น้อยเกมนักที่จะมีประวัติอันยาวนาน เช่นเกม Prince of Persia ที่มีมาตั้งแต่ยุคแรกๆ ของคอมพิวเตอร์เลย
เกมเริ่มต้นจากเครื่อง Apple II จากนั้นเกมได้รับความนิยมมากขึ้นจากนั้น จนแปลงไปยังเครื่องอื่นๆ รวมทั้ง PC ในอีกไม่นาน

อะ... เข้าเรื่องดีกว่า หลังจากที่หลายๆคนก็รอคอยเกม Prince of Persia ภาคใหม่ๆกันมานาน
หลายคนอาจจะเคยได้เล่นภาค Sand of Time, Warrior Within กันมาบ้างแล้ว (ไม่นับรวมภาค Original DOS)
รูปแบบการเล่นของเกมก็จะคล้ายคลึงกัน มีบางอย่างที่เสริมเข้ามาเพื่อความสนุกมากขึ้นหรืออาจจะน้อยลง

เมือเข้าเกมแล้วคุณจะสวมบทบาทเป็นเข้าชายหนุ่มผู้ไรชื่อ ซึ่งได้ก่อเรื่องโดยการเปิดถังทรายแห่งเวลาทำให้เกิดปีศาจทราย
ออกมาสร้างปัญหาให้กับชาวเมือง ดังนั้นเจ้าชายถึงเดินทางไปยังเกาะของผู้สร้างทรายแห่งเวลาเพื่อแก้ไข
แต่เมือเจ้าชายทำสำเร็จแล้วในภาคก่อน จึงกลับมายังบ้านเกิดของตัวเองพร้อมกับไครีน่า
พร้อมกับบ้านเมืองของตัวเองที่กำลังพังพินาศด้วยฝูงปีศาจทราย...

เริ่มต้นของเกมจะเป็นการฝึกกายกรรมของเจ้าชายเบื่องต้นซึ่งเกมจะค่อยๆสอนไปให้รู้จักท่ากายกรรมต่างๆ
ซึ่งเกมจะเป็นมุมกล้องอยู่หลังตัวละคร หรือที่เรียกว่า Third Person ส่วนแนวก็จะเป็น Action / Adventure
(สำหรับผู้ที่เคยเล่นจากภาคก่อนๆมาแล้วคงจะรู้จักท่าพื้นๆกันดี)
ภาคนี้จะเน้นท่าที่ใช้ติดต่อกัน เช่น กระโดดวิ่งไต่กำแพงจากนั้นกระโดดแล้วไปโหนราวต่อๆกันไป ซึ่งถ้ากดผลาดแล้วก็ผลาดเลย
ท่าที่เพิ่มเข้ามา ก็คือจะเป็นพวก ช่องลมที่อยู่บนกำแพงสูงๆ ต้องวิ่งไต่กำแพงขึ้นไปจากนั้นให้เจ้าชายเอามีดปัก
แล้วห้อยตัวไปยังอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเป็นท่าที่ต้องใช้ติดต่อกัน ในเกมค่อยค้างเยอะ

ไม่ต้องกลัวว่าพลาดแล้วเกมจะปล่อยให้พลาดเลย เมือคุณเล่นไปถึงจุดหนึ่งของเกม จนถึงได้มีดที่ใช้ควบคุมทรายแห่งเวลา
ตามเนื้อเรื่องแล้ว คุณจะสามารถใช้พลังย้อนเวลาได้ ซึ่งก็ทำให้ลดอัตราการ Retry เริ่มต้นเล่นใหม่ได้เยอะ
ก็ต้องใช้ทรายแห่งเวลา 1 ช่อง อย่าห่วงไปเลยสามารถหาได้ง่ายในเกม
พลังทรายใช้เป็นท่าลดความเร็วของเวลา หรือ Slow Motion ได้ด้วย เมือถึงจุดๆหนึ่งของเกม
สามารถใช้แล้วหลบกับดักโหดๆที่ต้องการทำเวลาได้มากเลย

