ครั้งก่อนเราได้รีวิว OPPO R7 Lite มือถือจาก OPPO ที่เน้นเรื่องประสิทธิภาพกล้องอยู่ไม่น้อยและความบางเบาราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าตังค์ คงถูกใจคนที่ชอบของดีและราคาถูก แต่สำหรับคนที่งบหนักและต้องอะไรใหญ่ ๆ ออโป๊ก็มีตัวเลือกให้อีกขั้นคือ OPPO R7 Plus ที่จะรีวิวให้ดูต่อจากนี้

รายละเอียด OPPO R7 Plus

-มิติ 158 x 82 x 7.8 มิลลิเมตร

-ตัวเครื่องมีให้เลือก สีทอง

-น้ำหนัก 192 กรัม

-CPU Qualcomm Snapdragon 615 Octa Core 1.5GHz

-GPU Adreno 405

-RAM 3 GB

-ความจำในตัว 32GB

-เพิ่มได้ด้วย Micro SD ความจุสูงสุด 128GB

- 3G 850 / 900 / 1900 / 2100 HSDPA 42.2Mbps

-รองรับ 4G LTE 1(2100), 3(1800), 7(2600), 8(900), 40(2300) Cat 4

-WiFi 802.11 b/g/n, Bluetooth V 4.0

-หน้าจอ 6 นิ้วความละเอียด 1920x1080

- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล/กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อม Auto Focus และ LED Flash

- แบตเตอรี่ 4,100 mAh

-ระบบปฏิบัติการ Color OS 2.1 พื้นฐานจาก Android 5.1

รูปร่างและการดีไซน์

     ด้านหน้า OPPO R7 Plus มีหน้าจอขนาด 6 นิ้ว แบบ Super AMOLED ความละเอียด 1920x1080 หรือเรียกว่า Full HD ต้องบอกว่ามีความแปลกจาก R7 Lite พอสมควร ทั้งภาพที่อิ่มและใหญ่กว่าเดิมอย่างมาก ครอบด้วยกระจก Gorilla Glass 3

     ส่วนบนมีกล้องหน้าขนาด 8 ล้านพิกเซล

     ส่วนล่างมีปุ่ม Option Home และ Back ฝั่งในหน้าจอ ทำให้มีคำว่า OPPO อยู่ข้างหน้าแทน

     ด้านข้างซ้าย มีปุ่ม ปรับระดับเสียง สังเกตให้ดีว่ามันบางแต่ยังหนากว่า R7 Lite

ด้านข้างขวา มีปุ่ม Power  

    พร้อมกับช่องใส่ซิมแบบ Nano SIM และอีกช่องสามารถใส่ Micro SD หรือ Nano SIM ได้อยู่ส่วนบน

ด้านบน มีช่องเสียบหูฟัง

ด้านล่าง มีช่องเสียบ Micro USB

    ด้านหลัง มีกล้องขนาด 13 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash แบบคู่ อยู่ตรงกลาง พร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือ

    ส่วนล่างมีลำโพงเครื่อง ตรงกลางมีโลโก้ OPPO เมื่อเครื่องใหญ่ขึ้นมันทำให้ตัวเครื่องจับได้ถนัดมากขึ้นอีกด้วย

ประสิทธิภาพของ OPPO R7 Plus

    จากที่ได้ลองนั้น พบว่าคะแนน Antutu อยู่ที่ 33490 และ Nenamark 2 อยู่ที่ 59.3 และมัลติทัชทำได้ 4 จุด ถือว่าเป็นดีกว่า R7 Lite อยู่นิดหน่อย ผลที่ได้มาจาก RAM 3GB ล้วน ๆ ซึ่งทำให้ความสามารถในการทำงานของเครื่องนั้น เต็มที่มากขึ้น แต่น่าเสียดาย ถ้าให้ขุมพลังที่แตกต่างกันมากกว่านี้คงจะเห็นศักยภาพที่ดีขึ้นแบบฉีกและทิ้งห่าง

    แบตเตอร์รี่ให้มาขนาด 4,100 mAh เรียกว่าเป็นจุดเด่นของ OPPO R7 Plus เลยเพราะสามารถใช้งานได้ข้ามวันอย่างสบาย และการทดสอบ Standby ผ่าน Geekbench 3 ทำได้นานเกิน 12 ชั่วโมง เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว ซึ่งถ้าแบตฯหมดแล้วต้องการชาร์จเร็ว OPPO ได้ติดตั้งระบบ Vooc  Fast Charge มาให้ด้วยเช่นเดียวกัน

คุณสมบัติอื่น ๆ ของ OPPO R7 Plus

    ยังคงเหมือนกับ OPPO R7 Lite เริ่มจาก UI ที่มีความโดดเด่นในเรื่องการจัดวางและ Widget ขนาดใหญ่ OPPO เรียกว่า Color OS เวอร์ชั่น 2.1 เมื่อรวมกับความสามารถของ Android 5.1.1 เลยทำให้ดูมีความน่าสนใจมากขึ้นมาด้วย

