|  | 
         
          | | 
             
                | 
                         
                            | ..... เหนื่อย เบื่อ เซ็งชีวิต
 "ชั้นกำลังทำอะไรอยู่เนี่ยยยยยย" (กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง)
 
 อีกไม่ถึงเดือนเราก็จะแก่ขึ้นอีกปี
 
 แต่ชีวิตตอนนี้ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
 
 
 
 อยากทำงานที่นี่ แต่เบื่อ เบื่อ ความคิดคนญี่ปุ่น
 
 อยากกลับไทยไปอยู่กับครอบครัว แต่เราก็คงกลับไปเป็นเหมือนเดิม
 
 เป็นเด็กที่พ่อคอยเอาใจ เป็นลูกดื้อที่เถียงแม่ตลอด เป็นน้องงี่เง่าที่พี่ๆต้องคอยดูแล
 
 
 เป็นเราที่ไม่เคยเปลี่ยนตลอดไป
 
 ชั้นทำอะไรอยู่เนี่ยยยย
 
 
 
 
 
 
 
 
   
									
										| Create Date : 18  มกราคม  2551 |  |  |   									
                                        | Last Update : 10 ตุลาคม 2553 0:43:51 น. |   									
                                        | Counter : 724 Pageviews. |  |  |  |  
									|   |  |  |  
             
                | 
                         
                            | ความในใจของสาวเสริฟ์ "เรียนท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่านโปรดทราบ
 ขอขอบพระคุณที่ท่านได้เลือกมาใช้บริการที่ร้านอาหารของเรา
 
 ทางร้านยินดีที่จะให้บริการลูกค้าทุกท่านอย่างดี
 
 ถ้าท่านไม่
 
 เดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะเองโดยที่พนักงานไม่ได้นำท่านไป
 
 ท่านไม่ควรขอเมนูอาหารหรือสั่งอาหารก่อนสั่งเครื่องดื่ม
 
 เมื่อท่านเลือกอาหารที่ต้องการได้แล้ว ค่อยเรียกพนักงานไปรับรายการ
 กรุณาอย่าสั่งไปด้วย เลือกไปด้วย คิดไปด้วย คุยกับเพื่อนไปด้วย และปล่อย
 ให้พนักงานยืนเฝ้าโต๊ะเป็นผีตานี  แทนที่พนักงานคนนั้นจะได้ไปยกเครื่องดื่ม
 มาเสริฟ์ท่าน หรือเดินไปให้บริการลูกค้าท่านอื่น
 
 พนักงานทุกคนเป็นคนธรรมดา ไม่ใช่ผีสางเทวดาที่ไหนที่จะเสกทุกอย่างให้ท่านได้ในทันที ถ้าท่านต้องการอาหารเร่งด่วนโปรดเข้าใจด้วยว่าเชฟก็เป็นคน
 มีสองมือเหมือนท่าน ลูกค้าไม่ได้มีแค่ท่านโต๊ะเดียว ควรรอตามคิว
 
 ด้วยเหตุผลข้างต้น พนักงานทุกคนเป็นคนที่สมควรจะได้รับการปฎิบัติที่ดี ไม่ต่างจากท่าน จึงขอความร่วมมือเรียกพนักงานด้วยท่าทีที่สุภาพ การผิวปาก การดีดนิ้วเรียกประหนึ่งพนักงานผู้นั้นเป็นสัตว์สี่เท้า ท่านก็สมควรจะได้รับการปฎิบัติเยี่ยงนั้นเช่นกัน
 
 ในกรณีที่ลูกค้าท่านใดไม่สามารถปฎิบัติได้ตามนี้ ขอเชิญท่านกลับบ้านไปได้
 ลูกค้าที่ไม่มีมารยาทไม่มีร้านใดอยากต้อนรับท่าน
 
 ขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือค่ะ"
 
