"As Man Eats Through His Forest"
Dear Friends, Relatives & Sponsors of VEDETT MOTOTOURS & IMAGINATIVE ENTERPRISES, A short note to inform you about our most recent motorcycling & creative activities: After partaking with KAWASAKI MOTORS ENTERPRISE at The 32nd BANGKOK INTERNATIONAL MOTOR SHOW 2011, and having taken our motorbike to a wonderful tour across Malaysia, we are now exhibiting at the new museum BACC Bangkok Art & Culture Centre. "As Man Eats Through His Forest" ////////////////////////////////////////////////////////////////////////// An exhibition of installations, drawings, and wall painting by: Franco Angeloni, Ruangsak Anuwatwimon, and Moritz Ebinger LOCATION: Bangkok Art and Culture Centre (BACC) _ Bangkok, Thailand On Saturday, 23 April, 2011, 6.30pm Franco Angeloni wishes to thank: KAWASAKI MOTORS ENTERPRISE THAILAND CO. Ltd Exhibition dates: 23 April 29 May, 2011 ขอเชิญร่วมงานเปิดนิทรรศการ As Man Eats Through His Forest วันเสาร์ที่ 23 เมษายน 2554 เวลา 18.30 น. งานศิลปะร่วมสมัย การจัดวาง ภาพวาด และจิตรกรรมบนผนัง โดย เรืองศักดิ์ อนุวัตรวิมล Franco Angeloni และ Moritz Ebinger วันแสดงนิทรรศการ: 23 เมษายน - 29 พฤษภาคม 2554 (ภาษาไทยโปรดเลื่อนลง) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- As Man Eats Through His Forest, a group exhibition, tackles the role of man as the protagonist in the relationships between man and nature. Since the dawn of human existence, we have acquired from nature the resources for physical survival and spiritual inspiration. Franco Angeloni, Ruangsak Anuwatwimon, and Moritz Ebinger investigate the values man produced and subscribed onto nature and its systems. Reflecting on the hunter and gatherer instincts, the artists assemble insightful studies on humanity's culmination of beasts, botanics, and gold. Franco Angeloni (Dutch/Italian) goes to the mangrove forests. Their intricate and complicated ecology dominate tropical coastlines, providing protection to land shores and marine species. The works offer rhetorical observations on how man harvests from this tree community. Consumerism plays a significant part in the sustainability of this delicate ecology. Ruangsak Anuwatwimon (Thai) presents his arduous conceptual, material, and process research of human's construction of socio-economic structures to keep the natural world as our facility. This longterm project casts the cremated remains of human-induced deaths