|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
พุทธพาณิช...ช่องทางการค้าของใคร
สนามพระวัดราชนัดดา ช่องทางการค้าของ...ใคร
พระพุทธศาสนาเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน ถึงแม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปหรือแปรเปลี่ยนไปมากเพียงใด ศาสนาก็ยังคงเป็นสิ่งที่ดีงาม สวยงามอยู่ในใจของคนไทยทุกคน โดยเฉพาะในขณะนี้ ศาสนาถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด ด้วยเพราะปัจจุบันมีปัญหาที่เข้ามารุมเร้ามากมาย ศาสนาจึงกลายเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทยทุกคน แต่ถึงกระนั่นก็ยังมีคนที่ฉวยโอกาสหากินทางพระพุทธศาสนา โดยนำพระพุทธศาสนามาเป็นช่องทางการค้า หรือที่เราเรียกว่า พุทธพาณิช วัดราชนัดดารามวรวิหาร (วัดราชนัดดา) เป็นวัดที่เก่าแก่ซึ่งสร้างขึ้นสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์
จุดเด่นของวัดราชนัดดาอยู่ตรงที่โลหะประสาท ซึ่งหากใครผ่านไปแถวถนนราชดำเนินก็จะเห็นโลหะปราสาทตั้งอยู่อย่างสวยงาม แต่วัดราชนัดดาไม่ได้มีเพียงแค่นั่นที่น่าสนใจ เพราะปัจจุบันภายในวัดยังกลายเป็นสนามพระ หรือที่เราเรียกกันว่า สนามพระวัดราชนัดดา สนามพระวัดราชนัดดา ปัจจุบันกลายเป็นย่านเศรษฐกิจช่องทางการค้าขายทางพระพุทธศาสนา ซึ่งเห็นได้จากร้านค้าแต่ละร้านภายในสนามพระวัดราชนัดดาจะขายเกี่ยวกับพระเครื่องทั้งหมด ตั้งแต่สิ่งๆจนถึงสิ่งใหญ่ๆ อาทิ เช่น สายสิทธิ์สีสันต่าง สร้อยคอลูกประคำ พระพุทธรูปตั้งแต่ขนาดเล็กไปถึงขนาดใหญ่ รวมทั้งจัตุคาม ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดล้วนจัดทำขึ้นเพื่อการค้าทั้งนั้น มิได้มีการทำพิธีกรรมทางศาสนาแต่อย่างไร
ที่น่าแปลกใจที่สุดคือ บริเวณรอบๆสนามพระราชนัดดา เกือบ 80 % เป็นพระสงฆ์ทั้งนั้น ที่มาซื้อสิ่งของสำเร็จรูปทางพระพุทธศาสนาเหล่านี้ไป ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่กิจของสงฆ์เลยที่ต้องมาซื้อของพวกนี้ นอกเสียจากว่าพระสงฆ์เหล่านั้นเขากำลังทำธุรกิจทางการค้าอยู่ ย้อนกลับไปเมื่อสมัยก่อน หากทางวัดใดวัดหนึ่งประสงค์ที่จะจัดทำวัตถุมงคลขึ้นมาทางวัดนั้นๆจะเป็นคนสร้างวัตถุนั้นขึ้นมาเองโดยที่ไม่ได้ไปซื้อมาจากที่อื่น เพื่อสร้างความเลื่อมใส ความศรัทธาให้กับประชาชน แต่ปัจจุบันไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว ไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับทางพระะพุทธศาสนา ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมถึงได้เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งจิตใจของคนเราก็ด้วยที่คิดแม้แต่จะหาผลประโยชน์จากทางพุทธศาสนา จากการสังเกตพบว่าสนามพระวัดราชนัดดา แม่ค้าพ่อค้าส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับลูกค้าที่เป็นพระสงฆ์ที่มาซื้อมาก เนื่องจากพระสงฆ์ที่มาซื้อส่วนใหญ่จะมาซื้อของเป็นจำนวนมาก ทำให้ได้ขายกำไรดี หรือแม้แต่จัตุคามที่ตอนนี้กระแสนิยมกำลังลดลง แต่ก็ยังมีพระสงฆ์บางรูปที่ไปรับซื้อจัตุคามจากที่นั่นเป็นจำนวนมาก บางรายถึงกับต้องมีลูกวัดมาช่วยถือของตาม นอกจากนั้นตามร้านต่างๆ ยังมีป้ายติดไว้ว่า จำหน่ายและรับสั่งทำของทุกชนิด