 
 มีร้านเป็นของตัวเองเมื่อไหร่ อยากติดป้ายอย่างนี้ไว้หน้าร้าน
 
  
 วันนี้เจอลูกค้างี่เง่าหลายคน
 งี่เง่าจนอยากเอาแก้วน้ำไปกระแทกปากคุณลูกค้าแรงๆสักที
 
  
 
 
   
									
										| Create Date : 11  ธันวาคม  2550 |  |  |   									
                                        | Last Update : 10 ตุลาคม 2553 0:40:21 น. |   									
                                        | Counter : 399 Pageviews. |  |  |  |  
									|  |  |  |  
             
                | 
                         
                            | คนขี้น้อยใจเฟ้ยย  僻心 นึกว่าจะหายแล้วนะ นิสัยแบบนี้
 
 เราย้ายมาอยู่ในโตเกียวได้ปีครึ่งแล้ว
 
 แต่ก่อนอ่ะ อยู่ชานเมือง
 
 เคยคุยกันเล่นๆกับเพื่อนว่าเมืองที่พวกเราอยู่กันเนึ่ย "ด่านดักบ้านนอก"
 
 เพราะถึงจะเป็นชานเมืองแต่ก็เป็นเมืองใหญ่ มีทุกสิ่งให้เลือกสรร
 
 ร้านอาหารดังๆ ถ้าโตเกียวมี ที่นี่ก็มี
 
 คนจากบ้านนอกถ้าผ่านคาวาซากิเป็นต้องหยุดทุกราย (อย่าเชื่อ เรามั่ว)
 
 
 หลังจากเรียนจบโรงเรียนภาษา เพื่อนๆที่จะอยู่ญี่ปุ่นต่อก็เลือกอยู่ที่เดิม (ผู้ชายล้วน)
 
 มีเราคนเดียวที่ย้ายเข้าเมืองกรุง
 
 เพราะว่า
 
 1  เราอยากเลิกพึ่งคนอื่น (ถ้าอยู่ใกล้ๆเพื่อนเป็นต้องวานให้ช่วยนู่นช่วยนี่แน่ๆ)
 
 ตอนจะย้ายบ้านเพื่อนยังไปช่วยหาให้เล้ย ขนของก็มาช่วย
 
 "พอแล้ว ต่อไปนี้จะยืนหยัดสู้ชีวิตในญี่ปุ่นด้วยตัวคนเดียว" คิดอย่างนั้น
 
 2  อยากย้ายไปอยู่ใกล้ๆแฟน (หอแฟนอยู่ระหว่างทางไปโรงเรียนกับบ้าน
 
 ถ้าแวะหาแฟนก็ไม่ต้องเสียค่ารถ เพราะเรามีตั๋วเดือน แสนคุ้ม)
 
 ตอนแรกๆที่ย้ายมา ก็ยังเห่อ ไม่ได้อยู่คนเดียวแบบนี้มานาน (ทุกทีต้องแชร์ห้องกับคนอื่นง่ะ)
 
 จะวางของเกะกะก็ไม่มีใครว่า อาบน้ำเสร็จเดินโทงๆออกมาก็ไม่ต้องอายใคร
 
 ห้องเราอยู่ชั้นแปด มองออกไปเห็นภูเขาไฟฟูจิลางๆ หน้าร้อนก็เปิดหน้าต่างนอนได้
 
 ตากเสื้อชั้นในก็ไม่ต้องกลัวถูกขโมย โอ้ อย่างกับสวรรค์
 
 ทั้งๆที่คิดอย่างนั้น
 
 แต่
 
 ทุกวันหลังเลิกเรียน เวลาขึ้นรถไฟกลับบ้าน เห็นเพื่อนเดินกลับบ้านด้วยกัน แล้วมันห่อเหี่ยวพิกล
 
 เวลาเพื่อนคุยกันว่าเมื่อวันหยุดไปเดินเที่ยวที่ไหนมากันบ้าง เราไม่อยากฟัง
 
 วันไหนที่ไปทำงานถึงดึก ทั้งๆที่เหนื่อยจะตาย แต่ไม่อยากกลับบ้าน
 
 เพราะกลับมาก็ไม่มีใครอยู่
 
 (จะมีได้ไงเล่า แกอยู่คนเดียวนะเฟ้ย ถ้ามีก็น่ากลัวแล้ว)
 
