bloggang.com mainmenu search
สวัสดีคับเพื่อนๆ ชาวบล็อก "นายก้อนดิน" กลับมาหลายงานตัวอีกแล้ววว หลังจากหัวซุกหัวซุนทำงานอย่างบ้าคลั่ง ทั้งๆ ที่บ้านเมืองระส่ำระสาย แต่ด้วยปากท้อง มิวายต้องทำงานงกๆ ไม่ได้หยุดกับเขาสักที อิอิ

แต่ต้องบอกว่า "ความห่าง ยิ่งทำให้คิดถึง" วันนี้มีโอกาสสักเล็กน้อยก็ยังดี รีบแว๊บเข้ามาอัพบล็อก ทักทายเพื่อนๆ บรรดาหมู่มิตรที่รักให้ชื่นใจกันสักหน่อย

ตามคำสัญญาทิ้งท้ายเมื่อบล็อกที่แล้วครับ ว่างวดนี้หลังจากผมดิ่งออกจากเมืองบุรีรัมย์ ที่ผมทิ้งความทรงจำเอาไว้ เราก็มุ่งหน้ากันมาต่อที่ อ.วังน้ำเขียว ที่เที่ยวยอดฮิตของใครต่อใคร แต่ "นายก้อนดิน" เพิ่งกำลังจะได้ไปนี่แล



"นายก้อนดิน" เดินทางมุ่งหน้ามาถึงวังน้ำเขียว โดยทำการจองที่พักล่วงหน้าเอาไว้นานก่อนนับเดือน ที่พักในวังน้ำเขียวมีให้เลือกมากมายเหลือเกิน ก่อนจองก็เลยคิดเอาไว้ว่าถูกใจที่ไหนคงเลือกทันที เพราะหามัวแต่คัดกรอง ก็คงไม่จบไม่สิ้น ต้องยอมรับว่าที่นี่ มีที่พักสวยงามและน่าใช้บริการมากมายจริงๆ รวมทั้งที่นี่ด้วยเช่นกัน "อานาปานา รีสอร์ท"



ใช้เวลาเตร่ดเตร่ แวะนู่น ชมนี่เล็กๆ น้อยๆ ตลอดสองเส้นทาง เป็นวิถีแสนสนุกของการขับรถเที่ยวตจว. แต่ก็กินเวลาใช่ย่อย จากบุรีรัมย์มาถึงวังน้ำเขียว ผมเลยใช้เวลาสิ้นเปลืองกว่าเชื้อเพลิงไปถึง 5 ชม. ครึ่ง อิอิ  

ใช้เวลาวนหาที่พักราวครึ่งชม. รวมเวลาที่ต้องไปกลับรถด้วยเพราะเลยซะอย่างงั้น

อานาปานา รีสอร์ท มีทางเข้าค่อนข้างมองเห็นยากเพราะอยู่บนเนินเขา บางครั้งขับรถผ่านไป ถ้าไม่สังเกตุไม่เห็นแน่ๆ ทั้งๆ ที่ตัวรีสอร์ทอยู่ติดถนน!!

แต่เมื่อเลี้ยวรถเข้ามาแล้วพบว่า ภายในกว้างใหญ่และเป็นธรรมชาติอย่างมาก ในวันที่ไปถึงอากาศชุ่มช่ำเพราะฝนตกตลอดทริป แถมทางเดินในรีสอร์ทเป็นลานหญ้า ปูอิฐบล็อกทำให้เละ เฉอะแฉะดีจริงๆ ถ้าเป็นวันอากาศปลอดโปร่งน่าจะดีกว่านี้แน่ๆ Smiley








หลังเช็กอินท์เรียบร้อยโรงเรียนวังน้ำเขียว เราก็ด่ำดิ่งสู่ธรรมชาติอย่างเต็มรูปแบบ เพราะเราต้องจอดรถไว้หน้ารีสอร์ท แล้วทางพนักงานจะขับรถกอล์ฟพาเราไปส่งยังที่พักกันคับ เย่ๆ 

