Group Blog |
10 Things I love in Hong Kong
10 อย่าง จาก100 อย่างได้มั้ง ไม่ใช่ The must ขนาดต้องไปชิมต้องไปดูต้องไปทำนะคะ แค่เหตุผลของคนๆนึงที่ชอบไปฮ่องกง อิอิ ลองดูค่ะว่าชอบเหมือนกันบ้างไหม //////////////////////////////// 1. Chungking Express เอ๊...ยังไงกันเนี่ยยย หนังหลายปีก่อนของผู้กำกับคนเก่งหว่องการ์ไว สมัยที่พี่เหลียง(ของช้าน) ยังหน้าใสแน้วว และทาเคชิ คาเนะชิโร ยังแบ๊วอยู่เลย ฮี่ๆ ไม่รู้ละ มาฮ่องกงทีไรต้องขอมาดูตึกชุงกิง กะด้อมๆมองๆแถวข้างบันไดเลื่อนมิดเลเวลทุกที ทำยังกะมีญาติอยู่แถวนี้ ฮ่าๆๆ 2.มหานครติ่มซำ ใครคนนึงแถวกระบี่เคยเรียกฮ่องกงว่ายังงี้...ชอบอ่ะ ยื้มใช้หน่อยนะ ติ่มซำที่ฮ่องกงอร่อยจัง โดยเฉพาะฮะเก๋าของโปรดดดด การไปหยำฉ่า ดื่มน้ำชากินติ่มซำก็หนุกหนานใช่ย่อย บางร้านมีเมนูภาษาอังกฤษ บางร้านก็ไม่มี รวมทั้งไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษด้วย ตื่นเต้นสุดสุด อย่างร้านหลินเฮิ้ง แถวเซ็นทรัลค่อนไปทางเชิงหว่าน (Shueng Wan) ร้านหยำฉ่าแบบดั้งเดิมที่แน่นมากๆ ขึ้นไปครั้งแรกอึ้งไปเลยค่ะ แต่อร่อยทุกอย่างและสนุกมากกกกก 3.Ting Ting = Tram นั่งรถรางชมเมืองด้วยราคาแสนถูก สองเหรียญเท่าน้าน เลือกชั้นบนด้านหน้านะคะ วิวดีถ่ายรูปเพลินไปเลย ถ้าไม่รีบก็นั่งไปเรื่อย เราชอบนั่งจากคอสเวย์เบย์ไปเซ็นทรัล สนุกและสะดวกค่ะ ลงเดินแป๊บเดียวก็ถึงที่หมายแล้ว ไม่ต้องเดินมุดดินยาวๆเหมือนMTR 4.รถเมล์สายสิบห้า Exchange Square-Victoria Peak แอร์เย็นเจี๊ยบ เราชอบนั่งตอนเย็นๆ สักห้าโมง หลังจากเมื่อยมาแล้วทั้งวัน ได้พักขา45นาที สบายจริงจริ๊ง ชมวิว ดูบ้านสวยๆรถสวยๆของเศรษฐีฮ่องกงอย่างที่เห็นในหนังบ่อยๆ รถจะซอกแซกไปตามถนนเล็กๆบนเขา ผ่านตึกสูงที่เป็นที่พักอาศัย อยู่บนเขาสูงแล้วยังต้องอยู่บนตึกสูงๆอีกเน้อ กลับมาแล้วรักบ้านเล็กๆของเราจับใจ ช่วงต้นปีในฤดูใบไม้ผลิ ต้นชงโคสัญญลักษณ์ของฮ่องกง พากันออกดอกสีชมพูดอกใหญ่ๆเต็มต้นตลอดสองข้างทางอีกตะหาก ขึ้นไปถึงตอนหกโมง ฟ้ากำลังสวยเลยค่ะ 5.Star Ferry และเรือใบสีแดง ฮ่องกงเป็นเมืองท่า มาทั้งทีก็ต้องดูทะเลซีคะ เราชอบนั่งเรือข้ามฟากมากๆ มากกว่ารถใต้ดินมุดน้ำอีก ไฮไลท์อยู่ที่ตอนสองทุ่มที่มีโชว์ Symphony of Lights เลือกหยอดเหรียญหรือแปะบัตรเข้าไปตอนทุ่มสี่สิบห้า จะเริ่มแสดงตอนเราอยู่กลางน้ำพอดี เป็นที่นั่งริงไซด์ในราคาถูกที่สุด เหรียญกว่าๆเท่่านั้น บางช่วงของปียังได้นั่งเรือสำเภาโบราณใบสีแดง Ducklingชมอ่าววิคตอเรียอีกด้วย ซื้อบัตรล่วงหน้า1วันได้ที่ ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวฮ่องกง สถานี MTR-Causeway Bay Exit-F ค่ะ 6.Page One ร้านหนังสือ ที่มีสโลแกนว่าEvery books begins at page one หนังสือทุกเล่มเริ่มต้นที่หน้า1 ร้านหนังสือที่รวมหนังสือArt + Design + Graphic และอื่นๆ... เยอะแยะมากมาย ถูกใจที่สุด ไม่ได้ถูกกว่าที่B2Sหรือคิโนะมากขนาดเป็นเท่าๆนะคะ แต่มานมีเยอะมากกกกก และมีบางเล่มที่บ้านเราไม่สั่งเข้ามา นอกจากหนังสือยังมีโลโม่และของเล่นต่างๆให้เสียตังค์ สมุดเครื่องเขียนก็น่าใช้ที่สุด ปล.