 นั่นแหละ สรุปง่ายๆ กรูเหงาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
 
 เหงาโว้ยยย
 
 
 เราก็เข้าใจนะ ผู้ชายไม่ค่อยคิดเล็กคิดน้อยกัน
 
 ทุกครั้งที่เค้าคุยอะไรกัน เรารู้สึกเหมือนเป็นคนนอก
 
 พวกเค้าสนุกสนานอยู่ในโลกที่ไม่มีเรา
 
 ส่วนเรานั่งง่าวอยู๋บ้านเพราะไม่มีเพื่อนชวนไปไหน
 
 ( แฟนก็ไปทำงาน )
 
 
 เราเริ่มคิดอะไรบ้าๆขึ้นมา เผอิญช่วงนั้นก็ทะเลาะกับเพื่อนอยู่
 
 ( ไอ้คุณเพื่อนๆ ไม่ได้คิดอะไรเลย แต่เราโกรธไปเองฝ่ายเดียว )
 
 ไหนๆเพื่อนมันก็ไม่ค่อยจะสนใจอยู่แล้ว ก็ห่างๆไปเลยดีกว่า
 
 ดีกว่ามานั่งน้อยอกน้อยใจ ว่าถูกเพื่อนทิ้ง
 
 เราลบเบอร์เพื่อนออกจากมือถือทั้งหมด แต่ไม่วายส่งเมลไปเตือนก่อนล่วงหน้า
 
 ประมาณว่าชั้นโกรธพวกแกนะเฟ้ย ( คืออยากให้รู้ว่าโกรธ บ้ามั้ยเนี่ย )
 
 เพื่อนก็แสนดี เมลมาง้อแบบจำใจ ( จนป่านนี้ก็คงยังงง ว่าทำอะไรผิด )
 
 จากนั้นก็พยายามโทรมาชวนไปนู้นไปนี่บ้าง เราก็ไม่วายวางฟอร์มเล่นตัว
 
 คงจะเล่นตัวมากไปมั้ง ปิดเทอมหน้าร้อนที่ผ่านมาพวกเค้าถึงๆไปเที่ยวโอซาก้ากันโดยไม่ชวนเรา
 
 ตอนนั้นทั้งเศร้า เหงา เซ็ง น้อยใจ คละๆกันไป
 
 ผิดที่เราเอง ก็เลยพยายามลืมๆไป แต่ดันเปิดเน็ตมาเจอรูปที่พวกเค้าไปเที่ยวกัน
 
 ความรู้สึกที่อุตส่าห์ลืม มันย้อนกลับมา
 
 โหยยยย....แบบ....แบบว่า  อธิบายไม่ถูกเลย
 
 เหมือนกับว่า นอกจากแฟน เราก็ไม่มีใครแล้ว
 
 ถูกเพื่อนทิ้งว่างั้นเหอะ
 
 
 มาคิดๆดูก็สมใจอยากแล้วนี่ "อยากยืนหยัดสู้ชีวิตในญี่ปุ่นด้วยตัวคนเดียว"
 
 แต่ก็ยังพูดไม่ได้เต็มปากเต็มคำหรอกนะ เรายังมีแฟนอยู่ทั้งคน
 
 ( ถึงยังไงก็ไม่อยากพูดเต็มปากเต็มคำหรอก )
 
 
 ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนก็จริง แต่มนุษย์คือสัตว์สังคมอยู่ดีเนอะ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
   
									
										| Create Date : 07  กันยายน  2550 |  |  |   									
                                        | Last Update : 10 ตุลาคม 2553 0:37:32 น. |   									
                                        | Counter : 581 Pageviews. |  |  |  |  
									|  |  |  |  | 
 |  |  |