น้าสม คนเก่งของเรา หลังจากที่เราซื้อบ้านเกือบสองปี เราก็ได้น้าสม มาช่วยดูแลลูกคนโต ลูกคนโตก็สบายขี้น ไม่ต้องเข้าเมืองไปกับแม่ และไม่ต้องไปรับแม่ตอนเที่ยงคืนอีก ได้นอนเต็มที่ น้าสมมาถึงใหม่ๆ ก็พูดภาษาไม่ได้เลย เราก็ซื้อหนังสือ ฝึกภาษา 75 ช.ม. มาให้เขาศีกษา ตอนแรกๆ ก็ให้ท่อง A- Z แล้วก็ให้ลูกช่วยสอนน้าด้วย น้าสมก็อ่านหน้งสือทุกคืน มีความจำแม่นมาก เวลาเราขับรถไปไหน ๆ ก็บอกให้เขาหัดดูป้าย เมื่อไปบ่อยๆ น้าสมก็จำได้น้าสมเป็นคนดำเนิน เคยเป็นแม่บ้านให้กับแพทย์ผู้อำนวยการรพ.ดำเนินสะดวก พี่สะใภ้ ของจขบ.รู้จักกับภรรยาผู้อำนวยการเป็นอย่างดีก็เอ๋ยปากขอให้น้าสมมาอเมริกา ท่านก็ใจดีบอกอนุญาติให้ไปได้ คิดว่ากว่าจะทำเรื่องได้ก็คงนาน โชคดี น้าสมก็ทำเรืองได้มาภายในหกเดือน น้าสมก็เป็นคนใจเด็ด กล้ามาอเมริกา โดยที่รู้จักกับจขบ.แค่ไม่กี่วันตอนจขบ.และครอบครัวมาเมืองไทยได้ไม่กี่วันพี่ชายคนโตได้เดินทางมาเที่ยวอเมริกากับน้าสม ได้มามุงหลังคาบ้านให้ด้วย ทีนี่หลังคาบ้านเป็นแผ่นยาง สามารถเอาใส่เพิ่มได้สองครั้งทุกห้าปี พี่ชายก็เลยช่วยทำให้ พอครบสิบห้าปีก็ต้องเอาออกใส่ใหม่หมด และได้ปลูกต้น Kwanzan Cherryสองต้นหน้าบ้านไว้เป็นที่ระลึก ตอนนี้พี่ชายก็จากพวกเราไปแล้วแต่เจ้าต้น Kwanzan Cherry ออกดอกสะพรั่งทุกปี น้าสมเป็นคนที่มีความจำดี เวลาไปไหน ๆ จะจำทางได้หมดขณะที่น้าสมพยายามเรียนภาษาอังกฤษ เราบอกให้เรียนทีละบทแล้วจำให้ได้ ติดตรงไหนก็มาถาม ก็เป็นเวลาปีเหมือน น้าสมก็เริ่มอ่านพวกป้าย ตามถนนได้ เราก็เลยคิดจะให้น้าสมสอบใบขับขี่ ตอนน้ันอยากสอบใบขับขี่เขาไม่ตรวจอะไรมาก เดี๋ยวนี้ยากมาก เขาต้องเอาหลักฐานแยอะมาก จนเรียกว่าถ้ามาแบบไม่ถูกต้อง ก็ไม่มีโอกาศทำใบขับขี่เลยสมัยก่อนเขาก็มีข้อสอบมาให้พวกเราศึกษากัน เราก็เอาข้อสอบ มาให้น้าสมอ่านทุก ๆ วัน ให้จับให้ได้ว่ามีตัวไหน ที่ผิดไปกับตัวอื่น แล้วต้องตอบข้อไหน ปรากฏว่าน้าสมของเราก็สอบข้อเขียนได้ ทีนี้ก็ถึงตอนหัดขับรถ หลังบ้านของเรามีที่กว้าง ก็ฝีกให้น้าสมหัดขับเดินหน้า ถอยหลัง เปลี่ยนเกียร์ โดยที่รถไม่ดับ ตอนนั้นบ้านเราไม่มีรถเกียร์ Auto เดียวนี้ที่บ้านก็ไม่รถเกียร์ Auto ลูก ๆ ต้องขับรถเกียร์ ธรรมดา จนเดื๋ยวนี้ คุณพ่อบ้าน บอกรถเกียร์ Auto จะเสียง่าย เป็นงั้นไป ตกลงเราก็ซืัอเกียร์ Auto สำหรับขับเองเมือไม่นานนี้เอง การมีรถเกียร์ธรรมดา ก็ไม่ค่อยดี