into jigsaw components that will eventually connect together to form the 'perfect human'. The commitment of man's self-centered consumption of animals, plants, and other lives, is not only fueled by our survival instinct, but ultimately for the achievement of the utopian self. Moritz Ebinger (Dutch/Swiss) has drawn himself into the research of the significance of gold in Thai culture. The golden metal is a natural element that has caused human all over the world to wage epic wars onto each other. Civilizations are built and destroyed, lives are insured and enslaved owing to this 'precious' gold. The material represents divinity, binds loves and even heals ailments. Moritz's work studies the long-established status of gold in Thailand's as demonstrated in the profuse use of the metal and colour on Buddhist and cultural artifacts. ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- นิทรรศการกลุ่ม "As Man Eats Through His Forest" แสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยโดย 3 ศิลปิน เรืองศักดิ์ อนุวัตรวิมล Moritz Ebinger และFranco Angeloni สร้างงานที่แสดงความสัมพันธ์ของมนุษย์กับโลกธรรมชาติ ตั้งคำถามเรื่องราวของคนที่ ได้ใช้ทรัพยากรสภาพแวดล้อม เพื่อเอื้อประโยชน์ของตัวเอง และค้นคว้าความหมายต่างๆทางสังคม เศรษฐกิจ ศาสนา วิทยาศาสตร์ ฯลฯ ที่คนได้แต่งขึ้นเพื่อสร้างกรอบให้กับระบบและสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ นิทรรศการนี้เสนอกลุ่มงานที่บอกเล่าถึงการ ไล่ล่า เก็บเกี่ยว และใช้สอยของสัตว์สรรพสิ่ง พืช และทอง Franco Angeloni (อิตาลี/เนเธอร์แลนด์) ผูกงานศิลปะของเขาเข้ากับป่าไม้ และระบบนิเวศน์ที่พิเศษและบอบบางของป่าโกงกาง โดยจะนำเสนอความสัมพันธ์อันละเอียดอ่อนระหว่างการมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ งานของ Franco ไม่ได้ต้องการที่จะชี้ถูกชี้ผิด หรือเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงระบบการบริโภคของมนุษย์ แต่เพื่อสังเกตการณ์ และบอกเล่าถึงผลกระทบที่ระบบบริโภคนิยมของมนุษย์มีต่อสภาพแวดล้อมธรรมชาติ งานของเรืองศักดิ์ อนุวัตรวิมล (ไทย) วิเคราะห์โครงสร้างของระบบทางสังคมและเศรษฐกิจ ที่คนได้สร้างขึ้นเพื่อบริหารและบริโภคสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ ผ่านความคิด วัสดุ และกระบวนการเฉพาะ ที่ใช้ขี้เถ้าจากสิ่งมีชีวิตต่างๆมาหล่อเป็นรูปทรงที่เกี่ยวกับร่างกาย มนุษย์ งานในนิทรรศการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจคระยะยาว ที่เรืองศักดิ์ได้วาดระบบโครงสร้างของมนุษย์ใหม่ เพื่อชี้ถึงการบริหาร และบริโภคของสิ่งมีชีวิตต่างๆบนโลกใบนี้ของคน ไม่ใช่เพื่อความอยู่รอดเท่านั้น