สิ่งต่างๆเหล่านี้เพิ่มความสูงได้จริงหรือไม่

คนที่เป็นพ่อเป็นแม่แทบทุกคนปรารถนาให้ลูกของตัวเอง มีความสูงในระดับเดียวกันกับเพื่อนๆหรือสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ควรจะเป็น คงไม่มีใครอยากให้ลูกตัวเตี้ยกว่ามาตรฐาน ด้วยความคิดที่ว่าความสูงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับบุคลิกภาพ ตามมาด้วยการนำมาซึ่งรายได้ในหลากหลายเส้นทางอาชีพ

รู้ไว้ใช่ว่ามีหลายสิ่งที่เป็นตัวกำหนดความสูงของเด็ก

ปัจจัยสำคัญที่ควบคุมความสูง

1. ยีน(gene) ยีนที่ควบคุมเกี่ยวกับความสูงมีหลายตัว ซึ่งมีผลต่อความสูง

2. ฮอร์โมน(hormone) ฮอร์โมนสำคัญซึ่งกระตุ้นความสูงในวัยเด็กคือ growth hormone (GH)และ insulin-like growth factor-1 (IGF-1) ฮอร์โมนทั้ง 2 ตัวนี้กระตุ้นกระดูกบริเวณ growth plate ทำให้มีการขยายตัว มีผลให้กระดูกยาวขึ้น

นอกจากนี้ ฮอร์โมนเพศหญิง(estrogen)มีบทบาทสำคัญในการปิดของกระดูก (closure of epiphyseal plate)ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย

หากส่วนของกระดูกเข้าสู่ช่วงใกล้หยุดการเจริญเติบโต(Latent phase)จะสังเกตได้จาก เด็กเริ่มเป็นหนุ่มเป็นสาว เช่นการมีประจำเดือน หรือมีเสียงแตกหนุ่มในผู้ชาย

3. โภชนาการ อาหารมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการเจริญเติบโตของร่างกายรวมถึงกระดูก สารอาหารที่สร้างเสริมกระดูกจึงมีความสำคัญต่อส่วนสูง ส่วนประกอบสำคัญของกระดูกคือ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และโปรตีนในเนื้อกระดูก(bone matrix)

3.1 โปรตีน การได้รับโปรตีนเป็นจำนวนมากในชีวิตประจำวัน จะทำให้เด็กมีโอกาสเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ การศึกษาที่ตีพิมพ์ในปี 2008 เรื่อง "Behavioral and Brain Functions" รายงานว่า ภาวะขาดสารอาหารประเภทโปรตีน ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดการสูญเสียกล้ามเนื้อและเกิดภาวะแคระแกรน แต่อาจส่งผลเสียต่อระบบประสาทด้านความรู้ความเข้าใจในเด็ก

การบริโภคโปรตีนจากนม เป็นวิธีที่ง่ายและมีคุณค่าทางโภชนาการสำหรับเด็ก ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการโปรตีนและกรดอะมิโน ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเจริญเติบโตของเด็ก ดังนั้นโปรตีนที่เพียงพอ จึงมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของกระดูกอย่างมาก

มีข้อบ่งชี้ว่า การได้รับโปรตีนอย่างเพียงพอในช่วงปีแรกของพัฒนาการในเด็ก จะสามารถเพิ่มความสูงได้ในเชิงบวก

ในประเทศญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประชากรมีการบริโภคโปรตีนจากปลามากขึ้น จึงมีความสูงเฉลี่ยของทั้งประเทศเพิ่มขึ้นสามนิ้ว(1 นิ้วเท่ากับ 2.5 ซม.)

3.2 แคลเซียม มีความสำคัญต่อมวลกระดูกและการขยายตัวของกระดูก โดยเฉพาะในวัยเด็กที่กำลังเจริญเติบโต และมีความสำคัญมากขึ้นในช่วงวัยรุ่นที่เริ่มมีช่วงโตเร็ว(growth spurt) โดยจะมีการสะสมมวลกระดูกเพิ่มขึ้นอย่างมาก

การศึกษาแสดงให้เห็นว่า ช่วงวัยรุ่นมีอัตราสูงสุดในการสะสมแคลเซียมเข้ากระดูก ในเด็กชายประมาณ 360 มก./วัน ในเด็กหญิงประมาณ 280 มก./วัน

