ก้าวแรกสู่เส้นทางปริญญาเอก

สวัสดีท่านผู้อ่าน

เรื่องราวของการเรียนของผม มันคงจะค่อยๆเริ่มต้นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปอย่างช้าๆในวันนี้ล่ะครับ เพราะเริ่มที่จะก้าวเท้าไปอย่างช้าๆ ค่อยๆศึกษาข้อมูลและเตรียมกระตุ้นตัวเองไปเรื่อยๆเอาไว้ก่อน


เริ่มจากความอยากรู้อยากเห็นเมื่อหลายวันก่อนก็ไปหย่อนกระทู้ล่อเป้าหนึ่งไว้ในห้องกระทู้ไกลบ้าน

สมัครเข้า U ที่ว่ายาก ... แต่หาทุนเข้าไปเรียนยากกว่ายิ่งนัก ?

ได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่คนหนึ่ง เค้าบอกว่า
" U นั่น U นี่เข้ายากจังเลย สมัครตั้งนานกว่าก็ไม่ตอบรับซะที บางทีก็ไม่รับเลย เงื่อนไขสารพัด คู่แข่งระดับโลก เขียน proposal / statement of proposeก็ไม่โดนใจกรรมการรับสมัครเลย สอบภาษาอังกฤษTOEFL / IELT / GMAT / GRE ก็สอบยากโคร-ตระ-ระ เครียดๆๆๆ นะน้อง" (พี่เขาว่า)

เราเลยถาม "พี่ๆแล้วพี่จะเอาเงินที่ไหนไปเรียนล่ะ ปีละเป็นล้านๆ "

"ก็ขอทุนซิวะ"

" เข้าท่าจังพี่ แล้วหาทุนไปเรียนมันง่ายจริงเหรอ"

(จริงๆแล้วขอเงินไปเรียนฟรีมันน่าจะยากกว่าสมัครได้นะ)

........

อืม....อืม...อืม.....

จากคุณ : GSK - [ 24 มี.ค. 49 11:54:40 ]

----------------------------------------------------
เสร็จแล้วผ่านไปหลายๆวันก็มี Comment ดีๆไหลเข้ากระทู้มามากมาย อยากเก็บสรุปเอาไว้เป็นแนวทาง
-----------------------------------------------------

อาทิเช่น

ความคิดเห็นที่ 1 - จากคุณ : ช่างไฟ - [ 24 มี.ค. 49 12:29:26 ]


ถ้าคุณได้รับตอบรับจากมหาวิทยาลัยดีๆ การขอทุน ก็ไม่ใช่เรื่องยากนะครับ

ตอนที่ผมได้รับ offer จากเคมบริดจ์ ผมเดินไปบอกที่ทำงานเลยว่า ผมจะไปเรียนที่เนี่ย
ผมขอทุนไปเรียนนะ แต่ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร ผมจะลองไปคุยกับ ซีพี หรือ ชินวัตร ดู

ความคิดเห็นที่ 8 จากคุณ : Mr. Fusion
.... เข้ามาดู

(ก็ตามสไตล์พี่เขาล่ะ)


ความคิดเห็นที่ 10 - - จากคุณ : ช่างไฟ
ทุนมหาวิทยาลัยต่างๆ น่าจะมีเยอะพอสมควรนะครับ แต่คุณต้องกลับไปทำงานเป็นอาจารย์
คุณสนใจไม๊ล่ะครับ

<อ่านแล้วก็คลิ๊กเลยครับ เพราะว่ามันเข้าแนวทางของเราเลย เนื่องจากว่าตัวเองก็ทำงานในแวดวงมหาลัยด้วย แต่เป็นสถาบันเล็กๆปลายแถวของประเทศ ที่ไหนมีทุนให้แล้วก็ยิ่งต้องการ>

แต่ในความเป็นจริงของชีวิตแล้วคำว่าทุนเรียนต่อมันก็ต้องมีการแข่งขันกันสูง คนที่จะเข้ารอบเค้าก็จะคัดกันตั้งแต่เกรดตอบจบตรี-โทมาเลย ทุนรัฐบาล ตรี 3.00 ขึ้นไป โทต้อง 3.50 ขึ้นไป ของเราตกรอบตั้งแต่คัดเกรดเลย มันเลยหดไปเยอะเลย กับพวกทุนรัฐบาล



