bloggang.com mainmenu search

และแล้วก็ถึงเวลาที่อิชั้นจะไปเยียมสามีสุดที่รักที่ชุมพรแล้วววว

หนนี้มาอยู่ 5 วัน เชียวนะ จากตอนแรกที่กะว่าจะหิ้วกระเป๋าขึ้นเครื่องเอง กลับต้องเปลี่ยนเป็นโหลดใต้ท้องเครื่อง....Smiley

แหมก็ผู้หญิงอ่ะ เดินทางหลายวัน ของก็ต้องเยอะบ้าง อะไรบ้างสิเนอะ...Smiley

วันนี้เป็นวันพุธ มารอขึ้นเครื่องบินนกแอร์ที่สนามบินดอนเมือง เวลาสี่โมงกว่าๆ

เพราะเป็นวันธรรมดา แถมไปชุมพรด้วย คนก็เลยน้อย ไม่เหมือนเมื่อกี้ ที่เค้าประดาศไฟลท์ก่อนหน้าไปตรังกะเชียงใหม่ โห...คนช่างเยอะ 

แต่ตอนนี้เก้าอี้ว่างโล่งสุดๆ....นอนเล่นได้เลย


อิชั้นนั่งเล่นไป ดูหนังจาก Ipad ไป ขอบคุณยูทูปจริงๆที่ช่วยฆ่าเวลาได้ (ดูหนังได้เป็นเรื่องๆอ่ะ คิดดู) Smiley

และแล้วเมื่อถึงเวลาเดินทาง น้องนกก็พาเราบินขึ้นฟ้า....ฟิ้ววววSmiley



กรุงเทพจากมุมสูง ดูสวยงามดีเนอะ

ระหว่างการเดินทาง แอร์โฮสเตสเสริฟของว่างและน้ำเปล่าให้ อิชั้นแกะดูก็พบว่าเป็นของ Auntie Anne's เหมือนหนก่อนเลย แต่เพราะยังไม่ค่อยหิวเลยเก็บไว้ก่อน เลยจิบแต่น้ำเปล่าแก้กระหาย

บินประมาณชั่วโมงนิดๆ น้องนกก็พาเรามาถึงชุมพรโดยสวัสดิภาพ

สนามบินชุมพรค่ะ.....


จากนั้นเรานั่งรถตู้ที่เค้ารับจ้างมารับเรา ไปส่งที่ตัวเมืองชุมพร ค่าโดยสาร 150 บาท แต่ถือว่าบริการดีและสะดวกมาก

พี่ศักดิ์มานั่งรอรับเราที่ Salsa Hostel ซึ่งเป็นจุดที่รถจอดส่งผู้โดยสารค่ะ

มาเจอหน้าพี่ศักดิ์ก็หายเหนื่อยแล้ว เย้ๆ...

(ได้ข่าวมาไม่ได้เจอกันแค่สิบวัน เว่อร์ไปป่ะ)Smiley

พอดีถึงเวลาอาหารเย็น พี่ศักดิ์เลยพาไปกินอาหารพื้นเมืองชุมพร  นั่นคือ...สุกี้ Hot Pot

บ้าซิ !! Hot Pot เนี่ยนะ อาหารพื้นเมืองตรงไหนย่ะ Smiley

แต่เอาเถอะ อิชั้นก็เริ่มหิวแล้วด้วย กินก็กิน (ไม่เล่นตัวเลยแม้แต่น้อย)

เสร็จแล้วเราก็กลับเข้าบ้านพัก พักผ่อนให้หายเหนื่อย เดี๋ยวพรุ่งนี้เราต้องเดินทางกันแต่เช้านะ

วันต่อมา เราตื่นกันตอนหกโมงเช้า  รีบอาบน้ำแต่งตัว เพื่อมุ่งหน้าเดินทางไปจังหวัดสุราษฎร์ธานี

เพราะพี่ศักดิ์มีภารกิจ  ต้องมาประชุมภาคที่นี่ค่ะ

แล้วเดี๋ยวประชุมเสร็จ  เราจะไปเที่ยวเชื่อนเชี่ยวหลานกันน้า...ว้าวๆๆๆSmiley


ถนนมุ่งหน้าสู่สุราษฎร์...