แต่เพื่อที่จะได้มาซึ่งการเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ ตามอุดมคติ Moritz Ebinger (สวิสเซอร์แลนด์/เน เธอร์แลนด์) ค้นคว้าความหมายของทองตามอารยธรรมและพุทธศาสนาของไทย ทองเป็นต้นเหตุของสงครามระหว่างมนุษย์มาเป็นเวลาช้า นานอารยธรรมต่างๆสถาปนา ขึ้น และถูกทำลายลง ชีวิตเจริญรุ่งเรือง และถูกกดขี่เพราะโลหะอันลำ้ค่านี้ ทอง วัสดุธรรมชาติที่เป็นสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์ เป็นสิ่งที่ยืนยันความรักที่มั่นคง และแม้กระทั่งรักษาโรค งานของMoritz Ebinger วิเคราะห์การใช้โลหะทอง และวัสดุสีทองอย่างมากมายในพุทธศาสนา และในวัฒนธรรมความเชื่อของคนไทย ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- For further information, please contact BKK Arthouse: Level 3, Bangkok Art and Culture Centre (BACC) bkkarthouse@gmail.com 0809906910 - 0897811463 Opening: 12.30 - 19.30, Tuesday - Sunday -- As a part of the ongoing project: // VEDETT MOTOTOURS & IMAGINATIVE ENTERPRISES // On KAWASAKI VERSYS 650cc [ Model 2011 ] Project conceived & designed by Franco Angeloni & Nicky Ph _ PH Productions® --
As Man Eats Through His Forest
เราต่างถูกสร้างมาจาก "การบริโภค"
อัครวิทย์ ชูเกียรติศิริชัย || ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
Jean Baudrillard มองว่าปัญหาสำหรับโลกทุนนิยมปัจจุบันไม่ได้อยู่ที่การทำกำไรสูงสุด หากแต่เป็นเรื่องของผลิตภาพที่ไร้ขอบเขตจำกัด (unlimited productivity) อันเกิดจากความก้าวหน้าของพลังการผลิต (productive force) และความต้องการที่จะกำจัด (dispose) ผลผลิตนั้นออกไปต่างหาก ดังนั้นตัวระบบทุนเองจึงจำเป็นต้องปลุกปั่นความต้องการให้แก่เราเพื่อกำจัดสินค้าที่ล้นเหลือนั้นออกไปเสีย คำอธิบายเกี่ยวกับภาวะล้นเกิน (overproduction) ซึ่งเคยอ่านพบในหนังสือ Postmodern & Economics โพสต์โมเดิร์นกับเศรษฐศาสตร์: บทวิพากษ์สมมติฐานความมีเหตุผลทางเศรษฐศาสตร์ ของ นรชิต จิรสัทธรรม ปรากฏขึ้นในมโนสำนึกของผู้เขียนอย่างกระทันหัน เพียงวินาทีแรกที่ได้มีโอกาสสัมผัสกับผลงานจาก 3 ศิลปิน เรืองศักดิ์ อนุวัตรวิมล (ไทย) Franco Angeloni (อิตาลี) และ Moritz Ebinger (สวิตเซอร์แลนด์) ซึ่งถูกนำมาเรียงร้อยภายใต้ชื่อนิทรรศการ As Man Eats Through His Forest* โดยฝีมือการประสานงานของภัณฑารักษ์สาว: นิกันติ์ วะสีนนท์
ผู้เขียนพยายามหาสาเหตุของสิ่งที่อาจจะไม่เป็นเหตุเป็นผลในมโนสำนึก จนได้พบกับคำตอบ (แบบคิดเองเออเอง) ว่า นั่นอาจเป็นเพราะนิทรรศการศิลปะชุดนี้ช่วยเตือนสติให้ มนุษย์เมือง ที่ดำรงชีวิตในขั้นทุติยภูมิ (ไม่ได้ลงมือผลิตทรัพยากรอาหารด้วยตนเอง) รับรู้ว่า สุดท้ายเราทุกคนก็ล้วนเป็นหนึ่งใน ผู้บริโภค ซึ่งมีส่วนร่วมต่อการทำลายชีวิต เพื่อกำจัดสินค้าที่ล้นเหลือออกไป เช่นเดียวกัน
