PreProposal กับอาการปวดตับ วิชา Research Method and Methodology ของ Prof. Donna กำลังจะถึงปลายเทอมแล้ว ตอนนี้พบว่างาน final project จ่อคอหอยมาแล้วเหลืออีก 25% สุดท้ายที่จะต้องฟาดฟัน ซึ่งสุดแท้แต่วาสนา ชีวิตเกิดมาไม่แน่นอน ก็ต้องกระเสือกกระสนไปต่อไป โดย proposal ที่กะจะเอาไปทำเป็นหัวข้อวิจัย dissertation จะเกี่ยวกับ theoretical construct ต่อไปนี้ - basic writing - EFL (English for a foreign language) - new media/ digital literacy / computer literacy โจทย์หัวข้อวิจัย คือต้องการศึกษาการพัฒนาการเขียน basic writing ของนักเรียนต่างชาติโดยการใช้สื่อสมัยใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่ออินเตอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์ วิจารณ์หนังสือ Destination Dissertation: A Traveler's Guide to a Done Dissertation //books.google.com/books?id=CkYgZT2hMdgC&dq=sonja+foss+dissertation&printsec=frontcover&source=bl&ots=gAe6Nyw2p3&sig=RBu5bAS3F1Eouo5Xr1EFIJPtiws&hl=en&ei=sxcOS_6QIc2xlAesxIGUBA&sa=X&oi=book_result&ct=result&resnum=2&ved=0CBAQ6AEwAQ#v=onepage&q=&f=false อาจารย์ Donna ส่งบทที่ 4 มาให้นักศึกษาอ่านและวิจารย์ว่าได้เรียนรู้อะไรและอะไรไม่ได้เรื่องจากผู้แต่ง บทนี้เป็นการเขียน pre proposal เพื่อนำเสนอเค้่าโครงการทำวิจัยระดับป.เอก ผมชอบแนวคิดที่วางไว้อย่างมีระเบียบ กล่าวโดยสรุปว่า Sonja K. Foss ให้แนวทางการสร้าง Preproposal structure (Five-chapter model) ไว้ดังนี้ 1. Research question 2. Research design 2.1. Data 2.2. Method(s) for collecting data. 2.3. Method(s) for analyzing data. 3. Literature review 4. Significance of the study 5. Dissertation’s chapters outline แต่สิ่งที่ผมไม่ประทับใจหนังสือเล่มนี้คือการทีผู้เขียนไม่ค่อยอธิบายเรื่องวิธีการเก็บข้อมูลและหลักการวิเคราะห์ข้อมุลที่เก็บมาได้ (หรือว่าเค้าไม่รู้ลึกในเรื่องนี้ก็ได้ หรือว่าขี้เกียจพูดยืดยาวให้เสียกระบวนหรือเปล่า) ก็เลยโบ้ยไปที่ให้นักวิจัยเลือกแนวทางที่ตัวเองถนัดหรือคิดว่าตัวเองรู้ดีที่สุดละกัน แล้วปัญหาคือเราจะรู้ได้งัยว่าแนวไหนเหมาะกับข้อมุลประเภทไหน อันนี้คือ ประเด็นปวดตับของผม !   Create Date : 26 พฤศจิกายน 2552     1 comment Last Update : 26 พฤศจิกายน 2552 13:18:33 น.     Counter : 1787 Pageviews.   Share Tweet

รัฐ Texas รัฐเท็กซัส ประวัติเบื้องต้น รัฐเท็กซัสเป็นรัฐๆหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกา ตามประวัติศาสตร์แล้วรัฐเท็กซัสเคยเป็นรัฐอิสระมาก่อน โดยประกาศอิสรภาพจากการปกครองของประเทศเม็กซิโกใน ปี ค.ศ. 1836 (พ.ศ. 2372 หรือประมาณ 172 ปีมาแล้ว) และต่อมาในปี ค.ศ. 1845 ประเทศสาธารณะรัฐเท็กซัสได้รวมเป็นสหรัฐแห่งอเมริกา โดยยังคงใช้ธงชาติสาธารณรัฐเป็นธงประจำรัฐเท็กซัสด้วย โดยมีแถบแถบแนวนอนสีขาว แดง และมีดาวสีขาวบนแถบสีน้ำเงิน บางครั้งเรียกสมญานามรัฐเท็กซัสว่า รัฐดาวเดี่ยว (the Lone Star State) ธงรัฐเท็กซัส ลักษณะทางภูมิศาสตร์ รัฐเท็กซัสนี้ตั้งอยู่ทางภาคกลางค่อนลงไปทางทิศใต้ของประเทศ โดยมีที่ราบ ริโอแกรนด์ ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้เป็นพรมแดนกั้นรัฐเท็กซัสกับประเทศเม็กซิโก และทางทิศตะวันออกเฉียงใต้มีอ่าวเม็กซิโกตั้งอยู่ ทางด้านตะวันออกของรัฐมีอาณาเขตติดต่อกับรัฐหลุยส์เซียน่าและรัฐอาร์คันซอร์ ส่วนทิศตะวันตกติดกับรัฐเม็กซิโก ทางเหนือติดต่อกับรัฐโอกลาโฮม่า และทางทิศใต้ติดต่อกับประเทศเม็กซิโก ที่ราบริโอแกรนด์ แผนที่รัฐเท็กซัส พื้นที่ของรัฐเท็กซัสนั้นประกอบไปด้วยที่ราบลุ่มและเนินเขาเล็กๆ โดยมีที่ราบชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกแผ่ขยายไปเป็นพื้นที่ครอบคลุมส่วนใหญ่ของรัฐ ทางภาคตะวันออกและภาคใต้ของรัฐเป็นที่ทุ่งราบ ภาคกลางและภาคตะวันตกเป็นที่ราบสูงและพื้นที่เชิงเขา โดยพื้นที่ราบนั้นแผ่กว้างจนถึงตอนเหนือของรัฐ ลักษณะสภาวะอากาศนั้นค่อยข้างแห้งแล้งและมีพายุทรายบ่อยครั้ง ทางภาคตะวันออกจนถึงภาคเหนือนั้นเป็นที่ราบต่ำที่มีทุ่งหญ้าและที่ราบลูกฟูกไปตามชายฝั่งของอ่าวเม็กซิโก ส่วนพื้นที่อันขรุขระนั้นจะอยู่ทางภาคตะวันตก โดยมียอดเขากอดาลูพเป็นจุดสูงของเทือกเขา ที่ความสูง 8,749 ฟุต (2,667 เมตร) สภาวะอากาศของรัฐเท็กซัสนั้นมีความหลากหลายเป็นอย่างยิ่ง ในพื้นที่อ่าวเม็กซิโกนั้นมีอากาศอบอุ่นและเย็นสบาย โดยได้รับปริมาณฝนเป็นส่วนมาก ทางภาคตะวันตกนั้นมีสนภาพอากาศที่แห้งแล้ง แดดจัด และมีความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืนมาก ส่วนภาคอื่นๆมีฤดูหนาวจัดและฤดูร้อนที่ร้อนจัด พืชพรรณและสัตว์ป่า พืชพรรณประจำรัฐเท็กซัสนั้นมีความหลากหลายไปตามสภาพปริมาณฝนของภาคต่างๆและชนิดของดิน โดยพื้นที่ป่าส่วนมากอยู่ในภาคตะวันออกของรัฐ ป่าส่วนใหญ่ประกอบด้วยต้นสนซีดาร์ ต้นเอมม์ ต้นเมสไควท์ ต้นโอ้ค ต้นส้ม ต้นพีคาน ต้นสมใบเข็ม และต้นวอลนัต เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีพืชทะเลทรายหลายชนิด เช่น ต้นตะบองเพชร หญ้ายุคค่า และหญ้าอื่นๆ ขึ้นอยู่ทั่วไป ในป่าของรัฐเท็กซัสมีสัตว์จำพวกงูกว่า 100 ชนิด เช่น งูหัวทองแดง งูปากขาวสำลี ซึ่งเป็นงูพิษ นอกจากนี้ยังมีสัตว์ใหญ่อื่นๆ เช่น จระเข้ วัวไบซัน หมีดำ สิงโตภูเขา และกวางเขายาว เป็นต้น ส่วนสัตว์จำพวกนกก็มีพบมากมาก โดยประเภทของนกทั้งหมดที่พบในประเทศสหรัฐอเมริกาจำนวนสามในสี่ส่วนนั้น ก็สามารถพบเห็นได้ในรัฐเท็กซัสเช่นกัน รวมถึงนกหายากเช่น นกกระเรียน เป็นต้น พืชพรรณ ประชากรและวัฒนธรรม ประชากรพื้นเมืองของรัฐเท็กซัสนั้นเป็นชาวพื้นเมืองของสหรัฐโดยตั้งรกรากมาก่อนที่ชาวผิวขาวจะเข้ามาอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 16 แรกเริ่มนั้นได้แก่ ชาวอินเดียแดง เผ่าแด้ดโด้ เผ่าตองกาว่า เผ่าอาทาคาป้า และเผ่าคารานกาว่า และต่อมาก็มีเผ่าโคมานชี่ อพยพเข้ามาภายหลัง ส่วนประชากรอื่นๆที่ไม่ใช่ชนพื้นเมืองชาวอินเดียแดงก็ค่อยๆอพยพเข้ามาในช่วงศตวรรษที่ 19 โดยเริ่มในปี 1820 ประชากรได้เริ่มอพยพมาจากทางฝั่งตะวันออกของรัฐ และหลายสิบปีต่อมาก็มีผู้อพยพมาจากประเทศในยุโรป ได้แก่ ประเทศเยอรมัน โปแลนด์ เช็คโกสโลวาเกีย สวีเดน นอร์เวย์ และไอร์แลนด์ จวบจบปัจจุบัน ราวปลายศตวรรษที่ 20 รัฐเท็กซัสมีอัตราการเติบโตของประชากรสูงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ โดยในช่วงปี 2000 มีประชากรรวมมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ประชากรนั้นมีความแตกต่างทางเชื้อชาติเป็นอย่างมาก ประชากรส่วนมากราว 1 ใน 3 ของประชากรรวมเป็นผู้ที่สืบเชื้อสายของชาวลาตินอเมริกาที่พูดภาษาสเปน นอกจากประชากรส่วนใหญ่ที่เป็นชาวผิวขาวแล้ว อีกราว 12% เป็นชาวผิวดำ 3% เป็นชาวเอเชีย และอีกบางส่วนจำนวนราว 1 แสนคนเป็นชาวอินเดียนแดงพื้นเมือง ในปี ค.