่า ปากมดลูกเปิดหมดหรือไม่ เอาล่ะน้องปุญญ์ อีก 3 สัปดาห์เราจะได้เจอกันแล้ว แม่อยากให้ลูกเลือกเวลาเอง ถึงเวลาพร้อมจะออกมาเมื่อไหร่ เรามาเจอกันนะลูก ลำบากแค่ไหน รถติดยังไง แม่กับป๊าจะทำทุกวิถีทางให้ลูกปลอดภัย แม่เชื่อว่าถ้าแม่ได้ยินเสียงร้องครั้งแรกของลูก ความเจ็บปวด และความรู้สึกเหนื่อยล้าจากการตั้งครรภ์ของแม่จะหายไป เพราะลูก คือดวงใจของเรา แล้วเจอกันจ้า เสือน้อยนักเต้นของแม่ Smiley 







Free TextEditor




 

Create Date : 13 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 13 กรกฎาคม 2553 11:40:31 น.
Counter : 2178 Pageviews.  

33 สัปดาห์ เจ็บคอและเป็นหวัด

Smiley เนื่องจากว่าพักผ่อนน้อยและอากาศเปลี่ยนแปลง ทำให้ตื่รเช้ามาในวันหนึ่งเราเจ็บคอ ตอนค่ำ ๆ ทนรำคาญตัวเองไม่ไหว ต้องไปหฟาคุณหมอที่โรงพยาบาล (จะทานยาเองก็เกรงว่าจะไม่ดี ไปพบแพทย์แน่ใจกว่า) ไปถึงโรงพยาบาลตอน 20.00 น. คุณหมอที่ดูแลเราอยู่กลับบ้านไปแล้วใต่คุณหมอสูติที่เป็นหมอเวร คุณหมอน่ารักและอารมณ์ดีมาก ๆ คุณหมอถามว่า


" อยากจะหยุดกี่วันดี" เราทำหน้าแสนจะงง


"เลือกได้ด้วยเหรอคะคุณหมอ ... ถ้าเลือกได้หนูไม่หยุดได้ไม๊คะ งานหนูยุ่งมาก ๆ ค่ะ"


คุณหมอหัวเราะออกมาเลย "ทำไมวันนี้ไม่มีแม่คนไหน อยากจะหยุดกับหมอเลยนะ มีแต่คนขอกลับไปทำงานซะหมด โอเค ไม่หยุดก็ไม่เป็นไร หมอจะให้คุณพักผ่อนเอง" ก้มหน้าก้มตาเขียนอะไรยุกยิกในประวัติและสั่งยา


เห็นยาที่หมอสั่งให้แล้วอยากจะร้องไห้ เจอยาแก้แพ้ CPM เข้าไป 3 เวลาหลังอาหาร หลับสนิทเป็นหญิงอ้วน ๆ บวมอืด ลางาน 2 วันแบบจำใจ เจ้านายใหม่ก็สงสารถามว่า ไหวแน่นะ


อีก 3 วันถัดมายาหมด เรากลับไปโรงพยาบาลอีกครั้ง นอกจากเจ็บคอแล้วงานนี้ไม่ไอและมีเสมหะแถมมาด้วย เราได้พบกับคุณหมอสูติประจำตัว คุณหมอออกมาบอกว่าเดี๋ยวหมอจะส่งไปให้อายุรแพทย์เค้าดูนะ จะได้จัดยาให้ถูก ที่ไม่มีผลต่อลูก


เข้าไปถึงเราบอกคุณหมอทันทีว่า "คุณหมอคะ หนูขอยาที่จะทำให้หนูหายเร็วที่สุดนะคะ ได้ไหมคะ" คุณหมอตรวจร่างกายทั่วไป ยิ้มน้อย ๆ แบะตอบว่า "ได้ครับ เดี๋ยวหมอออกใบรับรองแพทย์ให้"


เล่นเอางงอีกแล้ว สั่งยาต้องออกใบรับรองแพทย์ด้วยเหรอ คุณหมออธิบายต่อ "ยาที่ดีที่สุดสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์คือการนอนพักผ่อนครับ เพราะยาที่หมอสั่งให้ทานจะเป็นยาที่มีฤทธิ์น้อยที่สุด จะได้ไม่กระเทือนถึงลูกที่อยู่ในท้อง คุณต้องนอนพักให้มาก ๆ ดื่มน้ำอุ่น ๆ และทานยาที่หมอสั่งให้หมด พักสัก 2 วันนะครับ กลับไปบ้านวันนี้พักผ่อนเลย อย่านอนดึก จะได้หายเร็ว ๆ อายุครรภ์เริ่มเยอะแล้ว" ฟังจบ อยากจะเอาหัวโขกโต๊ะแพทย์ไปเลย โทรลางานเจ้านายและนอนอยู่บ้านอีก 2 วัน


