19 สัปดาห์ กินเป็นพายุ  วันนี้ครบ 19 สัปดาห์แล้ว อาทิตย์ที่ผ่านมายุ่งมาก เดินเป็นว่าเล่น กินเป็นพายุแต่ก็โชคดีที่น้ำหนักไม่ขึ้นเลย วันพฤหัสเป็นวันที่เหนื่อยมากที่สุด เดินเยอะ และทานอาหารเย็นช้ากว่าปกติ กลับมาบ้านเลยนอนพักสายตา เพราะรู้สึกว่าเหนื่อยสุด ๆ แล้ว กำลังเคลิ้ม ๆ เข้าภวังค์ก็รู้สึกเหมือนมีอะไร ดุ๊บ ดุ๊บ ที่ท้องน้อยฝั่งขวา ตอนแรกคิดว่าคงเป็นเหมือนปกติแบบอาการลำไส้เคลื่อนอาหารและให้เกิดเกิดความเคลื่อนไหว หลับต่อ เคลิ้มได้อีกหน่อย ดุ๊บ ดุ๊บอยู่ท้องน้อยฝั่งซ้าย เงยหน้าขึ้นมา " อะไรลูก เรียกหม่ามี๊เหรอ ไม่ชอบให้นอนหงายเหรอ โอเคงั้นตะแคงซ้ายเหมือนเดิมละกันนะลูก" ไม่สะกิดให้ตื่นเต้นอีกเลย หลับไปได้ครึ่งชั่วโมงสามีเดินเข้าห้องมา "ที่รัก เมื่อกี้โดนสะกิดด้วยแหละ" "ใครอ่ะ ผีอีกแล้วเหรอ !!!! "  "เปล่าค่ะ ลูกไง" "จริงเหรอ เป็นยังไงอ่ะ ดีใจจังเลยลูกดิ้นจนรู้สึกได้แล้ว ไหน ไหน ขอฟังหน่อย" เอาหูมาแนบพุง ถอนหายใจยาว " เฮ้อ ได้ยินแต่เสียงน้ำในพุง" อดขำ"คุณป๊าขี้เห่อ"ไม่ได้ หน้าตาและน้ำเสียงดูตื่นเต้นไปหมด " นี่นี่ ที่รัก เราจะได้เห็นเท้าลูกเหมือนที่เค้าส่ง Forward mail มามั้ยอ่ะ อยากเห็น" "อีกนานพอสมควรนะคะ ไม่รู้จะได้เห็นรอยเท้าหรือเปล่า ตอนนี้ตัวเค้ายังเล็ก รู้สึกเหมือนแค่โดนสะกิดเอง เอาไว้รู้สึกอีกจะให้จับเนาะ" " โอเค อาทิตย์หน้าฟังเสียงหัวใจลูกและก็จะรู้แล้วว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย" นี่ขนาดคุณป๊าไม่ได้ท้องเองนะเนี่ย ยังตื่นเต้นขนาดนี้ ถ้าท้องเองสงสัยตื่นเต้นกว่าเราเป็นไหน ๆ อาทิตย์หน้าพบกันใหม่ค่ะ จะเข้ามา Update ให้ทราบว่าเทวดาหรือนางฟ้าน้อยมาอยู่กับเรา Free TextEditor   Create Date : 13 มีนาคม 2553     Last Update : 13 มีนาคม 2553 10:13:19 น. Counter : 554 Pageviews.   5 comment Share Tweet

16 สัปดาห์ ฉีดบาดทะยักเข็มที่ 1 และฟังเสียงหัวใจลูก เรื่องน้ำหนักหมอไม่อยากให้ขึ้นเยอะมาก เพราะน้ำหนักแม่ที่ขึ้นมาก ๆ ไม่ได้เกี่ยวกับขนาดตัวของลูกเลย  คนไข้หมอท่านหนึ่งน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน น้ำหนักขึ้นมา 25 กิโลกรัม ลูกหนักเพียงแค่ 2900 กรัม เท่านั้นที่เหลืออยู่ที่แม่หมดเลย ในขณะที่อีกคน น้ำหนักเริ่มต้นตอนตั้งครรภ์อ่อน ๆ 99กิโลกัรม (เยอะมาก  ๆ ๆ  ตอนที่จะมาคลอดน้ำหนักขึ้นไปเพียงแค่ 3 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนคุณลูกหนัก 3600 กรัม โอ้แม่เจ้า  เป็นอย่างที่คุณหมอว่าจริง ๆ ด้วย ต้องระวังเรื่องน้ำหนักให้ดี