eatplaylove
|
|||||
เที่ยวสบายสไตล์ น่าน EP 1 น่านไง ติดใจเลยต้องไปซ้ำรอบนี้ทิ้งห่างไป 2 ปีเพราะเจ้าโควิททำเอาไม่ได้ไปไหนเลย แต่พอสถานการณ์ดีขึ้น จังหวัดแรกที่เราคิดว่าต้องไปเพราะปลอดภัย ปลอดโรค ต้องฉีดครบ 2 เข็มถึงจะเข้าจังหวัดได้งั้นต้อง น่านเลยค่า รอบนี้ต่างจากรอบที่แล้วตรงที่ต้องเห็นท้องนาสีเขียวและอยู่สบายสไล์น่าน แบบหรูเลิศไม่ยุ่งกับใครงี้ ไม่ใช่เพราะอยากจะไฮโซ ไฮซ้อ อะไร แต่เพราะคำว่า social distance อีกนั่นแหละ ที่ทำให้ต้องเลือกที่พัก ที่กินอยู่แบบคนน้อยไม่พลุกพล่าน เราเลยคัดกรองที่พักอย่างดีได้หรูมา 3 ที่ กับโรงแรมเล็กๆ แต่สะอาดและปลอดภัยอีก 2 แห่งไว้พักกลางทางเพราะไม่อยากขับรถยาวเกินเกรงจะไม่สนุก เราเลือกวันเดินทางในวันที่ตัวเลขคนติดเริ่มลดลงในช่วงต้นเดือน ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่กรุงเทพฯกำลังฝนชุกเลย แล้วเราไปน่านจะรอดไหมนะ ผิดคาดฟ้าใสแดดเปรี้ยงซะงั้นเร่ิมทริปกันที่ เช้าวันแรก เพื่อความปลอดภัย รอบนี้เราขับรถยาวไปคะออกจากบ้าน 7 โมงเช้าวิ่งเส้นบางบัวทอง-สุพรรณ-ชัยนาท-พิษณุโลก แวะไหว้พระพุทธชินราชเพื่อความเป็นศิริมงคลพร้อมแวะทานเที่ยงไปในตัว หลังจากนั้นเดินทางเข้าแพร่พักค้างคืน เพราะวางแผนเที่ยวแพะเมืองผี และไหว้พระธาตุช่อแฮ กันก่อนตีเข้าน่านช่วงเที่ยง โรงแรมแรกที่พักเราเลือกโรงแรม The Indigo House Phrae เพราะโรงแรมอยู่ใกล้พระธาตุช่อแฮ และไม่ไกลจากแพะเมืองผี เป็นโรงแรมเล็ก ๆ ในเมืองที่บริหารโดยคนพื้นเมืองสังเกตุจากลักษณะท่าทางเป็นผู้สูงวัยกันทุกคน ก่อนเข้าจะมีการให้ลงทะเบียนการฉีดวัคซีนว่าครบ 2 เข็มไหมตามระเบียบ จากนั้นก็คลานเข้าห้องต้องใช้คำนี้เพราะเหนื่อยมาทั้งวันแถมห้องเราอยู่ชั้น 3 ไม่มีลิฟท์นะจ๊ะ โชคดีเราจัดกระเป๋าแยกสำหรับคืนแรกเลยไม่ต้องแบกกันเยอะ ห้องสะอาดดูกว้างขวางเสียดายลืมถ่ายรูปห้องเพราะง่วงจัดหลับสบายสำหรับคืนแรก วันที่ 2 เริ่มต้นด้วยโจ๊กร้อน ๆ เสริฟ์พร้อม ปาท่องโก๋ จากทางที่พักที่จัดเตรียมไว้ให้ในห้องอาหาร บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน เพราะทั้งโรงแรมมีแค่ครอบครัวเรา ดีจัง เช็คเอาท์จากโรงแรมตามเวลา ร่ำลากับเจ้าของโรงแรมแต่สายตาเหลือบไปเห็นร้านฝั่งตรงข้าม ขายเสื้อผ้าพื้นเมืองจ้า ขามันพาไปซะงั้น ของถูกและดีเราได้เสื้อ รองเท้า ผ้าถุงพื้นเมืองพอหอมปากหอมคอเดี่ยวรถจะไม่มีที่เก็บ คนขับรถเริ่มตาเขียวอ่ะไปก็ด่ะ มุ่งหน้าเข้าวัดก่อนนะคะ กราบพระบรมสารีริกธาตุที่วัดพระธาตุช่อแฮกันคะ งดงามจริง ๆ มุ่งหน้าแพะเมืองผีต่อเลยไม่ไกลกันมากและเป็นทางผ่านไปน่านพอดีจ้า