ศ. รัฐเท็กซัสมีประชากรรวมประมาณ 21 ล้านคน ชาวอินเดียนแดง เมืองหลัก เมืองใหญ่ในรัฐเท็กซัสที่มีประชากรเกิน 1 ล้าน ได้แก่ เมืองฮิวส์ตัน เมืองดัลลัส และเมืองซาน แอนโตนิโอ โดยที่เมืองฮิวส์ตันนั้นเป็นศูนย์กลางแห่งอุตสาหกรรมน้ำมันปิโตรเลียม ซึ่งสร้างความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจให้กับเมืองนี้มายาวนาน ชานเมืองฮิวส์ตันนั้นเป็นที่ตั้งศูนย์วิจัยทางอวกาศของนาซ่า เมืองดัลลัส เมืองซาน แอนโตนิโอ ซึ่งเป็นเมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 290 ปี (ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1718) โดยยังคงเป็นแหล่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเม็กซิโกโบราณ นอกจากนี้ เมืองออสตินก็ยังเป็นที่ตั้งเมืองหลวงของรัฐเท็กซัส โดยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของรัฐ เมืองหลักอื่นๆของรัฐนี้ เช่น เมืองเอล ปาโซ่ เมืองฟอร์ท เวิร์ท เมืองอาร์ลิงตัน และ เมืองคอร์ปัส คริสตี้ เมืองซาน แอนโตนิโอ สถานที่ท่องเที่ยวและนันทนาการ รัฐเท็กซัสนี้ประกอบด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันหลากหลาย เช่น ภูเขา ชายหาด แคนย่อน และวนอุทยานต่างๆ โดยวนอุทยานแห่งชาติบิ้กเบ้นด์ และวนอุทยานแห่งชาติเทือกเขากอดาลูพ ที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกนั้นได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวมาก นักท่องเที่ยวบางส่วนก็นิยมไปท่องเที่ยวตามฟาร์มปศุสัตว์และรีสอร์ทต่างๆ รัฐเท็กซัสยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมประเภทต่างๆ เช่น เมืองเส้นทางเผยแผ่ศาสนาคริสต์ เมืองรกร้าง เมืองยุทธภูมิสนามรบ และเมืองประวัติศาสตร์สำคัญ เป็นต้น เมืองซาน แอนโตนิโอ ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ นักท่องเที่ยวนิยมไปเยี่ยมชมโบสถ์ยุทธภูมิอะลาโม่ ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางคริสตศาสนาและเป็นสถานที่ต่อสู้เพื่อประกาศเอกราชของเท็กซัสในอดีต นอกจากนี้ทั้งที่เมืองดัลลัสและเมืองฮิวส์ตันก็ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นที่นิยมในผู้ที่หลงไหลในดนตรีออเคสตร้าและการแสดงละครเวทีอีกด้วย ชาวเท็กซัสต่างชื่นชอบในเกมกีฬาทุกประเภท ที่เมืองดัลลัสจะมีการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลระดับมหาวิทยาลัยเป็นเทศกาลใหญ่ทุกปี และรัฐเท็กซัสก็มีทีมกีฬาอาชีพที่มีชื่อเสียงระดับประเทศหลายทีม เช่น ทีมเบสบอลฮิวส์ตัน แอสโตร และทีมเท็กซัส เรนเจอร์ ทีมอเมริกันฟุตบอล ดัลลัส คาวบอย ทีมบาสเกตบอลชื่อดังอย่าง ทีมซานแอนโตนิโอ สเปอร์ ทีมดัลลัส มาเวอร์ริค และทีมฮิวส์ตัน ร็อคเก็ต ส่วนทีมบาสเก็ตบอลหญิง ได้แก่ ทีมฮิวส์ตัน โคเม็ต ส่วนกีฬาฮอคกี้ ได้แก่ ทีมดัลลัส สตาร์ การศึกษา ในช่วงปี ค.