ดื่มนมเท่าที่ดื่มได้วันลบะ 1-2 กล่องกำลังดี ไหว้ลาคุณหมอที่แสนจะใจดี เดินไปรอฉีดยาบาดทะยักที่กำลังหวั่น ๆ ใจ พี่พยาบาลอธิบายว่าต้องฉีดไว้ เพื่อจะได้มีภูมิคุ้มกันตอนทำคลอด เดือนหน้าฉีดซ้ำอีก 1 เข็ม หลังคลอดอีก 1 เข็ม และก็เอาเข็มทิ่มลงมาที่แขนเรา ตอนนั้นรู้สึกแค่ว่าเข็มเข้าไปในเนื้อไม่ถึง 1 เซนต์ และพี่พยาบาลก็ติดพลาสเตอร์ยาให้เรา เป็นอันจบ เสร็จแล้ว ไม่เจ็บ ไม่ปวดอะไรเลย เข้าไปนั่งไม่ถึง 1 นาที ก็เดินออกมา สามีงงว่าเสร็จแล้วเหรอ เราไหว้ขอบคุณพี่พยาบาลและบอกเค้าว่า" พี่พยาบาลมือเบามาก ๆ ค่ะ ไม่เจ็บเลย ขอบคุณนะคะ" เธอยิ้มอย่างขำ ๆ ตลอดทั้งวันไม่ปวดเลยไม่หน่วง แถมลืมไปด้วยซ้ำว่าฉีดยามา เดินเที่ยวซื้อชุดคลุมท้องอย่างสบายใจ (เพราะสามีเป็นคนจ่ายเงิน ) เดือนหน้าแม่กับป๊าจะได้รู้สักทีว่า นางฟ้าหรือเทวดาน้อยมาอยู่กับเรา ป๊าจะได้ตั้งชื่อและเรียกลูกแบบจริง ๆ จัง ๆ เสียที รอให้ถึงเดือนหน้าไม่ไหวเสียแล้ว Free TextEditor   Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2553     Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2553 19:08:13 น. Counter : 779 Pageviews.   16 comment Share Tweet

"แหม อ้วนจนพุงพลุ้ยเชียวนะคะ น้องเมย์"  ตั้งแต่ตรวจพบว่าตั้งครรภ์ตั้งแต่ 6 สัปดาห์ก็จะแจ้งให้ เจ้านายและเพื่อนในแผนก รวมทั้งเพื่อน ๆ ที่สนิทใน Office ทราบ ทุกคนก็จะคอยเตือนเราให้เดินช้ามาตลอด หลายคน ๆ เริ่มบอกเราว่า ใส่ชุดคลุมท้องได้แล้วเพราะกลัวเราและลูกอึดอัด สำหรับคนที่ไม่สนิท เราปล่อยให้เค้าบอกต่อ ๆ กันไปเองค่ะ เพราะมันคงเป็นเรื่องแปลกที่ต้องประกาศให้คนอื่นที่เราไม่ได้ใส่ใจให้รับรู้ (มีอยู่ไม่กี่คน และทำงานด้วยแบบปวดเศียรจริง ๆ ) ตอนนี้เกือบ 16 สัปดาห์แล้ว เรายังใส่ชุดทำงานอยู่ค่ะ เพราะรู้สึกอยู่เสมอว่าพุงยังเล็กไป ถ้าใส่ชุดคลุมท้องจะเหมือนใส่ชุดนอน เราอวบมาตั้งแต่โตเป็นสาว ลดน้ำหนักออกกำลังกาย จำกัดอาหารมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ก่อนแต่งงานเราลดได้ 6 กิโลกรัม (ปัจจุบันกลับมาเท่าเดิมแล้ว) เราจะกลัวมากเรื่องอ้วน แม้สามีจะไม่ได้เดือดร้อนเรื่องสรีระของเราเลย ไม่เคยว่าให้เสียใจ มีแต่ให้กำลังใจมาตลอด แต่คำว่าอ้วน เป็นอะไรที่ทำให้เราเสียใจ เสียความรู้สึกมากที่สุด น้องสาวที่คลานตามกันมาก็ได้รูปร่างเพรียวเล็กมาจากแม่ ไร้สะโพก ไร้ก้น โดยสิ้นเชิง แถมมีคัพบีประดับตัว ลูกพี่ลูกน้องฝั่งแม่อีก 5 สาวก็เช่นเดียวกัน ส่วนใหญ่จะได้คัพเอมา ถามวิธีที่จะอัพเกรดเป็นคัพซีมาตั้งแต่แตกเนื้อสาว