เกม Role-Playing Game (RPG) ส่วนใหญ่แล้วสมัยนี้เป็น RPG ประยุกต์กันไปหมดทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะค่ายเกมของญี่ปุ่นหรือของฝรั่ง น้อยนักที่หลายๆคนจะรู้จัก RPG อย่างแท้จริงๆ
ซึ่ง RPG สมัยนี้สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ การพัฒนาตัวละคร หรือที่เรียกกันว่าการเก็บเลเวล
แต่สมัยก่อนนั้นไม่ใช่เลย คุณจะต้องเล่นกับเพื่อนกันบนกระดาน (คล้ายๆกับเกมบันไดงู)
แล้วโยนลูกเต๋าสลับทอยไป เกมแรกๆที่ทำให้มีเกมแนวนี้จะชื่อว่า Dungeons & Dragons (D&D)
ต้นกำเนิดก็คือทางฝรั่ง จากนั้นเกมก็ได้พัฒนามาเล่นบนเครื่องคอมพิวเตอร์
แรกๆก็จะเป็นแนวผลัดตากันเดิน Turn Base โดยใช้กฎการเล่นของ D&D ซะมาก
เรียกว่าทุกย่างก้าวนั้นจะต้องมีเงื่อนไขและค่า Status กำกับหมด
เกมแนวเหล่านี้ปัจจุบันค่อนข้างจะหาเล่นได้ยากซะแล้วสิ เช่น Wizardry
เนื่องจากอาจจะเล่นยากสักหน่อย และไม่ทันใจในการเล่น หรือ อื่นๆ

ที่ได้พูดเกร่นนำไปนี้ก็คงอยากให้ปรับความเข้าใจสำหรับเกม RPG ว่าแท้จริงแล้วต้นกำเนิดแล้วมียาวนาน
เดียวจะเสียเวลายาวเกิน มาเข้าเกมที่จะ Review กันดีกว่า ...

ในปีนี้ก็มีเกมดังๆปรากฎแล้วก็ทะยอยออกมาให้ได้เล่นกันอีกแล้ว
ล่าสุดก็คือ The Elder Scrolls IV: Oblivion ซึ่งเป็นเกมที่ 4 แล้วที่ค่าย Bethesda
ของตระกูล The Elder Scrolls แล้ว (ไม่ได้นับภาคเสริม) Oblivion จะหมายถึง นรก ที่เกิดขึ้นบนดินแดน Tamriel
(Tamriel ก็คือดินแดนทั้งหมดในโลกของ The Elder Scrolls)

Oblivion จะนำเราไปอยู่ที่ดินแดนของ Cyrodiil (จากภาคที่แล้วอยู่ที่ Morrowind)
ปัญหาที่รอให้พวกเราเข้าไปแก้ไขในของ Cyrodiil ก็คือ
ต้องป้องกันเหล่าปีศาจDaedra ที่เจ้าชายแห่งการทำลายล้าง

เริ่มต้นกับเกมเราจะเป็นนักโทษและอยู่ที่เมือง Imperial City เป็นเหมือนเมืองหลวงหลัก
Emperor ของเมืองก็ได้พยายามหลบหนีโดยอาศัยคุกใต้ดินที่เราได้กุมขังอยู่
เรื่องจึงเกิดขึ้น โดยที่ผู้เล่นเองจะได้รับมอบหมายให้เราตามหาลูกชายของเขา
เพื่อป้องกันดินแดนของเขาเองต่อไป

จากงาน E3 ที่เกมนี้ได้โฆษณาและประกาศอย่างหนักว่าเกมใช้ เครื่องค่อนข้างจะหนักหน่วง
เพราะเกมจะเปิดกว้าง ให้เราทำอะไรได้อิสระ ทั้ง Cyrodiil
ภาพของเกมได้เป็นที่โดดเด่นอย่างมาก
ตั้งแต่เริ่มต้นเกมเลยคุณจะต้องสร้างตัวละครของคุณเอง ซึ่งสามารถเลือกหน้าตาได้อิสระ
ปรับตา คิ้ว หู จมูก ปาก, Class, Race ได้ตามต้องการเพื่อนำตัวละครเข้าไปเล่นในโลก