การต่อสู้ในเกมนั้น ถือว่าภาคนี้แก้ไขเรื่องการกดท่าได้หลายอย่าง ศัตรูรุมเยอะๆ เราสามารถกระโดดยันกำแพงถอยออกมาได้
ศัตรูในเกม จะว่าง่ายก็ง่าย AI ไม่ฉลาดที่จะตามเรามากนัก สามารถเดินหนีปีนขึ้นไปที่อื่นได้เลย
ส่วนหนึ่งของเกมจะมีแท่นพลังแห่งทรายอยู่ ซึ่งเราจำเป็นจะต้องปราบศัตรูที่เฝ้าอยู่เพื่อเพิ่มพลังให้มีดเรา
แท่นเหล่านี้จะถูกเฝ้าด้วยหัวหน้า ซึ่งจะสังเกตุได้ชัดเจน หัวหน้าเหล่านี้จะต้องปราบก่อนเป็นอันดับแรก
เพราะถ้าปราบไม่ทันแล้วจะมีลูกน้องมาตามช่วยอีกไม่น้อยกว่า 3 ตัว ทำให้สู้ลำบากมากขึ้นถือว่าเป็นอีกความตื่นเต้นหนึ่ง
พลังแห่งทรายนั้นสามารถนำมาใช้ในการต่อสู้ได้ แต่ดูเหมือนว่าจะไรประโยชน์ไปสักหน่อย ซึ่งกินถังทรายแห่งเวลาที่เก็บได้มากไปสักหน่อย

สิ่งที่สำคัญสำหรับภาค The Two Thrones นี่มากๆก็คือระบบ Speed Kill ระบบนี้ทำให้คุณได้ลุ้น และดูท่วงท่าอันงามๆของเจ้าชายในการเชือดและแทงศัตรู
หลายคนๆที่เล่นตรงจุดนี้ พลาดกันง่ายๆเลย ส่วนใหญ่จะคิดว่าให้กดซ้ำๆๆ เพื่อให้เจ้าชายได้ทำท่า แต่ไม่ใช่เลย
Speed Kill Mode ปกติเทียบได้กับเกมแนวย่องเบา ซึ่งกว่าจะใช้ได้คุณจะต้องย่องเบาไปด้านหลังศัตรูจากนั้นจะตัดเข้าโหมด
ให้รอจังหวะการเชือด เกมจะส่งแสงกระพิบและเสียงบอก ซึ่งศัตรูปกติ อาจจะต้องกด 1-2 จังหวะ
สำหรับ บอสในเกมนี่แล้ว การฆ่าบอสจะใช้การต่อสู้ปกติ และ เมือบอสใกล้จะหมดพลังแล้วเกมจะตัดเข้า Speed Kill ให้เราลุ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ง่ายๆ แต่ก็พลาดได้ง่ายๆด้วย

แน่นอนเมื่อถึงช่วงหนึ่งของเรื่อง เจ้าชายของเราจะกลายร่างเป็นเจ้าชายด้านมืด ท่าที่ได้มาก็คือ ท่าควงโซ่ หลายแบบ
คุณสามารถกดดูวิธีการใช้ท่าต่างๆได้ผ่านทางเมนู จะมีบอกไว้เลย
ควงโซ่นี้ก็ไม่ยากเย็นนักสักเท่าไร ช่วยฆ่าศัตรูได้เร็วขึ้นอีกกว่าตอนเป็นเจ้าชายปกติ
แต่เมือเป็นเจ้าชายด้านมืดนี่แล้ว พลังชีวิตจะถูกดูดกลืนไปเรื่อยๆ บีบหัวใจผู้เล่นให้พยายาม วิ่งผ่านเวลาช่วงนี้ไป
ซึ่งหนทางที่จะทำให้เจ้าชายกลับมาเป็นคนปกติดังเดิมได้ก็คือ การอาบน้ำ

คิดว่า Prince of Persia ภาคนี้จะเป็นแค่เกมเดินๆฟันๆแบบเดิมแค่นั้นยังไม่พอหรอกนะ
มี Mini Game ให้คุณยังต้องผ่านด้วย เช่นการแก้ปริศนาขนาดใหญ่ๆเผื่อผ่านไปยังฉากต่อไป
การแก้ไขนั้นจะเป็นในแนว ลับสมอง เช่น ตอนสลับสวิตซ์เพื่อดันรูปปั้นไปพังประตู
อีกสิ่งหนึ่ง นั้นก็คือ การขี่รถม้า ที่ทำให้ลุ้นระทึกได้มากเช่นกัน มีทั้งหลุมทั้งบ่อ และทางแคบให้ต้องหักหลบ
ถ้าบังคับไม่ดีก็อาจจะทำให้ไม่ผ่านง่ายๆด้วย เพราะหัวรถม้านั้นเลี้ยวหักศอกง่ายเหลือเกิน และยังมีศัตรูที่พยายามจะปีนขึ้นมา หรือ ขับรถม้าแข่ง ด้วยละ
ทำให้เปลี่ยนอารมณ์ของผู้เล่นได้พอควร ทั้งๆที่ดูแล้วจะ Action ทั้งเกมเลย