ศ. 1839 รัฐเท็กซัสได้มีการประกาศกฏหมายให้จัดสรรพื้นที่ในแต่ละเขตเมืองเพื่อสร้างโรงเรียนและสถานศึกษาของรัฐบาล และอีกประมาณ 15 ปีต่อมาได้ออกกฏหมายสนับสนุนการจัดการศึกษาแห่งรัฐเท็กซัสขึ้นมาเพื่อให้การศึกษากับนักเรียนนักศึกษาได้อย่างเป็นเอกเทศของรัฐ รัฐเท็กซัสมีมหาวิทยาลัยที่สนับสนุนโดยรัฐบาลอยู่หลายแห่ง ที่มีชื่อเสียงเด่นๆ ได้แก่ กลุ่มมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเท็กซัส (University of Texas) โดยมีวิทยาเขตหลักอยู่ที่เมืองออสติน กลุ่มมหาวิทยาลัยเท็กซัส เอ แอนด์ เอ็ม (Texas A & M University) ซึ่งมีวิทยาเขตหลักที่เมืองคอลเลจ สเตชั่น ส่วนมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อเสียง ได้แก่ มหาวิทยาลัยไรซ์ ที่เมืองฮิวส์ตัน มหาวิทยาลัยเบย์เลอร์ ที่เมืองวาโก้ และมหาวิทยาลัยเซาท์เทิร์น เมโธดิสต์ ที่เมืองดัลลัส เป็นต้น มหาวิทยาลัยเท็กซัส เอ. แอนด์ เอ็ม. วิทยาเขตเมืองคอมเมิร์ซ เศรษฐกิจ การเกษตร ในยุคบุกเบิกนั้น การเกษตรหลักของรัฐเท็กซัสได้แก่ การเลี้ยงปศุสัตว์และการทำไร่ฝ้าย ปัจจุบันรัฐเท็กซัสยังคงเป็นรัฐเกษตรกรรมหลักแห่งหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเป็นผู้นำทางด้านการปลูกฝ้ายและผลิตเนื้อโคขุนชั้นดีเพื่อการบริโภคของประชากร นอกจากนี้ยังมีการปลูกพืชเกษตรกรรมสำคัญอื่นๆ เช่น ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ข้าวสาลี ข้าวเจ้า และข้าวโอ้ต นอกจากการเลี้ยงโคแล้ว ฟาร์มปศุสัตว์เท็กซัสยังนิยมเลี้ยงสัตว์อื่นๆ เช่น แกะ ไก่ ไก่งวง หมู และม้า เป็นต้น รถเก็บฝ้าย วัวเขายาว การทำเหมืองแร่ เศรษฐกิจหลักที่ทำรายได้เข้ารัฐเท็กซัสได้แก่ การขุดเจาะน้ำมัน โดยเริ่มต้นในศตวรรษที่ 20 ทำให้มีการเจริญเติบโตของภาคการผลิตและอุตสาหกรรมเกี่ยวข้องต่างๆอย่างมาก รัฐเท็กซัสนับเป็นผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ของประเทศ นอกจากน้ำมันแล้ว รัฐเท็กซัสยังมีการทำเหมืองแร่อื่นๆ เช่น ปูนขาว ธาตุฮีเลียม แร่กำมะถัน แร่แม็กนีเซียม แร่ยิปซั่ม ทรายแก้ว ดินลูกรัง หินตัด และถ่านหิน เป็นต้น การอุตสาหกรรม การอุตสาหกรรมในยุคแรกนั้น ได้แก่ การปั่นฝ้าย การชำแหละเนื้อปศุสัตว์ การทำผักผลไม้กระป๋อง และการผลิตแป้งจากข้าวต่างๆ เป็นต้น ต่อมาการอุตสาหกรรมได้มีพัฒนาการสู่ยุคเทคโนโลยีระดับสูง ได้แก่ การผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ การผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และการผลิตอุปกรณ์เครื่องบิน นอกจากนี้ยังมีอุตสาหกรรมเคมีและเครื่องจักรอีกด้วย อุตสาหกรรมในภาคธุรกิจบริการก็มีการเติมโตเป็นอย่างมากในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 โดยมีภาคบริการทางด้านสุขภาพเป็นรายได้หลัก และการท่องเที่ยวก็กำลังกลายเป็นธุรกิจหลักของรัฐเท็กซัสอีกด้วย อุตสาหกรรมน้ำมันปิโตรเลียม ประวัติศาสตร์ ในยุคก่อนประวัติศาสตร์นั้น ประมาณ 37,000 ปีก่อน พบว่ามีร่องรอยของมนุษย์โบราณตั้งถิ่นฐานอยู่บนแผ่นดินนี้มาก่อนโดยอาศัยการล่าสัตว์ ยุคต่อมาก็มีชาวอเมริกันพื้นเมือง กลุ่มชาวอินเดียนแดง อพยพเข้ามาอยู่อาศัยเป็นชุมชนหมู่บ้านถาวร ดำรงชีวิตด้วยการเพาะปลูก และในช่วงราวปี ค.ศ. 1528 หรือประมาณ 500 ปีที่ผ่านมา ชาวสเปนก็เริ่มเข้ามาสำรวจพื้นที่ โดยปี ค.ศ. 1541 นักสำรวจชื่อ ฟรานซิสโก โคโรนาโด ได้เดินทางเข้ามาสำรวจพื้นที่เพื่อขุดหาทองคำ คณะสำรวจของโคโรนาโด แต่นักสำรวจชาวสเปนกลุ่มต่างๆก็ไม่ค่อยสนใจในการที่จะเข้ามาเพื่อตั้งรกรากอยู่อาศัยเป็นการถาวรบนพื้นที่แห่งนี้ แต่ในช่วงอีกประมาณ 150 ปีต่อมา ในปี ค.ศ. 1685 นักสำรวจชาวฝรั่งเศสชื่อ ลา แซลล์ ก็ได้เข้ามาสำรวจพื้นที่ด้วยและพยายามชักชวนประชากรเข้ามาตั้งรกรากอาศัยในพื้นที่เพิ่มขึ้น การเข้ามาของชาวฝรั่งเศสนั้นทำให้ชาวสเปนหวั่นเกรงว่าชาวฝรั่งเศสจะมีอิทธิพลเหนือดินแดนนี้ที่ตนเข้ามาสำรวจก่อน จึงได้รีบสร้างบ้านเรือนเป็นชุมชนถาวรและเผยแผ่ศาสนาในพื้นที่ต่างๆ เมืองซาน แอนโตนิโอ ซึ่งก่อตั้งในปี ค.