เวลาขับรถไปไกล ๆ เหนื่อยก็ไม่มีใครช่วยเราได้ จำได้ว่าเราไปส่งหลานสาว เข้าเรียนที่ North Carolina ไกลพอควร ขับประมาณ 7-8 ชม มีเพื่อนไปด้วย เราก็เมื่อยทั้งเทัา ที่ต้องคอยเหยียบน้ำม้น ไหนจะเหนื่อยเดินทาง เพื่อนก็ขับรถเป็นแต่ เกียร์ Auto เราก็เลยต้องเหมาขับทั้งขาไป ขากลับ พอน้าสมหัดขับรถจนพอใช้ได้ เราก็นัดไปสอบขับ น้าสมก็สอบได้ด้วย ไม่ได้เล่าขั้นตอนตอนจะเอาใบขับขี่ที่นี่ พอเราจะสอบใบขับขี่ก็ต้องสอบข้อเขียนก่อนสอบพวกกฎจราจร และเครื่องหมายต่างๆ ของทางหลวง เขาจะมีหนังสือให้เราอ่าน เมือสอบข้อเขียนผ่าน เราก็มีสิทธิฝีกขับนรถโดยมีคนที่มีใบขับขี่นั่งอยู่ด้วย มีว้นหมดอายุ ถ้าได้แล้วก็ต้องนัดว้นสอบขับก่อนว้นหมดอายุ ถ้าหมดอายุ เขาจะต่อให้อีกหนี่งครั้ง ถ้าไม่ได้ก็ต้องสอบข้อเขียนใหม่ ตกลงน้าสมก็ช่วยแบ่งเบาภาระใน การรับลูกกลับจากโรงเรียนเวลาที่เขาต้องอยู่ทำกิจกรรมโรงเรียนต่อ ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่พอลูกอายุที่ขับรถได้ ก็ให้เขาเรียนขับรถ จะได้ไปเองได้ ตอนนั้นแม่ก็ทำงาน กว่าจะกลับบ้านก็สองทุ่ม รับลูกไม่ทัน น้าสมเป็นคนเก่ง ทำอาหารก็อร่อยทุกอย่าง ตอนนี้น้าสมก็ทำงานที่ร้านอาหาร เป็นที่ไว้วางใจของเจ้าของร้าน คนมักจะถามว่าทำไม ไม่เปิดร้านอาหารให้น้าสม เราก็เคยคิด แต่น้าสมเขาไม่เอา ต่อมาเราก็ทำงานพิเศษ ก็คือเป็นคนขายบ้าน พาคนไปดูบ้าน ติดต่อ ต่อรองราคากับคนขาย ต้องติดต่อทนาย ที่นี่เวลาขายบ้านเขาจะมีทนายทั้งคนซี้อ คนขาย ก็มีการติดต่อ ใบสัญญาต่างๆ ติดต่อบริษัทเงินกู้ พวกนี้ คนที่เขาทำงานขายบ้านอย่างเดียว ก็้จะมีเวลาไปรับ ส่งเอกสารเองเราไม่ได้หยุดทุกวัน ก็ได้น้าสมเป็นคนไปรับ ส่งเอกสารให้ น้าสมเก่งพอที่จะรับโทรศัพท์แล้ว รู้ว่าใครโทรมา ให้ทำอะไร ซื่งไม่ใช่ของง่ายสำหรับคนที่จบป 4 เรายกมือให้น้าสมเลย ว่าเป็นแบบอย่างคนที่มีความพยายาม แล้วก็ประสบความสำเร็จ ไม่มีอะไรยากเกินไป ถ้าเรายินดีที่เรียน และมีความพยายามอย่างมุ่งมั่นตอนนี้น้าสมก็ทำงานร้านอาหาร เรียนรู้ทำอาหารฝร้่งเศส ทำของหวานต่าง ๆ สามารถคุมร้านอาหารได้ เจ้าของร้านไม่ต้องอยู่เป็นเดือนๆ น้าสมเป็นคนสั่งของเข้าร้าน รู้ว่าจะสั่งของสดเท่าไร ผักเท่าไร โทรศัพท์ไปสั่งเองเลย สมัยน้าสมอยู่กับเรา ปีใหม่บ้านเราจะทำขนมฝอยทอง ใส่กล่องสวยงามแจกเพื่อนๆ ตอนนี้น้าสมมี Green card แล้ว เป็นคนที่สามารถอยู่อเมริกา