จุด Save ในเกมก็คือจุดที่มีอ่างล้างหน้าประจำอยู่ตามจุดต่างๆ ซึ่งผ่านเกมช่วงหนึ่งๆแล้วก็จะพบเจอ และบางตอนในเรื่องเกมจะขึ้นมาถามให้เซฟ
แต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าเมือพลาดแล้วจะต้องมาเริ่มต้นใหม่ที่จุดเซฟ เพราะเกมจะมี check point ก่อนที่เราจะเจอพวกกับดักหรือศัตรู กันพลาด
ซึ่งก็ไม่ไกลมากนักจากจุดที่น่าจะพลาด

สิ่งเพิ่มเติมของเกม ก็คือระบบ Life Upgrade เพื่อเพิ่มพลังชีวิตเจ้าตายให้คงชีวิตได้นานมากขึ้นในสถานะการณ์ต่างๆ
ภาคที่แล้ว อาจจะมีเยอะ อาจจะเก็บกันไม่ทัน แต่สำหรับ The Two Thrones แล้วจะมีแค่ 6 จุดเท่านั้น มีอยู่ตามที่ต่างๆ ตั้งแต่ต้นเรื่องจนถึง ใกล้จบ
จะสังเกตุทางเข้าได้ด้วยแสงสว่างๆ เมือเข้าไปแล้วคุณอาจจะต้องผ่านกับดักเหล่านั้นก่อน
ของแถมในเกม ก็จะหนีไม่พ้นการดูภาพยนตร์ของเกม ดูภาพร่าง ภาพต้นแบบ ซึ่งสามารถหาดูได้เมือได้เก็บ Sand Credits เท่านั้น
จะมีอยู่ตามที่ต่างในเกม เมือเก็บถึงค่า Credits แล้ว ก็สามารถเข้าดูได้ที่ Extra Features

ด้านภาพ Graphic ของเกมนี้ถือว่าไม่ได้ต่างจากภาคก่อนๆมากมาย เนื่องจากใช้ Engine ตัวเดียวกันในการขับเคลื่อนเกม
ถือว่าเป็น Engine ที่เหมาะสมในการใช้กับเกมแนวนี่ค่อยข้างดีเลย สำหรับภาคนี้จะทำระบบสนับสนุนกับการ์ดแสดงผลรุ่นใหม่ๆ
เพื่อแสดง Effect ล่าสุด แต่ก็ไม่ต้องห่วงว่าการ์ดเก่าๆจะใช้ไม่ได้แล้ว เครื่องที่เล่นภาค Sand of Time ได้ ก็ยังสามารถเล่นภาค The Two Thrones ได้เช่นกัน

ปัญหาด้านการควบคุมก็ถือว่ามีพอสมควร สำหรับผู้ที่ใช้ เมาส์เวลาที่เลื่อนดูอาจจะไม่อิสระมากนักแบบเกมอื่นๆ และคีย์บอร์ดที่บางที อาจจะกดลำบากในเวลาต่อสู้
ซึ่งถ้าใช้จอยแพตใจการเล่นก็ลดปัญหาตรงนี้ไปได้สำหรับท่านที่คุ้นกับระบบกดแบบใช้จอยแพต ถือว่าเป็นปัญหาเล้กๆน้อยที่กวนใจ แต่ก็ไม่ทำให้เกมดูแย่ลงไปเลย

สรุปว่า เป็นภาคต่อที่น่าหามาเล่นติดตามอย่างยิง ถึงแม้ว่าสำหรับเกมนี้เนื้อเรี่องจะตายตัวไปสักหน่อย และ
ปัญหาเล็กๆน้อยๆของเกมที่กวนใจนั้น ไม่ทำให้เกมดูแย่ลง หรือเล่นแย่ลงเลย ซึ่งเกมก็แปลงลงหลายเครื่องเล่น
ปัญหาการแปลงมาระหว่างเครื่องเล่นนั้นเทียบกับเกมอื่นแล้วก็มีค่อนข้างน้อย ถ้าอยากพบเจ้าชายอีกลองหามาเล่นดูกันได้เลย...























































** หากพบเห็นบทความของนู่เรื่องนี้ไม่ต้องตกใจ เพราะนู๋ให้ลงที่อื่นเอง (เฉพาะ POPTTT)

สามารถติดตามบทสรุปได้ที่ อยู่ใน Blog ของนู๋นี่เองละ