ศ. 1718 ถือเป็นเมืองหลักที่เป็นศูนย์กลางของชาวสเปนในยุคนั้น เรือคณะสำรวจของลาแซลล์ขึ้นเทียบท่าที่อ่าวเม็กซิโก สาธารณรัฐแห่งเท็กซัส ต่อมาในช่วงปี ค.ศ. 1812 ดินแดนเม็กซิโกก็ยังอยู่ภายใต้อาณัติของชาวสเปนและดินแดนเท็กซัสก็ยังถือเป็นส่วนหนึ่งของเม็กซิโกด้วย และในปีเดียวกันนั้นเม็กซิโกก็ยอมให้นักบุกเบิกจากสหรัฐอเมริกาเข้ามาประกาศตั้งเม็กซิโกเป็นดินแดนอาณานิคม การกระทำของฝ่ายรัฐบาลเม็กซิโกนี้ทำให้ชาวเท็กซัสไม่พอใจ จะประกาศตนเป็นดินแดนอิสระจากเม็กซิโก และในปี ค.ศ. 1835 ก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวทางการปกครองเกิดขึ้นและประกาศอิสรภาพในปีรุ่งขึ้น ต่อมาจึงเกิดการปฏิวัติขึ้น ทำให้ทั้งฝ่ายอเมริกาและฝ่ายชาวเม็กซิกันในดินแดนเท็กซัสได้ประกาศการต่อสู้กัน ศึกครั้งสำคัญคือ ศึกยุทธภูมิแห่งอะลาโม โดยชาวเท็กซัสได้ต่อสู้อย่างกล้าหาญเพื่อปกป้องป้อมปราการเอาไว้ แต่ศึกครั้งนั้นชาวเท็กซัสได้พ่ายแพ้ไป แต่ต่อมาก็ต่อสู่เอาชนะรัฐบาลเม็กซิโกได้ในวันที่ 21 เดือนเมษายน ปี ค.ศ. 1836 ที่ริมฝั่งแม่น้ำ ซาน จาซินโต สุดท้ายดินแดนเท็กซัสได้ประกาศอิสรภาพจากการปกครองของเม็กซิโกได้และสถาปนาดินแดนเป็น สาธารณรัฐเท็กซัส โดยมีผู้นำทางทหารคือ นายพลแซม ฮิวส์ตัน ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนแรก แซม ฮิวส์ตัน ความเป็นมลรัฐและสงครามกลางเมืองของสหรัฐ ต่อมาในช่วงปี ค.ศ. 1845 สาธารณรัฐเท็กซัสได้เข้าร่วมเป็นสหพันธรัฐในฐานะรัฐร่วมสหพันธ์รัฐที่ 28 เรียกรวมกันว่า สหรัฐ (United States) และในปี ค.ศ. 1846 สหรัฐได้มีข้อพิพาทเรื่องดินแดนกับเม็กซิโกจนเกิดเป็นสงครามต่อสู้กัน สงครามครั้งนั้นกินเวลาประมาณ 2 ปี สหรัฐได้ตีเอาดินแดนในอาณัติของเม็กซิโกได้เป็นส่วนใหญ่ โดยเป็นพื้นที่ของรัฐนิวเม็กซิโก รัฐยูท่าห์ รัฐนาวาดา รัฐแอริโซน่า รัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐเท็กซัส และรัฐโคโรลาโด การมีทาสในปกครองคือกำลังสำคัญที่หล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจของรัฐเท็กซัส และด้วยเหตุผลนี้ทำให้รัฐเท็กซัสได้ขอถอนตัวออกจากสหพันธรัฐเพื่อป้องกันการสูญเสียกำลังสำคัญในการต่อสู้ครั้งสงครามประชาชนในช่วงปี ค.ศ. 1861-1865 และหันไปเข้าร่วมกับรัฐทางใต้เพื่อประกาศตนเป็นสหพันธรัฐใหม่ แต่การประกาศอิสรภาพครั้งใหม่นั้นก็ย่อมมีการต่อสู้เกิดขึ้น สุดท้ายสหพันธรัฐใหม่ก็ไม่สามารถต้านทานการตีเอากลับคืนของสหพันธรัฐเดิมได้และต้องกลับคืนในปี ค.ศ. 1870 สงครามประชาชน การพัฒนาทางเศรษฐกิจ ภายหลังยุคสงคราม เศรษฐกิจของเท็กซัสก็พัฒนาโดยเหล่าคาวบอยที่ต้อนฝูงปศุสัตว์ขึ้นเหนือเพื่อค้าขายเนื้อหรือส่งเป็นแรงงานสำหรับฟาร์มต่างๆ ภาพลักษณ์ของคาวบอยนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของความเป็นเท็กซัส โดยปรากฏในเพลงลูกทุ่ง งานวรรณกรรมและภาพยนตร์ต่างๆ กระแสคาวบอยปศุสัตว์นี้ดำเนินมาจนถึงยุคปี ค.ศ. 1890 รัฐเท็กซัสมีชื่อเสียงเฟื่องฟูจากพื้นที่เล็กๆแห่งหนึ่งในเมืองสปินเดิ้ลท็อป โดยที่แห่งนี้เป็นจุดแรกที่มีการพบน้ำมันดิบผุดจากบ่อใต้ดินในปี ค.ศ. 1901 หลังจากนั้นได้มีการพบพ่อน้ำมันอื่นๆเรื่อยมาอีกหลายแห่ง แหล่งน้ำมันดิบบ่อใหญ่ถูกสำรวจพบในภาคตะวันออกของเท็กซัสในปี ค.ศ. 1930 และเรื่อยมาจนถึงปี ค.