The Naka Island , A Luxury Collection Resort & Spa Phuket ถือเป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทที่ทำให้ผมประทับใจได้ไม่น้อย เพราะ ตั้งแต่ได้เดินทางและไปสัมผัสโรงแรมต่างๆมากมายหลายที่ ยังแทบไม่มีที่ไหนเลยที่ทำให้ผมประทับใจในความเป็นธรรมชาติได้เหมือนที่นี่ หลายๆอย่างของที่นี่ยังคงทำให้ผมรู้สึกถึงคำว่า "ใกล้ชิดธรรมชาติ" ซึ่งเป็นธรรมชาติจริงๆที่ไม่ได้ปรุงแต่งขึ้นมา (อาจเพราะที่นี่ยังคงบรรยากาศของความเป็น Six Sence ไว้อยู่ ) เมื่อหนึ่งปีที่แล้วผมมีโอกาสได้สัมผัสที่นี่และประทับใจกับที่นี่มากมาย หนึ่งปีผ่านไป ไม่นึกเลยว่าความประทับใจนั้นจะหวนกลับมาให้ผมสัมผัสอีกครั้ง...



The Naka Island, A Luxury Collection Resort and Spa, Phuket  ตั้งอยู่บนเกาะนาคาใหญ่ ซึ่งอยู่ห่างจากฝั่งภูเก็ตไม่ถึง 10 นาทีเลยครับ (เดินทางด้วยสปีดโบ๊ท) จากสนามบินใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงเพื่อมายัง "ท่าเรืออ่าวปอแกรนมารีน่า" จากนั้นเราก็ต่อเรือจากท่าเรือไปประมาณ 5 - 10 นาที เพื่อไปยังรีสอร์ท
ป.ล. รถโดยสารจากสนามบินมาท่าเรืออ่าวปอแกรนมารีน่า นั้นราคาเรียกว่าใช้ได้อยู่ครับ ราคาที่ประหยัดสุดน่าจะเป็นแทกซี่ครับ



เวลาเช็คอินของที่นี่คือ บ่าย 2 ครับ ใครที่มาไฟล์เร็วไปหรือมาถึงแล้วห้องพักยังไม่เรียบร้อย ทางรีสอร์ทจะให้คุณนั่งพักผ่อนที่ห้องนี้ก่อน "ศาลาเวลคัม"


แต่ผมแนะนำว่าให้โยนกระเป๋าทิ้งไว้ที่นี่เลย แล้วเตรียมตัวเตรียมใจไปลั้นลาที่ชายหาดแทนจะเวิร์คกว่า ฝากเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้กับพนักงานนะครับ ก่อนออกไปชายหาดหันไปบอกด้วยว่า " ห้องเรียบร้อยแล้วโทรบอกด้วยน้าาาาา จุ๊บๆ "















ส่วนใครที่ชอบการตกปลา แนะนำว่าให้เดินออกไปที่ท่าเรือซึ่งอยู่ติดกับ "ศาลาเวลคัม" ที่สุดปลายท่าเรือ ถือเป็นแหล่งตกปลาที่ดีมากๆๆครับ เพราะปลาชุมเหลือเกิน เห็นมีคนมาตกแป๊ปเดียวก็ได้ปลาแล้วล่ะครับ







คำเตือน การตกปลาถือเป็นการทำผิดศีลข้อหนึ่ง ผู้ใดไม่เกรงบาป กลัวกรรม เชิญครับ

ส่วนใครที่คิดว่า มีเวลาเหลือบานเบอะกว่าฉันจะได้ห้อง คงเซ็งแน่ๆ อย่าเพิ่งคิดอย่างนั้นครับ เพราะที่นี่เตรียมกิจกรรมสังหารเวลาไว้ให้คุณแล้วล่ะ ไม่ว่าจะเป็น

เล่นเรือใบ (อันนี้ถึงแม้จะไม่เสียตังแต่ต้องพึ่งลมพึ่งฟ้า ดูแล้วอาจไม่ค่อยเวิร์ค)



สน็อกเกอร์ริ่ง (อันนี้ยืมจากพนักงานได้ครับ ถามจุดที่ชมปลานีโม่จากพนักงานได้เลย แถมไม่ต้องนั่งเรือออกไปด้วย ว่ายออกไปจากหาดได้เลยครับ )



หรือว่าถ้าต้องการล้างผลาญเวลาเกินกว่า 2 ชั่วโมงขึ้นไป พายคายัครอบเกาะกันเลยดีกว่าครับ รับรองประทับใจแน่นอน ความประทับใจที่มาพร้อมกับผิวสีแทน ใครอยากได้เชิญ



ส่วนใครที่อยากไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตของหมู่บ้านชาวเกาะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกรีดยาง การรีดยาง โรงเรียนของหมู่บ้าน และชายหาดที่สวยงามน่าไปเยือนอีกที่ ยืมจักยานของทางรีสอร์ทไปได้ครับไม่ไกลมากนัก











