bloggang.com mainmenu search


71: Into the Fire

Movie : 71: Into the Fire
Director: John H. Lee
Writer: John H. Lee, Lee Man-Hee, Kim Dong-Woo
Release Date : 16 Jun 2010 Runtime : 120 Min


"ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นจากเรื่องจริง"

เขาให้เครดิตของหนังไว้เช่นนั้น

71: Into the Fire คือ วีรกรรมประวัติศาสตร์ของเหล่านักเรียนทหาร ๗๑ คน ในเหตุการณ์การต่อสู้ที่โรงเรียนมัธยมหญิงโพฮาง วันที่ ๑๓ สิงหาคม ๑๙๕๐ โดยการรบยันครั้งนี้ได้ทำให้ทหารเกาหลีเหนือบุกเข้าโพฮางได้ล่าช้าไปกว่า ๑๑ ชั่วโมง ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้มีส่วนช่วยให้ทหารเกาหลีใต้และอเมริกามีเวลาตั้งรับและสกัดกั้นการรุกรานของเกาหลีเหนือจนสามารถผลักดันเกาหลีเหนือออกไปจากโพฮางได้สำเร็จในวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๑๙๕๐





นั่นคงเป็น "เรื่องจริง" ที่ว่า แต่รายละเอียดเหตุการณ์ ตัวละคร ฉากแอคชั่นจะห่างไกล-ใกล้เคียง ความบีบคั้นในอารมณ์จะมากน้อย จะสมจริงหรือโอเว่อร์ก็ไม่รู้กับเขาหรอกนะ เพราะแม้แต่ประวัติศาสตร์ไทยของเราเองยังสุดแสนจะไม่แข็งแรง ย่อมไม่สันทัดสักนิดในประวัติศาสตร์เกาหลี




ดูเหมือนหนังจะออกมาผิดเพี้ยนไปจากเจตนาสักเล็กน้อย (เดานะ) เพราะจากโปสเตอร์ที่เห็นทำให้เข้าใจว่าพระเอกคือ ควอนซังวู และจากเรื่องย่อที่อ่านใน AsianWiki ก็ถูกเกริ่นนำด้วยตัวของ กัปโจ (ควอนซังวู) นักเรียนที่เพิ่งถูกตัดสินโทษในข้อหาฆ่าคนตายแต่ถูกส่งมาเป็นทหารอาสาออกรบแทนการส่งเข้าสถานกักกัน เพราะดูแล้วสนามรบในสงครามน่าจะช่วยดัดสันดานได้ดีกว่าเยอะ แม้ว่าควอนซังวูนั้นจะหน้าตาอาวุโสล้ำหน้าคำว่านักเรียน/นักศึกษาไปมากพอสมควร อย่างที่ในหนังก็มีตัวละครทักนั่นแหละว่า "นายเป็นนักเรียนแน่หรือ"

แต่โดยความเป็นจริงแล้ว เนื้อหาของหนังดูจะถูกดำเนินเรื่องไปด้วยตัวละคร โอจุงบุม ที่รับบทโดย ท็อป บิ๊กแบง





เรื่องย่อ 71 into the fire

หรือตามที่มีคนตั้งชื่อภาษาไทยไว้ "สมรภูมิไฟล้างแผ่นดิน"

หลังจากวันเริ่มต้นสงคราเกาหลี ๒๕ มิถุนายน ๑๙๕๐ ที่เป็นการขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือ-ใต้อย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกหลังสงครามโลกครั้งที่สอง พื้นที่โดยรอบโพฮางมีแต่การปะทะกันดุเดือด ๔๐ วันต่อมา กองทัพเกาหลีใต้ได้รับคำสั่งให้ล่าถอย จนไม่มีที่ไหนอีกแล้วจะให้ถอยไปได้อีก สิ่งที่ทำได้ตอนนี้มีเพียงการตั้งรับรบยันเอาไว้เท่านั้น




ปาร์คมูรัง (ชาซึงวอน) นายทหารผู้บังคับบัญชา "หน่วย 766" ของเกาหลีเหนือ (ไม่รู้ยศอะไรแต่ต่อไปนี้จะเรียกว่า "สหายปาร์ค") เขาได้รับคำสั่งให้นำกำลังทหารไปสมทบกับหน่วยทหารอื่นๆ ที่ด่านแม่น้ำนักดง เพื่อจะโหมโจมตีและบุกเข้ายึดเมืองพูซาน แต่สหายปาร์คก็มีเหตุผลบางอย่างที่เป็นความดื้อรั้นอย่างหนักแน่นและเชื่อว่าเขามีสิทธิจะตัดสินใจได้ในสถานการณ์นี้ว่าจะนำพาทหารของเขาออกสู้รบอย่างไร เขาจึงไม่สนด่านแม่น้ำนักดง แต่มุ่งมั่นในการสั่งเคลื่อนพลไปยังโพฮาง เพื่อจะตีตลบหลังทหารเกาหลีใต้และเข้ายึดเมืองพูซานให้สำเร็จ




