ใช้ใจของเธอค้นหาใจของฉัน
用你的心、寻找我的心!
|
||||
เลียบกำแพงเมืองจีน...หลงเหมินสือคู龙门石窟 หลงเหมินสือคู龙门石窟 ผู้เขียนจะแนะนำสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจีน ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองลั่วหยาง洛阳 มณฑลเหอหนาน 河南省 คือหลงเหมินสือคู 龍門石窟 หรือถ้ำหินผาหลงเหมิน ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังในด้านประติมากรรมการแกะสลักหินพระพุทธรูปตามหน้าผาหินตั้งแต่สมัยจีนยุคโบราณ หลงเหมินสือคู แปลเป็นภาษาไทย คือ ถ้ำผาประตูมังกรเป็นพุทธสถานที่เก่าแก่ และงดงามอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งที่มีคุณค่าทางศิลปะที่มีชื่อเสียงหนึ่งในสามแหล่งประติมากรรมโบราณของจีน ที่ประกอบด้วย ถ้ำผาม่อเกา ถ้ำผาหลงเหมิน และถ้ำผาหยุนกัง ที่มีชื่อเสียงที่สุดของจีน หลงเหมินสือคู ตั้งอยู่ห่างจากเมืองลั่วหยางไปทางทิศใต้ประมาณ 13 อยู่ระหว่างภูเขาเซียงซานทางทิศตะวันออก และภูเขาหลงเหมินทางทิศตะวันตก หันหน้าออกสู่ริมฝั่งแม่น้ำอี้ พื้นที่บริเวณกลุ่มถ้ำมีความยาวจากทิศเหนือจรดทิศใต้ประมาณ 1 กิโลเมตร สองฝั่งของแม่น้ำเต็มไปด้วยปฏิมากรรมที่คนสมัยโบราณถ่ายทอดความศรัทธาความเชื่อในพุทธศาสนาผ่านการแกะสลักพระพุทธรูปในแบบต่าง ๆ หลงเหมินสือคูเริ่มสร้างโดยพระเจ้าเสี้ยวเหวินตี้孝文帝 ในสมัยราชวงศ์เว่ยเหนือ北魏 (ปีพุทธศักราช 493) ใช้เวลาแกะสลัก ประมาณ 400 กว่าปี ตลอดแนวสองข้างทางผาหินที่ทอดยาวกว่าหนึ่งกิโลเมตร มีถ้ำแท่นบูชากว่า 2,300 กว่าถ้ำ มีรูปปั้นแกะสลักน้อยใหญ่กว่าแสนองค์ มีศิลาจารึกสลักอักษรกว่าสามแสนอักษร ศิลาจารึกสลักอักษรจีนและหมายเหตุบันทึกต่างๆอีก 2,800 กว่าหลัก รวมถึงเจดีย์พุทธ 60 กว่าองค์ สองริมฝั่งแม่น้ำเต็มไปด้วยถ้ำหินสลักจำนวนนับไม่ถ้วนมีรูปแบบงดงามและยิ่งใหญ่ ซึ่งศิลปะทางพุทธศิลป์เป็นที่เลื่องชื่อว่ามีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของจีน ศิลปะเหล่านี้ จัดเป็นรูปแบบศิลปะที่ช่วงสมัยเว่ยเหนือ และสมัยราชวงศ์ถัง ซึ่งเป็นศิลปะแบบจีนในยุคเริ่มแรก หลงเหมินสือคู ถูกกล่าวขานว่าเป็น ป่าศิลาจารึกโบราณ古碑林 เนื้อหาที่แกะสลักบนหินได้รับอิทธิพลจากพุทธศาสนา ซึ่งปรากฏเด่นชัดในรูปประติมากรรมแกะสลักเป็นรูปต่าง ๆ ตามความเชื่อในสมัยนั้น ที่พบเห็นไม่มากนัก กล่าวกันว่าประติมากรรรมและจารึกเหล่านั้น นอกจากจะสะท้อนความเชื่อด้านศาสนา ยังได้สะท้อนให้เห็นถึงการเมือง เศรษฐกิจ การดนตรี การแพทย์ วัฒนธรรมและประเพณีในสมัยโบราณ รวมถึงการพัฒนาเปลี่ยนแปลงของอาณาจักร ดังนั้นศิลปะถ้ำผาหินหลงเหมินสือคูได้แสดงให้เห็นความที่ยิ่งใหญ่ของอารยธรรมจีนโบราณอย่างเด่นชัดที่สุดอีกแห่งหนึ่ง แม้ว่าหลงเหมินสือคู มีพระพุทธรูปจำนวนมาก แต่ที่โดดเด่นที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุด และถือว่าเป็นศิลปะชิ้นเอก คือ พระพุทธรูปพระไวโรจนะ 卢舍那 ซึ่งประดิษฐานอยู่ตรงกึ่งกลางของ วัดเฟิ่งเซียน 奉先寺 อยู่ทางทิศตะวันตกของแม่น้ำ มีขนาดสูงกว่า 17 เมตร พระพักตร์ของ พระไวโรจนะอิ่มเอิบสมบูรณ์ ตามแบบฉบับของศิลปะในสมัยราชวงศ์ถัง ล้อมรอบด้วยสานุศิษย์ และ ท้าวจตุโลกบาล ตั้งอยู่ที่ช่องเขาขนาดใหญ่ที่สุดในบริเวณถ้ำผาหลงเหมิน และเป็นตัวแทนของศิลปะ หินสลักแห่งราชวงศ์ถัง ทั้งนี้มีตำนานกล่าวกันว่า พระพักตร์ของพระไวโรจนะนั้นสร้างโดยใช้แบบจากพระพักตร์ของพระนางอู๋เจ๋อเทียน武则天 หรือพระนางบูเช็กเทียน จักรพรรดินีพระองค์แรกและองค์เดียวของประวัติศาสตร์จีน แต่ต่อมามีนักวิชาการของจีนได้ออกมาคัดค้านว่าไม่เห็นด้วยว่าแบบพระพักตร์ของพระพุทธรูปไม่ใช่พระพักตร์ของพระนางบูเช็กเทียนแน่นอน โดยให้เหตุผลว่าพระพักตร์พระพุทธรูปที่บริสุทธิ์และอิ่มเอิบดั่งดวงจันทรานั้น ความจริงเป็นกฎเกณฑ์การสลักพระพุทธรูปในสมัยถังอยู่แล้ว และถือเป็นกฎเกณฑ์ซึ่งช่างแกะสลักทุกคนในสมัยนั้นเคารพนับถือและปฏิบัติตาม ซึ่งในสมัยจีนโบราณทั้งวัฒนธรรมและประเพณีจีน สตรีไม่อาจมีสิทธิทัดเทียมกับบุรุษจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะนำแบบสตรีมาเป็นแบบสร้างพระพุทธรูป และอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญ คือการแกะสลักพระพุทธรูปองค์นี้ก็เสร็จสิ้นไปตั้งแต่ปี ค.ศ.675 ก่อนที่พระนางบูเช็กเทียน จะเปลี่ยนชื่อราชวงศ์จากถัง เป็น ราชวงศ์โจว ถึง 15 ปี จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้แบบพระพักตร์มาจากพระนาง นอกจากนี้ หลงเหมินสือคูยังได้รับการยกย่องว่ามีความสำคัญ ไม่ใช่เป็นเพียงพุทธสถานที่สำคัญของชาวจีน แต่ยังเป็นสถานที่สำคัญของมนุษยชาติทั่วโลกอีกด้วย กล่าวคือ หลงเหมินสือคูได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 24 เมื่อปี พ.ศ. 2543 ที่เมืองแคนส์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งกล่าวได้ว่า หลงเหมินสือคู ได้เป็นตัวแทนผลงานที่สร้างสรรค์อันชาญฉลาดของมนุษย์ เป็นสิ่งที่มีอิทธิพล ที่ทำให้เกิดแรงผลักดันการพัฒนาด้านการออกแบบสถาปัตยกรรม วัฒนธรรมของมนุษย์ หลงเหมินสือคู อาจเป็นแค่สถานที่ห่างไกลแห่งหนึ่งที่ใครหลาย ๆ คนอาจไม่เคยรู้จัก แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ถ้ำประตูมังกรแห่งนี้ ได้เดินทางผ่านกระแสแห่งกาลเวลา ตั้งแต่ครั้นที่พุทธศานายังรุ่งเรืองในอดีต ได้เป็นบันไดถ่ายทอดจิตวิญญาณของบรรพชนสืบต่อกันมาให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ ซึมซาบกับมรดกทางวัฒนธรรมที่จรรโลงจิตใจของลูกหลานสืบมา *************************************** ข้อมูลอ้างอิง //th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99 //zh.wikipedia.org/wiki/%E9%BE%99%E9%97%A8%E7%9F%B3%E7%AA%9F //www.palungdham.com/t631.html //thaniyo.brinkster.net/t631.html |
grinny2545
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ก็เพราะกาลเวลาไม่หยุดนิ่ง เราจึงต้องวิ่งแข่งเพื่อชัยชนะ และความฝันของเราเอง Group Blog | |||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
พบแต่สิ่ง ดีๆ สนุกสนาน
จิตเบิกบาน กายแข็ง- แรงทุกกาล
แม้คืนวัน ผันผ่าน มิร่วงโรย ให้เจริญๆอยู่กับประเทศไทยตลอดไป