ส่วนใครลืมซื้อของจากบนฝั่งมา ในหมู่บ้านจะมีร้านขายอาหารและร้านของชำอยู่ด้วยครับ ราคาอาจบวกเพิ่มไปนิดหน่อย ประมาณ 10-20 บาทจากฝั่ง

ป.ล. แต่ทางทีดีก่อนถึงท่าเรือมี 7-11 ใครอยากซื้ออะไรเตรียมให้พร้อมมาก่อนจะดีที่สุด





เอาล่ะเท่านี้เวลาหมดกันไปล่ะครึ่งค่อนวัน ใครอยากทำอะไรก่อนมาเข้าห้องพักเชิญเลยครับ เอาล่ะครับเราไปดูห้องพักกันดีกว่าว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ขอดีของห้องพักที่นี่ คือ ไม่ว่าจะห้องระดับไหน (ยกเว้นห้อง Royal ) รูปแบบห้องจะคล้ายกันหมดครับ ต่างกันแค่ที่วิวเท่านั้น




















ส่วนภายในห้องน้ำ จะมีห้องสตรีมพร้อมห้องอาบน้ำให้กับทุกห้องพัก ห้องสุขาพร้อมสายชำระ อ่างอาบน้ำแสนโรแมนติกขนาดใหญ่ ห้องบีชฟร้อนจะแถม ซาวน่าให้ด้วยครับ





ส่วนห้องที่แพงที่สุดของที่นี่ Royal Horizon ห้องนี้เป็นพระเอกของที่นี่ก็ว่าได้ ห้องนี้นอกจากจะมีสระว่ายน้ำส่วนตัวที่ใหญ่โตมโหฬารแล้ว ห้องพักสามารถนอนแชร์กันได้ 4-6 คน ด้วย ซึ่งเหมาะกันการมาพักผ่อนเป็นหมู่คณะ

















ถ้ามีคนถามผมว่าห้องนี้มีอะไรพิเศษนอกจากสระว่ายน้ำใหญ่โตมโหฬารกับวิวแสนอลังการแล้ว ผมจะบอกว่าห้องนี้จะเป็นห้องที่สวยที่สุดที่จะได้ชมแสงพระอาทิตย์ขึ้นครับ ใครที่ได้พักห้องนี้ห้ามพลาดตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นนะครับ ส่วนใครนอนดึกตื่นสาย แนะนำว่า...ไม่ต้องนอนครับนอนเช้าเลยดีกว่ารอชมแสงพระอาทิตย์ขึ้นก่อนแล้วค่อยนอน







นอกจากสระว่ายน้ำในห้องพักแล้ว สระว่ายน้ำหลักของที่นี่ก็กว้างใหญ่ ใกล้ชายหาด และสวยมากๆๆครับ









ยิ่งช่วงพระอาทิตย์อัสดงด้วยแล้ว จุดนี้เรียกได้ว่าเป็นเป็นงดงามที่สุดในรีสอร์ทเลยครับ









ของแถมฟรีริมสระจะมาช่วงบ่ายๆครับ ไอติมน้ำผลไม้ แนะนำ มะพร้าวกับส้มครับ



ด้านหลังของสระว่ายน้ำจะมีฟิตเนสคลับให้ด้วยครับ



ของเด็ดของที่นี่จะอยู่เจ้าเครื่องนี้ครับ ราคาเครื่องล่ะ 1 ล้านบาททีเดียว ใครที่มีโอกาสแวะมาที่นี่อย่าลืมลองโซโล่ เจ้าเครื่องนี้ดูนะครับ





นอกเจ้าเจ้าเครื่องล่ะ ล้านแล้วที่นี่ก็มีเทรนเนอร์คอยสอนกิจกรรมฟิตเนสอื่นๆให้ด้วยครับ





ส่วนกิจกรรมฟิตเนสอื่นๆที่เด็ดๆก็คงไม่พ้น โยคะ นี่แหละครับ อันนี้ไม่ต้องจ่ายเพิ่มอีกเช่นกันครับ เมื่อมาตามตารางกิจกรรม



ถึงแม้รีสอร์ทนี้จุดขายจะเป็นคู่รักที่มาสวีทวี้ดวิ้วก็ตามที แต่กิจกรรมอื่นๆสำหรับเด็กก็มีครับ

อย่างการเพนท์หน้าสำหรับคุณหนูๆ



หรือจะเป็นห้องเพลย์รูม ที่มีเครื่อง Wii กับ PS3 ให้



ส่วน SPA ซึ่งที่นี่ให้ความสำคัญมากๆๆ จะเห็นได้จากบริเวณสปาที่มีขนาดใหญ่ แขกทั่วไปก็สามารถมาใช้บริการสปาฟรีในบางจุดได้เช่นการปรับสมดุลโดยการเดินผ่านน้ำร้อนน้ำเย็น สตรีมน้ำแข็ง สตรีมไอน้ำ ซาวน่า