วางแผนดีๆนะคะอย่าวู่วาม เพราะกาารแบกหนังสือกลับมาเนี่ยมันกินน้ำหนักกระเป๋าชะมัด เราชอบสาขาที่แถว Lan Kwai Fong ตรงตึกเล็กๆปากซอยStanley หลังร้านCoachในรูปอ่ะค่ะ ชั้นล่างมีสตาร์บัคส์ด้วย อีกสาขาใหญ่เบ้อเริ่มอยู่ที่Harbour Cityชั้นสามค่ะ เราไม่ค่อยชอบไปเท่าไร มันใหญ่เกิ๊นนน เมื่อย งง หลงทิศ ผิดแผนตลอด 7.เค้ก เค้ก เค้ก หน้าตาสะสวย อร่อย(มากกกก) ไม่หวานจัด และไม่แพงเท่าร้านเค้กอร่อยๆบ้านเราด้วยค่ะ งานนี้มีประชันกันสองเจ้า อะโรเม่ และแมกซิมส์ มีสาขายุ่บยั่บทั่วฮ่องกงทั้งคู่ เจอที่ไหนจัดการได้เล้ยย 8.Mak' Noodle ร้านบะหมี่นายมาก อ่านเจอมาจากหนังสือของคุณพลอย อึ้มมม...อร่อยจริงๆด้วยค่า เกี๊ยวกุ้งเนื้อแน่นนน กัดกรึ๊บๆ บะหมี่เส้นเล็กเหนียวนุ่มและเนื้อตุ๋นเข้มข้นหอม สั่งบ็อกชอย -คะน้าก้านอ้วนราดน้ำมันหอยมากินด้วยกัน ทุกจานมีซุปให้ค่ะ ถ้วยน้อยๆแต่เข้มข้นเพราะเคี่ยวตั้งแปดชั่วโมง แล้วจะไปรักใครที่ไหนได้อีกนอกจากพี่มากจ๋าาา ในรูปเป็นสาขาที่เซ็นทรัล ถนนเวลลิงตัน ซอยเดียวกะร้านหย่ง เก ห่านย่างเจ้าดัง เดินเลยไปทางบันไดเลื่อนมิดเลเวล อีกร้านอยู่ที่คอสเวย์เบย์ ถ.จาร์ดีนบาซาร์ ตรงข้ามโซโก้ค่ะ 9. Goose & Duck ห่านและเป็ด ตัดใจไม่ลงขอเบิ้ลทั้งสองอย่างแล้วกัน ห่านย่างหนังกรอบที่ร้านหย่งเก Yung Kee จิ้มน้ำจิ้มบ๊วยที่อร่อยจัง ก๋วยเตี๋ยวผัดใส่เนื้อแบบผัดซีอิ๊วก็อร่อยย ร้านนี้มีแถมไข่เยี่ยวม้าที่เค้าว่าของเค้าดังด้วยค่ะ มากลางวันคิวยาวมากกกก เป็ดย่าง ข้าวหน้าเป็ด ร้านไหนๆก็คงอร่อยเหมือนกันหมดแหล่ะ เราชอบร้านนี้ค่ะ Yun Kee แถวจิมซาจุ่ย ในซอย Humphrey Avenue ตรงข้ามถนนไฮฟองทีเลียบหลังสวนสาธารณะเกาลูนพาร์คไปแคนตันโร้ด ฮาเบอร์ซิตี้ได้ หมูแดงก้ออร่อย หอมๆและไม่หวานเป็นหมูเชื่อม กินกับพริกเผาแบบฮ่องกง ซรู้ดดด... หน้าร้อนลองเลม้งฉ่า ชามะนาวด้วยนะคะ ชื่นใจหายเหนื่อย 10. S H O P P I N G มาฮ่องกงไม่ช้อปปิ้งก็ไม่ใช่แล้วละ คริคริ แต่ซื้อไม่เยอะน๊า...ไม่ใช่ Shopaholic พอหนุกๆชื่นใจหายเหนื่อยแค่นั้นเอง ^^ ทุกครั้งจะต้องมีภารกิจ หายตัวเข้าไปใน H&Mกันทีละครึ่งวันค่ะ แล้วก็แยกย้ายไปคนละทางสองทาง 5555 ชอบ Lane Crawford ที่แปซิฟิกเพลสค่ะ แวะชั้นรองเท้าหมุนได้ที่มีรองเท้าตราเสือสีสวยๆ และแบรนด์ต่างๆแบบเลือกมาแล้ว เราแค่นั่งเลือกสบายๆอีกที ไม่ต้องคิดมาก ซีดีก็เยอะแยะน่าฟัง ดิสเพลย์ ข้าวของสวยๆในแปซิฟิกเพลสก็ดูเพลินมั่กๆค่ะ แถมห้องน้ำที่นี่ยังเปรี้ยวปรี๊ดดดส์ ปล.