ในขณะเดียวกัน กองพลที่ ๓ ภายใต้การบัญชาการของผู้กองกังซุกแด (คิมซึงวู) ที่ใช้โรงเรียนมัธยมสตรีโพฮางเป็นที่ตั้งชั่วคราว ก็ได้รับคำสั่งให้เคลื่อนกำลังทั้งหมดไปสมทบทำศึกแตกหักกับกองทัพเกาหลีเหนือที่ด่านแม่น้ำนักดง ทั้งที่ท่านนายพลก็รู้แก่ใจดีว่าด่านโพฮางก็มีความสำคัญต้องเฝ้าระวังเช่นกัน แต่เมื่อมีกำลังไม่เพียงพอ มันก็ไม่มีทางเลือก

ภาระหน้าที่นี้จึงตกเป็นของ เหล่าเด็กหนุ่มนักเรียนผู้ละทิ้งตำรามาเป็นทหารอาสาอยู่ก่อนแล้ว ๓ คน มีอาสามาเพิ่งใหม่ ๖๕ คน บวกกับนักเรียนจากโรงเรียนดัดสันดานอีก ๓ คน รวมทั้งสิ้นเป็น ๗๑ คน




"พวกเราเหมือนเด็กที่กำลังจะถูกแย่งประเทศ"

และโอจุงบุม คือเด็กผู้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าเด็กเหล่านี้ คนอื่นๆ พากันกังขา แต่ไม่ว่าจะยอมรับกับเหตุผลของผู้กองกังที่เลือกโอจุงบุมหรือไม่ การแต่งตั้งนี้ก็จะไม่เปลี่ยนแปลงและมีผลทันที

"ผมเป็นผู้บัญชาการไม่ได้ ผมไม่เคยจับปืนขึ้นเล็งมาก่อน"

"ให้ใจนายนำไป ถ้านายมีเจตนาที่บริสุทธิ์และจิตใจที่ดี ทุกคนก็จะเชื่อฟังนาย"

นายทหารผู้ใหญ่ฝึกฝนนักเรียนทหารในหลักสูตรระยะสั้นกุ๊ด
ก่อนจะพากันเคลื่อนพลจากไปสู่ด่านแม่น้ำนักดงอย่างเร่งรีบ

ทิ้งให้ทหารวัยนักเรียนจาก ๗๑ พ่อแม่ อยู่เฝ้าด่านโพฮางกันเพียงลำพังกับผู้นำวัยเดียวกันเพียง ๑ คน

ปัญหาย่อมมีแน่




เป็นธรรมดาที่พวกกุ๊ย ย่อมไม่ถูกชะตากับเด็กที่ดูแว๊บเดียวก็รู้ว่ามาจากดงผู้ดี กัปโจตัวกร่างในฐานะหัวโจกของกุ๊ย มีหรือจะเชื่อฟังโอจุงบุม ที่พวกเขาตั้งฉายาเรียกขานอย่างเสียดสีว่า "ท่านบัณทิต"

ภายนอกข้าศึกกำลังเคลื่อนพล มุ่งหน้าเข้ามารุกราน
ภายใน ระเบียบวินัย ความสัมพันธ์ การเชื่อฟังคำสั่งยังไม่ประสาน

ไม่ขุดหลุมฝัง ไม่หลั่งน้ำตา ไม่โกยดินกลบหน้าศพเพื่อนไม่รู้ว่า
ความตายนั้นนำมาซึ่งความเจ็บปวด

ไม่ว่าพวกเราจะเป็นฝ่ายฆ่า หรือถูกฆ่า

"ผมเคยนึกว่าทหารข้าศึกน่ะ... เป็นปีศาจที่มีเขา แต่ว่า...
พวกเขาร้องหาแม่... เหมือนที่พวกเราเคยร้องเหมือนกัน"


นั่นเป็นส่วนหนึ่งในเนื้อความจดหมายที่โอจุงบุมเขียนถึงแม่




สำหรับสหายปาร์ค ผู้บัญชาการทหารเกาหลีเหนือหน่วย 766
พวกนักเรียนทหารที่ด่านโพฮางในสายตาเขาเป็นเพียง "เด็ก"