หลังจากที่นั่งรถมาร่วม 200 กิโล  (ไกลโคตรๆ ไม่ยักกะรู้ว่าสุราษฎร์กับชุมพร มานจะไกลได้ขนาดนี้นะ เง้อ)

เฮ้อ   ในที่สุดเราก็มาถึงตัวเมืองสุราษฏร์จนได้  เย้ๆๆ  (หมดแรง)

หลังจากที่ทานข้าวเที่ยงเสร็จ  ก็ส่งพี่ศักดิ์เข้าประชุม หลังจากประชุมเสร็จประมาณ 4 โมงเย็น เราสองคนก็รีบจรลี เดินทางต่อเพื่อไปเขื่อนเชี่ยวหลาน  ตอนนี้กลัวอย่างเดียว กลัวว่าจะไม่ทันมืดเสียก่อน



และแล้ว ชีวิตก็มีอุปสรรคจนได้ 

ฝนค่า SmileySmileySmileySmiley ฝนตกลงมาหนักมากกก หนักจนถึงขั้นพี่ศักดิ์มองไม่เห็นทางเลย ที่ปัดน้ำฝนก็เอาไม่อยู่แล้ว

สุดท้าย เพราะชีวิตสำคัญกว่าการท่องเที่ยว เมื่อเจอปั๊ม Jet อยู่ข้างๆ  เราเลยต้องรีบเข้าไปหลบฝนกันก่อน  เพราะฝืนขับต่อไม่ไหวจริงๆSmiley

รอฝนหยุดตก ประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าๆ เมื่อฝนซาเราเลยออกมา เดินทางกันต่อไปค่า....

และสุดท้าย....

เราก็มาถึงจนได้  เย้ๆๆๆ


แต่มาถึงเขื่อนเชี่ยวหลานตอนทุ่มกว่าแล้วนะ  มืดตึ้บบบ   ทางก็ไม่เห็น ถ่ายรูปก็ไม่ได้  เศร้า..............


ตอนแรกเพื่อนพี่ศักดิ์จองห้องพักที่เพชรไพลินให้  เข้าไปดูแล้ว ห้องสวยและกว้างมากก วิวก็งาม  แถมราคาก็แรงด้วย ประมาณสามพันกว่าบาท  แต่เนื่องจากเรามากันดึกมากเลย  วิวอะไรก็ไม่ได้ดูแล้ว แถมพรุ่งนี้ต้องรีบตื่นแต่เช้ามืด เพื่อไปชมกุ้ยหลินเมืองไทย 

 เราเลยถามเค้าว่ายกเลิกได้ไหม เพราะคืนนี้แทบจะไม่ได้นอนเลย  เสียดายค่าห้องพักอ่ะ โชคดี ที่น้องเค้าเข้าใจ  เราจึงตั้งใจไปหาที่พักที่ใหม่

แต่ก่อนจะหาที่พัก  เราไปหาข้าวเย็นกินก่อนนะ  ตอนนี้หิวไส้กิ่วแล้วววSmiley

รอนแรมหาที่กินข้าว สุดท้ายก็ได้ที่นี่ช่วยชีวิตค่า ชื่อ "ครัวคุณพุ่ม"

ดึกแล้ว ลูกค้าขาจรหายเกลี้ยง

เราสั่งอาหารสองอย่าง และบอกเค้าว่าขอด่วนหน่อยน้า หิวข้าวมั่กมาก

น้องเค้าก็น่ารักค่ะ ยกมาเสริฟโดยไว รอไม่นานเลย

แกงส้มปลากดยอดมะพร้าวอ่อน   แต่มองๆไปเหมือนแกงเหลืองมากกว่า รสชาติเข้มข้นใช้ได้ ยังดีที่ไม่เผ็ดมาก

ยำผักหวาน จากนี้อร่อยดีค่ะ ผักสดกรอบดีSmiley


โชคดีได้มื้อนี้ช่วยชีวิตเราเอาไว้  แฮ่ะๆๆSmiley


พออิ่มแล้ว รอดตาย ก็มาหาที่พักสำหรับซุกหัวนอนคืนนี้

เรามาที่นี่ค่ะ  "บ้านพักริมเขื่อน"  เพราะทราบมาว่าเป็นของเอกชน  ราคาไม่แรงเท่าไหร่ พอรับได้กับการค้างแค่แป๊บเดียว

