เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอมขอขอบคุณภาพประกอบจาก
lonelyplanet.com เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2555 เว็บไซต์โลนลี่ แพลนเน็ต ได้เปิดเผยผลการจัดอันดับ 10 เมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลกประจำปี 2013 ซึ่งรวบรวมความคิดเห็นจากเหล่านักเขียนของโลนลี่ แพลนเน็ต ตลอดจนสมาชิกเว็บไซต์ และคัดเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวและเดินทาง ซึ่งจะเน้นพิจารณาว่าเมืองใดที่นักท่องเที่ยวควรเดินทางไปเยือนมากที่สุดในปี 2013 โดยไม่ได้คำนึงถึงเทรนด์การท่องเที่ยวและสำหรับ 10 อันดับเมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลก ประจำปี 2013 มีดังนี้ 1. ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา (ดีที่สุดในด้าน : วัฒนธรรม, กิจกรรม, อาหาร) ซานฟรานซิสโก นอกจากจะเป็นเมืองที่มีลักษณะภูมิประเทศโดดเด่น มีทิวทัศน์ที่สวยงาม และมีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมแล้ว
ล่าสุดยังมีการปรับโฉมสถานที่โดยรอบใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ริมอ่าวซานฟรานซิสโก เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมจัดการแข่งขันเรือใบ อเมริกา คัพ ครั้งที่ 34 2. อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ (ดีที่สุดในด้าน : วัฒนธรรม, กิจกรรม, อาหาร) อัมสเตอร์ดัม เมืองที่มีมนต์เสน่ห์ในสายตานักท่องเที่ยว และในปี 2013 เมืองนี้จะยิ่งเต็มไปด้วยสีสันและมีกิจกรรมให้ร่วมเฉลิมฉลองมากมาย เช่น การเฉลิมฉลองระบบคลองครบรอบ 400 ปี, งานฉลองครบรอบ 160 ปี วินเซนต์ แวน โกะห์, พิพิธภัณฑ์วินเซนต์ แวน โกะห์ จะเปิดให้เข้าชมอีกครั้งในวาระครบรอบ 40 ปี, พิพิธภัณฑ์ไรค์ส จะเปิดให้เข้าชมอีกครั้งหลังปิดปรับปรุงนาน 10 ปี , "เดอะ รอยัล คอนเสิร์ตเคอะบาว ออร์เคสตรา" วงซิมโฟนี ออร์เคสตราดีที่สุดในโลก ครบรอบ 125 ปี, สวนสัตว์อาร์ติส รอยัล ซู ฉลองครบรอบ 175 ปี และศูนย์วัฒนธรรมฟีลิกซ์ เมอริติส ก็ฉลองครบรอบ 225 ปี ด้วยเช่นกัน
3. ไฮเดอราบัด รัฐอานธรประเทศ ประเทศอินเดีย (ดีที่สุดในด้าน : วัฒนธรรม, อาหาร, ความคุ้มค่า) ไฮเดอราบัด เคยเป็นเมืองหลวงของรัฐปกครองตนเองที่มีความมั่งคั่ง แต่หลังจากอินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ วังและสวนที่สวยงามต่างถูกนำออกขาย บ้างก็ถูกรื้อทิ้งแล้วสร้างใหม่ หรือไม่ก็โดนมือดียกเค้า แต่ก็ยังมีวังหลายแห่งในเขตเมืองเก่าของไฮเดอราบัดถูกบูรณะซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพสวยงามดังเดิม และหนึ่งในนั้นก็คือ
ฟาลัคนุมา พาเลซ ที่ปัจจุบันกลายเป็นโรงแรมหรูเจ็ดดาวของทาจกรุ๊ป นอกจากนี้ยังมีอาคารและอนุสรณ์สถานหลายแห่งที่อยู่ในระหว่างการบูรณะซ่อมแซมด้วยเช่นกัน
4. ลอนดอนเดอร์รี่ ไอร์แลนด์เหนือ (ดีที่สุดในด้าน : วัฒนธรรม, กิจกรรม ,ครอบครัว) ลอนดอนเดอร์รี่ เป็นหนึ่งในเขตการปกครองของไอร์แลนด์เหนือ ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมของสหราชอาณาจักร ประจำปี 2013
โดยจะมีกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลดนตรี การแสดงและการละเล่นต่าง ๆ ตลอดจนนิทรรศการด้านศิลปะ นอกจากนี้ ในปีหน้าเมืองเดอร์รี่ยังได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน
"All Ireland Fleadh" ซึ่งเป็นเทศกาลประกวดดนตรีไอริชที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
5. ปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน (ดีที่สุดในด้าน : วัฒนธรรม, ความคุ้มค่า, อาหาร) ปักกิ่ง ถือเป็นศูนย์กลางด้านศิลปวัฒนธรรมของประเทศจีน และแม้การจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนที่กรุงปักกิ่งจะผ่านไปนาน 4 ปีแล้ว แต่ยังคงทิ้งร่องรอยต่าง ๆ เช่น สนามกีฬารังนกที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น และที่สำคัญยังมีความเจริญในด้านการคมนาคมขนส่ง โดยเพิ่งจะมีการเปิดใช้รถไฟความเร็วสูงบนเส้นทางปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ ไปเมื่อไม่นานมานี้เอง
6. ไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ (ดีที่สุดด้าน : วัฒนธรรม, งานรื่นเริง, ครอบครัว) ไครสต์เชิร์ช เมืองใหม่ที่มีแหล่งอาหารนานาชาติให้เลือกสรรกันอย่างหลากหลาย นับตั้งแต่อาหารพม่าไปจนถึงอาหารตุรกี ทั้งยังมีสถานที่ฟังเพลง (แสดงดนตรีสด) ให้เลือกฟังเลือกชมหลายแห่ง จนแทบไม่น่าเชื่อว่าเมืองนี้เคยเผชิญกับวิกฤติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มาแล้ว
7. โฮบาร์ต รัฐแทสมาเนีย ประเทศออสเตรเลีย (ดีที่สุดในด้าน : วัฒนธรรม, งานรื่นเริง, อาหาร) โฮบาร์ต เมืองหลวงของรัฐแทสมาเนีย ประเทศออสเตรเลีย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1804 (พ.ศ. 2347) ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่เก่าแก่เป็นอันดับสองของออสเตรเลีย รองจากซิดนีย์ ปัจจุบันเป็นเมืองท่าและเมืองท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยสีสันและมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านกีฬา ศิลปวัฒนธรรม อาหาร เทศกาลและงานรื่นเริงต่าง ๆ เป็นต้น จนเป็นอีกเมืองหนึ่งในออสเตรเลียที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างสูง
8. มอนทรีออล รัฐควิเบก ประเทศแคนาดา (ดีที่สุดในด้าน : วัฒนธรรม, งานรื่นเริง, ความคุ้มค่า) มอนทรีออล (Montreal) เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในรัฐควิเบก และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศแคนาดา และที่สำคัญยังติดโผในการจัดอันดับโลกต่าง ๆ มากมาย เช่น เมืองสะอาด เมืองน่าอยู่ หรือเมืองที่อยู่แล้วมีความสุขที่สุดในโลก เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้รับยกย่องว่าเป็นเมืองหลวงด้านวัฒนธรรมและเมืองแห่งดีไซน์อีกด้วย
9. เมืองอาดดิส อาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย (ดีที่สุดในด้าน : วัฒนธรรม, อาหาร, ความคุ้มค่า) อาดดิส อาบาบา หรือ แอดดิส อาบาบา เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศเอธิโอเปีย ทั้งยังเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างประเทศหลายแห่ง ที่ผ่านมาเมืองนี้ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เมืองนี้แลดูน่าเชื่อถือและน่าไว้วางใจมากขึ้น ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าในปีหน้าเศรษฐกิจของเอธิโอเปียจะเติบโตขึ้นเกือบ 5% รวมถึงจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมากเช่นกัน
10. ปัวร์โต อิกวาซู ประเทศอาร์เจนตินา (ดีที่สุดสำหรับ : ครอบครัว, กิจกรรม, การผจญภัย) เมืองปัวร์โต อิกวาซู เมืองท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยโรงแรมหรู สปา และสุดยอดโฮสเต็ล แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวและพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่น่าสนใจหลายแห่ง
ล่าสุด น้ำตกอิกวาซูซึ่งทอดตัวเป็นแนวยาวระหว่างพรมแดนประเทศบราซิล - อาร์เจนตินา ยังได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกมาหมาด ๆ เมื่อปลายปีที่ผ่านมาอีกด้วย
สำหรับใครที่มีแผนจะไปท่องเที่ยวต่างประเทศ 10 อันดับที่ว่ามานี้ ก็คงจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจให้ไปเยือนไม่น้อยเลยนะคะ