สำหรับแฟนๆOnitsuka นอกจากที่นี่ (ซึ่งเยอะแล้ว) แล้วยังมีshop ที่ The Elements ฟากเกาลูนด้วยค่ะ ชั้น1ห้อง1009ติดกับสตาร์บัคส์ เราเป็นคนชอบใส่รองเท้าแตะค่ะ นอกจากตราช้างดาวแล้วก็ชอบยี่ห้อBirkenstockเอามากๆ ใส่สบายและทนสุดๆๆ คู่เก่าที่สุดใช้มาห้าปีแล้วค่ะ มีอยู่ห้าสีได้มั้ง แฮ่ๆ Birkenที่ฮ่องกงถูกกว่าเยอรมันซะอีก ถูกมากๆทำไมไม่รู้ มีช็อปที่อภิมหาห้างฮาเบอร์ซิตี้ที่เราไม่ชอบเท่าไร ก็มันเมื่อย และก็ที่Silvercord ห้างเล็กตรงข้ามกันค่ะ เดินสนุกกว่าแยะ ข้าวของแน้วแนว ชั้นล่างมีFood Republicศูนย์อาหารหน้าตาดีด้วยค่ะ Facessss แผนกเครื่องสำอางของเลน ครอว์ฟอร์ด สาขาที่ฮาเบอร์ก็หย่ายมั่ก ปีก่อนไปเจอประโยคนี้อยู่ในดิสเพลย์ของเค้าค่ะ... The longer I live the more beautiful life becomes. If you foolishly ignore beauty, you will soon find yourself without it. Frank Lloyd Wright กรี๊ดดดดดด...ช่างคิดนะยะ ที่นี่มีเครื่องสำอาง น้ำหอม แยะมากๆและลองได้จนหนำใจ ราคาถูกกว่าบ้านเราแน่ๆค่ะ จะมากน้อยต่างๆกันไป เท่าที่เคยซื้อ บางยี่ห้ออย่างMac Nars พอๆกันค่ะ ถูกกว่าชิ้นละ100-150มั้ง แต่น้ำหอมนี่ถูกกว่าแยะมากกก... CK นี้ขวดสุดท้ายแล้ว ซื้อมาสองขวดค่ะ แถมท้ายด้วยสารพันแผนที่ ที่เคยแปะในทู้ค่ะ รีวิวฮ่องกงที่เขียนไว้ที่โต๊ะบลูค่ะ 3ปีที่ผ่านมาตั้งกะมาเล่นพันทิพ ก็อปปี้ URLไปเปิดนะคะ 6-8 มี.ค. 52...Misty Hong Kong เมื่อดอกชงโคบาน ตอนแรก : YMCA Salisbury ข้าวหน้าเป็ดที่จิมซาจุ่ย S.O.L และ CTMACentre-Mong Kok //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7609844/E7609844.html ตอนที่2 : The Peak อะโรเม่เบเกอรี่ และร้านบะหมี่นายมาก //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7622210/E7622210.html ตอนจบ : The Hidden Harbour อ่าววิคตอเรียในหมอกฝน //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7632793/E7632793.html ________________________________________ 3-6 ก.ค.51...ไปตามหาจิวยี่ที่ฮ่องกง ตอน 1 : Kenya Airways+ L'hotel Causeway Bay //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6791284/E6791284.html ตอน 2 : มหานครติ่มซำ + ยามค่ำบนวิคตอเรีย พีค //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6795283/E6795283.html ตอน 3 : นั่งรถรางไปลงเรือใบ +The Symphony of Lights //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6804851/E6804851.html ตอนจบ : ทาร์ตไข่ตำรับมาเก๊าที่The Excelsior Hotel //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6821557/E6821557.html ________________________________________ 20-23 ก.ค.50...