โกงกาง กระดาษ และเทคโนโลยีสีเขียว
ขณะที่มนุษย์เมืองจำนวนหนึ่งพยายามต่อต้านการบริโภคใน "ภาวะล้นเกิน" ที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยแสร้งดำรงตนบน "ทางเลือก" เพื่อปฏิเสธการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อการทำลายชีวิต แต่ผลงานศิลปะของ Franco Angeloni ศิลปินชาวอิตาลี กลับเผยให้เห็นถึง "วิถีชีวิตประจำวัน" ของสังคมเมืองที่ดำรงอยู่ได้ด้วยการสร้างสรรค์และทำลายในขณะเดียวกัน
ก้อนกระดาษที่ถูกขยำแล้วแขวนลอยอยู่เกือบกึ่งกลางห้องจัดแสดง พร้อมด้วยข้อความ The Wrong Drawing สะท้อนให้เห็นถึงคู่ขนานของพฤติกรรมมนุษย์ ในเรื่องของการสร้างสรรค์และทำลาย ขณะที่ถ่านไม้โกงกางซึ่งถูกจัดวางแนวนอนรองหนุนหัวท้ายด้วยกระดาษที่ถูกขยำ 2 ก้อน ภายใต้ชื่อผลงานว่า Bridge เปรียบเสมือนสะพานที่เชื่อมโยงให้เห็นถึงต้นทุนจากกระบวนการการผลิตที่อยู่ในวัสดุเหลือใช้อย่างกระดาษ
ส่วนถ่านไม้โกงกางแท่งยาวซึ่งถูกจัดวางแนวตั้งขนานกับมุมของผนังก่อนจะถูกคลุมไว้ด้วยแผ่นกระดาษซึ่งเมื่อเปิดขึ้นก็จะพบกับเหรียญสิบบาทที่วางไว้หัวท้ายของด้าม คือสัญลักษณ์แห่งมูลค่าที่มนุษย์ตีตราไว้ให้กับธรรมชาติ ขณะที่ไม้โกงกางสด ถ่าน และกระดาษ ซึ่งถูกวางเรียงขนานเป็น 3 ระดับ โดยมีความยาวเท่ากัน ก็เผยให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติในฐานะทรัพยากรและมนุษย์ในฐานะผู้บริโภคที่สามารถแปรรูปสรรพสิ่งให้กลายเป็นเครื่องตอบสนองต่อความต้องการ
ส่วนกระดาษที่ถูกพับจนยับย่นไร้รูปทรง จารึกข้อความ Monument to a Rotaring Nature ซึ่งถูกหมุนด้วยพลังงานของมอเตอร์ไฟฟ้า และกล่องบรรจุกระดาษขนาด A4 ที่ถูกวางตั้งเรียงซ้อนกัน ก็สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการใช้ "เทคโนโลยีหมุนเวียน" หรือ "เทคโนโลยีสีเขียว" มาเป็นคำตอบในการจัดการกับทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งสุดท้ายก็
วนอยู่บน "กับดักพลังงาน" ที่ต้องจ่ายให้กับการสร้างแบรนด์ "ทางเลือก"
ถัดจากกล่องบรรจุกระดาษที่ถูกเรียงซ้อน ศิลปินเลือกที่จะใช้ถ่านไม้โกงกางร่างภาพลายเส้นลงบนกระดาษ เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นจังหวะการเต้นของชีพจรซึ่งสัมพันธ์กับปริมาณของทรัพยากรธรรมชาติที่ต้องถูกทำลายเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตของเมือง
ความน่าสนใจจากผลงานของ Franco Angeloni ก็คือ การที่เขาเลือกที่จะนำเสนอเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งที่เรียกว่า สร้างสรรค์และทำลาย ผ่านการบริโภคซึ่งดำรงอยู่ควบคู่กันในสังคมเมือง โดยไม่ได้ชี้นำหรือตัดสินผิด-ถูก ชั่ว-ดี ตามมาตรฐานของ จริตชน ที่นิยมปฏิบัติสืบทอดต่อกันมา
GOLEM การประกอบสร้างมนุษย์จากเศษซากชีวิต
