~ อิสระอยู่ที่ใจ...ฝันให้ไกล...ไปให้ถึง ~
Group Blog
เล็กๆ น้อยๆ
DIY : Do it yourself
ท๊อก แท๊ก ต่างแดน
ท๊อก แท๊ก ทัวร์
ท๊อก แท๊ก ชิม
ท๊อก แท๊ก ชิม Coffee # Tea # Dessert & etc.
Somethig special
สัตว์เลี้ยงแสนรัก
เครื่องสำอาง ประทินผิว อาหารเสริม
My Camera.......
My Souvenirs # ของที่ระลึก...ระทึกใจ
Let's Take a Photo
ของเล่น ของสะสม
Home Sweet Home
My Car
My Motorcycle
การตรวจสุขภาพประจำปี
สุขภาพและการรักษาโรคของคุณสามี
สุขภาพและการรักษาโรคของตัวเรา
สิงหาคม 2566
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
23 สิงหาคม 2566
7 เมษายน 2566 รักษาโรคไขมันในเลือดสูง+ไขมันพอกตับ
All Blogs
ผื่นผิวหนังอักเสบที่หน้าท้อง ( เริ่มเป็นกลางเดือนมกราคม 2567)
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A วันที่ 24 กันยายน - 10 ตุลาคม 2568
วันที่ 6 - 18 มกราคม 2568 เป็นไข้หวัดธรรมดา
การรักษาโรคเบาหวาน
โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ครั้งที่ 3
ไข้เลือดออก ครั้งแรกในชีวิต (27 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2566)
วันที่ 22 ธันวาคม อัลต้าซาวด์+ MRI ก้อนไขมันที่ไต
นิ่วในถุงน้ำดี ขนาด 1.6 เซนติเมตร
วันที่ 6-7 กรกฎาคม 2566 อัลต้าซาวด์พบก้อนไขมันเกาะไต
7 เมษายน 2566 รักษาโรคไขมันในเลือดสูง+ไขมันพอกตับ
7 เมษายน 2566 รักษาโรคไขมันในเลือดสูง+ไขมันพอกตับ
จากผลการตรวจสุขประจำปีที่คลินิคศูนย์แพทย์พัฒนา เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2566 พบว่าเราเป็นโรคไขมันในเลือดสูงและโรคไขมันพอกตับ เราเลยย้ายมารักษาต่อที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึกวันที่ 7 เมษายน 2566 ไปทำประวัติใหม่ตามขั้นตอนของโรงพยาบาล และรอพบแพทย์ ที่อาคาร 9 ชั้น 12 หมอก็อ่านรายงานผลการตรวจสุขภาพและสอบถามโน้น นี่ นั่น และแจ้งว่าตามผลตรวจสุขภาพเรามี
โคเลสเตอรอล 220 ซึ่งไม่ควรเกิน 200
ไตรกลีเซอไรด์ 268 ซึ่งไม่ควรเกิน 150
HDL 62
LDL 131 ซึ่งไม่ควรเกิน 130