โจ๋วสั่น อรุณสวัสดิ์ฮ่องกง ตอน 1 : The Peak by bus 15 //topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2007/08/E5728475/E5728475.html ตอน 2 : นั่งรถรางไปกินติ่มซำ //topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2007/08/E5737580/E5737580.html ตอน 3 : เพื่อนเก่าที่ Causeway Bay และเฟอร์รี่ดวงดาว Star Ferry //topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2007/08/E5765650/E5765650.html ตอน 4 : Central Mid Lavel Escalator //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E5783451/E5783451.html FAQ : HK AE Octopus
ไม่ใช่โค้ดลับอะไรน๊า
เป็นคำถามเจอบ่อยๆเกี่ยวกับฮ่องกงค่ะ ยิ่งใกล้เดือนกรกฎาคม เรามักจะได้รับข้อความหลังไมค์บ่อยๆ เกี่ยวกับการเดินทางด้วย Airport Express มั่ง รถใต้ดินมั่ง บางทีก็ให้จัดทริปให้ด้วย ใครๆก็จะไปฮ่องกง ก็เทศกาลช้อปปิ้งแสนสนุกของคนไทยนี่นาา... บล็อกนี้เลยจะเอาข้อมูลเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ Airport Express และบัตรปลาหมึก Octopus มารวมไว้นะคะ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่หาข้อมูลเที่ยวฮ่องกงอยู่ แล้วก็ต้องขอโทษเพื่อนๆที่เคยถามมาแล้วบางคนเราไม่ได้ตอบกลับ จัดโปรแกรมเที่ยวให้ใครไม่เป็นจริงๆค่ะ เซินเจิ้นก็ไม่เคยไป มาเก๊าก็ไม่เคยไป วัดหวังต้าเซียน กระเช้าน้องปิงยังไม่เคยไปเล้ยยย ต๊อกแต๊กอยู่แค่ฝั่งฮ่องกงเองคร่ะ แหะๆ แถมยังเป็นพวกโลเลโมเม วางแผนมาดิบดีเปลี่ยนกันดื้อๆก็บ่อย ก็ฮ่องกงเล็กนิดเดียว ไปไหนมาไหนมุดดินไปแป๊บเดียวก็ถึงค่ะ ///////////////////////////////////////////////////////////// Airport Express Travel Pass 300 HKD 1.ใช้โดยสาร Airport Express ได้2เที่ยว ไป-กลับ สนามบิน และใช้โดยสาร MTR ไม่จำกัดเที่ยวเป็นเวลา3วัน(72ชั่วโมง)นับจากแปะบัตรครั้งแรก ยกเว้น Light Rail, MTR Bus, East Rail Line First Class, Lo Wu และ สถานี Lok Ma Chau . . . 2. ใน 300HKD จะมีค่ามัดจำอยู่ 50 HKD. ถ้าใช้ขึ้นMTR เกินวันที่3ไม่ต้องตกใจนะคะ ระบบจะหักออกจากมัดจำ 50HKD.ค่ะ . . . 3.แนะนำเอาไปเติมเงินไว้ใช้เหมือนบัตร Octopus ได้ค่ะ เติมได้ที่เครื่องเติมเงินทุกสถานี เซเว่นก็เติมได้ สะดวกจริงจริ๊งงง ใช้ได้กับรถเมล์ รถราง ร้านค้า(จิออบอสสินี่มูจิยูนิโคลจีโอดี เก้าลอเก้า) เซเว่น วัตสัน แมค เคเอฟซี ร้านอาหาร ต่างๆนาๆทุกที่ๆมีป้าย Octopus Peak Tram/ค่าขึ้นชม The peak Tower ก็ได้ค่ะ สะดวกดีค่ะไม่ต้องนับเหรียญและไม่ต้องเหลือเศษเหรียญกลับบ้านเพราะมานแลกคืนไม่ได้ เสียดายตังค์ -*- . . . 4. เงินเหลือในบัตร AE-Travel Pass แลกคืนได้เต็มจำนวน บัตร Octopus ธรรมดาจะถูกหักเงินไปเล็กน้อย ส่วนตัวยังไม่เคยแลกคืนค่ะ เก็บไว้เป็นที่ระลึก (ทำหายทู้กที) . . . 