ช้าง Chang: A Drama of the Wilderness ช้าง หรือ Chang: A Drama of the Wilderness เป็นภาพยนตร์สารคดี เรื่องแรกที่เข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย โดยบริษัท พาราเมาท์ กำกับโดย มีเรียน ซี. คูเปอร์ เมื่อ พ.ศ. 2468 ใช้เวลาถ่ายทำนานถึงหนึ่งปีครึ่ง ที่จังหวัดน่าน แพร่ พัทลุง สงขลา ตรัง สุราษฎร์ธานี ชุมพร มีการนำช้างมาเข้าฉากถึง 400 เชือก การถ่ายทำได้รับการสนับสนุนจากสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และนายเซียวซองอ๊วน สีบุญเรือนภาพยนตร์เรื่อง ช้าง ถ่ายทำแล้วเสร็จออกฉายเมื่อ พ.ศ. 2470 หลังจากออกฉายที่สหรัฐอเมริกา ก็ได้รับความสนใจเป็นอันมาก ได้รับการเสนอชื่อเข้าประกวดรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 1 ประจำปี ค.ศ. 1927 ในสาขา ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม "การผลิตที่เป็นเอกลักษณ์ และมีศิลปะ" (en:Academy Award for Unique and Artistic Production)ผู้กำกับ มีเรียน ซี. คูเปอร์ และ ช่างภาพ เออร์เนสต์ สโคแซค ต่อมาได้ร่วมงานกันอีกในการสร้างภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก คิงคอง (1933)***************************ผู้กำกับ มีเรียน ซี. คูเปอร์อำนวยการสร้าง มีเรียน ซี. คูเปอร์บทภาพยนตร์ Achmed Abdullahกำกับภาพ Ernest B. Schoedsackตัดต่อ Louis R. Loefflerจัดจำหน่าย พาราเมาท์วันที่เข้าฉาย 29 เมษายน พ.ศ. 2470ความยาว 64 นาทีภาษา ไทย***************************ภาพยนตร์จาก Youtube โดยคุณ mykeawja ที่มา : //www.youtube.com/user/mykeawja Create Date :25 กุมภาพันธ์ 2553 Last Update :25 กุมภาพันธ์ 2553 19:39:59 น. Counter : Pageviews. Comments :3 twitter google Comment * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก น่าสนใจครับ แต่ลิงค์ youtube เหมือนใช้ไม่ได้ครับ โดย: จอมเยอะเล่า 25 กุมภาพันธ์ 2553 21:23:12 น.ตอนที่ดูเรื่องนี้ครั้งแรกเมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว คือช่วงที่ทำวิทยานิพนธ์น่ะค่ะ (พูดถึงเรื่องนี้ไว้ในวิทยานิพนธ์ด้วยค่ะ) ประทับใจการแสดงของผู้แสดงในเรื่องที่สุดเลยค่ะ เป็นธรรมชาติจนเรียกได้ว่าไม่ใช่การแสดงเลยแหละ ดูครั้งแรกยังคิดว่าเป็นสารคดีเลยค่ะ แต่ดูไปๆ เอ๊ะ มันมีความขัดแย้ง มีปัญหา มีการคลี่คลายปัญหาด้วยแฮะ น่าจะเป็นดราม่ามากกว่าที่จริงว่าไปแล้วเรื่องนี้ก้ำกึ่งระหว่างสารคดีกับดราม่านะคะ ถ้าเรียกว่าเป็นสารคดีก็ถือว่าเป็นเรื่องแรกที่ผู้สร้างจากฮอลลีวู้ดเข้ามาถ่ายทำในเมืองสยาม