ศ. 1970 ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้มีการขึ้นลงอยู่ต่อเนื่องโดยส่งผลต่อเสถียรภาพของการผลิตน้ำมันดิบของเท็กซัสไปด้วย และต่อมาในช่วงหลังของศตวรรษที่ 20 รัฐได้ขยายเศรษฐกิจออกไปในภาคอุตสาหกรรมอื่นๆนอกจากน้ำมัน โรงกลั่นน้ำมัน ฟาร์มปศุสัตว์ เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองปัจจุบัน วันที่ 22 พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1963 ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ ถูกลอบสังหารถึงแก่ความตายในขบวนรถยนต์ที่เมืองดัลลัส และรองประธานาธิบดี ลินดอน บี. จอห์นสัน ซึ่งเป็นวุฒิสมาชิกจากรัฐเท็กซัสได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันนั้นทันที่หลังเหตุการณ์ลอบสังหาร จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ ลินดอน บี. จอห์นสันสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี นายจอร์จ บุช เป็นนักการเมืองที่มาจากรัฐเท็กซัส ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาในช่วงปี ค.ศ. 1989-1993 และต่อมาผู้เป็นลูกคือ นายจอร์จ ดับเบิ้ลยู. บุช ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสก็ได้รับชัยชนะในการขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 2000-2008 เช่นเดียวกับพ่อของเขา โดยเป็นพ่อลูกคู่ที่สองของประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐอเมริกาที่ได้เป็นประธานาธิบดีทั้งพ่อและลูก โดยคู่แรกคือนายจอห์น อดัม (ประธานธิบดีสหรัฐคนที่ 2, ปี ค.ศ. 1796) และนายจอห์น ควินซี อดัม (ประธานธิบดีสหรัฐคนที่ 5, ปี ค.ศ. 1825) จอร์จ บุช / จอร์จ ดับเบิ้ลยู. บุช ***************************************************************   Create Date : 15 ธันวาคม 2551     6 comment Last Update : 15 ธันวาคม 2551 11:27:16 น.     Counter : 16026 Pageviews.   Share Tweet

Texas A&M University at Commerce Science Building and Planetarium อาคารหลังใหม่ล่าสุดของทางฝั่งวิทยาศาสตร์ ป้ายหน้ามหาวิทยาลัย ป้ายในอีกป้ายหนึ่ง Birdseye view : Social Birdseye view : Memorial Stadium บรรยาการทั่วไปใน campus   Create Date : 07 กันยายน 2551     0 comment Last Update : 15 ธันวาคม 2551 11:30:43 น.     Counter : 988 Pageviews.   Share Tweet

##เริ่มนับก้าวแรกแถวๆเชิงดอย## เริ่มต้นเมื่อเมื่อเดือนมีนาคม 51 ข้าพเจ้าก้ต้องย้ายนิวาสถานจากดินแดนที่ราบสูงไปอยู่กลางหุบเขาสูง อย่างเมือง นครพิงค์เชียงใหม่ เพื่อทำการเตรียมพื้นฐานวิชาการในการไปเรียนต่ิิอ ป.เอก วิชาหลักคือ ๑. Research Methodology ๒. Statistics ๓. English (Writing/Communication/Guided Practice) โดยช่วงแรกนี้เจอวิชาภาษาอังกฤษก่อนอย่างเดียว เรียน 5-6 วันต่อสัปดาห์ แต่หลังสงกรานต์ถึงจะ เจอวิชาวิจัยและวิชาสถิติ พูดถึงการเรียนที่ผ่านมา 2 สัปดาห์ก็เจอวิชาการที่เข้าจริงๆ มีเรื่องที่ไม่ลงล็อค นิดหน่อยคือผลการสอบเข้าที่ผ่านมา เราได้อยู่ในกลุ่ม Level 5 แต่เปิดสอนในบล็อคนี้มีเฉพาะ Level 2 / Level 3 ก็ตกกระได้พลอยโจนต้องลง Level 3 ก็ได้ เพราะไม่มีอย่างอื่นเปิดนี่นา ผลการเรียนการสอนก็ปรากฏว่า ไม่เลวร้าย พอดีกับ Level ของเราได้ บางเรื่องก็ถือว่าเป็นความใหม่ที่ควรได้รับการเติมเต็ม เพื่อนร่วมรุ่นต่างที่ได้รู้จักกันในครั้งนี้มี 14 คนจากราชภัฏต่างๆทั่วประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่, นครสวรรค์, อุตรดิตถ์, อุบลราชธานี, อุบลราชธานี, ร้อยเอ็ด, นครศรีธรรมราช โดยที่จริงแล้วมีผู้ผ่านการสอบถึง 38 คน แต่มารายงานตัวเท่าที่กล่าวมา อ้อ...