5. จากสถานีAE-ไปที่โรงแรม Kowloon Station ฝั่งเกาลูน มีรถShuttle Bus วิ่งไปส่งตามย่านสำคัญ และโรงแรมยอดนิยมบางแห่งจอดส่งถึงที่เลยคะ ฟรีด้วย ส่วนเราชอบเลือกที่พักไม่ไกลจากสถานีนักก็นั่งแท็กซี่เอาค่ะ Hong Kong Station ฝั่งฮ่องกง มีทางเชื่อมที่ยาวมากๆ มาสถานีCentralค่ะ นั่งMTR ต่อไปสถานีต่างๆได้ เลย แต่ ขอบอกว่าวิธีนี้แฮ่กเอาการเชียวหล่ะ เอิ้กๆ . . . 6. In-Town Check In มีบริการที่สถานีเกาลูนและฮ่องกง และใช้ได้แทบทุกสายการบิน มีห้าหกสายเท่านั้นที่ไม่มีค่ะ เช็คอินได้ล่วงหน้าวันนึงแหน่ะ สะดวกสำหรับการวางแผนไปเที่ยวไหนๆต่อ แต่ส่วนใหญ่เราจะเช็คเอาท์จากโรงแรมแล้วฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมมากกว่าค่ะ จะมีบางทีที่ของไม่แยะก็ไปเช็คอินไว้ตั้งแต่เที่ยงเลยจากนั้นก้อเดินตัวเปล่าลั้นลาหาไรกินได้ทั่วเกาะ เป็นการจำกัดงบประมาณไปในตัวด้วยค่ะ เหอๆ อันนี้สำคัญค่ะ... เช็คอินที่ AE ได้ Boarding Pass มาแล้วก็ต้องมาดูหมายเลขเกทที่สนามบินอีกทีนะคะ เผื่อเวลามาที่สนามบินแยะหน่อยนะคะ ซักสองชั่วโมง เราเคยประมาทพลาดมาแย้ว การวิ่งในสนามบินเช็คแลบก็อกที่กว้างใหญ่ไพศาลราว3อบต.ไม่สนุกเลยค่ะ โชคดีที่วันนั้นเครื่องคาเธ่ย์เสียเวลาเล็กน้อย ยกประโยชน์ให้จำเลยไป ไม่ต้องโดนผดส.ท่านอื่นตาเขียวใส่ . . . 7.และอันนี้สำคัญที่สุด ถ้านั่งAEเข้าเมืองซัก3-4คน นั่งแท็กซี่ก็ไม่แพงกว่ากันเท่าไหร่ คนขับแท็กซี่เคยบอกเราด้วยความหวังดี ...แต่ช้านชอบนั่งเออีนี่น้าาาา ไปไหนมาไหนในฮ่องกง MTRสะดวกมากๆ และมีเว็บที่ให้ข้อมูลและแผนที่ดีมากๆ ใช้ง่ายด้วยค่ะ ลองเข้าไป searchเล่นดูนะคะ ตัวอย่างค่ะ //www.mtr.com.hk/jplanner/eng/planner_index.php?spot=1&start=1&destin=6&x=48&y=18 จะขึ้นมาเป็นตารางเลย เวลา ค่าโดยสาร มีแผนที่ให้ดูอย่างละเอียดทั้งสถานีต้นทาง สถานีปลายทาง เราชอบปริ๊นท์แผนที่นี้มาดูค่ะ อย่าลืมมมม ก่อนขึ้นจากสถานีรถใต้ดินที่บางสถานีก็ใหญ่มหึมา อย่าลืมแวะดูป้ายทางออกExit สักนิดว่าที่ๆเราจะไปนั้นต้องขึ้นทางไหนนะคะ ไม่เสียเวลา ไม่ต้องเดินหลงเมื่อยขาโดยไม่จำเป็นค่ะ เอิ้กๆๆ การเดินทางอื่นๆ ส่วนตัวเราไม่ชอบรถใต้ดินเท่าไร(แต่ก็ซื้อบัตร3วันทุกครั้งทำไมเนี่ยยยย) เลยเลี่ยงเป็นเรือข้ามฟากมั่ง รถราง มั่ง เมื่อยนักก็แท็กซี่ค่ะ อย่างที่บอกไปตอนแรก ถ้ามากันสัก3-4คนค่าแท็กซี่จากจุดนึงไปจุดนึงก็ไม่แพงกว่าMTRมากนัก เที่ยวฮ่องกงให้สนุกค่ะ ทริปกระเจียวปี 2550
(ทริปเก่านะค้า...จัดกรุ๊ปบล็อกใหม่นิดนุง
ขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ) 14-15กรกฏาคม 2550 เพื่อนๆห้องบลูฯเค้านัดกันไปเที่ยวทุ่งกระเจียวกันค่ะ นำโดยฉินและคุณแก่ เรา(กะคุณพ่อบ้าน)ก็ตามเค้าไปด้วย อยากไปมานานแล้วอะทุ่งกระเจียวเนี่ย ให้ไปเองคงมึนนน... ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน งานนี้ทริปเดียวได้เที่ยวสองอุทยาน อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม และไปกางเต๊นท์นอนที่อุทยานแห่งชาติไทรทองค่ะ ฟ้าแลบที่ปั๊มระหว่างทาง แวะทานกลางวันที่ร้านส้มตำไก่ย่างหน้าทางเข้า แถวนี้วิวสวยจัง เป็นแนวสันเขายาว ต้นไม้ได้ฝนเขียวชอุ่ม มีร้านขายผักผลไม้ใหม่ๆจากไร่เยอะเลยค่ะ ้ถ้าไปกับแม่ๆสงสัยได้นั่งพับเพียบขับรถกลับบ้าน เอิ๊กกกก ถึงแล้วค่ะทุ่งกระเจียว ย๊างงงง... ถึงแล้ววว... มีร้านค้าโอทอป บรรยากาศครึกครื้นรื่นเริงสุดๆ เพราะมีวงสตริงแลหางเครื่องขับกล่อมตลอดงาน OMG !!! นั่งสองแถวเข้าไป คนละ10บาทค่ะ จุดชมวิวจุดแรก สุดแผ่นดิน สวยจังเลยค่ะ ฝนมาแล้ววว เดินต่อไปอีกนิดนึง ฝนตกซะงั้น...วิ่งกางร่มดูกระเจียวสนุกดีค่ะ นั่งสองแถวไปป่าหินงาม ฝนตกแดดออก หินงามสมชื่อ หินแม่ไก่ หรือไดโนเสาร์หว่า... หินเรดาห์ เหมือนจูราสสิกพาร์คไหมคะ อะไรเอ่ย... ... หนูจ๋าตาไว ชวนเดินเลยไปด้านในโน้น... เลยได้เห็นทุ่งหญ้าเขียวๆในแดดหลังฝน และกระเจียวดอกน้อยๆค่ะ ปลอบใจที่เมื่อกี้มัวแต่เก็บกล้องวิ่งหนีฝน ดอกไม้ใบหญ้าริมทางค่ะ ผลไม้ไม่ทราบชื่อ แหะๆ ต้องเป็นดอกหญ้าแน่ๆ กร๊ากกกก... ///////////////////////////////// จากนี้ก็นั่งรถไปอีกประมาณชั่วโมงนึงค่ะ ไปที่อุทยานแห่งชาติไทรทอง อ.หนองบัวระเหว หัวหน้าฉินบอกว่าสวยมากกกก ออกจากอุทยานป่าหินงาม นั่งรถตู้ต่อไปอีกประมาณ50กม. ไปทางไหนก็จำไม่ได้เสียแล้วค่ะ ฝนปรอยตลอดทาง เราก็หลับตลอดทางเลย ตื่นก็ถึงพอดีค่ะ อุทยานแห่งชาติไทรทอง มีลานกางเต๊นท์อยู่ริมบึงน้ำกว้าง บรรยากาศเงียบสงบแสนสบาย ต่างจากเมื่อตะกี้ลิบลับ รุ้งกินน้ำในแดดบ่าย กรี๊ดดดดด...อยากจะกางเต๊นท์นอนตรงนี้อ่า เค้าว่าข้างบนสวยกว่านี้อีก เช้าๆมีทะเลหมอกด้วย เช่าเหมารถ4WDของอุทยานฯขึ้นไปค่ะ เพราะต้องข้ามห้วยเล็กๆ ได้อารมณ์แอดเวนเจอร์หน่อยๆ ฮูเร่.... เพื่อนร่วมทริป รอชม คุณสิทธิ์ คุณจอห์น ส่วนอีกลืมชื่อ...ขอโต้ดก้าบ นั่งชมวิวไปอีก8กม.ค่ะ ฟ้าสวยๆหลังฝน มาได้สักพักก็กลายเป็นถนนแดงๆ ถึงที่พัก รีบกางเต๊นท์ก่อนจะมืด หลายคนทันได้เก็บภาพพระอาทิตย์ตกสวยๆ ส่วนเรา กว่าจะงุ่มง่ามๆเสร็จตอนพระอาทิตย์ลับฟ้าไปนานแว้ว มืดตื๋อ... ทานข้าวเย็นที่ร้านอุทยานฯ หอบYมาให้หนักเล่นซะงั้น หลับครอกไปตั้งแต่สี่ทุ่มด้วยความเหนื่อย อายมากกกกก... ตัดภาพไปตอนเช้าเลยค่า... เปิดเต๊นท์ออกมา เจอแดดอ่อนๆแป๊บเดียว(หมอก หรือเมฆ)ลอยมาเป็นลูกหญ่ายยย ขาวฟุ้งแบบนี้เลยค่ะ ล้อมวงกินกาแฟท่ามกลางทะเลหมอก เต๊นท์เราเอง ลานกางเต๊นท์ ข้างหน้าเป็นลานจอดรถและร้านอาหารของอุทยาน เห็นไหมคะ หลังจากกินข้าวต้มหมูสับกันแล้วเราจะเดินเที่ยวตามเส้นทางนี้ค่ะ ใช้เวลาประมาณ3-4ชั่วโมง(แอบหวั่นใจเล็กน้อย เคยเดินป่ากะเค้าที่ไหนล่ะ) แต่ความอยากเห็นทุ่งกระเจียวมีมากกว่า