Group Blog
|
โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ครั้งที่ 3 เปิดประสบการณ์ การเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ครั้งที่ 3 ของเรา วันที่ 18 มีนาคม 2567 ตอนบ่าย 3 เริ่มมีอาการปัสสาวะบ่อย นึกว่าทานนมเยอะ แต่ทานไป 1 กล่องเองนะ ช่วง 17.00 น.- 19.00 น. เวลาปัสสาวะจะรู้สึกเสียวๆ ปลายท่อปัสสาวะนิดๆ ไอ้เราก็นึกได้อาการแบบนี้ เอาแล้วไง กระเพาะปัสสาวะอักเสบแน่นอน แล้วเป็นได้ไงอะ นั่นคือสิ่งที่คิดต่อมา ก็มีกลั้นปัสสาวะนิดหน่อย แต่ไม่ได้รอจนถึงปวดจนทนไม่ไหว แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าตอนเที่ยงของวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2567 เราขัดห้องน้ำ แล้วเอาที่ขัดกับฟองน้ำไปขัดตรงสายชำระ (ที่ฉีดก้น) แล้วลืมฉีดน้ำจากสายชำระทิ้ง แล้วพอเข้าห้องน้ำน่าจะเอามากดฉีดชำระล้างจิมิตามปกติ แล้วพอมาตอนค่ำของวันที่ 18 มีนาคม 2567 เกิดมาอาการเสียวๆ ปลายท่อปัสสาวะนิดๆ เวลาปัสสาวะ แต่ยังไม่มีอาการปวดแสบ เลยคิดว่าต้องใช่แน่นอน และเราก็อาบน้ำเตรียมขึ้นนอนแล้วด้วย เอาไงดีหว่า?? ขี้เกียจเปลี่ยนชุดออกไปข้างนอกอีก เลยให้คุณสามีออกไปซื้อยาที่ร้านขายยาเจ้าประจำให้ละกัน เราก็ส่งรูปยาฆ่าเชื้อทางเดินปัสสาวะที่เคยทานแล้วหายให้สามีไปซื้อตามรูป (คิดว่าถ้าทานยาแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นค่อยไปโรงพยาบาล) และนี้คือยาที่สามีซื้อมาให้ ยาฆ่าเชื้อทางเดินปัสสาวะ กินเช้า เย็น ราคา 150 บาท (ตอนแรกเภสัชขีดผิดไม่ได้ขีดให้เราทานตอนเย็น เราต้องมาขีดเพิ่ม ไอ้เราก็สงสัยว่าทำไมไม่หายสักที ทานยามา 3 วันแล้ว จนต้องไปร้านขายยาถามว่าจ่ายยาไรมาทำไมไม่หาย เภสัชเลยบอกว่าเขียนให้ทานยาผิด ต้องทานยาฆ่าเชื้อเช้าและเย็น ถึงจะได้ผล) ![]() ยาแก้ปวดเกร็งท้องเวลาปัสสาวะ 2 แผง ทานหลังอาหาร เช้า/กลางวัน/เย็น ราคา 100 บาท สามีซื้อมาด้วยเพราะกลัวเราปัสสาวะไม่ออก ต้องเบ่ง เราก็ทานไปแค่ 2 เม็ด หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทานยาตัวนี้อีก เพราะไม่มีอาการปวดเกร็งตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ![]() มียาทายี่ห้อแบนแบค (Banbact) หลอดละ 179 บาท (ซื้อมาทำไมก่อน) สามีบอกว่าห่วงภรรยาเลยไปเล่าให้เภสัชฟัง ว่ามีการขัดห้องน้ำแล้วใช้สายฉีดชำระล้างจิมิ เภสัชก็เดาว่าอาจมีการถลอกได้ เอิ่ม...