ถือเป็นโรคไขมันในเลือดสูง และจากผลอัลตร้าซาวด์พบไขมันในช่องท้องเยอะด้วยส่งผลให้เป็นโรคไขมันพอกตับ หมอมีความเห็นว่าเราควรได้รับการรักษาโดยการทานยาลดไขมัน (ซึ่งเราเคยควบคุมอาหาร ทานชาดอกคำฝอย เดินลู่วิ่ง 30 นาที - 1 ชั่วโมง เป็นประจำอาทิตย์ละ 4-5 วันต่อสัปดาห์ ตลอด 2 ปี ก็แล้ว ไขมันก็ลดลงแบบนิดนึง แต่ไตรกลีเซอไรด์ยังสูงอยู่)และช่วงที่ผ่านมาประสบเหตุการณ์ประดังประเดในชีวิตหลายสิ่ง มี 2-3 ครั้งที่เรารู้สึกเหมือนจะวูบ ตาลาย แบบสมองจะ Shut Down ไปเองแบบภาพดับจอดำไปเลย แต่เราก็กลับมารู้สึกตัวและมีสติได้ภายในไม่กี่วินาที และมีความคิดแว็บเข้ามาว่า เรากำลังจะตายหรือเปล่าอะ หรือเพราะไขมันสูงเลยทำให้เกิดอาการแบบนี้ แต่จากการหาข้อมูลมาบ้างก็ว่าทานยาลดไขมันแล้วจะเกิดผลข้างเคียงโน้น นี่ นั่น เราเลยลังเลใจมาจนถึงทุกวันนี้ ท้ายที่สุดเราก็ยอมรับการรักษาจากหมอ ลองทานยาดูก็ได้ มันอาจจะดีกว่าตายไปโดยไม่ยอมรับการรักษา
ทานวันละ 1 เม็ด ก่อนนอน จากการหาข้อมูลมาพบว่าร่างกายคนเราจะสังเคราะห์คอเลสเตอรอลมากที่สุดช่วงกลางคืน
วันที่ 30 มิถุนายน 2566 (อีก 84 วัน หรือประมาณ 2 เดือนกว่าๆ) หมอนัดมาเจาะเลือดเพื่อตรวจไขมัน ดูค่าตับ ค่าน้ำตาลสะสม
ค่าน้ำตาลในเลือด 120
คอลเลสเตอรอล 150
ไตรกลีเซอไรด์
190
LDL (ไขมันไม่ดี) 66
หมอบอกว่าน้ำตาลในเลือดยังสูงอยู่ (เอิ่ม..ก็เรายังกินพวกชานมหวานน้อยอยู่เลย ต้องพยายามลด หมอบอกว่าทานได้แต่ให้เปลี่ยนเป็นไม่ใส่น้ำตาล และไม่ใส่นม)
และค่าไตรกลีเซอไรด์ยังสูงอยู่ หมอเลยสั่งยาให้ทานต่อ และนัดมาเจาะเลือดอีกครั้งในเดือนตุลาคม 2566 แถมหมอยังถามเรื่องโรคนิ่วในถุงน้ำดีว่าสรุปแล้วจะรักษายังไง เราก็บอกว่าหมอให้ทำอัตร้าซาวด์อีกรอบเพื่อดูขนาดของก้อนนิ่วว่าใหญ่แค่ไหน แล้วค่อยว่ากันอีกทีว่าจะรักษายังไงต่อไป
ค่าเจาะเลือด 910 บาท
ค่ายาลดไขมัน + ค่าบริการ 500 บาท
ตอนเจาะเลือดไม่เจ็บเท่าไรนะ
แต่พอวันรุ่งขึ้นเส้นเลือดแตกเขียวช้ำเลยจ้า เกือบเดือนกว่ารอยช้ำๆ ม่วงๆ เขียวๆ จะหาย
วันที่ 16 ตุลาคม 2566
หมอนัดเจาะเลือดเพื่อตรวจติดตามไขมันในเลือด เจาะที่แขนซ้ายเหมือนเดิม รอบนี้ตอนทิ่เข็มเจาะเข้าไปในผิวหนังเจ็บนิดเดียว ตอนสูบเลือดขึ้นมาไม่รู้สึกอะไรเลย ตอนดึงเข็มออกก็ไม่เจ็บเท่าไร แต่เจาะเสร็จมีรอยเป็นตุ่มเหมือนโดนยุงกัดเลย แต่พอวันรุ่งขึ้นรอยก็ค่อยๆ ยุบลง และเป็นสีเหลืองจางๆ ที่ผิวหนังบริเวณที่โดนเจาะเลือด
ค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด 1,610 บาท