สุดท้ายเราก็ได้ห้องนี้ค่ะ ในราคา 800 บาท มีน้ำอุ่น แอร์ ทีวี  ก็ครบครันดี 

คืนนี้พักผ่อนเอาแรงที่นี่ก่อนนะคะ  ต้องรีบเข้านอนเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไม่ไหว

เช้ามาเราก็รีบมาที่ท่าเรือค่ะ เค้านัดไว้ตอนหกโมงเช้า ต้องมาไวนิดนึง ไม่งั้นเดี๋ยวพอสายๆ หมอกหายแล้วจะหมดสวย



เรือที่จะพาเที่ยว เป็นเรือหางยาวติดเครื่อง  ราคาเหมาลำคือ 1,500 บาท สำหรับเรือเล็ก 10 ที่นั่ง

แต่หากเป็นเรือใหญ่ 20 ที่นั่ง ราคาจะสูงถึง 2,400 บาท

หนนี้เราโชคดีที่ได้ทั้งเรือเล็ก  และมีครอบครัวนึงมาหารร่วมกับเรา สบายไปเลยค่า

วิวในเขื่อนรัชประภา ขนาดดูไกลๆยังสวยเลยค่ะSmiley


เขื่อนรัชชประภา หรือที่เรียกกันติดปากว่า กุ้ยหลินเมืองไทย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุดของอุทยานแห่งชาติเขาสก

ทัศนียภาพโดยทั่วไปภายในอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนรัชชประภา มีทัศนียภาพที่สวยงามมาก  นักท่องเที่ยวทุกคณะที่ไปเห็นล้วนประทับใจ ภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นภูเขาหินปูนที่สูงชันล้อมรอบไปด้วยผืนน้ำที่กว้างใหญ่ 

ด้วยความลึกของระดับน้ำ กรอปกับสีของตะไคร้น้ำที่อยู่เบื้องล่างทำให้น้ำในเขื่อนมีสีเข้มเหมือนสีมรกต จนนักท่องเที่ยวหลายท่านคิดว่าเป็นน้ำทะเล  ลักษณะภูมิประเทศไปคล้ายกับภูมิประเทศที่เมืองกุ้ยหลินประเทศจีน จึงได้ฉายาว่า กุ้ยหลินเมืองไทย


แต่หนนี้ที่เรามา โชคร้ายนิดนึงที่น้ำแห้ง ทำให้ขอบๆดินสีแดงโผล่ เลยสวยน้อยหน่อย  ถ้าเป็นหน้าฝนที่น้ำเต็มๆ วิวจะสวยกว่านี้เยอะเลยค่ะ

ตรงนี้เป็น Highlight ที่ทุกคนมาแล้วต้องถ่ายรูปเป็นที่ระลึก  "เขาสามเกลอ" ค่ะ


แชะภาพกานหน่อย



เสร็จแล้วเรือจะพาเรามาที่จุดพักของอุทยาน ตรงนี้มีแพของอุทยานชื่อแพนางไพรด้วยค่ะ

มีปลาอยู่เพียบเลย  ตรงนี้สามารถให้อาหารปลาได้นะคะ


เรือที่จอดรอนักท่องเที่ยวหน้าอุทยาน............

วิวตรงนี้ชิลๆค่ะ น่านั่งเล่นมากเลย  ให้นั่งทั้งวันยังได้ แต่เรือที่เราเช่าเค้ามาคงรอเราไม่ไหว  เราก็เลยต้องขึ้นเรือเพื่อกลับมาขึ้นฝั่งค่ะ ทิ้งไว้แต่เพียงความทรงจำดีๆค่ะ

เรามาถึงฝั่งประมาณ 8 โมง  สิริรวมวันนี้เราใช้เวลาไปทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง   จะบอกว่าแค่ 8 โมงเนี่ย...แดดอย่างแรง อากาศร้อนมาก โชคดีนะที่เราไปกันแต่เช้า