ทีนี้เลยสรุปเอาไว้แบบงูปลาๆไว้ดังนี้

วิธีหาเงินทุนแบบโง่ๆ แบบฉบับคนรู้เรื่องแบบงูๆปลาๆ
Dummy Idiot Tip for Scholarship Searching : Snake ๆ Fish ๆ Approach


ทุนไหนๆก็ยั่วยวนใจดีไปหมด ทุนของมหาวิทยาลัยก็คือว่าต้องเข้าไปเป็นอาจารย์ข้างในก่อนใช่ไหมครับ แล้วก็ติดต่อ

1. อธิการบดี - ยื่นความจำนงเข้าทางคณะผู้บริหาร "ท่านก๊าบ....มีตังค์สักสี่ซ้าห้าล้านให้ป๋มไปเรียนต่อเมืองนอกไหมก๊าบ? ป๋มได้ XYZ University at ABC ตอบรับมาแล้วล่ะ" อันนี้ก็เป็นแนวทางหนึ่งที่พอจะทำได้ใช่ไหมครับ แต่หากยังไม่มีที่ไหนสอบเข้าได้เลย ทำงี้เหมาะไหมครับ เดินเข้าไปดื้อๆ "ท่านก๊าบ...ป๋มอยากเรียนต่อเมืองนอกก๊าบ สัญญาได้ไหมว่า ถ้าหากสมมติๆ สมมตินะก๊าบสมมติว่าสอบติด แล้วสมมติๆนะก๊าบว่าท่านจะมีทุนส่งให้หรือเปล่าก๊าบ" หน้าด้านไว้ก่อน

2. สกอ. - ท่านไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร ผมจะลองไปคุยกับชินคอร์ป หรือ เทมาเสก ดูละกัน 5555 ม่ายฉ่ายๆ เอาใบตอบรับไปเจรจาหาตังค์เรียนฟรีที่ สกอ. โดยขอโควต้าอุทิศชีวิตให้กับมหาวิทยาลัยที่ต้องการคนไปสอนหนังสือให้ ทำยังงี้ใช่ป่ะครับ คุณพี่ช่างไฟ จะกี่เท่าของเวลารับทุนก็ว่ากันไป ปกติ 10-20 ปีใช่ไหมครับ หรือยังงัย?

3. กระทรวงต่างๆ และ กพ. - มีที่ไหนประกาศสอบชิงทุนก็ไปสอบแข่งกับชาวบ้าน อันนี้สงวนสิทธิ์สำหรับมือล่าทุนเกียรตินิยม ที่มีการแข่งขันลิบลิ่ว เห็นโฟรไฟล์ผู้สมัครแต่ละคนแล้วหนาวสั่นตั้งแต่ยื่นใบสมัครแล้ว แถมบางทุนขอบอกว่า ข้าน้อยไม่ผ่านเกณฑ์ตั้งแต่คัดเกรด 3.50 ขึ้นไปแล้ว นี่คือสาเหตุที่ว่า กพ. ไม่ได้แอ้มเราหรอก (สังเวชตัวเอง) วิธีนี้ คือการสอบเอาเงินมาก่อน แล้วค่อยไปสมัครเข้าเรียนใช่ไหมครับ

4. U ที่เราอยากจะไปเรียนนั่นล่ะ - ถึงแม้จะตอบรับกลับมาแล้วก็ตาม ถ้าเราก็ยังไม่มีปัญญาหาเงินบินไปเรียนได้ ฟางเส้นสุดท้าย (ที่น่าจะใช้ได้) คือการเขียนไปบอก U ว่า " ไอโคร-ตะ-ระ อยากเรียนกับยูมากเล่ยอ่ะ U ของยูเป็นมหาวิทยาลัยในฝันของไอเลยล่ะ พูดก็พูดนะ ไอไม่มีค่าใช้จ่ายสี่ซ้าห้าล้านมาจ่ายยูว่ะ มหาลัยของยูมีตังค์จ้างคนเอเชียไปเรียนไหมวะ " เปิดใจไปเลยแบบลูกทุ่งไทยแลนด์

ถามอย่างงี้ น่าถีบไหมท่านผู้อ่าน ?