เราเองได้มาจากทางพ่อโดยตรง อก เอว สะโพก ก้น มีเยอะไปหมด ใส่กางเกงยีนส์แล้วจะดูเต็มดูดี ในขณะที่สาว ๆ รอบตัวมีแต่หลวมโพรกที่ต้นขา สะโพกและก้น "เจ๊ บอกหนูหน่อยสิ เจ๊ทำได้ไง ทำไมได้คัพซีมา ต้องกินอะไรเหรอ" คำตอบของเราคือ" ไปถามลุงหนูสิ ให้มาเต็ม ๆ เลยเยอะเกินไปอวบใหญ่ไปหมด" ส่งสายตาค้อนพ่อตัวเองอีก 1 ที ยิ่งท้องคัพซีแทบจะระเบิด สัดส่วนตามตัวดูอวบอ้วนไปหมด ทั้ง ๆ ที่น้ำหนักเพิ่มมา 2 กิโล (ส่วนใหญ่ตอนไม่ท้องคนอื่นจะดูออกว่าอ้วนตอนน้ำหนักขึ้นเกิน 3 กิโล) และพยายามออกกำลังกายเบา ๆ มาตลอด อยากจะดูใหญ่แต่ท้อง ช่วงตัวยังดูเท่าเดิม จนวันนี้ผู้ใหญ่อีกแผนกเดินมาที่ Office เค้าไม่ได้เจอเรานานพอสมควรแล้วค่ะ เค้าแวะเวียนมาหาพี่แผนกใกล้ ๆ เรา เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของคุณพี่ท่านนั้น เธอกำลังจะเดินผ่านโต๊ะไปแล้ว พลันสายตาของเธอก็หันมามองเราอย่างตกตะลึง พูดด้วยเสียงตกใจสุดขีดว่า "น้องเมย์....... อ้วนจนพุงพลุ้ยเลยนะคะ"    คนฟังซึ่งเป็นผู้น้อยอย่างเราได้แต่อึ้ง และช็อค คำนี้มันบาดหัวใจจริง ๆ นึกในใจ"กรูอยากจะบร้าตาย คุณป้าไปอยู่ไหนมาคะเนี่ยยยยยยย" ได้แต่ยิ้มน้อย ๆ ตอบเสียงเบา ๆ ว่า "ค่ะ ขอบคุณมากค่ะพี่" (เดือนต่อๆ ไปจะอ้วนกว่านี้อีก พุงแทบจะระเบิดเลยด้วยค่ะ) เธอเดินผ่านไปอย่างมีความสุข เราอยากจะเอาหัวโขกคอมพิวเตอร์ข้างหน้าให้หนำใจ จะโกรธก็ไม่ใช่ จะขำก็ยังไงอยู่  จะตะโกนออกไปว่า"มีเด็กอยู่ในนี้ 4 เดือนค่า" ก็ใช่ที ได้แต่ปล่อยให้เธอได้เข้าใจอย่างนั้นไป คำว่าอ้วน ยังคงตอกอยู่ที่หัวอยู่เลยค่ะ หน้าตาของเราก็เลยออกไปในแนวเจ็บใจตัวเอง เจ้านายเดินมาถาม " เป็นอะไรทำไมทำหน้ายุ่ง วันนี้ห้องเต็มนะ อย่าเครียด พี่เครียดแล้ว" เล่าในนายและพี่ ๆ ที่อยู่ด้วยกันฟัง ทุกคนขำลั่น Office จนน้ำหูน้ำตาไหล มีแต่เราเจ็บใจอยู่คนเดียว " คนเราแปลกนะคะนายหญิง (เจ้านาย) เจอกันมีแต่ทักกันว่าผอมกับอ้วน หนูเป็นเด็กกว่าเค้า จะไปทักเค้าบ้างได้ไหมคะว่า "พี่คะ พี่ไปทำอะไรมาคะ ดูโทรมและตีนกามาเยือนเยอะขึ้นมาก ได้ใช้ครีมลดริ้วรอยลดความเหี่ยวย่นบ้างไหมคะ มีหลายตัวเค้าว่าใช้ดีนะคะ" ทำหน้าซื่อตาใส นายส่ายหัวอย่างเดียว "เมย์ อย่าไปถือสาเค้าเลย เค้าไม่รู้อ่ะ สงสัยบ้านแกคงอยู่รู ไม่รับรู้เรื่องอะไร ไม่รู้ไม่ผิดหรอกนะ อภัยให้เค้าเถอะ หลานออกมาจะได้อารมณ์ดี ๆ " อารมณ์ของเราตอนนี้คิดแต่ว่าเป็นเรื่องขำๆ อย่างเดียว และก็ปล่อยเธอไป เดือนต่อๆ ไป เธอก็อาจจะทักเราใหม่ว่า "ไปทำอะไรมาคะ อ้วนพุงป่องเชียว" จะเตรียมคำตอบดี