บางคนเค้าจบโทจากต่างประเทศก็จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องลงวิชาภาษาอังกฤษได้ จริงๆมีแค่ 2 คนเท่าน้้นเอง คณาจารย์ที่สอนนั้นก็บิน มาจาก University of North Texas โดยทีหัวหน้าทีมหลักคือ Dr. Rebecca Smith-Murdock ซึ่งก็เคยพบกันตั้งแต่ครั้งสัมภาษณ์เข้าโครงการแล้ว , อาจารย์ Carol Ogden , อาจารย์ Angela Landt Dr. Rebecca Smith-Murdock หนึ่งในฝันร้ายของนักศึกษาหลายๆคน ท่านสอนวิชา Writing ที่เน้นพื้นฐาน grammar ที่เข้มข้น หลายๆคนในสัปดาห์แรกใช้เวลาอยู่กับการบ้านถึง 5-6 ชั่วโมงต่อคืนก็มี ยิ่งช่วงปั่นงาน composition หัวข้อ " Why I Want a Doctoral Degree from the U.S.A." ซึ่งเป็นเหมือนชิ้น master ที่เตรียมไปสู่การสร้าง Statement of Purpose ในไม่ช้านี้ อาจารย์ Angela Landt อาจารย์แองจี้ ผู้สอนวิชา Communication ซึ่งมีลีลาที่น่ารักถูกอกถูกใจลูกศิษย์ สนุกสนาน มีเกมให้นักศึกษาได้พูดกันเป็นภาษาอังกฤษอย่างได้ประสิทธิผลในระยะเวลาแค่ 10 วัน เรารู้สึกว่าการได้เรียนกับเจ้าของภาษามันช่วยได้มากจริงๆ อาจารย์ Carol Ogden อาจารย์สอนวิชา Guided Practice ชึ่งจะนำเอาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆมาช่วยสอนภาษา ที่ผ่านมือมาแล้วก็ได้แก่ Cloze Factory เป็นแนว text-based มีช่องว่างๆให้เราพิมพ์ลงในช่องแล้วตรวจคำตอบ เทคโนโลยีจืดสนิท ตัวหนังสือล้วนๆ แต่ได้แกรมมาร์สุดๆ เอามาจาก UNT เชียวนะเอ้อ Pronunciation Plus เป็นอีกแผ่นหนึ่งที่หิ้วมาด้วย เป็นตัวฝึกออกเสียงระดับ Phonics อึๆอือๆ ไปตามเรื่องตามราว อาจารย์แกไม่ค่อยปลื้มเท่าไรเพราะเป็นสำเนียง Canadian เพิ่งรู้เหมือนกันว่าฝรั่งเค้าก้มีกำแพงทางภาษาอังกฤษกันด้วย Tell Me More โปรแกรมสุดปลื้มที่เป็นขวัญใจของนักศึกษาเพราะมันมีครบทุก skills ทั้งฝึกพูดไล่มาตั้งแต่ระดับ คำ-วลี-ประโยค และผนวกด้วย Technology 'Voice Recognition' มันก็ยิ่งเหมือนเสือติดปีกไปเลย พูดปุ๊บ ตอบโต้ปั๊บ ประเมินผลทันที แถมเรื่องของ Multimedia ก็ครบเครื่อง อาจารย์ฝรั่งยังทึ่งเลยว่า โปรแกรมแบบนี้เด็ดมาก อยากจะบอกว่าที่ มหาลับราชภัฏเราซื้อมาใช้ตั้งนานแล้ว เสียดายแล็ป 10 ล้านที่ ม. จัง ไม่รู้มีคนใช้จริงๆจังๆสักเท่าไรกัน   Create Date : 16 เมษายน 2551     0 comment Last Update : 16 เมษายน 2551 15:16:35 น.     Counter : 815 Pageviews.   Share Tweet

และแล้วก็เกือบถึง Texas GSK เจ้าเก่าเห่าโฮ่งๆ ตอนนี้กระดืบๆจากบ้านนอกจะหาทางไปเมืองนอกแว้ว สัปดาห์ก่อนไปสอบสัมภาษณ์โครงการ Ph.D. ร่วม ระหว่าง University of North Texas + เครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏ เกือบๆ 50 คนจากทั่วประเทศ เดินทางมาสอบขับเคี่ยวกัน ทั้งภาคทฤษฎีและสัมภาษณ์ สอบวิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็น grammar แบบชิลๆ + reading แบบพระเจ้าช่วย OMG! + essay 2 หน้า จงเขียนเรียงความเรื่องบทบาทของคอมพิวเตอร์ในชีวิตประจำวัน และสอบวิชา Research Methodology and Statistics โอเค พอกัดฟันทนได้ มาถึงตอนสัมภาษณ์ Director of International Affairs บินมาจาก Texas เพื่อมาสัมภาษณ์นักศึกษาด้วยตนเอง คนละ 10 นาที ครั้งแรกก็กลัวโดนรุมโต๊ะ เคยได้ยินคนหนึ่งไปสอบทุน กพ. เจอกรรมการ15 คนรุมยิงในห้องสัมภาษณ์ แล้วสุดท้ายพี่แก ก็ลุกขึ้นจากกองกระสุนปืนกลและก็ได้ตีตั๋วไปเรียน ป.