ทีแรกผมก็มองว่ามันน่าจะทำได้นะ แต่ว่า ให้ขอน่ะ ขอได้ แต่เจ้าของเงินเค้าจะให้หรือเปล่า คือว่า U ที่เมืองนอกเค้าจะมีเงินก้อนมาจ้างคนเข้าไปเรียนฟรีๆมากขนาดนั้นเลยเหรอ ? นี้คือประเด็นสะกิดใจประการหนึ่งกับการตั้งความหวังจากทุนต่างประเทศ แม้กระทั่งคำว่าทุนที่มีแจกให้นั้น โดยความเป็นจริงแล้วมันคุ้มปากคุ้มท้องคุ้มค่าที่พักค่าเทอมหรือเปล่า วานผู้รู้ช่วยแถลงไขเป็นวิทยาทาน

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง กับคำถามที่แกว่งปากหาเท้า (กวนตีน) ก็มีผู้เข้ามาชี้แนะแนวทางที่ต้องขีดเส้นใต้และทำตัวหนาเอาไว้ อาทิเช่น

ความคิดเห็นที่ 13 - จากคุณ : r k i
ไม่ได้ทุนค่ะ ที่ๆเรามาเรียนตอบรับมาพร้อมกับให้เป็น ta/ra (เท่าที่ทราบมา ta/ra หลายๆที่จะคล้ายๆกัน คือ ค่าเทอมฟรีและเงินเดือนหลังหักแทกซ์ $ 1300+) หลายๆคนก็มาแบบเราเหมือนกัน พบเห็นได้ทั่วไปตามท้องตลาด (เยอะจริงๆ) เพราะฉะนั้น เราคิดว่าทุนจาก U หรือจากอาจารย์น่ะ มีแน่ๆค่ะ และโอกาสขอทุนหรือ assistantship คงไม่ยากเกินเอื้อม

ขอให้โชคดีนะคะ

ความคิดเห็นที่ 14 - จากคุณ : โดโรที

สวัสดีค่ะคุณ GSK การหาทุนจากต่างประเทศก็เป็นเรื่องน่าลองค่ะ เราตอนแรกได้รับการยกเว้นค่าเทอมค่ะคือทางสถาบันรับผิดชอบจ่ายให้ เรียนไปได้ 3 เดือน อาจารย์ที่ปรึกษาเรียกเข้าไปคุยว่าจะมีค่าใช้จ่ายประจำเดือนให้ ค่าใช้จ่ายที่ได้ต่อเดือนได้เยอะพอสมควรค่ะ(มากกว่าทุน กพ) เงินเดือนที่ได้ไม่หักภาษีเพราะคือทุนการศึกษา มีเหลือเก็บ แต่ก็มีความกดดันพอสมควร เพราะรับเงินมาก็ต้องมีผลงานตอบกลับไปให้เขาเช่นกัน ทุกวันนี้มีความรู้สึกเหมือนเป็นพนักงานมากกว่าเป็นนักเรียน พอดีเรียนทางสายวิทย์ หลายๆคนบอกว่าเอาเงินมาสนับสนุนให้เด็กเรียนเอกมีงานวิจัยออกมาถูกกว่าจ้าง Postdoc ค่ะ ลองดูค่ะ