เสร็จแล้วก็มาถ่ายรูปคู่กับป้ายเขื่อนหน่อย


ชื่อเดิมเรียกว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน เริ่มดำเนินการก่อสร้าง เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2525 แล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2530 เมื่อสร้างแล้วเสร็จได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามให้ใหม่ว่า “เขื่อนรัชประภา” มีความหมายว่า “แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร”



วิวตรงนี้สวยมากค่ะ ส่งไปให้เพื่อนดู เพื่อนบอกว่าเหมือนญี่ปุ่นเลยSmiley



แชะภาพหน่อย



กลับมาถึงที่พักตอนเก้าโมงเช้า...หิวโฮกกกก

พี่ศักดิ์จะอาบน้ำก่อนแล้วค่อยกินข้าว แต่อิชั้นไม่ยอมค่า ก็หิวแล้วนี่ ขอกินข้าวก่อนได้ไหม กองทัพต้องเดินด้วยท้องนะSmiley

ก็เลยมากินที่ร้านนี้ค่ะ "ครัวริมเขื่อน "  อยู่ไม่ไกลเลย ก็อยู่หน้าห้องพักเรานี่แหล่ะ เค้าเป็นเจ้าของเดียวกัน  แต่เห็นหลายๆคนแนะนำให้มาทานที่นี่ แสดงว่าน่าจะอร่อย จริงไหมค่ะ

เดินมาไม่กี่ก้าว ก็ถึงร้านอาหารแล้ว

มาถึงก็สั่งอาหารอย่างไว เพราะหิวมั่กมาก..... รอไม่นานอาหารก็มาเสริฟค่า

จานแรกเป็นใบเหลียงผัดไข่  รสชาติหวานๆมันๆ  ผัดกับไข่ได้อร่อยมากๆ 

เราไม่เคยกิน ติดใจเลยค่ะ อร่อยๆSmiley

จานนี้เป็นปลาทรายทอดกรอบทั้งตัว  เคี้ยวเพลินไปเลย

แกงส้มผักรวม  (แต่อิชั้นมองยังไงก็แกงเหลืองอ่ะ แกงเหลืองชัดๆ)  ตอนที่สั่งอาหารเด็กเสริฟก็เตือนว่า ให้ลดเผ็ดลงมาหน่อยไหม เค้าคงกลัวพวกเรากินไม่ได้  เราก็เลยให้ลดเผ็ดลงมาครึ่งนึง

จะบอกว่าขนาดลดมาแล้ว ชามนี้ยังเผ็ดโฮกเลย  แต่มันเผ็ดแบบอร่อยนะ ไม่ใช่แบบว่าโดดจนกินไม่ได้ เครื่องแกงเค้าเข้มข้นอ่ะ    มันเผ็ดแบบลึกๆข้างใน  กินตอนแรกไม่รู้สึกเลย มาเผ็ดตอนใกล้จะหมดนี่แหล่ะ แต่ถือว่าอร่อยนะคะ  จัดจ้านสุดๆ

ชามนี้ใส่ปลาบึก เนื้อปลาบึกนี่แปลกดีจัง มีหนังให้เคี้ยวหนึบๆเหมือนเนื้อหมูเลย พี่ศักดิ์บอกว่าบางคนจะไม่ชอบ เค้าว่ามันคาว แต่อิชั้นชอบนะ อร่อยดีSmiley

มื้อนี้อิ่ม อร่อย ถูกใจมากๆค่ะ

ตอนนี้ก็ถึงคราวที่ต้องกลับชุมพรแล้ว เสียดายจังมีเวลาอยู่ที่นี่น้อยไปหน่อย แต่กะว่าวันหลังจะชวนป๊ากะแม่มาเที่ยวบ้าง  ท่าทางแกจะชอบนะ  วิวสวยมาก และเดินทางก็ไม่ลำบากด้วย

ถือเป็นทริปชิลๆที่น่าประทับใจทริปนึงค่ะ







 

Create Date :30 เมษายน 2556 Last Update :24 ธันวาคม 2556 8:47:07 น. Counter : 1589 Pageviews. Comments :1