เอกที่ญี่ปุ่นเรียบร้อยแว้ว และครั้งนี้ผมก็เจอแค่คนเดียว แบบตัวต่อตัว 1:1 เอาวะ สรุปแล้วมันก็โอเคพูดได้ ตัวอย่างคำถาม - คุณจะไปเรียนสาขาอะไรที่นั่น (เอ่อ..ภาษาอังกฤษครับ เน้น Technical Writing/Communication) - นอกจาก UNT แล้วคุณสนใจ U ใน Texas ที่ไหนอีกไหม (อ๋อ...ก็อยากเข้าที่ UNT ครับ แต่ที่อื่นเช่น Texas Tech U. เค้าก็มีสาขาที่ผมชอบเปิดเหมือนกันครับ เปิดสายตรงตั้งแต่ ป.ตรี-ป.เอกเลยนะครับ - - -กรรมการบอก ดีมากนะคะ รู้จักทำการบ้านมา - - - จะชมหรือประชดก็ไม่รู้ กลับมานึกทีหลังรู้สึกว่า เราโง่หรือฉลาดวะที่บอกว่าที่อื่นเค้าดีกว่า กรรมการกาหัวแหง๋ๆ) - ลองเล่าประวัติการทำงานหน่อยสิคะ (ยื่นเอกสาร CV ใส่แฟ้มมาให้ กรรมการบอกเล่ามาค่ะ จากในนั้นล่ะคะ เราก็สาธยายมาจนหมดเล่ม โอเคจบ) - ทำไมคุณเลือกอยากไปเรียนอเมริกาคะ (อ๋อ...คนอเมริกันนิสัยดีครับ คนอเมริกันเป็นคนช่างพูด เป็นมิตร และมีวินัยในการทำงานมากครับ เป็นวัฒนธรรมที่น่าเอาเป็นแบบอย่าง - - - สะตอนิดหน่อย เพื่อให้เค้ารู้สึกดีๆ คะแนนสัมภาษณ์จงมาาาาา) - คุณมีคำถามไหมคะ (เอ๋อ..การเอาผู้ติดตามที่เป็นคนในครอบครัวไปด้วยนี่จะ ลำบากไหมครับ) (กรรมการ: อ๋อ...ไม่ลำบากหรอกค่ะ ทุกๆปีมีนศ.ที่มีครอบครัวมาเรียนที่นี่หลายร้อยหลายพันแล้วค่ะ สบายใจได้ค่ะ) สุดท้าย 10 นาทีผ่านไปก็จบการสนทนา เดินออกมาจากห้องสอบด้วยความรู้สึกตัวเบาหวิวๆ นี่สอบเสร็จแล้วเหรอวะนี่ รอต้นเดือน มีนาคม ผลเป็นทางการออก ย้อนกลับสู่ฉากในห้องสอบวันแรก วิชาแรก ผู้อำนวยการโครงการแถลงก่อนเริ่มการสอบ "ท่านผู้เข้าสอบไม่ต้องกังวลใจเรื่องการสอบครั้งนี้ เพราะว่าเราทดสอบเพื่อที่ว่าจะวัดความรู้ของท่าน และเพื่อจะได้จัดได้ว่าท่านควรจะอยู่กลุ่มไหนของการเรียนหลักสูตรพื้นฐานที่เชียงใหม่ในเดือนมีนาคม คนไหนอยู่กลุ่มสูงก็จะเรียนแบบเต็มที่ได้เลย และได้บินก่อนอาจราวๆ มิถุนายน กลุ่มปานกลางอาจสักกันยายน กลุ่มสุดท้ายอาจบินต้นปีหน้า ขึ้นกับปัจจัยความพร้อมของท่าน (ผมคิดในใจ อะไรเหรอ ยังไม่สอบเลย บอกเรื่องจะได้เดินทางแล้ว - - - - ฝันไปหรือเปล่า) เรื่องต่อไปที่ต้องปวดหัวคือ จะไปหาเงินที่ไหนไปเรียนหลังจากรู้ว่าต้องไปเรียนคอร์สเดือนไหน บางคนก้บอกว่า สกอ. ให้ตั้ง 7 ล้านน่ะ (จริงเหรอ?) บางคนบอกว่า ล้านห้า บางคนบอก 2 ล้าน บางคนบอก 6 แสนเอง อืม....อันนี้ข้าน้อยคนไปสอบเองก็สับสน ค่อยๆสืบไปเองช้าๆดีกว่า กลัวว่าสุดท้ายเงินไม่พอ หรือไม่ได้เงินเลย สุดท้ายก็คงจะจบเห่ รอชาติต่อไป รุ่นหน้า บอกตัวเองก่อนดีกว่าว่ามันยาก เดี๋ยวเวลาพลาดมาจะได้ไม่ต้องเสียใจหนัก ภาวนาว่า อย่างไรก็ตามขอให้มีสักก้อน พอให้ตั้งหลักสักปีสองปีก็ยังดี ที่เหลือจะกัดฟันเอาก็ได้ ถ้าได้ไปจริงๆขึ้นมา เตรียมตัวให้ภรรยาไปรับจ้างทำงานโน่นนี่ ไว้ล่วงหน้าแล้ว สองแรงหา สามีได้เงินค่าบ้าน ค่าเทอม ภรรยาหาค่ากับข้าวช่วยกัน ฮาๆขำๆ เอาล่ะครับ ข่าวล่าสุดก็มีเท่านี้เองล่ะครับ ใครมีคำแนะนำอะไรดีๆก็ชี้แนะหน่อยนะครับ   Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2551     12 comment Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2551 23:41:11 น.     Counter : 922 Pageviews.   Share Tweet