สู้ว้อยยย ไปกันเล้ยยย... วิวจากผาหามหดค่ะ สวยและสูง หลังจากสำรวจแล้วว่าอะไรๆยังอยู่ดี ไม่หด เราก็ออกเดินไปดูกระเจียวค่ะ เดินไปเรื่อยๆสบายๆ ลมพัดเย็น ดูดอกไม้สวยๆข้างทาง ดอกเอื้องหมายนา ดูใกล้ๆ ดอกไม้สวยๆแปลกๆเยอะเลยค่ะ ทำให้การเดินไม่เหนื่อยเกินไปนัก เดี๋ยวๆก็จอดชมดอกไม้ถ่ายรูป เนียนไปเรื่อยอะเรา น้ำค้างยามเช้า กระเจียวขาวข้างทาง ... เดินไปตามป่าโปร่งๆ เจอแล้วค่าาาา...ทุ่งกระเจียว ของจริงอยู่นี่... เป็นที่ลาดเนินเขา มองเห็นวิวไกลๆด้วย ทางเดินทำไว้สวยมากค่ะ ไม่ต้องย่ำกระเจียวให้เสียหายด้วย ... ไม่ต้องออกไปย่ำเราก็ได้เห็นกระเจียวสวยๆแบบจุใจ เข้าไปถึงกลางทุ่งเลย ถ่ายรูปตรงนี้ กระเจียว กระเจียวอีกรูป เฟิร์นลูกไก่ ยอดอ่อนขดกลมๆสีเหลืองเหมือนลูกไก่เลยอะ ??? ไปดูกระเจียวขาวกันต่อ เดินลงเนินไป400เมตร สบายมากกก (ลืมนึกถึงขากลับ 555) กระเจียวขาวต้นไม่สูง ขึ้นกระจายเป็นจุดๆๆซ่อนตามยอดหญ้า น่าร๊าก~ ยังกะใครเอาทิชชูมาโปรยไว้เลย อยากได้รูปสวยๆก็ต้องทำอย่างน้าเพียง ส่วนเราได้เท่านี้จ้า ตอนเดินกลับขึ้นมานี่ซิ แฮ่กๆ ข้าวต้มหมูสับเมื่อเช้าย่อยสลายหายไปนานแล้ว แฮ่กๆ ขาสั่นขึ้นมากินข้าวกลางวัน มีไข่เจียว ยำกระป่อง ไก่ย่างกะปลาเผา(อร่อยมากกกกกก) แล้วก็อาบน้ำ เก็บเต๊นท์ ลงมาที่ลานจอดรถเมื่อวาน รถตู้รออยู่ค่ะ ข้ามห้วยอีกรอบ ได้นอนพักสบายๆงีบนึงที่ริมบึง ไปทานมื้อเย็นปิดทริปที่สวนเมืองพร ลำตะคองค่ะ ร้านสวยมาก บรรยากาศก็ดี๊ดี แต่กล้องเราแบตฯหมดไปซะแล้ว ขอบคุณเพื่อนรวมทริปทุกท่านสำหรับวันดีๆของเราสองคนค่ะ พี่แหม่ม พี่นา น้าเพียงฯ ฉิน+พี คุงแก่+นุ้ย ชม+หลี แมว ผา คุณสิทธิ์ คุณจอห์น คุณ...(ขอโทษอีกทีค้าบ) โอกาสหน้าไปเที่ยวกันอีกน๊า ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชมบล็อกด้วยค่ะ วังเวียง : คิดถึงน้ำสองเมื่อปี 2000
ไม่ได้เขียนบล็อกมาปีกว่าแล้วค่า
(จะบอกทามม้ายย...) จะหมดปีแล้ว ลมพัดเย็น บรรยากาศเริงรื่นชื่นใจ แต่ปีนี้งานยังไม่จบเหมือนปีก่อนๆ ไม่ได้พักร้อนสักที เฮ่ออออออ รื้อรูปมาดูวันสนุกๆกันให้ชื่นใจดีก่า ทริป Countdown ที่วังเวียง ประเทศลาวที่รักของเราค่ะ เป็นการไปเมืองลาวครั้งที่สอง ครั้งแรกเมื่อปี1999 ไปเล่นน้ำปีใหม่(สงกรานต์ไทย)ที่หลวงพะบาง นั่งรถไฟไปทางหนองคาย ต่อสามล้อไปเวียงจันท์ และต่อเครื่องบินไปหลวงพะบาง แฮ่กเล็กน้อยแต่สนุกสนานชื่นใจมากมาย ไว้หาอัลบั้มรูปเจอแล้วจะสแกนมาให้ดูกันนะค้า ปีที่เป็นรอยต่อสหัสวรรษใหม่ ใครๆก็กลัวการขึ้นเครื่องบินไปไหนมาไหนกัน เราเลยนั่งรถไฟไปหนองคาย ข้ามขัวมิตรภาพไปเวียงจันท์ และต่อรถเมล์เล็กไปถึงวังเวียงค่ะ ขัวไม้ไผ่ข้ามน้ำสอง คนลาวเรียกน้ำซองค่ะ ถ้าไม่อยากเสีย 100 กีบ ก็ลงไปเดินลุยน้ำเย็นเจี๊ยบได้ค่ะ นั่งรถสองแถวมาเที่ยวเขื่อนน้ำงึม น้ำเป็นสีเขียวสวย เขียวจริงๆอ่า นั่งเรือพายไม้ขุดข้ามไปเที่ยวหมู่บ้านทอผ้า และขากลับนั่งรถบัสกลับมา ดูข้างนอกก็เป็นรถบัสธรรมดานี่แหละ แต่ข้างใน โอ้โฮ...