ได้ถูกต้องตามกฎหมาย เราก็ยังติดต่อน้าสมเหมือนญาติของเราคนหนี่ง น้าสมเลี้ยงลูกชายคนเล็กของเราจนอายุ 12 ปี เขาก็มีความผูกพ้นธ์กันมาก น้าสมรักลูกเราเหมือนลูก ลูกเราก็รักน้าสมมากจนมีบ้างครั้ง ตอนลูกเล็ก ๆ เราเห็นลูกไปสนิทกับน้าสมมาก ๆ ทำให้เรารู้สึกน้อยใจเหมือนกัน แต่ตอนนี้ก็ไม่มีอะไร ดีใจที่ลูกมีคนรักเพิ่ม สอนลูกให้รู้จักบุญคุณน้าสม ให้ลูกดูแลน้าสมตลอดไป ลูกก็รับปากอย่างมั่นคงน้าสมมาอเมริกาปี 1982 /2525 อยู่กับจขบ.12 ปี แล้วก็ไปทำงานร้านอาหารทีฟลอริด้าประมาณสามเดือน ก็ลางานกลับมานิวยอรค์ เพราะลูกคนเล็กต้องถอนฟันกรามชุดที่สาม (wisdom teeth)น้าสมก็อยากมาดูแลลูกคนเล็ก จากนั้นก็มาทำอาหารร้านThai Chef ปี 1994/2537 จนปัจจุบันนี้ น้าสมบอกยังทำไหวก็ทำไปก่อน เพราะชอบงานนี้ ก็ประมาณ 17 ปี ร้าน Thai Chef เป็นร้านอาหารที่มี Class ในร้านตกแต่งสวยงามจขบ.จะเอาเรื่องร้านนี้มาลงบล็อก อีกครั้ง เจ้าของร้านทำอาหารฝรั่งเศส อเมริกัน และ อาหารไทย มีทั้งทานที่่ร้านอาหาร และสั่งกลับบ้านได้ จัดเลี้ยงปาร์ตี้ได้ ร้านนี้มีสามห้อง ห้องใหญ๋มีจุได้ 200 ท่าน ห้องกลาง จุได้ 50 ท่าน และ ห้องอาหารฝรั่งเศสจุได้ 150 ท่านThai Chef Mountclair New Jersey French and American Food จุได้ประมาณ 150 ท่านThai Chef Mountclair New Jerseyห้องอาหารไทย และ อเมริกัน จุได้ประมาณ 200 ท่าน ชีวิตน้าสมก็เป็นชีวิตที่ประสพความสำเร็จพอควร น้าสมทำงานมีเงินเก็บ สามารถช่วยตัวเองได้ มีเด็กรุ่นหลังคนหนึ่ง ต้องชมว่าเธอเก่งมาก เราได้ไปเจอเธอทีงานแต่งงาน คุยกับเขา เขาบอกว่าหลังงานแต่งงานเพื่อน เขายังไม่อยากกลับ เขามี Visa อยู่ได้ 6 เดือน ก็เลยแนะนำให้เขาไปทำงานร้านอาหาร เขาทำอยู่ 6 เดือน ก็เริ่มรู้จักคนมากขีัน รู้จักใช้เงิน เขากลับไปเมืองไทย จัดการกับเรื่องส่วนตัว แล้วก็กลับมาทำงานร้านอาหารอีก แต่ไปตามรัฐต่าง ๆ ทุกครั้งที่เขามา ก็จะโทรมาคุยกับจขบ. เขาก็จะมาตามกำหนด Visa แล้วก็กลับ เขาทำอย่างนี้ 5-6 ปีเห็นจะได้ เมือไม่นานมานี้ เขาบอกว่าเขาผ่อนบ้านหมด ได้รถ 1 ค้น ตอนนี้ได้ Green card แล้ว ที่เล่านี้ก็เพื่อ ให้คนที่สนใจอยากมาหาเงินสักพักถ้าไม่เกิ่ยงงาน และเป็นคนอดทน ไม่นานเกินไป ก็จะมีเงินเก็บพอควร แต่ตอนนี้การมายากมาก ถ้าใครได้มาก็น่าจะทำงานดูสักพัก อ้อ งานก็หายาก แต่ก็ยังมีอยู่บ้างส้มภาษณ์น้าสมย้อนหลังว่ารู้สึกอย่างไร ว้นแรกที่มา