อายุเฉลี่ยที่มีการสะสมแคลเซียมในอัตราสูงสุดคือ 14 ปีในเพศชาย และ 12.5 ปีในเพศหญิง

แคลเซียมมีความจำเป็นต่อการสร้างความหนาแน่นของกระดูก แคลเซียมจะถูกดูดซึมในลำไส้ ร่างกายต้องการวิตามินดีจากแสงแดด แคลเซียมมีอยู่ในผักหลายชนิดเช่นกัน แหล่งที่ดีที่สุดคือ นม

ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีที่สุดก่อนที่จะมีอายุ 24 ปี นี่เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการเพิ่มความสูง ด้วยการดื่มนมและบริโภคอาหารที่อุดมด้วยแคลเซียมอื่น ๆ

หลังจากอายุ 24 ปี กระดูกจะหลอมรวมกันในร่างกายและไม่เจริญเติบโตในแนวตั้ง(Vertical growth) ซึ่งจะถูกควบคุมโดยฮอร์โมน Growth hormone ที่หลั่งจากต่อมใต้สมองส่วนหน้า

อาหารที่มีแคลเซียมปริมาณมากและดูดซึมได้ดีที่สุด คือ นมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีส

อาหารที่มีแคลเซียมสูงอย่างอื่นได้แก่ กุ้งแห้ง ปลากรอบตัวเล็กๆ ที่กินทั้งก้าง เต้าหู้แข็ง เป็นต้น

3.3 วิตามินดี ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสเพิ่มขึ้นในลำไส้เล็กและทำหน้าที่ส่งแคลเซียมไปยังกระดูก

4. การออกกำลังกาย(exercise) จะช่วยทำให้ระบบการหลั่งฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโต(Growth hormone)เป็นไปตามปกติ

ความสูงของมนุษย์ถูกกำหนดโดยพันธุกรรม 60-85% ที่เหลือคือ สิ่งแวดล้อม เช่น อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ

หากได้รับสารอาหารเพียงพอที่อาจจะถึงความสูงที่กำหนดไว้ทางพันธุกรรม เด็กอาจสูงขึ้นอีกเล็กน้อย

สิ่งเหล่านี้เพิ่มความสูงได้จริงหรือไม่

1.การผ่าตัดเพิ่มความสูงหลังจากอายุ 20 ปี

การผ่าตัดที่มีความเจ็บปวดและมีราคาแพง จะมีความเสี่ยงสูงในการฟื้นตัวกินเวลายาวนาน เรียกว่า การเสื่อมสภาพของการสลายตัว(distraction osteogenesis ) ซึ่งจะทำลาย tibia และ fibula(ช่วงขาบริเวณหน้าแข้ง) แล้วติดตั้งอุปกรณ์เพื่อให้แยกออกจากกัน

หลังผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย ร่างกายจะไม่สามารถรับน้ำหนักกระดูกได้และต้องออกกำลังกายเป็นเวลา 1-2 ชั่วโมงทุกวัน เพื่อไม่ให้กระดูกแข็งตัว ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาเป็นเดือนๆหลังจากสร้างกระดูกใหม่และจะมีช่วงเวลาการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกอีก 6 เดือน ซึ่งกระบวนการทั้งหมดอาจใช้เวลาเกือบ 2 ปี

ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดที่อังกฤษ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,500,000 บาท ต่อความสูง 3 นิ้ว

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

กระดูกใหม่อาจไม่แข็งแรงและมีโอกาสแตกหักภายใน 2-3 เดือน

กระดูกใหม่อาจไม่เกิดขึ้นในมุมที่เหมาะสม

เสี่ยงต่อการติดเชื้อ

เกิดความเสียหายของเส้นประสาท

โดยปกติการผ่าตัดแบบนี้ คือการแก้ไขกรณีที่ขาข้างหนึ่ง สั้นกว่าอีก

ข้างอย่างชัดเจน

2.การยืดกระดูกสันหลังด้วยเครื่องมือต่างๆ

การแขวนและยืดตัว สามารถทำให้กระดูกอ่อนบีบอัดทำให้สูงขึ้นเล็กน้อย จนกว่ากระดูกสันหลังจะถูกบีบอัดอีกครั้ง หลังจากการยืดหมดไป ความสูงจะคงเท่าเดิมเหมือนตอนก่อนยืดตัว

