'49 Days'




เรื่องราวย่อ ๆ

ชินจีฮยอน คุณหนูผู้สดใสร่าเริง มองโลกในแง่ดี
กำลังเตรียมตัวเข้าสู่ประตูวิวาห์กับชายหนุ่มแสนดี มีน้ำใจ
อย่างคังมินโฮ ชายหนุ่มอนาคตไกล จบ MBA จากเมืองนอก

เรื่องราวการพบและรักกันของทั้งคู่นั้น โรแมนติกราวกับพรหมลิขิต...

แต่แล้ว...ก่อนวันแต่งงานเพียงไม่กี่วัน...
เธอก็ประสบอุบัติเหตุร้ายแรง กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไปในบัดดล

ทว่า...ขณะที่ร่างกายของเธอกำลังนอนแซ่วอยู่ในไอซียู
วิญญาณของเธอก็ล่องลอยไปพบกับชายหนุ่มเจ้าสำอางคนหนึ่ง
ที่แนะนำตัวกับเธอว่า...เขาคือ "ผู้กำหนดชะตา" หรือ 'scheduler'

เขาบอกกับชินจีฮยอนว่า ชะตาของเธอยังไม่ถึงฆาต
ภายในช่วงเวลา 49 วัน เธอจะฟื้นจากความตายได้
หากเธอสามารถหาคนที่รักเธออย่างจริงใจ(ซึ่งจะต้องไม่ใช่คนในครอบครัว)จำนวน 3 คน
ซึ่งหลักฐานที่แสดงว่าทั้งสามคนนั้นรักเธอจริง ๆ ก็คือน้ำตาที่หลั่งออกมาเพื่อเธอ 3 หยด

และเพื่อให้เธอได้ตามหาคนที่รักเธออย่างแท้จริงทั้งสามคนนั้น
เธอจะต้องอาศัยร่างกายของคนอื่น โดยมีข้อแม้ว่า
เธอจะต้องไม่ทำอะไรที่อาจจะเกิดผลกระทบร้ายแรงต่อเจ้าของร่าง
และห้ามบอกใคร ๆ ว่าเธอคือชินจีฮยอน

แล้ว scheduler หนุ่มก็พาเธอไปรู้จักกับเจ้าของร่างที่เธอจะต้อง"ยืม"ชั่วคราว
เธอคือซงอีคยอง หญิงสาวผู้มีบาดแผลลึกในใจเนื่องจากการสูญเสียคนรัก
ส่งผลให้เธอกลายเป็นหญิงสาวผู้เย็นชา มีชีวิตเหมือนหุ่นยนต์
เธอทำงานในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในกะกลางคืน
ดังนั้นจีฮยอนจึงสามารถอาศัยร่างของเธอในช่วงกลางวันได้

ภารกิจตามหาหยดน้ำตาแห่งรักของเธอจึงเริ่มต้นขึ้น ณ บัดนั้น...

จากสาวน้อยที่ร่าเริงสดใส มองโลกในแง่ดี
เธอเริ่มเรียนรู้ว่า...โลกและชีวิตนั้น มันไม่ได้งดงาม เรียบง่าย
อย่างที่เธอเคยมองเห็นเลยสักนิด
อีกทั้งผู้คนที่เธอเคยรู้จัก รักและผูกพัน ก็ดูเหมือนจะมีเงื่อนปมซับซ้อน...
และมีแง่มุมแหลมคมที่แฝงพิษร้ายอย่างที่เธอไม่เคยนึกฝันมาก่อน





เรื่องราวเป็นแนวแฟนตาซีนิด ๆ ดราม่าหน่อย ๆ
แม้จะออกแนวเหนือจริง แต่ต้องขอชมวิธีนำเสนอของเขาล่ะค่ะว่าทำได้เนียน สมจริงมาก

มีมุก มีเกร็ด มีคติความเชื่อว่าด้วยชีวิต ความรักและความตาย
ที่ดูแล้วกระตุ้นต่อมคิดให้ได้ติดตาม...
ให้ได้ฉุกใจ...ย้อนคิดถึงตัวเองว่า... ถ้าเราต้องตกอยู่ในสภาพนั้น
เผชิญชะตากรรมเช่นนั้น เราจะวางใจตัวเองไว้อย่างไร