น้าสมบอกว่าตี่นเต้น และ อยากเห็นว่าเป็นอย่างไร ตอนนี้ก็รู้สึกว่าดีใจทีได้มาและก็ยังไม่คิดจะกลับเมืองไทย คิดว่าจะเกษียณที่อเมริกา เพราะไม่อยากเป็นภาระให้ญาติพี่น้อง และทุกคนก็มีครอบครัวแล้ว คิดว่าถ้ากลับเมืองไทยก็คงไปอยู่บ้านคนผู้สูงอายุ น้าสมบอกว่าคนไทยที่อยากหาเงินและเป็นคนอดทนก็มาอยู่หาเงินก็ดี แต่ถ้าไม่สู้ก็คงอยู่ไม่ได้ ต้องสู้กับอากาศ การปรับตัว ปัญหาในร้านอาหารก็มีบ้าง คนทำงานก็ไม่ค่อยจะได้ตามที่ต้องการ บางคนก็ทำงานเต็มที่ บางคนก็ทำแบบขอไปที บางทีคนในครัวขาด คนข้างที่ทำหน้าที่เสริฟ มาช่วยด้วย ถ้าทำบ่อยๆ คนที่ทำหน้าที่เสริฟก็จะไม่อยู่ ก็ขาดคนอีก ร้านอยู่หางจากเมือง การเดินทางมาทำงานต้องใช้รถ ก็ลำบากกับการเดินทาง งานเริ่ม 11.00 น. ร้านเปิด 12.00น ปิดร้าน 10.30 น. ทุกคนต้องทำหน้าที่ตัวเองให้เรียบร้อยก่อนกลับบ้าน ทางร้านให้ท่านอาหารเช้า และ เย็นคนที่มาหาเงินเมืองนี้ บางคนก็ไม่มีเงินเหลือ เพราะจะมีเพื่อนแยอะมากชอบเล่นการพนัน และไปเล่น casino ถ้าไม่รู้จักใช้เงิน ได้เท่าไร ก็ไม่พอ และถ้าติดการพนันแล้ว เคยเห็น บ้านก็ไม่มีจะอยู่ ตอนนี้ลำบากมาก มีเพื่อนเขาติดมาก ๆ เวลาไปเล่น casino บางทีได้ก็ดีใจกลับมา บางทีก็เสีย เป็นพัน พัน เหรียญ มีคนเล่าว่า เขารู้จักคนไทย เขาก็มีเงินเกษียรกินเดือนละ 5-6 พันเหรียญ ไม่มีครอบครัว เขาบอกว่าเขาแบ่งเงินไปเล่นเดือนละ 3 พันเหรียญ ได้ไม่ได้ไม่รู้ เขาบอกว่าเป็นความสุขของเขา เราก็ไปบ้างเป็นครั้งคราว ไม่เคยได้เย มีแต่เสีย ที่นี้เขาก็ส่งเสริมมาก มีรถจัดมารับตามจุดต่างๆ เราเสียค่ารถไป พอไปถึงที่ เข้าสถานที่ เป็นสมาชิก เขาก็ให้ค่าอาหารแถมเงินให้เล่นอีก เกินค่ารถที่ไป มีคนที่เขาใจแข็งไม่ติดการพนัน ก็ถือโอกาศไปเทียว Atlantic city casino Atlantic city สถานที่สวย ติดทะเล ก็น่าไปทานอาหาร ฟรี เล่นเท่าที่เขาให้แล้วก็กลับบ้านก็ดีเหมือนกัน แต่กลัวไปบ่อยๆ จะเกิดชอบนะซี เรากลัวมากๆ เห็นคนยากจนเพราะการพน้นมาหลายคน ไม่กล้าเข้าใกล้ ไปเหมือนก้นแต่ไม่บ่อย เคยไปเทื่ยว Las Vegus สองสามครั้ง ไม่ต้องเล่น มีอะไร ๆให้เราดูแยะมาก ก็น่าไปเที่ยวนะ Create Date :22 ธันวาคม 2553 Last Update :12 เมษายน 2555 22:09:32 น. Counter : Pageviews. Comments :9 twitter google Comment *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก น้าสม สุดยอดเลยครับนับถือในความพยายาม เพื่อให้ตัวเองก้าวหน้าและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคต่างๆ จนประสบความสมเร็จในชีวิต12 ปี คงเป็นความผูกพันเหมือนญาติพี่น้องคนหนึ่งเลยนะครับ โดย: bayesian 25 ธันวาคม 2553 8:35:41 น.