ความคิดเห็นที่ 15 - จากคุณ : Valence

เป้นเด็กล้างจานอยู่แถว ๆ แล็ปครับ ได้ยินนาย (ที่เป็นอาจารย์นักวิจัย) แกว่าว่า

เงินทองสมัยนี้มันก็หายาก (หมายถึงเงินทุนทำวิจัยนะครับ) จะจ้างใครก็ต้องจ้างให้คุ้ม จ้างเด็กเรียนเอกก็ต้องดูก่อนว่ามีเด็ก in-state หรือเด็กที่มีเงินมาหักลบกลบหนี้ค่าเล่าเรียนได้หรือเปล่า ถ้าขัดสนจนใจ หาเด็ก ๆ แถว ๆ ในประเทศไม่ได้ก็ต้องไปจ้างเด็กต่างชาตินั่นแหละ ทำไงได้ แม้อาจจะต้องจ้างแพง แต่ก็ยังดี เอามาใช้งานซะให้คุ้มค่าจ้าง ว่าแล้วก็ทำตัวเป็น slave driver ต่อไป แต่เด็กต่างชาติก็มีตั้งหลายแบบให้เลือก ก็ต้องดูกันไปตาม "ภาษี" ส่วน postdoc อ่ะ ถ้าไม่ฟรีไม่ค่อยอยากจจะจ้าง เพราะเงินเดือนแพง แถมบางทีทำงานก็ไม่ค่อยคุ้ม เพราะชอบเอาเวลาทำแลปไปเขียนแกรนท์ขอทุนเอง บางทีก็ชอบเอาเวลาทำงานไปเขียนใบสมัครเป็นอาจงอาจารย์ แอร๊ยยยส์ จะมาแข่งกะเรา

นี่แอบได้ยินแกบ่น ๆ มาอ่ะครับตอนล้างถ้วยอยู่ในแล็ป เหอ ๆ ๆ




อ่านแล้วทำให้ความหวังที่เคยริบหลี่ๆกลับลุกโชติช่วงขึ้นมาทันตา

และอีกคนที่จะละเลยไม่ได้ คุณ B.F.Pinkerton เอาบทความเข้ามาแนะนำและก็เป็นเว็บบล็อกอันแรกที่ผมอ่านจนติดหนึบ ทึ่งว่าคนๆนี้เค้าน่านับถือจริงๆครับ

นี่คือบทความ ศึกชิงนักเรียนระหว่าง มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในอเมริกา (Princeton, Yale, MIT,Stanford) คนไทยมีเอี่ยวไหม?
อ่านเต็มๆ ได้ที่ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=bfpinkerton&month=03-2005&date=20&group=1&blog=1

+++++++++++++++++++++++++++++++++

สรุปได้ว่า
1. การไปเรียนต่อต่างประเทศโดยอาศัยทุนนั้นมีหลายวิธี แต่วิธีที่จะช่วยให้จ่ายน้อยก็มี ไม่ว่าจะเป็นทุนมหาวิทยาลัยไทยเพื่อผูกพันกลับมาเป็นอาจารย์ ทุน U ต่างประเทศเพื่อเข้าไปช่วยทำงานระหว่างที่เรียนเอก
2. นักศึกษาปริญญาเอกหลายๆคนมักได้รับการตอบรับการเข้าเรียนด้วยทุนเสมอ มากบ้างน้อยบ้างตามแต่ U แต่ก็มีความเป็นไปได้เสมอที่จะได้ทุน
3. การจะได้ทุน เราต้องลงทุนที่ตัวเองก่อน ด้วยการ "ลงแรง" พิสูจน์ตัวเองให้ทาง U เค้ามองเห็นศักยภาพที่จะฉายแววให้อาจารย์เค้าอยากให้ทุนเรามาเรียน ซึ่งในโลกนี้มีคนจากทั่วโลกอยากไปเรียนที่อเมริกาทั้งนั้น ชาติที่มีความพยายามสูงมากๆ คงเป็น "จีน" กับ "อินเดีย" นั่นล่ะ เพราะที่เห็นชัดๆในบ้านเรา คนที่ขยันจนประสบความสำเร็จทางธุรกิจมักเป็นคนจีนกับแขกเสมอ คนไทยๆคนลาวๆในบ้านเราก็จะเป็นอันดับรองๆลงมา เพราะฉะนั้นจึงประมาทคู่แข่งไม่ได้เช่นกัน และเราคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


Create Date : 30 มีนาคม 2549
Last Update : 30 มีนาคม 2549 17:28:04 น. 14 comments
Counter : 1538 Pageviews.  
 
 
 
 
เรียนโทอยู่ก็เหนื่อยแทบแย่แล้วครับ
ให้ไปต่อดอกเตอร์ ผมคงตายของจริง
ขอให้ประสบความสำเร็จในการเรียนนะครับ
 
 

โดย: strawberry machine gun วันที่: 30 มีนาคม 2549 เวลา:18:46:20 น.  