คงทุรนทุราย หวั่นกลัวต่อความตายที่รออยู่ในระยะใกล้

ยิ่งได้มารับรู้ว่าเพื่อนกับคนรักที่เราคิดว่าพวกเค้ารักเราอย่างแท้จริงนั้น...
เอาเข้าจริงกลับเป็นรักลวงเสียนี่...
เราจะรู้สึกท้อแท้และหมดหวังหรือไม่...?

แต่หนังเรื่องนี้เขาบอกเล่าเรื่องราวของความตายไว้ในแง่มุมที่แตกต่าง
แต่เหมือนจริง เป็นธรรมชาติ ธรรมดามาก จนเรารู้สึกคล้อยตาม
และเห็นถึงความเป็นธรรมดานั้น ๆ

เกิดการเรียนรู้และตระหนักถึงคุณค่าของชีวิต ความทรงจำ
ความรัก...และความตาย
ว่าทุกสิ่งล้วนเป็นสิ่งงดงามหากไม่ควรยึดติด...
ยอมรับในชะตากรรมของตัวเอง

สมดังพุทธภาษิตที่ว่า...

กัมมุนา วะตะตีโลโก...สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
นั่นเอง
สาธุ!









ตัวละคร






ชินจีฮยอน
รับบทโดย นัมกยูริ - Nam Gyu Ri

หน้าตาไม่คุ้นเลยคนนี้ หน้าตาเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้
แต่ก็แสดงได้น่ารักดี

ชอบตอนที่เค้านั่งมองซงอีคยอนตาละห้อย
ทั้งสงสาร ทั้งเห็นใจ เกรงใจและรู้สึกผิด
แต่ก็ต้องอาศัยร่างของเขา...

จากเดิมที่เธอเป็นเด็กใส ๆ ไม่คิดมาก
มีตัวเองเป็นศูนย์กลางของความสนใจจากทุก ๆ คน

เธอเริ่มเรียนรู้ที่จะพยายามเข้าใจและเห็นใจคนอื่น
และอยากจะทำอะไรดี ๆ เพื่อผู้อื่น






ซงอีคยอน
รับบทโดย ลีโยวอน - Lee Yo Won
(สาวคนนี้คุ้นหน้าเธอดีจากบทราชินีซอนต๊อกกับศัลยแพทย์สาว บงดัลฮี)

ในเรื่องนี้เธอต้องรับบทเป็นคนสองบุคลิก...
ในขณะที่เป็นตัวเอง เธอต้องชืดชา ซังกะตาย ใช้ชีวิตอยู่ไปวัน ๆ
เพราะคนรักตายจากโดยไม่ได้ร่ำลา

แต่เมื่อใดที่ถูกจีฮยอนเข้าอาศัยร่าง
เธอจะต้องเปลี่ยนเป็นคนละคนอย่างสิ้นเชิง
นับตั้งแต่กิริยาท่าทางตลอดถึงการแต่งเนื้อแต่งตัว...

ซึ่งเธอแสดงได้ดีมาก ๆ
เป็นธรรมชาติจนเราเชื่อและอินสุด ๆ






ฮันคัง
รับบทโดยโจฮุนแจ - Jo Hyun Jae

(หนุ่มคนนี้หน้าคุ้น ๆ แต่นึกไม่ออกว่าเคยดูเค้าจากเรื่องอะไร)


ฮันคังเป็นสถาปนิกหนุ่มที่เป็นเพื่อนในวัยรุ่นกับจีฮยอน
ที่แอบหลงรักเพื่อนสาวแบบรักจริงแต่ไม่หวังแต่ง

เพราะเธอเป็นคู่หมั้นของเพื่อนรุ่นพี่
ที่เขานับถือ... คังมินโฮ

เมื่อเขาพบกับซงอีคยอน
เขาไม่รู้สึกตัวเลยว่าทำไมเขาจึงรู้สึกคุ้นเคยและผูกพัน
ทั้งเป็นห่วงเป็นใยผู้หญิงท่าทางแปลก ๆ เปิ่น ๆ คนนี้...