ใช้นักแสดงชาวสยาม ถ้าจัดเป็นดราม่าก็เป็นเรื่องที่ ๒ ต่อจาก นางสาวสุวรรณ ซึ่งเป็นเรื่องแรก น่าเสียดายที่เรื่อง ช้าง สร้างแล้วก็เข้าฉายในกรุงสยามหลังจากที่มีผู้สร้างไทยเริ่มสร้างหนังกันหลายเรื่องแล้ว ตอนที่เข้าฉายถึงได้ไม่ค่อยจะฮือฮากันเท่าไหร่ค่ะ ถ้าไม่ได้คุณ โดม สุขวงศ์ บางทีคนไทยรุ่นหลังๆ อาจไม่รู้จักเรื่องนี้เลยก็เป็นได้คุณโตมิฯ พูดถึงเรื่องช้าง ตัวเองพูดถึงเรื่องภาพยนตร์ไปซะนี่ โดย: กุลธิดา (kdunagin ) 26 กุมภาพันธ์ 2553 0:57:48 น.ตอนแรกที่ดู เพราะเขาบอกว่ามันเป็นสารคดี แต่จริงๆแล้ว ดราม่ามากกว่า แต่ที่เลี่ยงใช้คำว่าสารคดี อาจจะเพื่อประโยชน์ในการเข้าชิงรางวัลออสการ์ ในตอนนั้นก็เป็นได้ค่ะ สารคดีประเภทไหนให้งง นัง Bimbo วิ่งหนีช้างแหกปากร้องได้ขนาดนั้น ความเป็นจริงมันต้องตายเพราะถูกช้างเหยียบไปแล้วค่ะ ไม่มีทางหนีตามได้ทัน หนังเรื่องนี้ อธิบายคนไทยสมัยรัชกาลที่หกที่เจ็ดชัดเจนมาก พูดถึงความฉลาด และวิถีชีวิตคน ...เห็นแล้วก็..กรี๊ด หลายฉากอยู่เหมือนกัน ที่สำคัญ ภรรยา ครู"จันตุ้ย" สวยมากๆ เลยค่ะ โดย: โตมิโต กูโชว์ดะ 27 กุมภาพันธ์ 2553 6:36:46 น.
โดย: จอมเยอะเล่า 25 กุมภาพันธ์ 2553 21:23:12 น.
ที่จริงว่าไปแล้วเรื่องนี้ก้ำกึ่งระหว่างสารคดีกับดราม่านะคะ ถ้าเรียกว่าเป็นสารคดีก็ถือว่าเป็นเรื่องแรกที่ผู้สร้างจากฮอลลีวู้ดเข้ามาถ่ายทำในเมืองสยาม ใช้นักแสดงชาวสยาม ถ้าจัดเป็นดราม่าก็เป็นเรื่องที่ ๒ ต่อจาก นางสาวสุวรรณ ซึ่งเป็นเรื่องแรก น่าเสียดายที่เรื่อง ช้าง สร้างแล้วก็เข้าฉายในกรุงสยามหลังจากที่มีผู้สร้างไทยเริ่มสร้างหนังกันหลายเรื่องแล้ว ตอนที่เข้าฉายถึงได้ไม่ค่อยจะฮือฮากันเท่าไหร่ค่ะ ถ้าไม่ได้คุณ โดม สุขวงศ์ บางทีคนไทยรุ่นหลังๆ อาจไม่รู้จักเรื่องนี้เลยก็เป็นได้
คุณโตมิฯ พูดถึงเรื่องช้าง ตัวเองพูดถึงเรื่องภาพยนตร์ไปซะนี่
โดย: กุลธิดา (kdunagin ) 26 กุมภาพันธ์ 2553 0:57:48 น.
แต่จริงๆแล้ว ดราม่ามากกว่า แต่ที่เลี่ยงใช้คำว่าสารคดี อาจจะเพื่อประโยชน์ในการเข้าชิงรางวัลออสการ์ ในตอนนั้นก็เป็นได้ค่ะ
สารคดีประเภทไหนให้งง นัง Bimbo วิ่งหนีช้างแหกปากร้องได้ขนาดนั้น ความเป็นจริงมันต้องตายเพราะถูกช้างเหยียบไปแล้วค่ะ ไม่มีทางหนีตามได้ทัน
หนังเรื่องนี้ อธิบายคนไทยสมัยรัชกาลที่หกที่เจ็ดชัดเจนมาก พูดถึงความฉลาด และวิถีชีวิตคน ...เห็นแล้วก็..กรี๊ด หลายฉากอยู่เหมือนกัน ที่สำคัญ ภรรยา ครู"จันตุ้ย" สวยมากๆ เลยค่ะ
โดย: โตมิโต กูโชว์ดะ 27 กุมภาพันธ์ 2553 6:36:46 น.