เมื่อเริ่มเกมแล้วสร้างตัวละครแล้ว สิ่งที่เห็นโดดเด่นมากก็คือภาพของ
เกมค่อนข้างละเอียดอย่างมากเต็มไปด้วย Polygon ที่สูง แม้ขนาดอยู่ใน Dungeon เอง
เมื่อออกโลกภายนอกแล้ว พื้นดินของโลกเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าที่พัดไปมา
นอกจากหญ้าที่เต็มไปทั้งพื้นดินแล้ว ต้นไม้ของเกมใช้เทคนิคที่ผลิตต้นไม้ให้ไม่ซ้ำแบบกัน
ทำให้ป่าดูเป็นเหมือนป่าที่เป็นธรรมชาติจริงๆ ท้องฟ้าที่ใช้ Texture ค่อนข้างงาม
และเปลี่ยนไปตามเวลาของเกม ซึ่งตัวเกมเองจะมีวันเดือนปี ของในเกมเองด้วย!
ต้นไม้เล็กๆน้อยๆในเกมที่วางเรียงรายนั้นจะมีไม่ซ้ำกันเลยเหมือนผู้ผลิตได้จับวางเองกับมือทุกจุด
ตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในเมือง หรือนอกเมือง ที่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ
ก็แตกต่าง Style กันออกไปดูแล้วไม่มีซ้ำซาก รวมทั้ง Dungeon ต่างๆที่ให้ลงไปผจญภัยด้วย
แม้แต่น้ำก็สามารถลงไปดำเล่นๆได้ด้วย

[Gameplay] แม้ Oblivion จะเป็นเกม RPG ประยุกต์ไปซะแล้ว
ส่วนใหญ่ของเกมจะเป็นการเอาใจขา Action แต่
สำหรับ Status จะยังถือกฎ D&D (Version ใหม่) อยู่ ทำให้การเล่น ง่ายกว่าเดิม
(เมื่อเทียบกับ Morrowind ที่อาจจะยังยากในรายละเอียดกว่า Oblivion)
เกมนี้จะไม่เหมือน RPG ทั่วๆไปที่ เมื่อตัวละครของคุณยิ่งเก่ง เกมจะง่าย แต่ Oblivion จะยิ่งยากขึ้น !!
เช่น ถ้าคุณยังเล่นอยู่ที่ Lv.1 เดินท่องเที่ยวไปทั่ว Cyrodiil ก็ยังจะเห็นมอนสเตอร์เลเวล 1 อยู่ทั้งเกม
(ยกเว้น มอนสเตอร์เควสที่จะประจำอยู่เฉพาะที่)

Class ต่างๆในเกม ผู้เล่นสามารถจะเป็นได้หลายหลากสาย ไม่ว่าจะ นักเวท นักธนู นักรบ และอีกมาก
โดยที่เมื่อเริ่มเกมแล้ว ผู้เล่นก็ฝึกใช้อาวุธเหล่านั้นไปเรื่อยๆ เลเวลก็จะเพิ่มขึ้นเองเมื่อ ทักษะ (Skill)
ครบตามจำนวน จากที่บอกไปด้านบนนี้เอง ดังนั้น Lv จึงไม่สำคัญมากนักสำหรับ Oblivion
ถ้าอยากจะท้าทายก็ฝึกใช้อาวุธไปเรื่อยๆก็จะเจอความเก่งของมอนสเตอร์เอง

ทักษะต่างๆ จากทีได้บอกว่า ฝึกบ่อยๆ ก็จะเก่งเอง
ทักษะเหล่านี้จะแบ่งย่อยไปเยอะแยะมากมาย อย่างการใช้เวท ก็จะมีทั้ง เวทที่โจมตี (Destruction)
เวทที่ใช้รักษา (Restoration) และอีกมายมาย
ทักษะของนักรบก็จะเป็นเวทอาบพิษให้ดาบ เพิ่มเกราะ เพิ่มสถานะ ล่องหน
รวมทั้งยังมีย่องเบา สะเดาะกลอน ล้วงกระเป๋า
(ซึ่งจะไม่จำเป็นว่าเราเลือก Class ไหนแล้วจะต้องฝึกตามนั้น Class
จะเป็นแค่ Status Bonus ที่เพิ่มให้เป็นพิเศษในเฉพาะด้าน)

ที่สำคัญเราสามารถจะสร้าง Item ที่ผสมขึ้นมาเองได้ เช่น Potion ที่ผสมเอง อาวุธ
และเกราะไม่ว่าจะส่วนไหนก็สามารถเอามาผสมได้ เช่นเดียวกับ Morrowind
เวทมนตร์ที่สามารถสร้างเองได้ตามใจ แต่ก็ต้องคำนึงถึงค่าพลังที่ต้องใช้ด้วย

Item ต่างๆนี่สามารถเหมือนว่าจับต้องได้หมด มีการเดินชนแล้วตกลงมาได้
รวมทั้งเมือนำมาสวมใส ก็จะปรากฎเป็นโมเดลให้เห็นกันเลย!

เมื่อเลเวล ไม่สำคัญมากนัก แล้วอะไรที่ทำให้ Oblivion สนุกละ
คำตอบนั้นก็คือ Quest หรือภาระกิจตามแบบเกม RPG นั้นเอง
โดยปกติเกมทั่วๆไปนั้นจะกำหนดเรื่องราวให้เรามาได้นำ และต้องทำให้จบเกม ก็ถือว่าจบ
แต่ Oblivion จะปล่อยให้คุณท่องเที่ยวไปตามโลกกว้างนี้ โดยที่ Main Quest หรือ ภาระกิจหลัก
จะยังอยู่เมื่อออกจากคุกตอนเริ่มเกมแล้ว ติดตัวมาเรื่อยๆ จะทำเลยหรือยังไม่ทำก็แล้วแต่ผู้เล่น
ซึ่งถ้าทำค่อนข้างจะยาวพอสมควร เมื่อคุณท่องไปยังโลกกว้างนั้น ได้พบเจอชาวบ้าน ชาวเมือง
เมื่อเข้าไปคุยแล้ว ถ้าเจอเรื่องปัญหาอะไรเขาก็จะขอให้คุณช่วย นั้นก็คือ Quest จะเพิ่มเข้ามา
ให้เราแก้ไขปัญหาต่อไป

Quest นั้นก็มีหลายไม่ใช่แค่ว่า ไปหาของแล้วเอากลับมา จะมีทั้งให้ไปสังเกตการคนบางคน
มีทั้งตอบปัญหา มีทั้งไปค้นหา รวมทั้งมีต้องไปรอคนตามเวลาต่างๆด้วย
Quest ทั่วๆไปเหล่านี้สามารถถามได้จากเหล่า NPC ทั่วไป เพราะในเกมค่อนข้างมี NPC เยอะมากๆ
และ Quest ก็ต้องมากตามเป็นธรรมดา

แผนที่และ Log ของ Quest ช่วยเหลือผู้เล่นมือ Action RPG ได้มากขึ้นเยอะจาก Morrowind
ทำให้เรารู้ได้ว่า ต้องไปแก้ปัญหาที่จุดไหน อย่างไร ถือว่าเป็นการสะดวกอย่างมากจากภาคเก่าที่ตกม้าตาย
นอกจากนี้เราสามารถใช้ Fast Travel ไปยังจุดมุ่งหมายบนแผนที่ได้ทันที (แต่ต้องไปสำรวจก่อน)
โดยที่ไม่ต้องเดินไปเองทุกครั้ง ทำให้เสียเวลาอย่างมาก เพราะโลกของเกมค่อนข้างจะกว้าง

None-Player Charactor (NPC) สำหรับชาว RPG แล้วถือว่าสำคัญมาก
ยิ่งถ้าเกม Single Player เช่น Oblivion นี่ด้วย ก็คงต้องให้ตัวละครเหล่านี้
พูดคุยกับเราแทนคนจริงๆแบบเกม Online (แต่อาจจะต้องทำให้ NPC เองไว้ใจเราด้วยก่อนนะ)
NPC ในเกมมีค่อนข้างเยอะมากๆ แต่ก็มีกิจวัตประจำวันที่ก็แตกต่างกันไป เช่น
กลางวันตื่นมาทำงาน กลางคืนกลับบ้านนอน กลางคืนก็จะเหลือแต่ยามประจำเมืองที่คอยลาดตระเวน
แม้แต่ออกไปนอกเมืองก็ตาม
สำหรับการคุยของเกมนั้นมาแนวเดียวกับ Morrowind ก็คือ คุณผู้เล่น จะมีเมนูเลือกแค่หัวข้อที่จะคุย
โดยที่ไม่บอกว่าจะคุยว่าอะไรกับหัวข้อนั้นๆ ทำให้เกิดปัญหาถ้า NPC ตัวเดียวกันเกิดมี Quest ทับซ้อนกัน
เช่น คุณจะต้องการทำ Quest B แต่ NPC ดันตอบแต่ Quest A เพราะมีตัวเลือกคุยแค่ ตัวเดียว
ยังดีที่ทั้งเกมนั้น NPC พูดกับเราหมด ไม่ใช่มีแค่ตัวหนังสือขึ้นแบบ Morrowind
เมื่อ NPC เดินใกล้กันก็จะทักทายกัน แต่บักที่ทักทายกันซ้ำๆก็ยังเจอกันบ่อยๆ
นอกจากนี้ในการต่อสู้ NPC บางทีเดินเข้ามาชนผู้เล่น ซึ่งเป็นปัญหาเล็กๆน้อยๆที่กวนจิตอยู่เหมือนกัน

Interface ของเกม ดูด่าจะอิงไปในทาง Console Gaming โดยการใช้ จอย กดทิศทางเลือกไป
เมื่อนำมาเล่นบน PC ทำให้ใช้ Mouse เลือกแล้วคลิก ต้อง คลิกหลายครั้ง
เช่นหน้าต่าง Quest ค่อยข้างใหญ่ ไม่เอื่ออำนวยต่อการเลือก Item ที่มีเยอะๆ (ปัญหานี้แก้ได้ด้วย Mods)
Key ลัดที่เรียก Interface โดยตรงมีแค่ใช้ผิวเผิน ไม่เข้าถึงได้โดยตรง เช่น จะต้องการดูแผนที่ก็กดได้เลย
แทนที่จะต้องมา กดเปิด แล้วเลือก Tab ด้านในอีกที
รวมทั้งไม่แสดงรายละเอียดของพลังชีวิตว่าเหลือจำนวนเท่าไร อย่างไร (แก้ได้ด้วย Mods เช่นกัน)
ไม่ว่าคุณจะปรับ Resolution ความละเอียดไหน Interface ก็จะเท่ากันหมด

การควบคุมตัวละครคงจะไม่เป็นปัญหามากนักเนื่องจากเกม PC
ส่วนใหญ่ก็ใช้ Keyboard กดเดินตัวละคร ด้วยปุ่ม WASD และ Mouse หันทิศทางและกล้อง
สามารถปรับได้เช่นเดียวกับ Morrowind โดยที่จะใช้มุมมอง First Person (แบบเกมเดินหน้ายิง) หรือ
Third Person (กล้องอยู่หลังตัวละคร) ก็ได้ 

[Graphic] ที่โดดเด่นสุดๆ ดังนั้นจึงต้องใช้ Hardware ที่สนับสนุนค่อนข้างจะสูง
และสนับสนุน High Dynamic Range (HDR) เพื่อการ Render ที่สมจริงตามแสง
จากเครื่องที่ทดสอบนั้นใช้ระดับ AMD Athlon 3000+ รวมทั้ง GeForce 6800GT
ที่ปัจจุบันนี้เล่นเกมทั่วไปได้ราบลื่น ยังต้องมาสยบกับ Oblivion
ที่เล่นในฉากโล่งๆแล้ว Framerate จะอยู่ประมาณแค่ 20-40 FPS เท่านั้น
สำหรับผู้ที่การ์ดแสดงผลและเครื่องค่อนข้างต่ำกว่านี้
ก็ยังสามารถเล่นได้แต่อาจจะต้องปรับลด Visual Effect เกือบหมด เพื่อการเล่นได้ลื่นมากขึ้น

เกมยังไม่ได้ใช้แค่ Graphic ที่หนัก แต่เกมยังมี Physic Engine ของ Havok
ซึ่งดูๆแล้วอาจจะไม่ค่อยมีประโยชน์ แต่เป็นสิ่งที่ทำให้ดูเหมือนจริงมากขึ้น

Sound ของเกมนั้น จะใช้แค่ DirectSound 3 มิติพื้นฐานเท่านั้น
ซึ่งเป็นข้อเสียว่าเกมไม่ได้ใช้ EAX แต่อย่างใด ทำให้เสียงที่ได้ไม่สมจริงด้วย Hardware ซักเท่าไร
ดนตรีของเกมก็จะตัดเข้าอารมณ์กับโลกยุคโบราณอย่างมาก
รวมทั้งเมื่อเข้าฉากต่อสู้ก็จะเปลี่ยนเป็นดนตรีตื่นเต้น

สิ่งแตกต่างของ PC สุดๆจาก Xbox ก็คือเครื่อง Mods ที่สามารถหาโหลดตามเว๊บ
Official ที่จะมีทั้งขายและฟรี หรือหา Construction Kit มีสร้าง Dungeon หรือเมือง เล่นๆก็ได้
//www.elderscrolls.com

รวมทั้ง FAN SITES
//www.tessource.net/
//chorrol.com/
//www.oblivionsource.com/
//planetelderscrolls.gamespy.com/
//www.obliviondown.com/
//www.oblivionportal.com/
//elderscrolls.blogspot.com/
//www.cyrodiil.net/
//elderscrolls.filefront.com/
//www.oblivionfiles.com/

สรุปว่า เมื่อการพัฒนาต่อยอดจากของเก่าพัฒนาขึ้นทั้งด้าน Graphic และการเล่นที่เล่นง่ายขึ้น
ทำให้ Oblivion กลายเป็นเกมที่ต้องยอมรับกันว่า Bethesda ทำสำเร็จริงๆ
แต่เป็นปัญหากับชาว PC ที่ต้องใช้ Spec เครื่องค่อนข้างจะสูง
(ยอมรับว่าไม่มีความแตกต่างเรื่องภาพ Xbox กับ PC (High End) แต่การเล่นค่อนข้างแตกต่าง
เนื่องจากการบังคับที่อาจจะจุกจิกนิดหน่อยในแบบ Console)

นู๋เองยอมให้เกรด Highest (5/5) เลย หามาเล่นดูกันอย่าพลาดละ

Specification ขั้นต่ำที่เล่นเกมได้อย่างราบลื่น

* 3.0 Ghz Intel Pentium 4 or equivalent processor
* 1 GB System RAM
* ATI X800 series, Nvidia GeForce 6800 series, or higher video card

-Supported Video Card Chipsets:
ATI X1900 series
ATI X1800 series
ATI X1600 series
ATI X1300 series
ATI X850 series
ATI x800 series
ATI x700 series
ATI x600 series
ATI Radeon 9800 series
ATI Radeon 9700 series
ATI Radeon 9600 series
ATI Radeon 9500 series
NVIDIA Geforce 7800 series
NVIDIA GeForce 6800 series
NVIDIA GeForce 6600 series
NVIDIA GeForce 6200 series
NVIDIA GeForce FX series

(สนับสนุนสำหรับ GeForce 2/3/4 เกมไม่ สนับสนุน
อาจจะต้องปรับแต่งตัว Configuration เพื่อปรับลดความละเอียดลงอย่างมาก