เราขอให้หมอปริ้นเอกสารแสดงค่ารายการต่างๆ ในการตรวจเลือดให้ด้วย เพราะช่วงนี้น้ำตาลสูง เสี่ยงเป็นเบาหวาน (ก็ 1 อาทิตย์ก่อนมาเจาะเลือดยังคงกินขนมเค้ก น้ำหวานๆ ตามปกติไม่ได้อดหรือลดอะไรเลย ค่าน้ำตาลในเลือดเลยพุ่งปรี๊ด ซึ่งไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง)รายการตรวจวันที่ 14 กรกฎาคม 2566 นั้นคือตอนที่เราไปเจาะเลือดตรวจเพื่อเตรียมความพร้อมในการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี
หมอบอกว่าค่าตับดี และให้ยาลดไขมันมาทานต่อ อีก 6 เดือน (วันที่ 1 เมษายน 2567) มาเจาะเลือดตรวจใหม่
วันที่ 1 เมษายน 2567
>> มีนัดเจาะเลือดตรวจไขมัน/ค่าตับ ค่าไต ผลออกมาตามนี้ หมอบอกว่าค่าตับ ค่าไตดี รอบนี้เจ้าหน้าที่เจาะเลือดมือเบามา ตอนจิ้มเข็มลงไปที่ผิวหนังไม่รู้สึกว่าเจ็บเลย ตอนดูดเลือดขึ้นมาในหลอดกับตอนดึงเข็มเจาะเลือดออกก็ไม่รู้สึกเจ็บ ไม่รู้สึกอะไรเลย มองตามเข็มอีกทีอ้าวเจาะเลือดเสร็จแล้ว เห็นแค่ตอนดึงเข็มออกจากแขนเรา หลังเจาะก็ไม่มีรอยเขียวช้ำด้วย เริ่ดมากค่ะ
ผลเลือดรอบนี้ค่าไตรกลีเซอไรด์เพิ่มขึ้นเป็น 217 ค่าน้ำตาลในเลือดยังคงสูงอยู่ 120 หมอบอกเริ่มปริ่มเบาหวานแล้วนะ เพราะฉะนัั้น อีก 6 เดือน (วันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2567 หมอขอนัดมาดูค่าน้ำตาลสะสมหน่อย)
หมอให้ยาลดไขมันตัวเดิมไลโปสแตท 40 มก. มาทานตามเดิม อีก 6 เดือนมาเจาะเลือดดูใหม่
วันที่ 16 กันยายน 2567
>> มีนัดเจาะเลือดตรวจไขมัน/ค่าตับ ค่าไต ค่าน้ำตาลสะสม ตามที่หมอนัดตามรอบ 6 เดือน ครั้งนี้แย่มาก รู้สึกไม่โอเคกับเจ้าหน้าที่เจาะเลือดเลย ตอนเจาะเลือดที่แขนซ้าย บอกว่าหาเส้นเลือดเราไม่เจอ แถมนางจิ้มลงไปสูบเลือดเราออกมาหน่อยนึงแล้วนะ มาบอกเราว่าขอเจาะหลังมือแทน เพราะหาเส้นเลือดเราไม่เจอ นางมาขอดูเส้นเลือดทั้งสองข้าง จนเราบอกว่าขอเปลี่ยนช่องเจาะเลือด ขอเปลี่ยนคนเจาะเลือด เจ้าหน้าที่บอกไม่เป็นไรเจาะได้ค่ะ สรุปเราโดนเจาะหลังมือขวา ตอนเข็มจิ้มลงไปไม่เจ็บมาก พอสูบเลือดขึ้นมาสักพักเริ่มเจ็บ เริ่มปวด แบบเกือบ 5 นาทีได้กว่าจะเสร็จ เล่นเอาปวดมือเลย ระบบจนเช้าวันรุ่งขึ้นตรงหลังมือที่โดนเจาะเขียวเลยจ้า
ส่วนผลเลือดวันที่ 16 กันยายน 2567 ไม่ค่อยดีเท่าไร น้ำตาลยังคงสูงอยู่ที่ 120 เหมือนเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ค่าไม่ลงเลยก็กินซะขนาดนั้น (รู้ตัวดี ฮ่าๆๆ) หมอเลยบอกว่าขอตีเป็นโรคเบาหวานนะ เพราะน้ำตาลยังไม่ลด