ส่วนทรีดเม้นท์ซิกเนเจอร์ของที่นี่ คือการนวดอโรมาผสมลูกประคบสมุนไพรร้อน





และห้องนวดในน้ำอุ่น Watsu ในประเทศไทยจะมีอยู่ด้วยกันเพียง 2 ที่(มั้ง) คือที่นี่ และ ชีวศรมหัวหิน เท่านั้น

*** Watsu นั้นคือ การนวดบำบัด เพื่อความสะดวกในข้อจำกัดในกล้ามเนื้อ และข้อต่อและจัดการกับร่างกายของผู้ป่วยที่ในรูปแบบที่เป็นไปไม่ได้บนบก การนวด Watsu สามารถบรรเทาความหลากหลายของโรคที่เฉพาะเจาะจงและยังสามารถใช้เป็นระบบการนวดทั่วไปเพื่อส่งเสริมมากกว่าการผ่อนคลายทั้งหมด จะได้รับการใช้อย่างมีประสิทธิภาพในการรักษาอาการปวดเรื้อรังเพื่อช่วยการฟื้นตัวจากการผ่าตัดและการบาดเจ็บและข้อ จำกัด การเคลื่อนไหวฟรี นอกจากนี้ยังส่งเสริมความยืดหยุ่นในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อการหายใจที่สมบูรณ์, การลดลงในระดับที่วิตกกังวลและความเครียดการนอนหลับที่ดีขึ้นและการย่อยอาหาร การนวดบำบัด Watsu นอกจากนี้ยังใช้ในการรักษาสภาพเช่นบาดเจ็บสมอง บาดเจ็บไขสันหลัง



มาต่อกันที่เรื่องอาหารบ้างดีกว่า โดยหลักๆแล้วที่นี่จะมี 2 ห้องอาหาร 1 บาร์ และไม่เสริฟเนื้อหมู (เพราะเกาะนี้เป็นเกาะอิสลามห้ามนำเนื้อหมูขึ้นเกาะครับ)

My grill คือห้องอาหารดินเนอร์ที่ดีที่สุดของที่นี่ครับ อาหารส่วนใหญ่ของที่นี่ก็จะเป็นแบบตามชื่อนั้นแหละครับ ปิ้งๆย่างๆ อาหารรสชาติโดยรวมถือว่าอร่อยใช้ได้เลย แต่ไม่ถึงกับ Woww ส่วนเรื่องราคาไม่ต้องห่วงครับ ปาดเหงื่อกันบ้างเลยครับบางเมนู แต่ที่ไม่ค่อยปลื้มคือความช้าได้โล่ห์ครับ ถ้ามาหิวๆนี่ไม่แนะนำเลย





Z Bar คือบาร์ที่ดีที่สุดของที่นี่ครับ ที่นี่ถือเป็นอีกจุดที่ชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดครับ คอกเทลของที่นี่เริ่มต้นที่ประมาณ 300 กว่าๆ++





แต่ที่เด็ดคือ Buffet Canape 700++ อันนี้ผมให้ผ่านนะครับ อร่อยทุกตัว แถมทานแทนมื้อเย็นได้เลยครับ



Tonsai ห้องอาหาร All Day Dining  ใครหิวนึกอะไรไม่ออกให้มาที่นี่ก่อนครับ ขอเริ่มจากอาหารเช้าก่อน อาหารเช้าจะเลือกสั่งเป็นแบบจานๆได้ครับ แล้วก็จะมีไลน์บุฟเฟ่ให้มีประมาณนึง ตามความคิดเห็นส่วนตัวของผมอาหารเช้าที่นี่ ผมว่าไม่ค่อยจะอลังการสักเท่าไหร่ แถมรสชาติก็ธรรมดาๆเสียด้วย ผมเลยไม่ค่อยปลื้มกับอาหารที่นี่เลย































ส่วนมื้อเที่ยงหรือเย็น อาหารจะเป็นอลาคาร์ทครับ แบบสั่งเป็นจานๆ รสชาติก็ทั่วๆไปอีกครับ แต่อร่อยกว่าอาหารเช้านะครับ เมนูที่ผมปลื้มที่สุดคือ Fish & Chips เฟรนฟราย กับปลาทอด อร่อยมากครับ โดยเฉพาะเฟรนฟราย อร่อยมากๆๆ