แต่ในฐานะศัตรู "ความเมตตา" ย่อมมีอยู่แค่ในช่วงเวลาจำกัด

ถ้าไม่เลือกทางที่จะมีชีวิตอยู่ ก็ต้องตาย

นั่นคือคำขาดสุดท้ายจากผู้ใหญ่ฝ่ายข้าศึก

แล้ว .. คำสัญญา จากผู้ใหญ่ฝ่ายเดียวกันเล่า

เขาจะรักษาคำพูดที่เคยให้ไว้ได้หรือเปล่า




สำหรับ นักเรียนที่ด่านโพฮาง ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะเป็นเด็กผู้มีสิทธิ์จะขลาดกลัวและเอาตัวรอด หรือพวกเขาจะเป็นทหาร ที่จำเป็นต้องกล้าหาญ และพร้อมพลีชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของแผ่นดินเกิด (และก่อนหน้านั้นมันเคยเป็นผืนดินเกาหลีเดียวกัน ก่อนจะถูกแบ่งแยก)

มีคำกล่าวว่า "รวมกันเราอยู่ แยกหมู่เราตาย"
แต่มันใช้ไม่ได้เสมอไป เพราะในสงครามนั้น
แยกกันเราตาย รวมกันเราก็ยังตาย

แต่อย่างน้อยก่อนจะถึงเวลาของลมหายใจเฮือกสุดท้าย ...สามัคคีคือพลัง




ไม่เห็นกับตาตัวเอง แทบไม่อยากเชื่อว่านั่นคือ TOP BigBang

ความจริงไอดอลเกาหลีที่โด่งดัง นอกจากจะเป็นศิลปินนักร้องนักดนตรีแล้ว ส่วนใหญ่ก็มักจะมีโอกาสได้ผ่านการเป็นนักแสดงด้วย เป็นธรรมดาเมื่อมีชื่อเสียงย่อมกลายเป็นจุดขายน่าสนใจสำหรับหนังหรือซีรีย์เรื่องหนึ่งๆ และสำหรับตัวไอดอลเองมันก็น่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ท้าทายให้ลองทำ

ยิ่งหากเป็น boy band หรือ Girl group สมาชิกคนใดได้มีโอกาสไปชิมลางงานแสดงก่อนใครเพื่อน ย่อมเป็นที่เชื่อได้ว่าเขาหรือเธอเป็นดาวเด่นของวงคนหนึ่ง




แต่ด้วยภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของ Bigbang ไม่ว่าจะเป็น จียง (G Dragon) ท็อป แทยัง ซึงรี แดซอง ส่วนตัวรู้สึกว่าแต่ละคนดูช่างห่างไกลกับคำว่า "นักแสดง" ซะเหลือเกิน ทราบว่าท็อปแสดงละครอยู่บ้างเหมือนกันแต่เพิ่งจะเห็นจะๆ กะตา ซึ่งถือว่าฝีมือไปวัดไปวาได้ และท็อปก็คว้ารางวัลเหล่านี้มาครอง

■Korean Wave Popularity Award - 2010 (47th) Daejong Film Awards - October 29
■Best New Actor - 2010 (31th) Blue Dragon Film Awards - November 26
■Most Popular Stars - 2010 (31th) Blue Dragon Film Awards - November 26
■Best New Actor - 2011 (47th) PaekSang Arts Awards - May 26, 2011
■Most Popular Actor - 2011 (47th) PaekSang Arts Awards - May 26, 2011





เห็นได้ชัดว่าคณะกรรมการตัดสินก็หลงใหลได้ปลื้มในไอดอล จนหลงลืมกัปโจที่พระเอกควอนซังวูเล่นและยังเด่นน้อยกว่าคุณป่าวัย ๔๐ อย่างพระเอกชาซึงวอนในบทสหายปาร์คซะอีก

ตอนเห็นโปสเตอร์ เข้าใจว่าท็อปคงเป็นเพียงตัวประกอบมาประดับบารมีพระเอกรุ่นพี่ทั้งสาม อย่างที่ความเป็นไอดอลจะถูกใช้เป็นสีสันเรียกความน่าสนใจได้ แต่ปรากฏว่าท็อปไม่ใช่เป็นเพียงตัวประกอบอย่างที่คิดไว้ครั้งแรก แต่บรรดาพี่ๆ อาวุโสทั้งสามนั่นต่างหากที่เป็นตัวประกอบส่งท็อปเป็นตัวละครนำ เสียดายน่าจะหนีบจียงมาเล่นเป็นเพื่อนกันด้วยอีกคน คงเป็นหนังที่น่าดูพิลึกเลยล่ะ

และตัวละครที่ชอบที่สุด แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเป็น "สหายปาร์ค"
ชาซึงวอนกับบทนี้ แหร่มจริงๆ เลย





ขอบคุณข้อมูลจาก Asianwiki
Create Date :07 มีนาคม 2556 Last Update :8 มีนาคม 2556 22:08:53 น. Counter : 12956 Pageviews. Comments :1