เข้ามาขออ่านเรื่องน้าสมครับอ่านแล้ว ก็ส่งหลังไมค์ โดย: yyswim 1 มีนาคม 2554 23:22:55 น.สวัสดีคะ ขอเรียกคุณป้านะคะ เบญชอบเรื่องราวที่คุณป้าเขียนมากเลยคะ เป็นทั้งแนวทางและข้อคิดในการต่อสู้และดำเนินชีวิตในอเมริกาที่ต้ิองอดทนมากจริงๆ ตอนนี้เบญเป็นออแพร์มาปีกว่าที่ชิคาโก อดทนสู้ให้จบสองปีจากการเป็นออแำพร์จะทำฝันเป็นพยาบาลแบบคุณป้าให้ได้ ชอบที่คุณป้าเขียนว่าไม่มีอะไรยากเกินไป ถ้าเรายินดีที่เรียน และมีความพยายามอย่างมุ่งมั่น ขอบคุณมากคะ โดย: kikonohana 6 พฤศจิกายน 2555 7:21:39 น.สว้สดีค่ะ หลาน kikonohanaดีค่ะ อาชีพพยาบาลที่นี่ เวลาเกษียณก็จะมีรายได้มาก พอที่จะอยู่อย่างสบาย ถ้าทำงานครบสิบปี พออายุ 65 ก็จะได้รับ Social Security ทุกเดือน มีสิทธิได้ประกันสุขภาพ Medicare ส่งข่าวให้ทราบบ้างนะคะnewyorknurse โดย: newyorknurse 6 พฤศจิกายน 2555 9:10:17 น.ขอบคุณสำหรับคำแนะนำคะคุณป้า เบญตอนนี้พยายามพัฒนาภาษาอังกฤษให้แข็งแรงพอจะเรียนได้ บางทีก็ท้อทำมัยภาษาถึงไม่เก่งสักทีแต่อ่านเรื่อง น้าสมที่คุณป้าเขียนทำให้มีกำลังใจมากเลยคะ อีกสิบเดือนจะจบโครงการออแพร์ เบญอยากข้อคำแนะนำคุณป้าควรเรียนเป็นผู้ช่วยพยาบาลก่อนเรียนเป็นพยาบาลดีมัยคะ เพราะตัวเบญจบตรีด้านธุรกิจจากเมืองไทย แต่พอมานี้อยากจะเป็นพยาบาลมากเลยคะ แต่ไม่รู้จะเริ่มยังงัยดี พยายามหาข้อมูล หลายๆคนบอกยากมากมายเรียนไม่ผ่านก็โดนคัดออก แต่เบญไม่สนใจเรื่องนั้นเชื่อว่าถ้าขยันอ่าน ขยันหาความรู้มันต้องผ่านมันไปได้คะ โดย: kikonohana เบญ IP: 24.7.194.62 7 พฤศจิกายน 2555 2:18:59 น.สว้สดีค่ะหลานเบญดีที่สุดเลยค่ะ หนูผู้ช่วยพยาบาลก่อน ที่นิวยอร์กเขาเรียนสองปี part time , ถ้าเรียน Full time ประมาณ 9 เดือนค่ะ ที่ดีคือเรียนแล้วสอบให้ได้ License แล้วหางานทำ ถ้าได้ทำงานที่รพ หรือ Nursing Home ก็ไปเรียนพยาบาลต่อ เบิกค่าเล่าเรียนได้ ไม่ต้องรีบเรียน รู้สีกเขาจะจ่ายเทอมละ 9-12 เครดิตแต่ไม่แน่ว่าที่ชิคาโก งาน ผู้ช่วยพยาบาลหาง่ายหรือเปล่า อีกอย่าง เรื่องวีซ่า ระยะนี้ได้ข่าวว่ารพ.