    แต่พิเศษกว่าตรงที่เพิ่มระบบสแกนลายนิ้วมือทำให้เพิ่มลูกเล่นที่แตกต่างออกจาก R7 Lite ได้ชัดเจน ซึ่งมันทำได้มากกว่าการปลดล็อคเครื่องแต่สามารถปกป้องการเข้าถึงข้อมูลได้อีกด้วย

    ความบันเทิง OPPO R7 Plus ยังให้เครื่องเล่นเพลงและวีดีโอมาให้ครบ จุดเด่นอยู่ที่ระบบเสียบ Dirac HD ที่ใช้งานง่ายเพียงแค่เปิดเท่านั้น ฟีเจอร์ของมันจะทำงานทันที คุณภาพจัดว่าดี เมื่อเสียบกับหูฟัง แต่ถ้าไม่เสียบหูฟังลำโพงของเครื่องดูราบทำให้เสียงไม่กังวานเท่าที่ควร

    นอกนั้นเครื่องมือช่วยเหลือต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟฉาย, เครื่องอัดเสียง, ปฏิทิน ระบบช่วยในเรื่องความปลอดภัย และอื่น ๆ อีกมากมาย OPPO R7 Lite ให้มาครบไม่แพ้รุ่นที่แพงกว่าเลยแม้แต่น้อย

    สำหรับกล้องของ OPPO R7 Plus ให้มาในขนาด 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ Auto Focus และ LED Flash แบบคู่ และระบบ OIS พร้อมกับมีค่ารูรับแสงเท่ากับ F2.0 ให้เก็บความสว่างระหว่างการถ่ายภาพในที่แสงน้อยค่อนข้างดี พร้อมลูกเล่นที่เยอะเต็มพิกัด และสามารถโหลดเพิ่มได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังสามารถถ่ายภาพแบบ RAW File ได้เช่นกัน จากที่ได้ลอง การทำงานของระบบโฟกัส ทำได้เร็ว และการเก็บรายละเอียดของภาพทำได้ดี และใช้ Flash ทำให้สว่างกว่าเดิม แต่การทำงานของกล้อง ยังคงไม่ทันใจในบางช่วง และ Hardware ยังไม่เทพเช่นเคย การถ่ายวีดีโอทำได้สูงสุดที่ความละเอียด 1080P

    ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ขนาด 8 ล้านพิกเซล เหมือนกับ R7 Lite ที่มีจุดเด่นที่ สามารถเลือก Mode ได้มากมาย และสำหรับ Beauty Mode คุณสามารถเลือกระดับความสวยของภาพได้มากขึ้น และยังมี Mode ต่าง ๆ ให้เลือกเพิ่มเยอะไม่แพ้กล้องหลังเลยทีเดียว

(ตัวอย่างภาพถ่ายจาก OPPO R7 Plus)

บทสรุปของ OPPO R7 Plus

    เป็นมือถือที่มีขนาดเครื่องที่ใหญ่โตมากอีกรุ่นหนึ่งและฟีเจอร์ค่อนข้างจะจัดมาเพียบ แม้ว่าจะแตกต่างกับรุ่นกลางอย่าง OPPO R7 Lite เพียง ความละเอียดของหน้าจอ ความจำของ RAM และความจำในตัวเครื่องก็ และการฟีเจอร์ของกล้องอีกนิดหน่อย แต่ยอมรับว่า ความแตกต่างกันมีน้อยเกินไปทำให้หลายคนคิดว่ารุ่นเล็กก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่ในความเป็นจริง หน้าจอขนาด 6 นิ้ว Full HD และมีระบบสแกนลายนิ้วมือแบบนี้กับราคาเพียง 16,990 บาท คงหายากยิ่งนักในปัจจุบันนี้

    ถ้ามองเทียบกับคู่แข่ง ความบางอาจจะเป็นรองกับบางรุ่น แต่สเปคความเร็วในการใช้งานไม่แพ้ใคร พร้อมกับกล้องที่เด็ดและเก็บความสว่างของภาพได้ดี เหลือเพียงว่า คุณเป็นคนชอบเครื่องใหญ่หรือไม่ ถ้าชอบแล้ว ตัวนี้ถือว่าน่าสนใจอีกรุ่นหนึ่ง แต่ถ้าไม่ชอบล่ะก็ ผมว่าซื้อ OPPO R7 Lite จะลงตัวกว่าครับ

ข้อดี
- แบตเตอรี่ทนมาก

- สเปคครบทั้งรองรับ 4G เพิ่ม Mem ได้มีของติดเครื่องมาครบ

- กล้องให้มาครบกว่ารุ่น R7 Lite

- มีระบบสแกนลายนิ้วมือที่ทำงานไว

- ราคาไม่แพงอย่างที่คิด

ข้อสังเกต

- ความแตกต่างจากรุ่น OPPO R7 Lite น้อยเกินไป

- CPU ยังแรงไม่พอ

- มีสีให้เลือกแค่สีเดียวเท่านั้น

//hitech.sanook.com/1398981/