ส่วนกระเพราเป็ดพะโล้ คราวที่แล้วผมชอบมากเลยอ่ะ แต่คราวนี้หวานนำไปอ่ะ



ส้มตำไก่ทอด ส้มตำงั้นๆ ไก่ทอดได้โล่ห์ครับ



ถ้าใครจะสั่งออเดริฟมาทานเล่นผมแนะนำตัวนี้ครับ จำชื่อไม่ค่อยได้แล้วครับ นาคาๆ อะไรสักอย่าง



ปอเปี๊ยะทอด ก็อร่อยนะครับ ที่นี่ทำของทอดได้ไม่เลวเลยครับ คอนเฟิร์ม



สเต๊ะไก่ อืม ทั่วไปครับ ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่



ปิดท้ายเมนูอลาคาร์ท ที่พิซซ่าทะเลแกงเขียวหวานครับ



ส่วนมื้อเย็นจะมี Buffet ในบางวันครับ วันที่ผมไปที Thai Night Buffet ราคาต่อหัว 1900++ จุดเด่นคือ ซีฟู้ดเผา และการแสดง 4 ภาค โดยรวมอาหารรสชาติใช้ได้นะครับแต่เมื่อเทียบกับราคา...เออ.... ผมขอสั่งแบบอลาคาร์ทหรือไปทาน My Grill ดีกว่าครับ  T__T









นอกจากอาหารต่างๆที่มีให้ทานที่ห้องอาหารต้นไทรแล้ว ยังมีกิจกรรมพิเศษให้ทำสำหรับแขกผู้สนใจในการทำอาหาร Cooking Class ด้วยครับ แต่เหมือนจะเสียตังค์เพิ่มในส่วนนี้นะครับ



ปิดท้ายในส่วนงานแต่งงานสำหรับที่นี่ วันที่ไปพักมีงานแต่งงานคู่แรกของรีสอร์ทนี้ด้วยครับ แปลกมากที่คู่บ่าวสาวเลือกที่จะแต่งงานตอนเที่ยงตรง บรรยากาศมันก็สวยอยู่หรอกครับ แต่สงสารแขกเหลือเกินนนนน T__T ไม่มีคำบรรยายมีแต่ภาพแอบถ่าย ชมกันเอาเองครับ


















ถูกใจใช่เลย

1.ที่นี่ยังมีกลิ่นอายของความเป็น Six Senses อยู่ในเรื่องบรรยากาศและสถานที่ แต่เป็น Six Senses ที่ผสมความสุขสบายเข้าไปด้วย
2.ทำเลที่ตั้ง เป็นเกาะที่ห่างจากเกาะภูเก็ตไปไม่ไกลเลย นั่งเรือแค่ 10 นาทีเอง ได้อารมณ์คล้ายๆไปพักเกาะกูดเลยครับ ดำน้ำดูปลานีโม่หน้าหาดได้เลยครับ
3.ยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติไว้ได้ดีมากกกกก กลมกลืนไปกับธรรมชาติและชุมชม
4.การบริการของพนักงานที่นี่บริการดีให้อารมณ์แบบเหมือนเราไปเที่ยวแล้วเจอคนท้องถิ่นที่ใจดีๆ
5.สัญญาณ WIFI ฟรีใน Public Area ถึงจะอยู่เกาะแต่ก็ไม่ได้ตัดขาดจากโลกภายนอกนะคร้าบบ
6.ในทุกห้องมีห้องสตรีมส่วนตัวด้วย ชอบเลยอ่ะ
7.ห้องน้ำมีสายชำระด้วยปลื้มมมมมมมมมมม

ไม่โดนใจเอาซะเลย

1.ราคาห้องพักแอบแรงได้ใจกันพอควร คงเป็นเพราะห้องพักเริ่มต้นจากระดับพูลวิลล่า
2.พื้นที่รีสอร์ทค่อนข้างใหญ่มากกกกกกก เดินกันมึนไปเลย และในบางจุดถ้าขี่จักรยานไม่แข็ง อันตรายมากๆครับ
3.ราคาอาหารบางอย่างก็ยังแพงไปนิดนะ ถึงแม้จะอยู่บนเกาะและรวมค่าขนส่งจากฝั่งเพิ่มเข้ามาแล้ว
4.อาหารเช้า มันน่าจะดีได้มากกว่านี้นะ
5.อาหารเสริฟช้ามากๆๆครับทั้งที่ต้นไทรและมายกริล บางทีรอนานซะจนลืมไปเลยครับ

คุณจะชอบที่นี่ถ้า...คุณอยากจะใกล้ธรรมชาติแต่อยู่วิลล่าหรูแสนสบาย อยากไปพักผ่อนแบบไปพักผ่อนจริงๆ หลีกหนีจากปัญหาและความวุ่นวายทั้งปวง อยากไปติดเกาะสวยๆน้ำใสๆ แต่ไม่อยากลำบาก ไม่อยากนั่งเรือนานๆ เชิญไปที่นี่ครับคุณไม่ผิดหวังแน่ๆๆ