เอาไม้กระดานพาดนั่งกันค่ะ ระหว่างรอรถออก(นานมากก) เค้าก็นั่งล้อมวงกินข้าวกันค่ะ เลยเรียกเรากินด้วย ทุกวงเลย และเค้าจะดีใจมาก ยิ้มแป้นนนนนเลยค่ะถ้ากินกะเค้า ข้าวเหนียว ปลาน้ำงึมย่าง น้ำพริกอะไรไม่รู้ มื้อง่ายๆที่อร่อยลืมไม่ลงถึงทุกวันนี้ค่ะ สรุปว่ามื้อนั้นกินไปสามรอบค่ะ ฮี่ๆๆ ขากลับจากน้ำงึมเลยมาลงที่ผาตั้ง ตรงที่เห็นไกลๆโน้นหน่ะค่ะ ไปลุยน้ำเล่นซักเดี๋ยวก็กลับออกมา เดินมาถึงสะพานนี้ (แฮ่กกกกก) แวะกินเฝอที่ร้านป้ออุ๊ยแม่อุ๊ย แกใจดีหารถสองแถวให้กลับ แถมยังผูกข้อมือให้ด้วยค่ะ T_T อีกวันก็ข้ามขัวอันเดิม ไปนั่งสกายแลบ(รถอีแต๋นพ่วงกะบะจ้า) ไปเที่ยวถ้ำ และหมู่บ้านชาวเขา เด็กน้อยที่หมู่บ้านชาวเขาค่ะ ลงไปเดินเล่น เหยียบขึ้ควายเข้าไปเต็มๆเลยค่ะเรา แถมเดินๆไป เจอเจ้าของตัวเบ้อเร่ออออ เขาโง้งเชียว แล้วดูจิ ใส่เสื้อสีส้มด้วยอ่า แว๊กกก ย๊างงง ยังตื่นเต้นไม่พอ ไปถ้ำน้ำค่ะ เป็นถ้ำหินปูน น้ำใสและเย็นเชี๊ยบบบ ตรงสีเข้มๆๆข้างหลังหนะค่ะ มองเห็นเป็นโพรงหินลงไปลึกมากกกกก วังเวียงเมื่อแปดปีที่แล้วสงบงาม และใสซื่อน่ารัก คิดถึงทีไรก็ยิ้มทุกทีค่ะ รีวิวเชียงใหม่ ต.ค.50
วันที่1
//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E5978878/E5978878.html //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E5980259/E5980259.html วัดสวนดอก ดอยปุย กุหลาบภูพิงค์ วัดพระธาตุดอยสุเทพ วันที่2 เที่ยวดอยอินทนนท์ //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E5990213/E5990213.html กินปลาเทร้าท์โครงการหลวง นาข้าวสีทองที่บ้านขุนกลาง วันที่3 แพนด้าหางดง วัดต้นเกว๋น วัดพระสิงห์ วัดเจดีย์หลวง และFern Forest Cafe //www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E6031610/E6031610.html |
ลาเต้แก้วหญ่ายๆ
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?] ... There are places I remember All my life though some have changed Some forever not for better Some have gone and some remain All these places have their moments With lovers and friends I still can recall Some are dead and some are living In my life I've loved them all ...................... สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะคะ บล็อกนี้รวบรวมทริปต่างๆ ทั้งที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก ที่ชอบๆ ที่ได้เคยเขียนเป็นรีวิวสมัยเล่นพันทิพ ไว้อ่านยามคิดถึงค่ะ ตอนนี้คงไม่อัพเดทแล้ว ตามไปเที่ยวชมชิมริมทางด้วยกันต่อได้ที่ IG @joooobjang แทนนะคะ #ลาเต้แก้วหญ่ายคนเดิม Friends Blog |