ตอนกลางวันก็ร้อน นอนไม่สบายตัวเลย สามีก็มาติดหวัดไปด้วยอีกคน กลางคืนไม่อยากจะเปิดแอร์ เราคนท้องก็ขี้ร้อน ปกตินอน 26 องศาไม่ห่มผ้า สามีนอนห่มผ้าถึงคอตอนเปิดแอร์ 30 องศา ต้องเจรจากันทุกคืนแบบคนละครึ่งทาง


ยาหมดชุดหยุด 2 วันเราก็หายเป้นปลิดทิ้งเลย พยายามจะไม่ให้ตัวเองป่วยง่าย ๆ อีก เพราะมันไม่สนุกเลย สงสารลูกด้วย อีกไม่กี่สัปดาห์จะได้เจอน้องปุญญ์แล้ว คลอดเมื่อไหร่จะมา Update ประสบการณ์การคลอดและ upload เทวดาน้อยเท้าไฟให้ดูค่ะ Smiley






Free TextEditor




 

Create Date : 03 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 3 กรกฎาคม 2553 10:09:30 น.
Counter : 1296 Pageviews.  

32 สัปดาห์ น้ำหนักลดได้ไงอ่ะ

Smiley ช่วงสัปดาห์ที่ 32 คนงานที่บ้านของแม่สามีลาออก เราก็เลยต้องช่วยกันซักผ้ารีดผ้า มันก็สนุกนะ แต่เหนื่อยโฮกเลย ร่างกายล้ามาก ๆ ความอยากอาหารก็น้อยลง เพราะอยากแต่จะนอนพัก ป๊าขยันขันแข็งมากกลัวแม่และน้องปุญญ์เหนื่อย เหมางานเกือบทั้งหมดเลย งานที่ Office เองก็ยุ่งจนแทบไม่มีเวลาเอามืออกมาจากคีย์บอร์ด ทำให้เรารู้สึกว่าน้องปุญญ์ดิ้นน้อยลง ตอนนอนก็แกล้งลูกนอนตะแคงเยอะ ๆ ลูกก็ยังนิ่งเฉย


ในที่สุดก็ต้องไปหาคุณหมอ คุณหมออัลตร้าซาวน์และบอกเราว่าน้องขยับตัวตลอดเลยนะ ไม่อยู่นิ่งเลย ไม่มีอะไรน่าตกใจหรอก เราอาจจะมีสมาธิกับการทำงานมาก จนลืมที่จะสังเกตไป แต่การนับการดิ้นของลูกก็ดีแล้ว ถ้าไม่แน่ใจหรือรู้สึกว่าดิ้นน้อยลงก็ให้มา อานุภาพของการเตะแรงขึ้นเรื่อย ๆ คุณหมอบอกว่าตอนนี้น้องปุญญ์เอาหัวลงแล้ว เราจะปวดท้องฉี่บ่อย อาจมีอาหารท้องแข็งบ้างแต่ไม่มาก ไม่ต้องกังวล


ความสามารถในการกลั้นปัสสาวะแทบจะหมดไปแล้ว บางครั้งอยากเข้าห้องน้ำมาก ๆ พอเข้าไปจริง ๆ ปัสสาวะออกมาไม่ได้เยอะเท่ากับความรู้สึกปวดฉี่เลย เวลาจะไอหรือจะจามต้องระวัง เพราะปัสสาวะจะเล็ดได้ เราป้องกันด้วยการใส่ผ้าอนามัยไว้จะได้ไม่เลอะเทอะ การกินน้อยลงเพราะท้องอืด เริ่มรู้สึกว่าอาหารไม่ย่อย ตอนไปหาคุณหมอ คุณหมอก็บอกว่าน้ำหนักดีอยู่ กลับมาได้ 2 วัน น้ำหนักลดลงไป 2 กิโล งงกับตัวเองมาก ตอนนี้พยายามกินเข้าไปให้เท่าเดิมตอนที่ไปหาคุณหมออยู่ ขอให้ลูกปลอดภัยและอย่าเป็นอะไรเลย อีกไม่กี่สัปดาห์จะได้เห็นหน้าลูกแล้ว เพี้ยง ๆ ๆ ๆ ๆ Smiley




 

Create Date : 11 มิถุนายน 2553    
Last Update : 11 มิถุนายน 2553 18:44:27 น.
Counter : 702 Pageviews.  