คังมินโฮ
รับบทโดย เบซูบิน - Bae Soo Bin

(คนนี้คุ้นมาก จากบทอุปป้าแสนดีในหลาย ๆ เรื่อง...
เช่นทงอี, Brilliant Legacy เป็นต้น)

มาเรื่องนี้พลิกบทเล็กน้อย...เป็นตัวร้ายแฮะ
เป็นคนหนุ่มที่ทะเยอทะยาน เจ้าเล่ห์แสนกล
หากก็มีปมในใจลึก ๆ

เขาใช้เล่ห์กลหลอกล่อจนเข้าถึงตัวจีฮยอน
และเกือบจะได้แต่งงานกับเธออยู่แล้ว...
ถ้าเพียงแต่เธอจะไม่ประสบอุบัติเหตุเสียก่อน






คนสุดท้ายที่จะเว้นเสียมิได้คือ...

ซงยีซู
"ผู้กำหนดชะตา" หรือ Scheduler หนุ่มมาดกวนนั่นเอง

รับบทโดย จองอิลวู - Jung Il Woo

(หนุ่มคนนี้เพิ่งดูเขาสด ๆ ร้อน ๆ จากเรื่อง
The Moon that Embrace the Sun ซีรียส์พีเรียด
อีกเรื่องหนึ่งที่ดูจบไปแล้วชอบมาก ๆ)

เขาเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้กำหนดชะตา
(ภาษาแถวบ้านเรียกว่า"ยมทูต"อะ)นี้เป็นเวลา 5 ปีมาแล้ว
จนจวนเจียนจะครบวาระในไม่นานนี้
ถ้าเขาไม่ฝืนกฏสวรรค์เสียก่อน



*(ชอบตัวละครตัวนี้ที่คนเขียนบทสร้างให้เขาเป็นยมทูตไฮเทคอะ
มีการดาวน์โหลดตารางงานเพื่อดูคิวของเคสที่ตัวเองต้องจัดการ
นำพาวิญญาณไปส่ง
การเดินทางของวิญญาณผ่านลิฟต์ก็เป็นสัญลักษณ์
ที่ทำให้เรามองเห็นความหมายของความตายและการจากลา
ได้เป็นอย่างดี)







สรุปว่าเป็นซีรียส์ไม่สั้นไม่ยาวอีกเรื่องที่ดูแล้วชอบและอยากบอกต่อชวนดูกันค่ะ
ชอบประเด็นที่เขานำเสนอ...
โดยเฉพาะเรื่องราวของชีวิตและความตายกับปาฏิหาริย์ที่เหลือเชื่อ
เหมือนจะเพ้อเจ้องมงาย...

แต่บางครั้งคนเราก็ต้องการโอกาส(ที่สอง)ที่จะได้พิจารณาตัวเอง
และแก้ไขข้อผิดพลาดไม่ใช่หรือ ?

จะมีจุดขัดใจอยู่บ้างก็ตอนหักมุมจบนี่แหละ...
ทำไมต้องรักษาขนบน้ำเน่าไว้อย่างชัดเจนขนาดนั้น...

แต่ก็เอาเหอะ คิดเสียว่าเขาคงต้องการปลอบใจคนดูไม่ให้ผิดหวังที่ไม่มีเลิฟซีนหวาน ๆ ให้ดูเลยก็แล้วกัน

แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาเสียเลยหรอก การเล่าเรื่องออกแนวย้อนหลังเป็นระยะ ๆ
จึงมีเรื่องราวความรักใส ๆ ให้เห็นบ้างประปราย

จัดว่าเป็นซีรียส์ที่ภาพสวยน่าดูทีเดียวค่ะ

จบไปอีกหนึ่งเรื่อง หยิบมาบอกเล่ากล่าวขานชวนอ่าน เอ๊ย...ชวนดูกันค่า