ๆ ไว้รับมือ " รักกันกับสามีเพลินไปหน่อยค่ะ โดนเสกเด็กเข้าท้องซะงั้น เดือนต่อ ๆ ไปจะลงพุงยิ่งกว่านี้อีกค่ะ" อย่าเผลอละกันป้า เจอกันแน่ ๆ เลย Free TextEditor   Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2553     Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2553 19:50:16 น. Counter : 527 Pageviews.   0 comment Share Tweet

15 สัปดาห์ ความเครียดมาเยือน (บ่น บ่น บ่น และบ่นค่ะ)  เรื่องที่เครียดเนี่ยเกี่ยวกับเรื่องงานนะคะ ไม่ได้กลัวเลยว่าลูกจะมีอันตรายหรือเปล่า แต่เป็นเรื่องงานที่เราไม่สามารถแก้ไขได้ในระยะเวลาอันสั้น รู้ทั้งรู้ว่าเครียดไปก็ไม่มีประโยชน์ (แถมจะมีผลกระทบกับลูกอีก) แต่มันอดไม่ได้จริง ๆ ปัญหาเดิม ๆ ของคนโรงแรมที่มักจะลาออก เมื่อได้โบนัสของปีที่แล้ว และเห็นตัวเลขเงินเดือน (ที่ไม่น่าอภิรมย์) เดือนแรกของปี ลาออกกันเกือบหมด Counter เลยค่ะ ใจจริงแล้วดีใจกับน้อง ๆ ทุกคนที่ได้ไปอยู่ในโรงแรมที่ดีกว่าโรงแรมเงินเดือนน้อย Service charge ต่ำอย่างเรา แต่.... ช่วยทยอยกันออกมั่งได้มั้ยอ่ะ หาคนมาแทนไม่ทัน เพราะโรงแรมเพิ่งเปิดรับคนเพิ่มหลังจากที่หยุดการรับพนักงานใหม่ไป 3 เดือน คนที่เคยมาสมัครทิ้งไว้ เค้าก็ได้งานไปแล้ว คนที่จะมาสมัครใหม่เค้าก็ยังมากันไม่เยอะ เราก็ขาดคน แผนกอื่น ๆ เค้าอยากจะย้ายมาทำงานที่แผนกเรา แต่หัวหน้าแผนกนั้นเค้าก็ไม่ให้ย้ายมา (ทั้ง ๆ ที่น้องมาสอบและสัมภาษณ์กันเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่รอให้แผนกเก่าลงตัวและค่อยย้ายมาแผนกใหม่) ซึ่งเราก็ไม่ได้เร่งรัดอะไร เมื่อเค้าไม่ให้ย้ายมาเราก็เข้าใจค่ะ สงสารก็แต่น้องที่ไม่มีทางเลือกอะไรอย่างอื่น ทำงานที่นี่มา 4 ปี ไม่เคยต้องออกไปนั่งทำ Operation ที่แสนจะเมามันส์เลย มีพรุ่งนี้ที่นาย "ขอร้อง" ให้ไปนั่งแทนน้องที่หยุดไป นายขอโทษแล้วขอโทษอีก พร่ำด่าตัวเองว่าใช้คนท้อง แต่ในใจของเรา เรายินดีจะช่วย เรารอดแน่ถ้าเราช่วยกัน สงสัยต้องเตรียมเคาะสนิม เอาไว้ยิ้มหวาน ๆ ใส่แขกเสียแล้ว ห่างหายมานาน กลับบ้านเปิดเพลง Dance กระจายดังสนั่นอยู่ในห้องคนเดียว เผื่อจะหายเครียดบ้าง แม่ขอโทษนะลูก แม่จะพยายามไม่เครียด หนูจะได้ออกมาสู้โลกใบนี้ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มและอารมณ์ดี ๆ นะ   Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2553     Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2553 17:31:05 น. Counter : 511 Pageviews.   3 comment Share Tweet