28 สัปดาห์ เจาะเลือดตรวจเบาหวาน

Smiley ในที่สุดน้องปุญก็ครบ 28 สัปดาห์แล้ว หนังท้องตึงมาก ๆ ต้องทาโลชั่นมากกว่าเดิมเป็นสองเท่า แถมรัศมีการดิ้นก็กระจายวงกว้างขึ้นมาอีกหน่อย คุณพยาบาลนัดให้มาโรงพยาบาลตอน 07.00 น. เพราะต้องทานน้ำตาล 1 ชั่วโมงและเจาะเลือด คุณหมอมีผ่าตัดตอน 10.00 โมงด้วย เราก็ไปถึงตอน 07.00 น. พอดี วัดความดันชั่งน้ำหนัก เก็บปัสสาวะเรียบร้อย ก็เดินไปห้องเจาะเลือด พี่พยาบาลมือโปรนำผสมน้ำตาลมาให้กิน ด้วยความใจดี พี่เค้ากลัวว่าเราจะเลี่ยนก็เลยบีบมะนาวใส่ให้ด้วย รสชาติดีกว่าที่คิดเอาไว้มาก ๆ (เพราะน้ำตาลแค่ 50 ม.ก.เอง) อาหารเช้ายังไม่ได้ทานเพราะเช้าเกินไปเตรียมอาหารไม่ทัน นัดเจาะเลือดอีก 1 ชั่งโมง เราก็ไปนั่งดูทีวีอย่างบันเทิงเริงใจ นั่งสักพักเริ่มเวียนหัว หายาดมมาดม สักพักคุณหมอก็เรียกตรวจ


คุณหมอถามถึงอาการทั่ว ๆ ไปที่เกิดขึ้นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ตะคริว การขับถ่าย คุณหมอชมว่าน้ำหนักยังขึ้นอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่มากเกินไป Smiley (ดีใจมาก ๆ ) และพาไปที่เตียง Ultrasound วัดขนาดกระโหลกศีรษะ และขนาดตัว บอกว่าโตตามเกณฑ์ปกติ เดือนที่ 7 นี้คุณหมอให้ดูจมูกของน้องปุญด้วย เห็นได้ชัดว่าเป็นสันเขื่อน สำเนาถูกต้องจากพ่อ คุณหมอให้ดูเบ้าตา เราเห็นเค้ากรอกตาไปมา เป็นความรู้สึกที่ดีมาก ๆ หัวใจเต้นปกติตามมาตรฐาน ลูกชายเราสมบูรณ์แข็งแรงดี คุณหมอนัดอีก 3 อาทิตย์ ตอนนั้นก็จะ 31 สัปดาห์พอดี


เราไม่ได้คิดว่าจะตัด 4D Ultrasound เพราะคุณหมอไม่ได้แนะนำอะไร คุณพยาบาลก็ไม่ได้ถามว่าจะทำหรือไม่ เราไม่เห็นความจำเป็นในเรื่องนี้ ถ้าคุณหมอมั่นใจว่าการ Ultrasound ธรรมดา เห็นชัดเจนแล้ว เก็บเงินไว้ซื้ออย่างอื่นให้น้องปุญดีกว่า


คุณหมอบอกว่าถ้าน้ำตาลในเลือดเกิน 140 เราจะต้องมาเจาะครั้งใหญ่ 4 เข็ม โทรไปเช็คผลเลือดตอนบ่าย เลขที่ออกคือ..... 98 เราถามคุณพยาบาลว่าน้อยเกินไปมั้ย  คุณพยาบาลบอกว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติดีแล้ว ไม่ต้องกังวล โล่งอกมาก ๆ อีก 2 อาทิตย์ไม่รู้เลยว่าคุณหกมอจะตรวจอะไร หวังว่าคงผ่านไปได้ด้วยดีเหมือนทุก ๆ ครั้ง Smiley






Free TextEditor




 

Create Date : 22 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 22 พฤษภาคม 2553 9:44:58 น.
Counter : 720 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  
 
 

เลขาหน้าใส
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add เลขาหน้าใส's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com