และค่าคอเลสเตอรอล 153 กับค่าไตรกลีเซอไรด์ 242 ก็ขึ้นจากเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว (อันนี้ก็ยอมรับว่าไม่ได้คุมทั้งไขมันและน้ำตาล) ส่งผลให้ค่า LDL ในเลือดเพิ่มขึ้นด้วยเป็น 51 น้ำตาลสะสม (HbA1C) อยู่ที่ 6.8 ทั้งๆที่เขาห้ามเกิน 5.9 หมอเลยบอกว่าขอนัด 3 เดือนมาตรวจทีนึง ไม่เอา 6 เดือนแล้วนานไป นี่แหละที่เขาว่าอร่อยปากลำบากเลือด
*** 9 ธันวาคม 2567 หมอสั่งยาเบาหวานให้เป็นครั้งแรก ***
วันที่ 9 ธันวาคม 2567
ครบรอบ 3 เดือน >> มีนัดเจาะเลือดตรวจไขมัน/ค่าตับ ค่าไต ค่าน้ำตาลสะสม รอบนี้ก็เจาะเลือดยากเหมือนเดิม ไม่รู้ทำไม ไม่ได้ทานน้ำและอาหารตั้งแต่ 21.00 น. เลย เลือดหนืดรึเปล่าก็ไม่รู้ ครั้งนี้เลยโดยเข็มแทงไป 4 จุด ทั้งแขนซ้ายและแขนขวา แถมโดนเปลี่ยนทั้งเป็นเข็มเจาะแบบใหญ่กับแบบเล็ก โอ๊ย!! ... จากที่คิดว่าจะไม่กลัว เจาะเลือดแป๊ปเดียวคงเสร็จ สรุปยาวๆ ไปเลยค่ะ พยาบาลต้องมาช่วยเจาะถึง 2 คน พยาบาลบอกว่าเจอเส้นเลือดนะ แต่พอเอาเข็มจิ้มลงไปมันดูดเลือดไม่ขึ้น พยาบาลบอกว่าดูดเลือดขึ้นมาแค่หัวเข็ม ท้ายสุดมาเจาะแขนซ้ายเลยข้อพับซ้ายมานิดได้เลือดมายาวประมาณ 2 เซนติเมตรเท่านั้น
รอยเข็มใหญ่เจาะเลือดแขนขวาตรงข้อพับ
รอยเข็มเล็กเจาะเลือดแขนขวาเลยข้อพับมาหน่อย
แขนขวาเจาะเลือดไม่ขึ้น เจ้าหน้าที่เลยเปลี่ยนมาเจาะแขนข้างซ้ายแทน
ตรงข้อพับจะโดนเจาะด้วยเข็มใหญ่
แขนซ้ายเลยข้อพับมาจุดนี้โดนเจาะด้วยเข็มเล็ก ผ่านไป 3 ชั่วโมงเริ่มช้ำแล้วค่ะ
ผลเลือดวันที่ 9 ธันวาคม 2567 หมอยังไม่โอเคเท่าไร บอกว่าน้ำตาลเพิ่มขึ้นจาก 120 เป็น 125 และค่าน้ำตาลสะสมเพิ่มเป็น 7 จากเดิมแค่ 6.8 ผู้ป่วยต้องเอายาโรคเบาหวานไปทานแล้วนะ เราก็บอกหมอว่ารู้ตัวดีค่ะ ไม่ได้ควบคุม เคร่งการทานอาหารเท่าไรเลย ผลเลือดเลยออกมาเละเทะ
ค่าไตรกลีเซอไรด์ลดลงเหลือ 207 แต่หมอยังถือว่าสูงอยู่ หมอจะให้ยาไขมันอีกตัวไปทานเพิ่ม โดย
ยาเบาหวานและยาไขมันที่หมอให้ใหม่ ให้ทานหลังอาหารเช้า
และยาลดไขมันในเลือดตัวเดิมก็ทานเวลาเดิม ส่วนค่าตับค่าไตอยู่ในเกณฑ์ปกติ หมอขอนัด 3 เดือนมาตรวจอีกครั้ง (ตรวจอีกทีวันที่ 3 มีนาคม 2567)
หมอนัดตรวจอีกครั้ง วันที่ 3 มีนาคม 2568
Fenofibrate / ฟีโนไฟเบรต ขนาด 200 mg
เป็นยารักษาภาวะไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง มีฤทธิ์ช่วยเพิ่มสารหรือเอนไซม์ในร่างกายทำหน้าที่ลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีและไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดแดงแข็งและตับอ่อนอักเสบ แต่...ไม่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจหรือโรคหลอดเลือดสมอง
ทานหลังอาหารเช้าวันละ 1 เม็ด
หลังทานยาเราไม่มีอาการใดๆ
วันที่ 11 ธันวาคม 2567 หลังเจาะเลือดได้ 3 วัน แขนช้ำและระบมตั้งแต่วันที่เจาะ
วันที่ 16 ธันวาคม 2567 หลังเจาะเลือดผ่านไป 1 อาทิตย์ ไม่เจ็บไม่ระบม แต่แขนยังช้ำอยู่
เรื่องโรคเบาหวานจะเขียนแยกไปอีกหัวข้อหนึ่งค่ะ
วันที่ 3 มีนาคม 2568
มาเจาะเลือดตรวจไขมัน และน้ำตาลในเลือดตามที่หมอนัด ตอนนี้โรงพยาบาลนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการเรียกคิวแทนการหยิบบัตรคิวแล้ว รอบนี้ค่าความดันอยู่ในเกณฑ์โอเค บางครั้งความดันสูงอาจเป็นเพราะเราเครียดกับการเจาะเลือดที่ไม่ผ่านสักที เจ้าหน้าที่แทงเข็มเข้าๆ ออกๆ หลายครั้งเพราะหาเส้นเลือดไม่เจอบ้าง แทงเข็มเข้าเส้นเลือดแล้วดูดเลือดไม่ขึ้นบ้าง โอ๊ย!! ชีวิตฉัน เป็นแบบนี้กันทั้งครอบครัวหาเส้นเลือดยาก
ตอนเข้าไปเจาะเลือดเรายื่นแขนข้างซ้ายให้เจ้าหน้าที่เลย เพราะเคยเจาะข้างซ้ายแล้วผ่านฉลุย (กะว่าครั้งนี้ฉันจะเจ็บตัวรอบเดียว) ผลปรากฏว่า....แทงเจอเส้นเลือดค่ะ แต่ดูดเลือดไม่ขึ้น นานจนเราหันไปเห็นว่าเจ้าหน้าที่ควานเข็มหาเลือด เข็มดึงหนังเราขึ้นมา 3-4 ครั้ง แบบเห็นแล้วลมแทบจับ แขนคนนะไม่ใช้ปลอกหมอน ใจหายไปเลยอะ จนเจ้าหน้าที่พูดว่าขอดูแขนข้างขวาหน่อยค่ะ ข้างซ้ายไม่เจอ
เจ้าหน้าที่บอกว่าแขนขวาหาเส้นเลือดเจอและเจาะง่ายกว่าแขนซ้าย ตอนเจาะเจ็บนิดๆ ตอนโดนดูดเลือดขึ้นมารู้สึกปวดหน่อยๆ
ผลเลือดของวันที่ 3 มีนาคม 2568 ไตรกลีเซอไรด์ลดลงเหลือ 128 (มันควรลงแหละเพราะหมอเพิ่มยาลดไขมันให้เรากินทั้งเช้าและก่อนนอน) ค่าไตดี ค่าตับดี แต่เบาหวานไม่ลงเท่าไร นี่ขนาดเรายอมเปลี่ยนทานกาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่น้ำผึ้งแล้วนะ คงต้องเคร่งครัดเรื่องขนมหวาน ขนมปังลงอีก
หมอให้ยาเบาหวาน และยาลดไขมันตัวแบบเดิม ตัวเดิมมาทานต่อ
หมดนัดตรวจอีก 3 เดือนค่ะ
รอตรวจและเจาะเลือดอีกที วันที่ 26 พฤษภาคม 2568 (3 เดือน)
วันศุกร์ที่ 7 มีนาคม 2568
: 4 วันผ่านไปหลังจากโดนเจาะเลือด แขนข้างขวาที่โดนเจาะเริ่มเป็นสีเหลืองๆ อมน้ำตาล ไม่มีอาการปวดแขนแล้ว หลังโดนเจาะ 2 วันมีอาหารปวดหน่วงๆ ตรงที่โดนเจาะ รู้สึกอิจฉาคนที่เจาะเลือดได้ง่ายมาก ไม่ต้องมาเจ็บตัวโดนเข็มแทงเข้า แทงออกหลายรอบแบบเรา