ไม่ค่อยทำให้ หนูเรียนใช้วีซ่าอะไรคะ แต่ถ้าคิดอยู่เมืองนี้ วิชานี้ก็ดีมากค่ะ อีกสองสาขาคือ กายบำบัด Physical Therapy และ Pharm D (Pharmacy PHD) หาเรียนที่ State U ค่าเล่าเรียนจะถูกหน่อยหนูคุยกับป้าที่ bloggangnurse@gmail.com ก็ได้ค่ะnewyorknurse โดย: newyorknurse 7 พฤศจิกายน 2555 3:05:33 น.ขอบคุณมากเลยคะึุคุณป้า ขออนุญาติปรึกษาคุณป้าทางเมลล์ที่ให้มานะคะ โดย: kikonohana 8 พฤศจิกายน 2555 2:00:05 น.หนูขอเรียก ว่าคุณป้าด้วยคนนะคะ หนูชอบอ่านเรื่องเล่าของคุณป้ามากๆเลยคะ อ่านแล้วมีกำลังใจ ฮึดสู้คะ คือตอนนี้ก็ไม่เก่งภาษามากนัก แต่ก็พยายามคะ สามีให้กำลังใจเสมอว่า เขาคิดว่าภาษาหนูไม่มีปัญหา แต่ต้องมั่นใจและให้ เครดิตตัวเอง ตอนนี้ ก็พยายายามอ่านและ เรียนภาษาออนไลน์คะ และไกล้จะได้ สอบ ซิติเซ่นแล้ว ตอนนี้ ก็พยายาม อ่าน และ ท่องจำ คุณป้าคะ ระหว่าง นักกายภาพบำบัด และ Dental Hygienist นี่ อันไหนมัน น่าจะง่ายกว่ากัน และ หางานง่ายกว่ากันคะ ตอนนี้ หนู พยายามศึกษาข้อมูล มากมาย เพื่ออ เรียนรู้ และ วางแผน การเรียน และ อนาคตคะ ตอนนี้ อายุ ย่างเข้า สามสิบเอ็ดแล้วคะ มีลูกสองคน คนแรก เกือบสามขวบ คนที่สอง ขวบกว่าๆ คิดว่าจะให้ลูกไปเข้า เดย์แคร์ แล้วหนูก็จะ ไปเรียน จริงๆแล้ว ใจของแม่ก็อยากอยู่ กับลูกๆ แต่คิดถึงอนาคต ว่าต้องทำเพื่อตัวเองและครอบครัว จะสู้ ให้ถึงที่สุดคะ หนูขอติดต่อ คุณป้า ทางอีเมล์ได้ไหมคะ อยากสอบถาม และ ปรึกษาคุณป้าคะ เพราะประสบการณ์ของป้าช่วยให้ หนูมีใจ สู้ และ ช่วยแนะแนวทางได้คะ ขอพระคุ้มครอง คุณ ป้า และ ครอบครัวให้ มีแต่ความสุข และ สุขภาพแข็งแรงคะ หนู koonanya โดย: koonanya IP: 68.180.12.116 7 ธันวาคม 2555 4:00:35 น.สว้สดีค่ะ หลาน koonanyaเรื่องภาษาของหนู อยู่ๆไปภาษาก็ดีขีันเองแหละ เพราะใช้ทุกวัน ไปเรียนก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษ เรียนๆไปก็คล่องขีันเองแหละค่ะ หนูอายุแค่ สามสิบกว่าเอง ถ้าอยู่อเมริกามีเวลาทำงานจนอายุ 70 เลยน้า หนูหาเรียนอะไรที่ต้องมี license จะหางานง่าย เช่น กายภาพบำบัด เรียนนานเหมือนกัน รู้สีกโปรแกรมเขาเป็นปริญญาเอก , เภสัชก็ดีนะ เรียน PHAMD (Pharmacy PHD) เรียนพยาบาลก็ดี แต่หนูกลัวเลือด ก็คงเรียนพยาบาลไม่ได้หรอกค่ะค่อยๆเรียนก่อนก็ได้ ว่างแล้วค่อยเรียน Full time ก็ได้ค่ะคุยทางอีเมล์ bloggangnurse@gmail.comnewyorknurse โดย: newyorknurse 7 ธันวาคม 2555 9:08:00 น.