เรามาถูกเวลาจริง ๆ แทบจะไม่มีคนเลย เดินเล่นถ่ายรูปไปไม่ต้องอายใครเลย จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้กว้างมากนัก แต่ถ้าเลือกมุมสวย ๆ สำหรับถ่ายรูปก็มีหลายมุมอยู่คะ ใช้เวลาที่นี่สัก 20 นาทีก็ไปต่อกันดีกว่า ก่อนเข้าน่านเราแวะทานขนมจีนพื้นเมืองของแพร่กัน อยากรู้ร้านไหน ทานยังไง อร่อยแค่ไหน ตามไปดูในห้อง eat นะจ๊ะ หลังจากเตรียมเสบียงเรียบร้อยนั่งยาวไปน่านเลยค่ะ ขับไปสักพักคนขับก็จะง่วงหน่อย ๆ เราก็เพลินกับวิวไป ก่อนที่เราจะเผลอหลับก็ถึงด่านตรวจโควิทก่อนเข้าน่าน ต้องจอดแล้วลงไป scan QR code นะคะ มากี่คนก็ต้องทำทุกคนเพื่อความปลอดภัยว่าเราฉีดกันครบแล้ว เราใช้เวลาจุดนี้ประมาณ 15 นาทีจากนั้นก็ไปต่อ ระหว่างทางฝนตกหนักมากจนเราคิดว่าเอาแล้วจะเที่ยวสนุกไหมนะตกต้อนรับกันแบบนี้ แต่ว่าไปอากาศก็ดีสุด ๆ ดูแล้ววิวท้องนานี่มันสวยจริง ๆ สักพักฝนก็หยุดตก คืนนี้เราจะนอนที่ อ.ปัว กันคะ รอบที่แล้วมาหน้าหนาวก็จะไม่เห็นสีเขียวแต่เป็นทุ่งหญ้าสีทองแทนก็สวยไปคนละแบบแล้วแต่ใครรักใครชอบนะ เราถึงที่พัก ไร่ต้นรัก ประมาณบ่าย 3 ครึ่ง ที่นี่จะบ้านส่วนตัวแต่ละหลังก็จะมีชื่อต่างกันไป บ้านของเราชื่อ ฮักเหนือ ตัวบ้านเป็นสไตล์บ้านไม้แบบญี่ปุ่นดูภายนอกก็จะไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ แต่พอเข้าไปข้างในก็จะร้อง Woww ทันทีกับ function ของบ้านที่ลงตัวมาก ๆ สมกับเป็นบ้านที่มาพักผ่อนจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นมุมทำงาน มุมนั่งเล่น มุมครัวเล็ก ๆ ระเบียงหน้าบ้าน รวมทั้งห้องน้ำที่มีความเก๋ไปอีกแบบ เพลิดเพลินกับบรรยากาศในบ้านซะนาน ออกมาเดินสูดอากาศข้างนอกบ้าง ข้างบ้านเป็นบ้านต้นไม้ น่ารักเหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ คราวหน้าถ้ามีโอกาสจะมานอนหลังนี้คงดี เดินเลยไปสักนิดจะเจอมุมนั่งเล่นส่วนกลางตบแต่งด้วยผ้าม่านดูหรูขึ้นมาทีเดียว นั่งเล่นสักพักเดินย้อนมาตรงบ้านต้นไม้จะเห็นเป็นโถงใหญ่มีเปลเชือกให้เราไปนอนเล่นดูวิวต้นไม้ใบหญ้าไปทำเอาอยากจะหลับซะจริง ๆ ถ่ายรูปซะเพลินได้เวลามื้อเย็นเลยเดินต่อไป lobby ดูแล้วบรรยากาศดีเหลือเกินแถมไม่มีคนอีก สั่งอาหารทานที่นี่ซะเลย ชมพระอาทิตย์ตกดิน ชมนาข้าวไป สุขจริงนะเนี่ย อาหารอร่อยและปลอดสารพิษแน่นอน ตกเย็นที่นี่จะมียุงนิดนึง ทางเจ้าหน้าที่ก็จะเตรียมยาทากันยุงมาให้ก็ไม่โดนกัดนะ นั่งได้ยาว ๆ ไปเมาท์มอยไปเกี่ยวกับแผนวันพรุ่งนี้ ได้เวลาเข้าที่พักอันแสนสบายกันเตรียมเที่ยวกันวันพรุ่งนี้ดีกว่า good night