วันที่ 26 พฤษภาคม 2568
มาเจาะเลือดตรวจไขมัน และน้ำตาลในเลือดตามที่หมอนัด ค่าไตรกีเซอร์ไลน์ 153 เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมมาเยอะเลย หมอยังคงจ่ายยาลดไขมันให้เรากินทั้งเช้าและก่อนนอนเช่นเดิม
เรื่องเบาหวานจะไปเขียนอัพเดทในอีกหัวข้อค่ะ
วันที่ 18 สิงหาคม 2568
มาเจาะเลือดตรวจไขมัน และน้ำตาลในเลือดตามที่หมอนัด ค่าไตรกีเซอร์ไลน์ 159 ยังสูงอยู่เพราะเราไม่ได้คุมเยอะ กินแหลกทั้งไก่น้ำปลา ขาหมู หมูสามชั้นทอด แต่...หมอบอกว่า 5-6 เดือนที่ผ่านมาค่าไขมันดีขึ้นเยอะ รอบนี้หมอเลยให้งดยาลดไขมันที่ทานตอนเช้า ให้กินยาลดไขมันแต่ก่อนนอนแทน เรื่องเบาหวานจะไปเขียนอัพเดทในอีกหัวข้อค่ะ
Create Date : 23 สิงหาคม 2566
Last Update : 19 สิงหาคม 2568 10:33:40 น.
2 comments
Counter : 7250 Pageviews.
Share
Tweet
ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณฟ้าใสวันใหม่
,
คุณนายแว่นขยันเที่ยว
,
คุณสองแผ่นดิน
ขอให้สุขภาพดีขึ้นในเร็ววันครับ
โดย:
สองแผ่นดิน
วันที่: 28 สิงหาคม 2566 เวลา:23:34:45 น.
ไขมันลดลงเยอะเลยนะคะ
น้ำตาลสูงแบบนี้ หมอให้ทำอะไรหรือเปล่าคะ
โดย:
ฟ้าใสวันใหม่
วันที่: 18 ตุลาคม 2566 เวลา:11:02:21 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
BlogGang Popular Award#21
Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [
?
]
จับกล้องท่องเที่ยวไปกับการเดินทางของฉัน ด้วยการถ่ายภาพที่ใช้อารมณ์ และหัวใจ มากกว่าเทคนิคและกฏเกณฑ์ /Step by step with my journey.
Page : Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
https://www.facebook.com/EmmyJourney
Blog : https://emilia0412.bloggang.com
** ขอสงวนสิทธิ์ ***
ข้อมูลทั้งหมด อันรวมถึงข้อความและรูปภาพที่ปรากฏอยู่บน https://emilia0412.bloggang.com ห้ามมิให้ผู้ใดเผยแพร่ ลอกเลียน ทำซ้ำ หรือแก้ไข ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับการยินยอมจากเจ้าของบล็อก
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add Emmy Journey พากิน พาเที่ยว's blog to your web]
Links
https://www.facebook.com/EmmyJourney
https://www.facebook.com/aboutcatsanddogsbyemmy
https://th.readme.me/
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.