 
 
 
สู้ๆ นะ เอาใจช่วย แล้วกลับมาพัฒนาชาติด้วยน้า
 
 

โดย: ลมหายใจอุ่นอุ่น (ล ม ห า ย ใ จ ...อุ่ น อุ่ น ) วันที่: 30 มีนาคม 2549 เวลา:22:33:49 น.  

 
 
 
สวัสดีครับ ตอนนี้ผมได้รับทุนพัฒนาอาจารย์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นทุนปริญญาโทในประเทศ + ปริญญาเอกต่างประเทศ (สอนภาษาอังกฤษเหมือนกัน) ตอนแรก ๆ ที่รับทุนมาก็ตื่นเต้น ตั้งใจร่ำเรียน GPA ปริญญาโทได้ 3.82 ตอนนี้สอบหัวข้อไปแล้วครับ ทำเครื่องมืูออยู่ครับ มีความคิดที่จะไปต่อปริญญาเอกที่ Victoria University (Wellington) เหมือนกันครับ เคยเข้าไปดูที่เวบไซท์และ้ได้คุยกับอาจารย์ที่ไปเรียนเอกอยู่ตอนนี้ ก็น่าเรียนดีครับ แต่ตอนนี้ผมรู้่สึกเบื่อ ๆ กับการสอนแล้วอะครับ เนื่องจากที่มหาวิทยาลัยที่ผมมาเรียนให้ผมสอนเด็กปริญญาตรีเป็นงานพิเศษไปด้วย สอนได้สามเทอมก็เบื่อ ๆ แล้วได้มาทำธุรกิจกับที่บ้าน ทำให้ผมรู้สึกกว่าสนุกกว่าเยอะ และมีอิสระด้วย ตอนนี้ก็เลยมีความคิดจะขอลาออกจากทุน แต่ก็เสียดายเหมือนกันครับ เพราะหลายคนก็อยากได้ทุน ผมมีโอกาสแล้ว ตอนนี้ก็ชั่งใจอยู่ครับ เอาเป็นว่าเรียนปริญญาโทให้จบก่อนแล้วกัน ว่าง ๆ มาคุยกันได้นะครับ iinthanon@yahoo.com ครับ
 
 

โดย: Yentl IP: 61.7.140.234 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:1:46:14 น.  

 
 
 
อยากรู้ว่าทำไงจะได้เรียนต่อเอกบ้าง
นี้กะว่าจะลองเดินหน้าไปคุยกะ อธิการเหมือนกัน
แต่แม้ประสบการณ์น้อยนิดเหลือเกิน จะว่าทำงาน ก็งานไม่ตรงสายเรียน วุ่นจริงๆ เลย
ว่างๆ รบกวนคุณ GSK เมล์มาคุยให้กำลังใจ หน่อยนะ เพราะอ่านข้อความแล้วรู้สึกดีขึ้นเยอะในการตระกายหาที่เรียนและทุนทั้งในและต่างประเทศ เฮ้ย!!!
pichaikum@hotmail.com

 
 

โดย: หนิง IP: 125.26.146.85 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:31:09 น.  

 
 
 
เข้ามาอ่านเป็นความรู้ครับ
 
 

โดย: Coconut Dance : วันที่: 20 เมษายน 2551 เวลา:12:25:46 น.  

 
 
 
ตอนนี้กำลังเรียน ป. ตรีอยู่ อีกประมาณ 1 เดือนก็จะจบแล้ว ก็ตั้งใจจะศึกษาต่อให้สูงที่สุด
เป็นนักศึกษาทุน gsk พยาบาลเพื่อชฃุมชน รุ่นที่ 8 จะช่วยเหลือชุมชนให้ดีที่สุด
 
 

โดย: Garlgaw; IP: 202.29.55.40 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:48:30 น.  

 
 
 
สู้ สู้ เน้อ แป๊บเดียวก็จบ
 
 

โดย: mama deeday IP: 58.8.4.68 วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:18:17:00 น.  

 
 
 
เพื่อน ๆ คนใดสนใจเรียนปริญญาเอกมหาวิทยาลัยมคธ เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ กพ.รับรอง เป็นปริญญาเอก Social Sciences แต่มีหลายสาขาเช่นรัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ จิตวิทยา บริหารธุรกิจ
เป็นการเรียนระบบอังกฤษ ไม่มีการเรียนCourse Work
ทำแต่วิทยานิพนธ์อย่างเดียว ค่าเล่าเรียนถูกมาก แค่ 250,000 บาท ตลอดหลักสูตร รวมค่าพิมพ์งานวิทยานิพนธ์แล้ว เดินทางไปอินเดียแค่สองครั้งเท่านั้น เพื่อรายงานตัวและพบอาจารย์ที่ปรึกษา และสอบป้องกันวิทยานิพนธ์ สนใจติดต่อ 085-345-1226
 
 

โดย: ดร.มาส IP: 58.11.20.34 วันที่: 26 ธันวาคม 2552 เวลา:12:04:47 น.  

 
 
 
ท่านดุษฎี ให้พี่เลี้ยงวันไหนบอกน๊ะ จะพยายามเป็นลูกศิษย์ที่ดี หากมีโอกาศ (รักน้องๆทุกคน)
 
 

โดย: T IP: 118.175.174.225 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:13:24 น.  

 
 
 
ท่านดุษฎี ให้พี่เลี้ยงวันไหนบอกน๊ะ จะพยายามเป็นลูกศิษย์ที่ดี หากมีโอกาศ (รักน้องๆทุกคน)
 
 

โดย: T IP: 118.175.174.225 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:13:37 น.  

 
 
 
ขอให้หนิงมีความสุขมาก ๆ และให้หนิงรักปุ้ยตลอดไป
 
 

โดย: T IP: 118.175.174.225 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:21:13 น.  

 
 
 
ช่วงหลังมี ศูนย์กรุงเทพฯ ซึ่งอ้างว่าเป็นตัวแทนมหาวิทยาลัย โฆษณา วิธีการเรียนมหาวิทยาลัยมคธ อย่างไม่ถูกต้องตามวิธีการเรียน ทำให้มหาวิทยาลัยและคนที่จบไปแล้วเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก หยุดเถอะครับ วิธีการ ผิด ๆ แบบนี้ อย่าเห็นแก่เงินทองอย่างเดียว คนที่เขาจบมาแบบยากเย็นแสนเข็ญ จะเดือดร้อน กับ วิธีการโฆษณาหาเงินของคุณ เช่น บอกว่ามีอาจารย์ที่ปรึกษาชาวไทยดูแล ทำวิทยานิพนธ์เป็นภาษาไทย และ อังกฤษ ต้องส่งหัวข้อเรื่อง ทั้งหมด 3 เรื่องไปให้เลือก
มีที่ไหน ไม่มีหรอกครับอาจารย์ที่ปรึกษาคนไทย มีแต่อาจารย์ที่ปรึกษาชาวอินเดีย คนเดียวเท่านั้น และต้องทำวิทยานิพนธ์เป็นภาษาอังกฤษอย่างเดียว จะทำได้หลังจากได้ใบ Admission ซึ่งจะบอกว่าชื่อเรื่องที่เสนอไปถูกปรับแก้หรือไม่ จึงจะเริ่มทำวิทยานิพนธ์ได้ครับ และต้องเดินทางไปอินเดีย ทุกครั้งที่อาจารย์เรียกให้ไป ไม่ใช่ไปครั้งเดียว หรือ สามครั้งอะไรของคุณ มั่วแล้วครับ เสียชื่อหมด

โปรดอย่าทำให้มหาวิทยาลัยและศิษย์เก่า ที่จบไปแล้วเสื่อมเสียมากไปกว่านี้เลย หยุดเถอะ
 
 

โดย: sak IP: 113.53.193.125 วันที่: 6 มีนาคม 2554 เวลา:14:10:13 น.  

 
 
 
ปปปปปปปปปป
 
 

โดย: xxxx IP: 58.9.58.185 วันที่: 26 เมษายน 2554 เวลา:9:25:39 น.  

 
 
 
ใครทำลายความน่าเชื่อถือมหาวิทยาลัยมคธ เป็นคนเลวที่สุดในโลก
 
 

โดย: Somsak IP: 27.55.220.187 วันที่: 25 สิงหาคม 2556 เวลา:21:08:13 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

GSK
 
Location :
ร้อยเอ็ด Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add GSK's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com