ค่า เช้าวันที่ 3 ตื่นมาพร้อมกับเสียงไก่ขัน เดินออกไปดูหน้าระเบียงบ้าน คุณไก่กำลัง chickens walk กันเป็นแถวเรียงหน้ากระดานเลยจ้า คุณตั๊กแตนตัวเบ้อเร่อก็มาทักทาย แสดงว่าป่าแถวนี้สมบูรณ์มากแน่ ๆ จิบกาแฟเพลินไปก็ได้ยินเสียงร้องอีกเสียงคุ้น ๆ เสียงท้องร้องนี่เอง ได้เวลาต้องไปจัดอาหารเช้ากันซะหน่อย ข้าวต้ม ขนม ผลไม้ กาแฟ น้ำส้ม แถมด้วย มัลเบอรี่ ที่นี่เค้าปลูกเองทานไม่อั้นค่ะ ได้เวลาไปเตรียมตัวตะเวนน่านกันแล้วคะ รู้สึกอาลัยอาวรณ์ที่นี่สักนิดเพราะสบายเหมือนอยู่บ้านจริงนะ ก่อนกลับยังติดใจเปลเชือกขนาดใหญ่เลยไปนอนเล่นอีกสักพัก ได้เวลาเช็กเอาท์มุ่งหน้าทุ่งนาสุดลูกหูลูกตาที่ภูเก็ต เอ้ยวัดภูเก็ตกันจ้า ที่หน้าวัดภูเก็ตก็จะเป็น hi light จุดเช็คอินอีกจุดที่ต้องมา เราขึ้นไปไหว้พระแล้วเดินออกมาหน้าโบสถ์ก็จะเห็นวิวพาโนเลยจ้า หรือถ้ายังไม่สะใจจะเดินลงไปข้างล่างมีหมู่บ้านขายสินค้าพื้นเมืองสำหรับนักท่องเที่ยว ให้ถ่ายรูปเพลินไป จากวัดภูเก็ต เราแวะไปทานพิซซ่าที่ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำกัน จริง ๆ แล้วจะมีพิซซ่าร้าน ได้ดิบได้ดี ที่เป็นโฮมเสตย์อยู่แถวนั้น ทีแรกเลยเราว่าจะแวะไปเป็นอีเรียมเลี้ยงควาย อบสมุนไพร แล้วกินพิซซ่าที่เค้าว่าอร่อยกันนักหนา แต่ดูจากเวลาอาจจะช้าไปเพราะกิจกรรมก็น่าจะใช้เวลาค่อนวัน ค่อยมาทริปหน้าแล้วกันนะ ถ้าใครมีเวลาก็น่าจะลองแวะไปกันดูนะคะ ที่อำเภอปัวมีที่เที่ยวเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟไทลื้อ ร้านเครื่องเงิน หรือประตูเมืองเก่า ก็น่าแวะไปเช็คอินทั้งนั้น พอดีรอบที่แล้วเราไปมาหมดแล้วรอบนี้เลยขอผ่านนะคะ รอบหน้าค่อยมาเป็นอีเรียมซิ่งที่ ได้ดิบได้ดีโฮมสเตย์กัน ก่อนมารู้มาว่า ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ คิวจะยาวมากแต่ช่วงที่เรามาหวังว่าคนคงน้อยแต่ผิดคาด มาถึงเรายังคงต้องไปจองคิว แต่ระหว่างที่รอถ่ายรูปสัก 10 ข็อตน่าจะดีกับวิวชิงช้าสวย ๆ ที่มันต้องมี ถ่ายยังไม่ครบ10 เลยเรียกคิวซะแล้ว รายการอาหารน่าทานทั้งนั้น ดูจากรูปเอาแล้วกันนะ จบมื้อเที่ยงกันไปแบบอิ่มหนำสำราญ ตบท้ายด้วยกาแฟหลากหลายเมนูสั่งไปทานบนรถแก้ง่วงเพราะอีกชั่วโมงเราจะถึง อ.สันติสุข ที่เราสุขทุกครั้งที่ไป เจอกัน EP 2 กับความสุขแบบสันติสุขคะ
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96 วันที่: 23 ตุลาคม 2564 เวลา:5:15:55 น.
|
eatplaylove
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] All Blog
| ||||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |