GOTHIC 3
ปกติแล้วเราจะได้เห็นแต่เกม RPG ทั่วๆไปที่มี ปั้นตัวละครขึ้นมาโดยการเก็บค่าประสบการณ์ด้วยการฆ่ามอนสเตอร์ เมื่อตัวละครได้ค่าประสบการณ์เพียงพอแล้วก็สามารถเลือกอัพทักษะพิเศษต่างๆได้ตามใจชอบ แล้วก็ทำตามเป้าหมายของเกมที่วางไว้ เพื่อให้จบเกม แต่ก็มี RPG ที่แตกแนวออกมาและทำโลกเสมือนจริงมากที่สุด ไม่ใช่แค่ว่า เก็บค่าประสบการณ์ ฆ่ามอนสเตอร์หรือแค่เอาของไปขาย นั้นก็คือ Gothic ตั้งแต่ ภาคแรกได้ออกมาถือว่าเป็นเกม สวมบทบาทที่สมจริงมากที่สุดก็ว่าได้ โดยเฉพาะเรื่องของตัวละครประกอบในเกมหรือ NPC ที่ต่างก็มีชีวิตและบทบาทของตัวเอง สามารถไปกิน ออกล่าสัตว์ สามารถเข้านอนเมื่อถือเวลา เหล่านี้ทำให้เกมนี้มีสิ่งที่โดดเด่นเหนือเกม RPG อื่นๆโดนสิ้นเชิง และทำให้ลืมการควบคุมที่เป็นปัญหาและทำให้เล่นอย่างไม่สะดวกก็ตาม (ต่อไปนี้เกร่นนำเรื่องเก่าก่อน ละกัน ... {สามารถข้ามย้อหน้านี้ได้เลย ถ้าไม่ต้องการรู้เรื่องภาคก่อนๆ} ) ตั้งแต่ Gothic เราจะได้สวมบทบาทเป็น Hero ที่ไร้ชื่อ (เพราะอาจจะเอ่ยชื่อไม่ทัน) ซึ่งได้ถูกจับเป็นทาสและได้เข้าไปอยู่ใน Barrier ที่กุมขังผู้คนที่เป็นทาส จนในที่สุด Hero ของเราเองก็ได้หาต้นตอและสามารถทำลายเกราะป้องกัน ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนๆต่างๆ ทำให้คนสามารถออกไปได้ และเมื่อไม่มีคนทำงาน ทำให้วัตถุดิบ Magic Ore ขาดแคลนทำให้แหล่งพลังงาน และส่วนหนึ่งมีคนต่อต้านจากอณาจักร หลังจากที่ได้กำจัดต้นต่อของพลังงาน The Sleeper แล้ว แต่ Hero ของเราได้ติดอยู่ ซากของวิหารนั้น (เมื่อสำเร็จแล้วเกมจึงตัดไปเป็นภาคที่ 2 ต่อ) Xardas ได้ช่วยออกมาจากซากวิหารนั้น และจึงบอกว่า มีภัยอันตรายใหม่ที่กำลังจะมาถึง นั้นก็คือภัยจากมังกรต่างๆ Hero จึงไปเตือนตามหัวเมืองต่างๆ เมืองใหญ่นั้นก็คือ Khorinis แต่เมื่อเตือนไปแล้วไม่มีใครฟัง ดังนั้น Hero เราจึงได้ไปต้นหาที่อยู่ต่างๆของมังกรเพื่อจะกำจัดทิ้ง แต่อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว Hero เราได้ไปฆ่าหัวหน้าของมังกร (Undead Dragon) ณ ที่เกาะ Isgaroth เมื่อเข้าสู้ภาค 3 โลกของ Gothic นั้นได้เปลี่ยนแปลงไป โดยที่ได้เกิดสงครามขึ้นระหว่าง Orc และมนุษย์ จนในที่สุดผู้ชนะคือ Orc และ Orc ได้ยึดเมืองต่างๆ และมนุษย์ก็กลับกลายเป็นทาส ในขณะเดียวกัน Hero ผู้ไร้เนมของเรานั้น ก็ได้มาถึง แผ่นดินใหญ่อีกครั้ง ได้รับรู้สิ่งต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไป และได้รับรู้ว่าตัวเองได้ถูกเตรียมการหลอกใช้จาก Xardas ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว Xardas มีจุดประสงค์อย่างไรก็ยังมิทราบได้ เพื่อนเก่าๆของเรายังอยู่กันครบจากภาคก่อนๆ (ตั้งแต่ภาคแรกเลย) เช่น Diego, Milten, Lester, Lee, Lares และอื่นๆ เริ่มต้นของเกม เราได้ขึ้นฝังและอยู่ที่เมือง Adreas ที่ซึ่งได้ถูก Orc ยึดเมืองแล้ว และเนื่องจากที่ถึงเวลาเหล่า Rebel ได้ทำลายปฏิวัติเมือง ขับไล่พวก Orc ออกไปแล้วยึดเมืองกลับ Hero ของเราจึงต้องเข้าไปร่วมต่อสู้ด้วย ภาค 3 นี้ได้แตกแยกออกเป็นหลายฝ่าย และเมืองหลายเมือง ทำให้เกมจึงแบ่งเป็นการต่อสู้หลักๆระหว่าง 2 ฝ่าย คือ กลุ่มชนะสงคราม (Orc, Hashishin) และ ผู้ปฏิวัติ (Rebel และกลุ่มอื่นๆ) ทางเลือกใหญ่ๆ ของเกมจะขึ้นอยู่กับผู้เล่น โดยที่ถ้าเราช่วยมนุษย์ ก็จะต้องกู้เมืองที่ถูกยึดโดย Orc แต่ถ้าหากเราช่วย Orc ก็จะต้องกำจัด Rebel แทนเช่นกัน หรือว่า อาจจะไม่ช่วยใครเลย การเล่น ถือว่าเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร เพราะจากภาคก่อนๆอะไรๆที่เคยมี แต่ภาค 3 นี้กลับไม่มีเสียแล้ว ระบบกิลด์ซึ่งภาคก่อนๆนั้นการที่จะเข้ากิลด์ถือว่าค่อนข้างยากแต่ก็เป็นสิ่งที่สนุกเพราะมี Quest หลายหลาก แต่เมื่อเกมเปลี่ยนไป มีค่า Repopulation เข้ามาแทนทำให้ค่า กิลด์กลายเป็นค่าความไว้วางใจที่แยกๆ ออกเป็นเมืองๆ หรือ กลุ่มคนไป ค่า Repopulation เป็นค่าที่จะบอกถึงความนิยมชมชอบ ต่อกลุ่มเหล่านั้น หรือ ต่อเมืองนั้นๆ ในเกมนี้แบ่งออกเป็น 6 กลุ่มด้วยกัน เช่น Nordmar, Orcs, Rebels, Ranger, Hashishin, Nomad หากเราช่วยกลุ่มไหนมากๆแล้ว หรือทำตัวให้มีประโยชน์ต่อเมืองนั้นๆ แล้ว ก็จะได้ค่านี้ แล้วก็จะ สามารถเข้าถึงเหล่าหัวหน้าได้ง่ายขึ้น และมีสิทธิมากขึ้น เกม RPG ความสำคัญหลักๆนั้นจะอยู่ที่การทำ Quest ซึ่งในโลกของ Gothic แล้วนั้นมีค่อนข้างมากและซับซ้อน จากภาคที่แล้วๆมา Quest ของเกมนั้นไม่ใช่แค่ ให้ไปหานั้น ให้ไปฆ่านี้ หรือรับคำสั่งจาก NPC อย่างเดียว Quest จะมีประจำเมืองเกือบทุกเมือง โดยที่ส่วนใหญ่จะไม่เกี่ยวข้องกันข้ามเมือง ทำให้ไม่ต้องเดินกันข้ามเมืองแบบภาคก่อนๆ หน้าต่าง Interface ของ Quest ก็เลยจัดแบ่งเป็นเมืองไป และแยกเป็นหมวดหมู่ชัดเจน และเมื่อทำ Quest เรียบร้อยแล้วจะทำให้ได้ค่า Repopulation ของกลุ่มคน/เมืองนั้นตามมา การต่อสู้ ของเกมนั้นสำหรับภาคนี้แล้ว ให้คุณลืมปัญหาของภาคเก่าๆไปได้เลย ทางผู้ผลิตได้แก้ปัญหาเหล่านั้นแล้ว ทำให้อารมณ์การเล่นและต่อสู้นั้นใกล้เคียงกับเกมยอดฮิตอื่นๆ ดังเกม RPG ต้นปี Oblivion เมื่อชักอาวุธ ก็สามารถคลิกโจมตี ก็จะหวดดาบออกไปได้เลย (การยิงธนู และการใช้เวทย์ก็เช่นกัน) โดยที่อาจจะมีการคลิกเป็นจังหวะเพื่อทำให้ท่าทางเปลี่ยนแปลงไปด้วย ส่วนจะมีความสามารถอะไรเพิ่มนั้น ก็ต้องไปหาเรียนตาม Skill ที่เกมได้บอกไว้ เช่น การถือโล่เพื่อป้องกันการโจมตีพร้อมกับดาบ โลก RPG ของ Gothic 3 นั้นไม่เหมือนเกมอื่นๆ ในเรื่องระบบค่าประสบการณ์ Hero ของเราจะมีค่า Status 9 ค่าเลย ซึ่งก็จะมีดังนี้ Strength (ความสามารถในการต่อสู้), Hunting Skill (ความสามารถในการใช้ธนู), Ancient Knowledge (ความรู้ทางเวทย์), Smithing (ความรู้ทางการตีอาวุธ), Thieving (ความรู้ทางการขโมย), Alchemy (ความรู้ด้านยา), Life Energy (พลังชีวิต), Endurance (ความอึด) และ Mana (พลังเวทย์) เมื่อคุณได้เก็บค่าประสบการณ์โดยการทำ Quest สำเร็จจาก NPC หรือ จากการฆ่าศัตรูก็ตาม แล้วคุณจะได้ Learning Points (LP) ซึ่งค่านี้ก็คือ Skill Point ของเกมอื่นๆนั้นเอง และค่านี้จะสามารถนำไปพัฒนาตัวละครของคุณได้ด้วยการไปเรียน ซึ่งจะต้องไปหาอาจารย์ที่ถนัดเพื่อเรียน (ไม่สามารถเลือกอัพได้ทันทีในแบบเกมอื่นๆ) โดยไปหาแล้ว hero ของเราก็อาจจะถามว่า Can you teach me something ... อะไรทำนองนี้ แต่ก็ต้องขึ้นกับอาจารย์ผู้นั้นด้วยว่าถนัดทางด้านไหน จึงจะสามารถเรียนรู้ Skill ได้ สำหรับค่า Ancient Knowledge, Smithing, Thieving, Alchemy จะมีผลทางอ้อมแต่ก็จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ Skill(ทักษะ)ใหม่ๆ เพราะแต่ละ Skill นั้นจะกำหนดว่าจะต้องมีค่าเหล่านี้ไม่ต่ำกว่าตามที่กำหนดไม่งั้นจะไม่สามารถเรียนได้ เวทย์ของเกมนั้น จะใช้ค่า Ancient Knowledge เป็นข้อกำหนดว่า ต้องมีค่านี้เท่าไรถึงจะสามารถเรียนได้ จาก พวก Mage สายต่างๆ หรือ รูปปั้น(หิ่ง) ของเทพเจ้าในเกม ขึ้นอยู่กับเทพเจ้าที่มีเวทย์ในสายทางด้านไหน ซึ่งจะเป็นตามเทพในเกมที่จะพบเหล่าคนในพื้นที่บูชา ก็คือ Innos (เทพแห่งไฟและแสง), Beliar (เทพแห่งความมืด), Anados (เทพแห่งน้ำและธรรมชาติ) ในเมื่อไม่มีการแบ่งแยกกิลด์แล้วผู้เล่นก็สามารถเรียนเวทย์จากเทพองค์ไหนๆก็ได้ตามอิสระ เวทย์เดิมๆก็ยังคงอยู่ เช่น การแปลงร่าง (Transform) เรียกผู้ช่วยมาต่อสู้ (Summon) การเดินทางข้ามเมืองในพริบตาก็ยังมีอยู่เช่นเคย โดยอาศัยพลัง Teleport Stone ที่จะมีให้ตามเมืองต่างๆ แต่ยังไงก็ตามเวทย์นั้นก็ใช้ได้อย่างไม่ได้เต็มที่สักเท่าไรนับตั้งแต่เริ่มเกม จะได้ใช้กันได้สบายอีกทีก็ต่อเมื่อมี Skill Mana Regenerate ซึ่งจะหาเรียนได้จาก NPC ในที่ไกลจากตอนเริ่มมาก และ Spell Scroll ก็ยังต้องใช้ Mana ในการ Cast อีกด้วย ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำหรับการใช้เวทย์ ดังนั้นในตอนเริ่มต้นผู้เล่นต่างๆจึงต้องเริ่มเล่นกันด้วยสายนักสู้ หรือนักธนูกันเป็นหลัก Hero ยังสามารถทำงานกับสิ่งของต่างๆในเกมได้ง่ายขึ้น เช่น การย่างเนื้อ การปรุงอาหาร การปรุงยา ตีดาบ ที่มี หน้าต่างจัดการและทำได้ง่ายและจำนวนมากในทีเดียว (ที่ภาคก่อนๆนั้นต้องทำทีละชิ้น) วันเวลาก็ยังมีอยู่เช่นเคย ซึ่งอาจจะมีผลกับแค่บางเควสที่กำหนดวันในการทำให้สำเร็จ แต่อย่างไรก็ตามสามารถเข้าเตียงเพื่อนอนหลับให้เป็นเช้าวันใหม่ที่สดใสได้ ปัญหาเดิมๆที่น่ารำคาญของซีรีส์นี้ก็ยังคงอยู่ นั้นก็คือ การกินน้ำยาเพิ่มพลังต่างๆ ระหว่างในการต่อสู้เมื่อคุณเรียกใช้น้ำยา ตัวละครเราจะหยุดชงัก และยกขวดขึ้นมาดื่มจนอิ่มก่อน (กลัวสำลัก) ซึ่งค่อนข้างลำบากในการที่จะลุยโลด เมื่อโดนโจมตีเกือบจะตายแล้วจะ ต้องหนีถอยศัตรูออกมาไกลๆก่อนเพื่อเติมพลังเป็นประจำ และถ้าโดนโจมตีก็จะถูกขัดจังหวะเช่นกัน Graphic แน่นอนว่าภาพอลังการล้านเจ็ดอย่างแน่นอน จากฉากต่างๆที่ทำกันอย่างปราณีต มีรายละเอียดโมเดลค่อนข้างสูง และ Texture ที่ใช้ก็มีแต่ Bump Mapping รวมทั้งเกมเพิ่ม Post Processing เช่น Glow / Depth of Field ทำให้ภาพดูสมจริงยิ่งขึ้น ผลจากการที่เปลี่ยน engine ใหม่นี้เอง ทำให้ใช้ Middle-Ware ชื่อดังมากมาย เช่น Speed Tree (ช่วยสร้างต้นไม้อย่างรวดเร็วแบบเดียวกับที่ใช้ใน TES: Oblivion) Ageia Physic (ระบบ Physic ที่พยายามจะดันการ์ด Physic นั้นเอง) Emotion (ระบบทำหน้าตาของตัวละครต่างๆให้แสดงความรู้สึก) ซึ่งทำให้กินทรัพยากรเครื่องค่อนข้างจะสูงถึงสูงมาก และใช้ หน่วยความจำ ขั้นต่ำถึง 1 GB และถ้าเปิดกันสุดๆเกมก็ใช้เกือบจะถึง 1.5GB เลยทีเดียว (ไม่รวมโปรแกรมในระบบ OS อื่นๆ) ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโลกที่ใหญ่ขึ้นเกือบ 3 เท่าจากภาคก่อนๆที่เดินกันทั่งวันก็ยังไม่ทั่วเลย Sound ดนตรีคงเอกลักษณ์เดิมไม่เปลี่ยนสำหรับซีรีส์ของ Gothic และมีดนตรีเก่านำมาสร้างสรรค์ใหม่ด้วย สำหรับบทสนธนานั้นมี เสียงคนพูด ตลอดหมดทุกบท ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทไหนในโลก แต่เกมก็ไม่ได้สนับสนุนระบบเสียงแบบ EAX ทำให้เมื่อเข้าไปยังในถ่ำหรือตึก จึงไม่มีเสียงสะท้อนแบบ Engine เก่า เสียง Effect ต่างๆ เช่น เสียงฟันดาบนั้นเบาจนแทบไม่ได้ยิน และบาง Effect ก็ขาดหายไป ผลสรุปจากความประทับใจใน Gothic ]|[ * กลับมายังเอกลักษณ์การเล่นของ RPG ที่เป็นโลกจริง ที่มีชีวิต และมีเนื้อเรื่องที่น่าติดตามเข้มข้น โดยที่เปิดอิสระแก่ผู้เล่น แต่เนื่องจาก โลกที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้การเล่นได้เปลี่ยนไปด้วย * การเล่นที่ง่ายขึ้น ระบบการควบคุมที่คุ้นมือกันดี * มีสิ่งให้ทำมากมาย * ภาพสวยงาม รายละเอียดโมเดลสูง * โลกที่กว้างมาก มีเมืองมากมาย มีตัวละครมากมาย มี Quest ให้ทำมากมาย
ปัญหาที่เกมควรจะแก้ ซึ่งบางอย่างมี patch ออกแก้แล้ว - ความเข้มข้นของ Quest ที่น้อยลง และเน้นจำนวนที่มีอยู่มากแทน แต่ก็พอจะทำให้เล่นได้ไม่เบื่อ - บาง Quest ไม่บอกรายละเอียด จึงต้องเดากันเอง เพราะส่วนหนึ่ง ขาด NPC แนะนำเมือง อย่างภาคก่อนๆ - ระบบการกินน้ำยาที่ต้องหยุดทำอย่างอื่นเพื่อกินก่อน และยกเลิกเมื่อโดนขัดจังหวะ - เวทย์เสีย Mana ไปฟรีเมื่อโดนขัดจังหวะ - เกมยังมี Bug มาก เช่น เมื่อ Load/Save บ่อยๆ จะทำให้เกมเกิดค้าง / Bug ตัวละครติด ออกไม่ได้ - ตัวละคร NPC ไม่ตอบสนองต่อ Quest - ระบบไม่มี Chat Log เพื่อดูคำพูดของตัวละคร NPC ต่างๆที่ได้คุยกันไปแล้วที่ไม่มีใน Quest - เกมขาดการประหยัดและความฉลาก (Optimization) ในการใช้ทรัพยากรมาก ยังไงก็ตาม ขอให้ Gothic 3 เป็นคะแนนเป็น Medium 3 / 5 เพราะปัญหาด้าน Bug เล็กๆน้อยๆกวนใจ สำหรับแฟนๆ RPG - Action นั้น ไม่ควรจะพลาดเกมนี้ แน่นอน ถึงแม้เกมจะมีปัญหา แต่เนื้อเรื่องก็น่าติดตามต่อเลยทีเดียวนะ










 ดูรูปอีก คลิกที่นี่ได้เลย ...















Create Date : 04 พฤศจิกายน 2549 |
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2549 13:44:34 น. |
|
7 comments
|
Counter : 5544 Pageviews. |
 |
|
เกม นี้ ใช้สเป็ค เครื่อง เท่าไหร่อะ คับ