ด้าน เรืองศักดิ์ อนุวัตรวิมล ศิลปินสายเลือดไทย เลือกที่จะนำเสนอส่วนหนึ่งของโครงการ (project) ระยะยาว (ในช่วง 3 ปี จากระยะเวลา 5 ปี) ในชื่อ GOLEM ทั้งในส่วนที่เป็นภาพร่างลายเส้นศีรษะของมนุษย์ ภาพร่างลายเส้นของหญิงสาวเต็มตัว (figure) ในท่านั่ง ซึ่งถูกเขียนขึ้นจากขี้เถ้า งูเหลือม, ปลาดูด, ปูแมงมุม, หอยสังข์, ยุง, แมลงสาป, สุนัขรอทไวเลอร์, หนูท่อ, แมวบ้าน, หมู, หมี, ช้าง, ต้นเฮมลอค (hemlock) และไม้มะค่า ลงบนแผ่นกระดาษที่มีลักษณะยับย่น ซึ่งในส่วนภาพร่างของหญิงสาวในนาม GOLEM นั้นถูกแปะไว้บนแผ่นใสที่สว่างไสวด้วยแสงไฟจากหลอดนีออน จนทำให้นึกย้อนไปถึงยุค แสงสว่างแห่งปัญญา (Enlightenment) ที่มาพร้อมกับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์
นอกจากนี้ศิลปินยังได้นำเสนอชิ้นส่วนจำลองของ กระดูกขากรรไกรส่วนล่าง (Mandible) ของมนุษย์ซึ่งทำขึ้นจากขี้เถ้าของ หนูท่อจากนอร์เวย์ ชิ้นส่วนจำลองของฟันที่ทำขึ้นจากขี้เถ้าของ ปลาดาวทะเล, ปลาซัคเกอร์, ปูแมงมุม, หอยสังข์หนามยักษ์, ไม้โกงกาง, แมงดาหางเหลี่ยม, ช้าง, หมู, ปลากระเบน, ยุงลาย, นกพิราบ, แมลงสาป, ไม้มะค่าโมง, ต้นเฮมลอค, หมีคน และแมวไทย พร้อมภาพร่างลายเส้นอธิบายส่วนประกอบ รวมไปถึงชิ้นส่วนจำลองของลิ้นและหัวใจที่ทำจากขี้เถ้างูเหลือม ตลอดจน "ผงขี้เถ้าจากซากสัตว์" ที่ถูกบรรจุไว้ในกระป๋องพลาสติกใส ซึ่งในท้ายที่สุดศิลปินจะนำชิ้นส่วนของอวัยวะจำลองเหล่านี้ไปประกอบสร้างเป็นมนุษย์ขั้นสมบูรณ์
สำหรับผู้เขียน ผลงานของเรืองศักดิ์กระตุ้นให้นึกถึงแหล่งที่มาของตัวตน (sources of self) ของมนุษย์ ทั้งในทางชีววิทยา และเศรษฐศาสตร์ซึ่งสัมพันธ์กับ "การบริโภค" ที่ทำให้ "มนุษย์" นั้นกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ ประกอบสร้างตนเอง มาจากการทำลายชีวิตอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน ทั้งทางตรงและทางอ้อม
ยิ่งได้ฟังเรื่องเล่าจากภัณฑารักษ์ประจำนิทรรศการ เกี่ยวกับโรงงานซึ่งปล่อยน้ำเสียลงในลำคลองจนเป็นเหตุให้ปลาตายเป็นจำนวนมาก (ซึ่งต่อมาซากปลาเหล่านั้นได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของวัตถุดิบในการสร้างสรรค์ผลงานของเรืองศักดิ์) ยิ่งทำให้ผู้เขียนสำนึกได้ว่าคงไม่มีมนุษย์คนใดที่เติบโตขึ้นมาได้โดยปราศจากการบริโภคชีวิตอื่นๆ เพียงแต่ที่ผ่านมาระบบที่มี "เงิน" เป็นตัวกลาง ได้สร้างระยะห่างจนทำให้ "มนุษย์เมือง" หลงลืมวิถีการ "จ้างทำลาย" แล้วมองเห็นเพียงความสว่างไสวของ "การสร้างสรรค์"
ทอง: เรื่องเล่าของความดื่มด่ำกับเลือดเนื้อ
สำหรับผลงาน Gold Digger Digs towards the Golden Buddha ของ Moritz Ebinger ศิลปินชาวสวิส ผู้เขียนต้องยอมรับตามตรงว่า ด้วยข้อจำกัดของประสบการณ์และความรู้ในเชิงศิลปะทำให้ยากที่จะทำความเข้าใจ