แม่ค้า พ่อค้าต่างก็ใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือในการค้าขายและหารายได้ ยิ่งไปกว่านั่นอีก พระสงฆ์ที่มาซื้อกลับกลายเป็นพ่อค้าคนกลางที่ส่งต่อสินค้าไปยังไปประชาชนอีกถอดหนึ่ง โดยที่ประชาชนไม่รู้เลยว่าวัตถุสิ่งนั้นเป็นมาอย่างไร จะว่าไปแล้วมนุษย์เราเห็นค่าของเงินมากกว่าสิ่งใด พอมีช่องทางไหนที่สามารถฉกฉวยโอกาสหารายได้ได้ก็จะทำ โดยที่ไม่ได้คิดเลยว่าสิ่งเหล่านั้นมันเป็นสิ่งที่ถูกหรือผิด เพราะมั่วแต่เห็นคุณค่าของเงินมากกว่าการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี ไม่ใช่แต่เพียงพ่อค้าแม่ค้าเท่านั้น เพราะขณะนี้บางคนก็ยังคงอาศัยผ้าเหลืองในการหารายได้ เกร็งกำไร จากประชาชน ลวงหลอกประชาชนให้ซื้อวัตถุมงคลต่างๆ โดยอ้างสรรพคุณสารพัดทั้งๆที่มันไม่ใช่หน้าที่ของสงฆ์ที่จะต้องมาป่าวประกาศเร่ขายวัตถุมงคล ซึ่งเราเองก็ไม่แน่ใจได้เลยว่าวัตถุชิ้นนั้นเป็นของที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยความศรัธาทางพระพุทธศาสนาหรือว่าถูกสร้างมาเพื่อค้ากำไรกันแน่
ถ้าหากยังเป็นเช่นนี้อยู่อนาคตพระพุทธศาสนาของเราจะเป็นอย่างไร? นับวันศาสนาเราเริ่มมีอะไรแปลกมากขึ้น เห็นได้จากข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ที่มีพิธีกรรมการปลุกเสกที่แปลกๆและพิสดารออกไปเลยๆ บางครั้งดูแล้วรู้สึกว่าไม่เหมาะสม คือบางอย่างมันมากเกินไป จนเกินคำว่าพอดี ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาคืออะไร หลายคนอาจจะวุ่นวายอยู่ในสังคมเมืองจนลืมคิดถึงเรื่องเหล่านี้ไป ซึ่งอาจจะไม่เห็นความสำคัญตรงจุดนี้ หรืออาจจะมองว่าเป็นเรื่องปกติที่ต้องเกิดขึ้นในสังคมอยู่แล้ว แต่หากมองย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปี การค้าแบบนี้ไม่มีให้เห็น เครื่องรางของขลังสมัยก่อนไม่สามารถตีค่าได้ด้วยซ้ำ เป็นการให้ด้วยความศรัธาจริงๆ ด้วยเพราะมนุษย์เราในอดีตมิได้ลุ่มหลงวัตถุ ข้าวของ เงินทอง หากเปรียบเทียบกับสมัยนี้แล้วจากพระเครื่องที่ไม่เคยมีราคาในสมัยก่อน พอมาถึงปัจจุบันสามารถตีราคาได้ถึงหลักหมื่น หลักแสน นั่นเป็นเพราะอะไรกัน สิ่งที่ดีที่สุดตอนนี้ คือ บางสิ่งบางอย่างที่เรามองว่าเป็นเรื่องเล็กๆในวันนี้ หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างรอบๆตัวเรา อย่านิ่งดูดายถ้ามันเป็นสิ่งไม่ดี เพราะผลที่ตามมาจะตกอยู่กับตัวเรา จนบางครั้งมันอาจจะทำลายวัฒนธรรมเก่าแก่ที่มีมาแต่ครั้งอดีตสูญหายไป โดยที่คนรุ่นหลังไม่รู้ และคิดว่าเป็นเรื่องปกติ |
|
|
Create Date : 15 ตุลาคม 2550 |
|
15 comments |
Last Update : 15 ตุลาคม 2550 13:10:53 น. |
Counter : 4144 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: กระต่ายน้อย (tai_kko ) 15 ตุลาคม 2550 15:49:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: ต่ายน้อย (tai_kko ) 15 ตุลาคม 2550 15:53:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: โรมรัน (zikou ) 15 ตุลาคม 2550 16:05:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: วลีรมย์ 16 ตุลาคม 2550 22:45:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: วลีรมย์ 21 ตุลาคม 2550 11:39:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนเคยดื้อ (คนเคยดื้อ ) 21 ตุลาคม 2550 20:10:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนเคยดื้อ (คนเคยดื้อ ) 21 ตุลาคม 2550 20:10:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนเคยดื้อ (คนเคยดื้อ ) 22 ธันวาคม 2550 22:57:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: วลีวิไล 1 มกราคม 2551 13:15:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: victor_tower23 IP: 58.9.34.143 30 สิงหาคม 2551 16:56:48 น. |
|
|
|
|
|
|
|
สังคมเมืองพุทธ กับ พุทธพาณิชย์
ดูช่างเหมาะสมอะไรกันเช่นนี้..
ปล.ประชด