3.การกินเวย์โปรตีน(whey protein)

เวย์โปรตีนสกัดจากนมและทำเป็นผงโปรตีนเวย์ แม้ว่าร่างกายของเด็ก ๆ สามารถทำให้กรดอะมิโนบางตัว นำมาใช้ในระหว่างการเจริญเติบโต แต่กรดอะมิโนอื่น ๆ จะต้องได้มาจากแหล่งอาหาร เนื่องจากเวย์โปรตีนเป็นโปรตีนที่สมบูรณ์ จึงมีกรดอะมิโนจำเป็นทั้งหมดที่ร่างกายของเด็กต้องการในแต่ละวันเพื่อเพิ่มศักยภาพการเจริญเติบโต

เวย์และเคซีนเป็นโปรตีนหลักที่พบในนมวัว มีการศึกษาที่ตีพิมพ์ในปี 2554 ใน "Nestle Nutrition Workshop Series"

การศึกษานี้พบว่า การดื่มนมช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นประสาทในเด็ก และเวย์โปรตีนอาจช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อในเด็ก

แม้ว่าเวย์โปรตีนจะใช้เป็นอาหารเสริมประเภทโปรตีนในผู้ใหญ่ แต่ไม่ควรให้เด็กใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากแพทย์

American Academy of Pediatrics มีคำเตือนว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่ได้รับการควบคุมหรือทดสอบอย่างเข้มงวด อาจจะมีการปนเปื้อนด้วยส่วนผสมที่ไม่ปลอดภัย และมักไม่จำเป็นสำหรับเด็ก

4.Colostrum(น้ำนมเหลือง)

น้ำนมเหลืองเป็นของเหลวสีครีม ผลิตในช่วงการรีดนมครั้งแรกๆของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม คอลอสตรัมเป็นโภชนาการที่บริสุทธิ์ ประกอบด้วยอิมมูโนโกลบูลิน(immunoglobulin )หรือแอนติบอดี้(antibody) ซึ่งเป็นโปรตีนขนาดใหญ่ในระบบภูมิคุ้มกันที่ร่างกายมนุษย์สร้างขึ้น เพื่อตรวจจับและทำลายฤทธิ์ของสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย เช่น เชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส

น้ำนมเหลืองทำงานในลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อปกป้องร่างกายจากเชื้อโรค ส่วนใหญ่จะเข้าสู่ระบบผ่านเยื่อเมือกของลำไส้ ซึ่งเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส สิ่งสกปรกต่างๆ สารปนเปื้อนและสารก่อภูมิแพ้ มักจะถูกปนเปื้อนที่ลำไส้

ดร. เดวิด ไทเรลล์ แพทย์ชาวอังกฤษ แสดงให้เห็นว่า แอนติบอดี้หรืออิมมูโนโกลบูลิน ที่มีอยู่ในนมน้ำเหลืองจะไม่ถูกดูดซึม แต่ยังคงอยู่ในลำไส้

ระบบภูมิคุ้มกันเริ่มต้นทำงานที่ลำไส้ เพื่อสนับสนุนการทำงาน

ของอิมมูโนโกลบูลิน(immunoglobulin )หรือแอนติบอดี้(antibody) ที่เหมาะสม

จากคุณสมบัติของColostrum(น้ำนมเหลือง)ดังกล่าว จึงไม่มีส่วนช่วยเพิ่มความสูงใดๆในเด็กหรือวัยผู้ใหญ่แต่ประการใด แค่ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันเท่านั้นค่ะ

ที่มา

Does Whey Protein Help Children Grow Taller? | Healthy

Eating | SF Gatehealthyeating.sfgate.com › ... › Protein

How Does Calcium Help You Grow Taller? - StyleCrazewww.stylecraze.com › articles › calcium-...

Colostrum Functions Like Human Growth Hormone - Bodybuilding.com ...https://forum.bodybuilding.com › showt...

Growth hormone injections add height, but kids stay short - Medical News Todayhttps://www.medicalnewstoday.com › rel...

Is It Possible To Increase Your Height? - Forbeshttps://www.forbes.com › 2016/11/03 › i...

Create Date :24 เมษายน 2561 Last Update :18 พฤษภาคม 2561 0:13:05 น. Counter : 1684 Pageviews. Comments :0