แต่หากใครสัมภาระ สัมภารกไม่มากมายก็สามารถยืมจักรยานของทางรีสอร์ท ขี่เข้าไปยังห้องพักได้เลยเช่นกัน แต่อย่างที่บอก วันที่ผมไปมันชุ่มช่ำซะเหลือเกิน เลยขอใช้บริการรถกอล์ฟละกัน

ห้องพักที่ได้ มีชื่อว่า "ใกล้ขอบฟ้า 3" จากภายนอกที่เห็น ก็ต้องบอกตามตรงแบบไม่อ้อมแอ้มละนะค้ับ ว่าภายนอกไม่ได้มีดีไซน์อันใดที่โด่ดเด่นเลย เป็นห้องทรงสีเหลี่ยมธรรมดาเท่านั้นเอง

แต่......!!!





เมื่อก้าวเข้ามาภายในห้อง ผมแทบจะกระโดดขึ้นเตียงเลยทีเดียว ห้องพักของที่ อานาปานา รีสอร์ท เป็นห้องพักที่ขนาดกำลังพอดี ไม่เล็กไม่ใหญ่ สมน้ำสมเนื้อกับราคา หลักพันกลางๆ 

ห้องพักสวย สะอาดสะอ้าน อย่างน่าประหลาดใจ เพราะส่วนใหญ่ที่พักท่ามกลางป่าเขาแบบนี้จะหาที่สะอาดเอี่ยมหมดจดแบบนี้ได้ยากเอาการเลยทีเดียว

ห้องพักถูกทาด้วยสีเขียวอ่อน มีลวดลายคลายความตึงเครียดไม่ให้ดูแข็งกร้าวเกินไป พื้นปูด้วยไม้ขัดเงา ดูดีมีระดับ ทำให้เหมือนอยู่ในบ้านพักตากอากาศชั้นเลิศเลยทีเดียว และที่ประทับใจเอามากๆ ก็คือที่นอนแสนนุ่ม ผ้าห่มหนา ให้ความอบอุ่นได้สุดๆ ยามค่ำคืนที่อากาศมีทีท่าน่าจะหนาวเหน็บเป็นแน่แท้









และอีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจ ก็คือห้องน้ำของตัวห้องพัก ที่ถูกออกแบบให้เป็นแบบ Open Air เรียกได้ว่าใกล้ชิดธรรมชาติกันไปเลย อิอิ แต่ว่าอาจต้องทำใจสักนิด ถ้าใครคิดจะอาบน้ำกลางดึก หรือเช้าตรู่ เพราะงานนี้แค่เดินเข้าไปสัมผัสกับพื้นห้องน้ำที่เป็นซีเมนต์ขัดเงาแล้วละก็ งานนี้มีสะดุ้งแน่นอน หุหุ

สำหรับวันนี้ขอไปนอนพักก่อนนะคับ... เดี๋ยวมาดูตอนเช้ากันว่า อาหารเช้าจะเป็นยังไงกันบ้าง



ตื่นเช้ามาก็เจอพิษฝนตกเลยครับ เฉอะแฉะอีกตามเคย การจะออกมาทานอาหารเช้าที่หน้าล็อบบี้ เลยยากขึ้นอีกหน่อย แต่ก็สบายๆ เมื่อโทรตามให้พนักงานขับรถกอล์ฟมารับออกไป เหมือนตอนที่เข้ามานั่นแหละ นั่งรถกอล์ฟ ชมธรรมชาติระหว่างทางไปพลางๆ 









นั่งรถกอล์ฟชมบรรยากาศโดยรอบของที่พัก ก็ยิ่งพบว่ามันกว้างใหญ่ และเป็นธรรมชาติมากๆ ครับ เรียกว่าเดินก็เหนื่อยละ แต่เนื่องจากฝนตกตลอด ทำให้ไม่ได้ขี่จักรยานเที่ยวให้ทั่ว พอตอนเช้าทางพนักงานพาอ้อมเลยได้เห็นบรรยากาศของที่นี่ ต้องบอกว่าเจ๋งเป้งไปเลยนะจ๊ะ Smiley



พอมาถึงหน้าล็อบบี้ ก็มาเลยจ้า กับน้ำส้มตอนเช้า สดชื่นดื่มด่ำบรรยากาศอย่างเต็มที่มากๆ