โอย ภูมิแพ้อากาศครั้งที่ 1 ระหว่างตั้งครรภ์  มีโรคภูมิแพ้เป็นโรคประจำตัวตั้แต่เด็ก ๆ  ช่วงอากาศเปลี่ยนบ่อย ๆ อาการจะแย่ลงจนกลายเป็นไซนัสอักเสบ ไปรักษากับคุณหมอจนหาย ถามคุณหมอว่า หนูจะทำอย่างไรไม่ให้เป็นไซนัสอีก เพราะมันปวดจมูก ปวดหัวมากมายเหลือเกิน หมอบอกมียาวิเศษ 3 ตัว ออกกำลังกาย ออกกำลังกาย และ ออกกำลังกาย เท่านี้แหละ อาการภูมิแพ้จะดีขึ้น ตั้งแต่วันนั้น เราก็ตั้งหน้าตั้งตาออกกำลังกายเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง เคยชินกับการออกกำลังกายหนัก ๆ มาตลอด หลัง ๆ ทานวิตามินซีเสริมด้วย เพื่อจะได้ไม่ป่วยง่าย ๆ ตั้งแต่ตั้งครรภ์เราออกกำลังกายน้อยลง เพราะกลัวว่าจะออกแรงเกินไปตามความเคยชิน โดยปกติถ้าจามหลายครั้งติด ๆ กันจะเริ่มมีน้ำมูก และเมื่อวานอาการก็เริ่มมาตั้งแต่ตอนเช้า เราก็ทานวิตามินซีลงไป (ซึ่งจะเผาผลาญอยู่ในร่างกาย 4 ชั่วโมง) 10โมงเช้า จามติด ๆ กันหลายครั้ง น้ำมูกหนืด ๆ เริ่มมา อดทนอีก 2 ชั่วโมง โพรงจมูกเริ่มปวดแล้ว จะทานยาที่เคยทานอยู่ก็กลัวจะมีผลต่อเด็กน้อย โทรถามคุณพยาบาลดีกว่า "คนไข้มียาแก้แพ้ C.P.M. อยู่บ้างไหมคะ เป็นตัวเดียวที่ทานได้ แต่ทานแล้วจะง่วง ทำงานกับเครื่องจักร หรือไม่คะ ถ้าไม่ ทานแล้วนอนพักผ่อนเลยค่ะ" ทานแล้วง่วงจะทำงานอย่างไรเนี่ย ยังไม่ทานแล้วกัน เคลียร์งานก่อน อดทนอีก 2 ชั่วโมงจนน้ำมูกกลายเป็นน้ำใส ๆ เดินเข้าห้องเจ้านายลากลับบ้านไปพัก เพราะวันเสาร์ต้องมาทำงานอีก กลัวไม่ไหว นายหญิงที่แสนดีก็คอยเข้าใจเราอยู่เสมอ ไม่เคยบ่น ไม่เคยว่าเลยสักครั้งเดียว ตั้งแต่หน้าเซียว ๆ เพราะแพ้ท้องก็ไล่กลับบ้าน เวียนหัวมาไม่ไหวก็ให้พักเยอะ ๆ ดูแลไม่ให้เดินเยอะ ๆ ทั้งพื่อนใน Office และเจ้านายจะหาอะไรมาให้ทานตลอด กลับบ้านหลับเป็นตายตั้งแต่ บ่าย 3 ถึง 1 ทุ่ม สามีโทรมาปลุกให้ลงไปทานโจ๊กร้อน ๆ Set up อย่างดี ทานเสร็จเดินย่อยนิดหน่อย และ 4 ทุ่มกลับไปนอนต่อ ถึง 6 โมงเช้า ตื่นมาสดชื่นรื่นใจสุด ๆ หายป่วยเสียที คนท้องภูมิต้านทานต่ำกว่าคนทั่วไป ตอนร่างกายแข็งแรง กับตอนท้อง โรคจะแสดงผลเร็วช้าต่างกัน เราพยายามอดทนให้ได้มากที่สุด เพราะคนท้องไม่ใช่คนป่วยไข้ไม่สบายอะไร ไม่อยากให้ใครมาบอกว่าสำออย อดทนหน่อยสิ โชคดีที่คนรอบข้างเราทุกคนเข้าใจและพยายามถามไถ่ดูแลเราตลอด คนท้องคงไม่ต้องหารใครให้มาดูแลอะไรมากมายนอกจากความเข้าใจที่คนรอบข้างจะมีให้ แค่นี้จริง ๆ   Free TextEditor   Create Date : 30 มกราคม 2553     Last Update : 30 มกราคม 2553 10:38:21 น. Counter : 820 Pageviews.   3 comment Share Tweet