แต่โดยส่วนตัวผู้เขียนมีความเห็นว่า สาเหตุที่ศิลปินตั้งใจนำเสนอข้อมูลทั้งในเรื่องการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์และวิธีการทำเหมืองทอง ค่าแรงของคนงานในเหมือง และคุณค่าของทองคำในเชิงเศรษฐกิจ ทั้งในยุโรป อเมริกา และแอฟริกา ประกอบกับภาพลายเส้นคล้ายลายแทงสมบัติที่ดูวกวน ซึ่งถูกแต่งแต้มด้วยสีเขียวในหลายจุด (ทางขวามือเมื่อหันหน้าเข้าผนัง) อาจสื่อให้เห็นถึงแรงปรารถนาจาก "มูลค่าสมมติ" ที่ผลักดันให้มนุษย์พยายามขุดลึก และเดินทางไปในความซับซ้อนของธรรมชาติ แต่สุดท้าย "มูลค่าสมมติ" ของ "แร่ธาตุ" ก็กลับกลายเป็นต้นเหตุของการกดขี่ ทำลายล้างอย่างไม่สิ้นสุด
ถัดมาในส่วนกลางของผนัง ศิลปินใช้การเชื่อมโยงเรื่องราวด้วยสีทองที่ถูกวาดเป็นเส้นโค้งต่อเนื่องทางด้านบน ส่วนด้านล่างเป็นภาพของคนสวมหมวกที่กำเหรียญทองไว้ในมือ ซึ่งผู้เขียนมีความเห็นว่าในส่วนนี้ศิลปินอาจต้องการบอกเล่าถึงการ "แปรรูป" ทองคำ ให้กลายเป็นสิ่ง "รูปธรรม" ในการแลกเปลี่ยน ก่อนที่ศิลปินจะนำพาผู้ชมเข้าไปสัมผัสกับ "คุณค่า" ของทองคำทางด้านจิตใจในสังคมไทย ด้วยภาพคล้ายจิตรกรรมฝาผนังของไทยซึ่งถูกแต่งแต้มด้วยสีทองที่ถูกแปะไว้ตรงกลางวงกลมสีแดงและน้ำเงิน (ลักษณะคล้ายเป้าสำหรับปาลูกดอก) ก่อนที่เรื่องราวเหล่านั้นจะถูกทำให้กระจัดกระจายและถูกดูดเข้าไปในห้วงของสีแดงและน้ำเงินที่ปะปนไปด้วยความสับสนเช่นเดียวกับต้นกำเนิด
ผู้เขียนไม่แน่ใจว่าที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นการตีความที่ถูกต้องตรงกับความคิดเห็นของศิลปินชาวสวิสมากน้อยแค่ไหน แต่เมื่อศิลปินใจกว้างมากพอที่จะเปิดโอกาสให้คิดโดยปราศจากคำอธิบาย ผู้เขียนจึงลองจับภาพวาดของศิลปินตั้งขึ้นในจินตนาการ โดยยกให้ส่วนที่อยู่ทางขวา (เมื่อหันหน้าเข้าผนัง) ตั้งขึ้นข้างบน และส่วนทางซ้ายของผนังลงมาอยู่ข้างล่าง ผู้เขียนกลับพบว่าภาพที่ถูกสร้างในจินตนาการของตัวเองนั้นดูคล้ายกับแก้วไวน์ที่รองรับความเคลื่อนไหวจากสายทองที่ถูกกลั่นกรองมาจากหยาดเหงื่อ แรงงาน และเลือดเนื้อของมนุษย์ นั่นคือสาเหตุที่ผู้เขียนรู้สึกถึง ความดื่มด่ำในคุณค่าของทองซึ่งปะปนไปด้วยเลือดเนื้อและชีวิต
อย่างไรก็ตามที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นเพียงความคิดเห็นที่อาจจะอยู่ห่างไกลจากจุดเริ่มต้น (จิตสำนึกของศิลปิน) อย่างมากมาย แต่ดังที่กล่าวมาแล้วว่า เพียงวินาทีแรกที่ได้สัมผัสกับผลงานจากทั้ง 3 ศิลปิน ผู้เขียนก็รับรู้ได้ถึง "การบริโภค" ใน "ภาวะล้นเกิน" ซึ่งทำให้มนุษย์กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถ "สร้างสรรค์และทำลาย" ได้ในขณะเดียวกัน
บทบาทของมนุษย์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันจึงเป็นสภาวะที่ลักลั่นเป็นอย่างยิ่ง เราไม่สามารถกลับไปสู่ระบบเดิมที่ขึ้นอยู่กับความกรุณาของธรรมชาติได้อีก แต่เราก็ยังจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยธรรมชาติ เพราะธรรมชาติเทียมที่เราสร้างขึ้นล้วนล้มเหลว
ส่วนหนึ่งจากคำอธิบายผลงาน ของ เรืองศักดิ์ อนุวัตรวิมล
โดย: PinePh 30 พฤษภาคม 2554 1:28:53 น.