ที่นี่อาหารเช้าจะมีให้เลือก 2 แบบ คือแบบ  ABF กับแบบข้าวต้ม ซึ่งเราก็จัดแจก เลือกคนละอย่าง เพื่อมาดูหน้าตา วัดกันไปเลยอีกว่า ฝรั่งกะไทย อันไหนเจ๋งกว่ากัน อิอิ





รูปพรรณสัณฐานของอาหารจากสองชาติที่เอามาให้ชมกันครับ ABF ก็พิมพ์นิยม ไข่ดาว แฮม ไส้กรอก ขนมปัง ฯลฯ ประมาณนี้ รสชาติก็ทั่วไปครับ เป็นปกติ ไม่ดีไม่แย่กว่าที่อื่น

ส่วนอาหารแบบไทย ข้าวต้ม... ขอบอกว่าแหล่มมาก มีข้าวต้ม 1 ถ้วย ไม่สิต้องบอกว่า ชามใหญ่ๆ ถึงจะถูก ทั้งข้าวต้ม ทั้งเครื่องให้เยอะมากๆ เรียกว่าทานได้สองคนครับ งานนี้

ส่วนเครื่อง ก็มี 3 อย่างด้วยกัน ไก่ทอด ยำไข่เค็ม แล้วก็ผัดผักบุ้ง ผมโดนใจยำสุดๆ อร่อยครบรส ส่วนอีกคนชอบไก่ทอดมากๆ คับ









หลังทานอาหารอิ่มแล้ว เห็นฟ้าฝนเริ่มเป็นใจ เลยถือโอกาสใช้บริการจักรยานของทางรีสอร์ทสักหน่อย ขี่ไปเที่ยวชมบรรยากาศด้านหลังตัวรีสอร์ทครับ ตอนเช็กอินทางพนักงานแจ้งว่า ด้านหลังเป็นจุดชมวิวอันสวยงามของที่นี่ ตอนแรกคิดว่าอดไปชมซะแล้ว ฝนตกพรำๆ ตลอดเวลา

อิอิ แต่ก่อนเช็คเอ้าท์โชคก็เข้าข้างเราบ้างครับ ให้มีโอกาสไปดูจุดชมวิวจนได้ ทางไปต้องบอกว่าเหนื่อยเอาเรื่องเลย ขี่จักรยานทางเป็นเนินขึ้นเขาลงเขาตลอด หอบแห่กๆ แต่บรรยากาศดีจริงๆ ครับ ถือว่าคุ้มกับความเหนื่อยๆ ละน่า Smiley



หลังจากเช็กเอ้าท์เรียบร้อย ก็แวะเที่ยวเล่นๆ ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่ยมตามประสาครับ เลยเอาภาพมาไว้ในบล็อกอันนี้เลยละกัน ก็คือที่เขื่อนลำพระเพลิงนั่นเอง ตอนไปน้ำยังน้อยอยู่เลย พอกลับมาได้สองวัน ข่าวออกว่าที่นี่เขื่อนนี้น้ำล้นความจุแล้ว แทบไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ครับ โอ้วว









วังน้ำเขียว ที่นี่ได้ยินชื่อมานมนานครับ สุดท้าย "นายก้อนดิน" ก็ได้มีจังหวะไปยังที่นี่จนได้ รวมถึงบันทึกความประทับใจใส่ความทรงจำไว้อย่างไม่มีวันลืม ทั้งบรรยากาศและที่พัก ความสุขความอิ่มเอมใจทำให้มีพลังกลับมาทำงานในเมืองที่วุ่นวายอยากเต็มที่ไปเลยครับ....

วันนี้ "นายก้อนดิน" ขอจบเท่านี้ก่อนครับ ขอฝากเพื่อนๆ ไว้ว่า หามีเวลามีโอกาส ขอให้ตักตวงความสุขให้ตัวเองให้มากๆ ครับ ไม่มีใครให้รอยยิ้มเราได้ นอกจากตัวเราเอง...
Create Date :11 ธันวาคม 2556 Last Update :11 ธันวาคม 2556 23:27:51 น. Counter : 8265 Pageviews. Comments :46