สายชำระนะจ๊ะไม่ใช่เครื่องฉีดแรงดันสูง ![]() ![]() ![]() วันที่ 19 มีนาคม 2567 ทายาเช้าเย็น ทานยาแก้ปวดเกร็งและยาฆ่าเชื้อตอนเช้า วันที่ 20 มีนาคม 2567 ทายาเช้าเย็น ทานยาแก้ปวดเกร็งและยาฆ่าเชื้อตอนเช้า ยังรู้สึกมีอาการคันยุกยิกเวลาใกล้ปวดปัสสาวะ ตอนเย็นยิ่งคันจนน่ารำคาญ วันที่ 21 มีนาคม 2567 ทายาตอนเช้า กินยาฆ่าเชื้อตอนเช้า 1 เม็ด ตอนเย็นไม่ได้ทานยาฆ่าเชื้อ ยังรู้สึกคันจนต้องไปหาเภสัชถามว่าทำไมทานยาแล้วยังไม่หาย เภสัชบอกลืมเขียนว่าให้ทานยาฆ่าเชื้อตอนเย็นด้วย (เราก็แบบ ฮืม...มีงี้ด้วย เภสัชบอกว่าวันนั้นคุยกับสามีเราจนลืมเพราะมั่วแต่อธิบายว่ายาแต่ละอย่างใช้ยังไง เพราะว่าเราไม่มา เลยกลัวว่าสามีจะไปบอกไม่รู้เรื่อง ซึ่งคุณสามีก็ไม่รู้เรื่องจริงๆ นั้นแหละ แค่ซื้อยามาให้แล้วบอกว่าถ้าไม่เข้าใจให้โทรไปถามเภสัชเอาว่ายาแต่ละอย่างใช้หรือทานยังไง เขาบอกว่ามันมีศัพท์ของผู้หญิงเยอะไปหมด งง ฮ่าๆๆ) ![]() วันที่ 22 มีนาคม 2567 ไม่ได้ทายา ทานยาฆ่าเชื้อเช้า-เย็น กลางคืนก็ลุกมาปัสสาวะไม่มากประมาณ 3-4 รอบ วันที่ 23 มีนาคม 2567 ทานยาฆ่าเชื้อตอนเช้า 1 เม็ด ช่วงเช้าอาการคันยุกยิกเวลาจะปวดปัสสาวะไม่มีแล้ว ตอนเย็นทานยาฆ่าเชื้ออีก 1 เม็ด อาการคันยุกยิกไม่มีแล้ว วันที่ 24 มีนาคม 2567 ทานยาฆ่าเชื้อตอนเช้า 1 เม็ด ช่วงเช้าอาการคันยุกยิกเวลาจะปวดปัสสาวะไม่มีแล้ว (วันนี้กินยาเซ็ทสุดท้ายจนครบ) *** เดี๋ยวนี้พอรู้สึกว่าปวดปัสสาวะแค่นิดเดียว เราก็จะรีบไปเข้าห้องน้ำเลย ไม่อั้น และสายชำระก่อนนำมาฉีดก็จะฉีดน้ำลงโถชักโครกไปก่อนทุกครั้ง เวลาเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบมันทรมานจริงๆ นะ ทั้งแสบ ทั้งคันไม่สบายตัวเลย ***
|
Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() จับกล้องท่องเที่ยวไปกับการเดินทางของฉัน ด้วยการถ่ายภาพที่ใช้อารมณ์ และหัวใจ มากกว่าเทคนิคและกฏเกณฑ์ /Step by step with my journey. Page : Emmy Journey พากิน พาเที่ยว https://www.facebook.com/EmmyJourney Blog : https://emilia0412.bloggang.com ** ขอสงวนสิทธิ์ *** ข้อมูลทั้งหมด อันรวมถึงข้อความและรูปภาพที่ปรากฏอยู่บน https://emilia0412.bloggang.com ห้ามมิให้ผู้ใดเผยแพร่ ลอกเลียน ทำซ้ำ หรือแก้ไข ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับการยินยอมจากเจ้าของบล๊อก | ||||
โรคนี้ทรมานจริงๆค่ะ
เคยเป็นเพราะกินน้ำน้อยอั้นปัสสาวะค่ะ
แต่หลังจากที่เคยเป็นครั้งนึงแล้ว บอกตัวเองเราจะไม่เป็นอีกค่ะ 555
ดีใจด้วยที่หายแล้วนะคะ