bloggang.com mainmenu search


ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 189
"ระลึกถึงในหลวง รัชกาลที่ 9" โจทย์โดยน้อง toor36 และน้องกะว่าก๋า



นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
เสด็จสวรรคตในเวลา 15.52 น. ของวันที่ 13 ตุลาคม 259
อุ้มจำแม่นเลยว่า
วันนั้นวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ตื่นมาตั้งแต่เช้าตรู่ใส่เสื้อยืดสีชมพูกางเกงสีชมพู
แล้วขึ้นรถไฟใต้ดินไปที่สภากาชาดไทยเพื่อจะไปบริจาคโลหิต เลือดอุ้มกรุ๊ปโอ
เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ผู้คนหลั่งไหลกันมาบริจาคเยอะมาก
ผ่านขั้นตอนต่างๆ จนมาได้นอนบริจาคในเวลา 13.00 น.
แล้วก็เห็นจอดำในโลกโซเซี่ยลคนดังหลายต่อหลายคน ใจเริ่มเสีย เช็คข่าวกัน
จนมาสรุปที่ว่าเป็นจริงในเวลา 15.52 น.
แต่พูดอะไรมากไม่ได้นอกจากรอฟังแถลงข่าวจากสำนักพระราชวังในเวลา 19.00 น.
ใจสองใจใจหนึ่งก็อยากให้ถึงเวลาทุ่มหนึ่งไวไวจะได้รู้ว่าเป็นข่าวลือ
อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากให้ถึงเวลา 1 ทุ่มเลยเพราะจะทำใจรับข่าวนี้ไม่ได้



และแล้วเมื่อเวลาหนึ่งทุ่มมาถึงจอดำขึ้นมาเลยเป็นอันรู้กันว่าเป็นเรื่องจริง
น้ำตาอุ้มไหล....ไหลแบบไม่อายใครเลย ...
ไม่เคยคิดว่าชาตินี้อุ้มจะต้องมาร้องไห้ฟูมฟายแบบนี้เป็นด้วยหรือ
พ่อกับแม่เสียชีวิตก็ไม่ได้มาเศร้าอะไรเช่นนี้...
อาการหัวใจสลายมันเป็นอย่างนี้นี่เอง



อุ้มเลยตั้งมั่นว่าจะต้องมากราบพ่อให้ได้ครบ 51 ครั้งที่อุ้มได้เกิดในแผ่นดินรัชกาลที่ 9
โดยเริ่มวันที่ 16 ตุลาคม 2559 เป็นครั้งที่ 1ใช้เวลา 11 ชั่วโมง
จากนั้นก็เริ่มมาเรื่อยๆ จนจาก 51 ครั้งกลายเป็น 59 ครั้งในวันที่ 10 สิงหาคม 2560
และนั่งหน้าแถวหน้าคนแรกเป็นจำนวน 9 ครั้ง นับเป็นความสุขที่อยู่ใกล้พ่อ



สำหรับความรู้สึกจากส่วนลึกของอุ้ม....อุ้มรู้จักพระองค์ท่านจากโครงการพระราชดำริ
จากการทำงาน...เคยประทับใจป่้าคนหนึ่งที่อยู่ที่จังหวัดจันทบุรี
ป้าเลี้ยงกุ้งกุลาดำ.....ป้าเล่าให้ฟังว่้า
เตรียมตัวจะขายกุ้งกุลาดำในวันตอนเช้าแต่ปรากฎว่าน้ำมาเน่าเสียกุ้งตายหมดทั้งบ่อ
ป้าเล่าด้วยน้ำตานองหน้าว่าคิดดูว่ากำลังจะจับเงินล้านอยู่แล้ว..
แล้วเงินมาหายไปต่อหน้าต่อตา
จนกระทั่งในหลวงรัชกาลที่ 9 มาตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ อ่าวคุ้งกระเบน จ.จันทบุรี
ป้าบอกว่า...เหมือนฟ้ามาโปรด....มีเจ้าหน้าที่มาบอกมาสอนเรื่องการบำบัดเสีย
เรื่องการเติมฟองอากาศในบ่อ....ได้เข้าไปเรียนรู้...ไปดูงานภายในศูนย์ศึกษาฯ
ทุกวันนี้ป้าก็ไหว้ขอบคุณในหลวงเสมอทุกคืนที่ทำให้ไม่เป็นหนี้ไม่ฆ่าตัวตายไปในวันนั้น



จากการที่อุ้มได้ไปกราบพ่อเป็นจำนวน 59 ครั้ง
มีครั้งหนึ่งระหว่างที่นั่งรอที่ศาลารายในวัดพระแก้ว
ก็หันไปเห้นเด็กสาวเมียนมาร์ จำนวน 4 คน นั่งอยู่ไม่ไกล ก็เลยแปลกใจจึงทักทาย
ว่ามาจากไหน...น้องๆ บอกว่าเป็นเป็นชาวไทยใหญ่
อุ้มก็งงสิคะแล้วถามน้องๆ เหล่านั้นไปว่า...อ้าวแล้วในหลวงรัชกาลที่ 9 ไปเกี่ยวกันตรงไหน
น้องๆ บอกว่า ที่เธอมีกินมีใช้มีชีวิตที่อยู่สะดวกสบาย
เพราะในหลวงให้อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทย มีเงินส่งไปให้พ่อกับแม่ที่เมียนมาร์
พอทราบข่าวการสวรรคตน้องๆ จึงตั้งใจมากราบพ่อหลวง
นี่พวกน้องๆ อายุไม่ถึง 20 ปียังคิดได้ขนาดนี้
คนไทยบางคนยังคิดไม่เป็นอย่างนี้เลย



สิ่งหนึ่งที่อุ้มจะแสดงออกถึงความจงรักภักดีเป็นการแสดงความอาลัยที่ทำได้ตอนนี้ก็คือ
นำคำสอนของพระองค์มาเป็นแกนหลักของการดำเนินชีวิต
อุ้มไม่ได้มุ่งหวังที่จะไปบอกไปสอนให้ใครทำตามแต่ทำให้เห็นว่าการทำดีนั้นไม่ยากเลย
แค่ตื่นเช้าเห็นบ้านสกปรก เห้นบ้านรก ก้ปัดกวาดถูซะ ไม่มีใครเราทำเราก็ทำ
ไม่ต้องไปอวดว่าเราทำ
เพราะทำความดีแล้วเราสบายใจนั้นแหละถือว่าเราได้บุญแล้ว



"จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา....
นี่คือสิ่งที่อุ้มจะตามรอยพ่ออย่างเข้าถึง เข้าใจ พัฒนาตัวคุณนายอุ้มสีเอง
เป็นการเขียนตะพาบแบบเรียบง่ายแต่น้ำตาไหลตลอด"
ธ สถิตในใจนิรันดรค่ะ



ขอขอบคุณ
BG : คุณลักกี้ / กล่องเขียนคอมเม้นท์ : คุณ lozocat
โค้ดแต่ง BLOG : ป้ามด & น้องดอกหญ้าเมืองเลย
ของแต่ง BLOG ทุกอย่างมาจาก : คุณป้าเก๋า ชมพร & น้องญามี่ & คุณเนยสีฟ้า
Create Date :24 ตุลาคม 2560 Last Update :24 ตุลาคม 2560 18:09:13 น. Counter : 1558 Pageviews. Comments :11