นับถือในความพยายาม เพื่อให้ตัวเองก้าวหน้าและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคต่างๆ จนประสบความสมเร็จในชีวิต
12 ปี คงเป็นความผูกพันเหมือนญาติพี่น้องคนหนึ่งเลยนะครับ
โดย: bayesian 25 ธันวาคม 2553 8:35:41 น.
อ่านแล้ว ก็ส่งหลังไมค์
โดย: yyswim 1 มีนาคม 2554 23:22:55 น.
ความพยายามอย่างมุ่งมั่น
ขอบคุณมากคะ
โดย: kikonohana 6 พฤศจิกายน 2555 7:21:39 น.
สว้สดีค่ะ หลาน kikonohana
ดีค่ะ อาชีพพยาบาลที่นี่ เวลาเกษียณก็จะมีรายได้มาก พอที่จะอยู่อย่างสบาย ถ้าทำงานครบสิบปี พออายุ 65 ก็จะได้รับ Social Security ทุกเดือน มีสิทธิได้ประกันสุขภาพ Medicare
ส่งข่าวให้ทราบบ้างนะคะ
โดย: newyorknurse 6 พฤศจิกายน 2555 9:10:17 น.
โดย: kikonohana เบญ IP: 24.7.194.62 7 พฤศจิกายน 2555 2:18:59 น.
ดีที่สุดเลยค่ะ หนูผู้ช่วยพยาบาลก่อน ที่นิวยอร์กเขาเรียนสองปี part time , ถ้าเรียน Full time ประมาณ 9 เดือนค่ะ ที่ดีคือเรียนแล้วสอบให้ได้ License แล้วหางานทำ ถ้าได้ทำงานที่รพ หรือ Nursing Home ก็ไปเรียนพยาบาลต่อ เบิกค่าเล่าเรียนได้ ไม่ต้องรีบเรียน รู้สีกเขาจะจ่ายเทอมละ 9-12 เครดิต
แต่ไม่แน่ว่าที่ชิคาโก งาน ผู้ช่วยพยาบาลหาง่ายหรือเปล่า
อีกอย่าง เรื่องวีซ่า ระยะนี้ได้ข่าวว่ารพ.ไม่ค่อยทำให้ หนูเรียนใช้วีซ่าอะไรคะ
แต่ถ้าคิดอยู่เมืองนี้ วิชานี้ก็ดีมากค่ะ อีกสองสาขาคือ กายบำบัด Physical Therapy และ Pharm D (Pharmacy PHD) หาเรียนที่ State U ค่าเล่าเรียนจะถูกหน่อย
หนูคุยกับป้าที่ bloggangnurse@gmail.com ก็ได้ค่ะ
โดย: newyorknurse 7 พฤศจิกายน 2555 3:05:33 น.
โดย: kikonohana 8 พฤศจิกายน 2555 2:00:05 น.
หนู koonanya
โดย: koonanya IP: 68.180.12.116 7 ธันวาคม 2555 4:00:35 น.
เรื่องภาษาของหนู อยู่ๆไปภาษาก็ดีขีันเองแหละ เพราะใช้ทุกวัน ไปเรียนก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษ เรียนๆไปก็คล่องขีันเองแหละค่ะ
หนูอายุแค่ สามสิบกว่าเอง ถ้าอยู่อเมริกามีเวลาทำงานจนอายุ 70 เลยน้า หนูหาเรียนอะไรที่ต้องมี license จะหางานง่าย เช่น กายภาพบำบัด เรียนนานเหมือนกัน รู้สีกโปรแกรมเขาเป็นปริญญาเอก , เภสัชก็ดีนะ เรียน PHAMD (Pharmacy PHD) เรียนพยาบาลก็ดี แต่หนูกลัวเลือด ก็คงเรียนพยาบาลไม่ได้หรอกค่ะ
ค่อยๆเรียนก่อนก็ได้ ว่างแล้วค่อยเรียน Full time ก็ได้ค่ะ
คุยทางอีเมล์ bloggangnurse@gmail.com
โดย: newyorknurse 7 ธันวาคม 2555 9:08:00 น.