กรกฏาคม 2555

1
2
3
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
ทริคเล็กๆ น้อยๆ ในการอยู่จีน....แบบเอาอยู่คร้า
    ด้วยความที่เราไม่ชอบคนจีน ไม่ได้ชอบประเทศจีน ไม่เคยอยากเที่ยวจีน ไม่สนใจภาษาจีน ไม่เคยคิดที่จะต้องมาอยู่จีน หรือได้แฟนเป็นคนจีนนะคะ แต่ชีวิตพลิกผันค่ะ เหมือนโบราณว่าไว้เกลียดอะไรจะได้อย่างนั้นค่ะ ได้แฟนจีน ได้มาเที่ยวจีน และตอนนี้ได้มาเรียนภาษาจีน ที่ประเทศจีน และต่อไปถ้าแต่งงานก็ต้องอยู่จีน โอ้ววว....แม่เจ้าครบถ้วนทุกกระบวนความ ก่อนมาอยู่ที่นี่เราก็เตรียมตัวหลายอย่าง เตรียมใจหลายเดือน จนทุกวันนี้ก็อยู่รอดปลอดภัย และเริ่มชินกับพฤติกรรม (ไม่พึงประสงค์) ของคนจีนค่ะ ก็เลยอยากมาเล่า(ระบาย) ให้ฟังกันว่ามันเป็นยังไงกันบ้าง อยู่ยังไง ระวังอะไร หลบหลีกยังไง มีอะไรสนุกๆ แปลกๆ เยอะค่ะ 

1. การเดินบนถนน 
   จริงๆ ก็ไม่มีไรมากหรอกนะคะ คนจีนก็เดินเหมือนคนทั่วๆ ไปเดินนั่นล่ะค่ะ แต่ที่เราต้องระวังคือ การถ่มน้ำลาย ขากถุยกันทุก 12 วินาที(คิดเอาเอง) ไม่รู้น้ำลายจะเหนียวอะไรกันนักหนาค่ะ ขากกันจัง กองน้ำลายบนถนนก็เลยจะเยอะมากเป็นพิเศษ น่าจะเยอะยิ่งกว่ากับระเบิดบนสนามรบอีกนะคะ เวลาเดินก็อย่าลอยหน้าลอยตาเดินมาก ก้มลงดูน้ำลาย หรือรัศมีการถ่มของพวกนั้นบ้างถ้าไม่อยากเดินเหยียบให้แขยงอ่ะค่ะ ได้ยินใครมาขากใกล้ๆ รีบมองและระวังค่ะ ระวังมันจะกระเด็น กระเซ็นมาโดนนะคะ ที่นี่ลมแรง Smiley แล้วอย่าคิดว่าจะมีแต่น้ำลายนะคะ มาวันแรกเราเจออิป้าสั่งขี้มูกถากหน้าเราไปเลยค่ะ อี๋....เป็นภาพติดตามาจนวันนี้อ่ะค่ะ ดีนะไม่มีกระเซ็นมา ถ้าไม่อยากพูดคุยกับใครบนถนนก็ฟังเพลงใส่หูัฟังนะคะ คนจีนแถวนี้งงทางกันเยอะ เราเดินๆ อยู่ขนาดใส่หูฟังไม่สนใจใคร ยังมีคนจีนพยายามมาถามทางทุกวัน อยากตอบว่าแกเป็นคนจีนยังไม่รู้ แล้วชะนีไทยอย่างชั้นจะไปรู้ได้ไงยะ แต่ด้วยความมีมารยาทของสาวไทยก็ตอบไปว่า 听不懂 ทิงปู้ต่ง ชั้นฟังไม่ออกคร่าาา คำนี้จำไว้ใช้ได้ตลอดชีพค่ะ อิอิ

2. การข้ามถนน
   ที่นี่ข้ามถนนกันแปลกๆ ค่ะ บางที่ก็รอสัญญาณไฟคนข้าม บางที่ก็ไม่รอค่ะ อยากข้ามก็ข้าม แต่ระวังค่ะ ระวังรถนะคะ คนจีนเค้าไม่มีน้ำใจหยุดรถให้คนข้ามนะคะ มันจะบีบแตรไล่ โทษฐานบังอาจมาทำให้มันต้องเหยียบเบรคค่ะ คนขับรถที่นี่เค้ากลัวผ้าเบรคหมดค่ะ เบรคก็เลยเหยียบไม่เป็น บีบแตรเป็นอย่างเดียว เสียงแตรบนถนนนี่ดังได้ทุกวินาทีค่ะ บ้านที่เราอยู่ๆ ริมถนนใหญ่ มาคืนแรกจะบ้าตายค่ะนอนท่ามกลางเสียงแตรรถ ประสาทจะกิน ตอนนี้เริ่มชิน แต่ก็ยังไม่ไหวค่ะ มลภาวะทางเสียงมากเกิน อ้อ ระวังอีกอย่างนะคะ เวลาข้ามถนนมองขวาก่อนนะคะ มาแรกๆ เราก็เผลอมองซ้ายก่อนประจำด้วยความเคยชิน

3. การขึ้นรถสาธารณะ
   มาอยู่นี่ส่วนใหญ่เรานั่งรถเมล์ กับรถไฟฟ้าเพื่อไปเรียนทุกวันค่ะ จริงๆ ก็คงไม่มีอะไรแตกต่างมากกับเมืองไทย แต่ด้วยความที่อยู่ไทยเราขับรถทุกวัน มาอยู่นี่บางทีก็นั่งคิดว่าทำไมชั้นต้องมาลำบากนั่งรถเมล์ด้วย แต่ต้องทนค่ะ ท่องไว้ๆ เพื่อรักแท้ (หรือเปล่า?) Smiley
  • รถเมล์ ป้ายรถเมล์จีนเค้าจะใหญ่มากค่ะ รถแต่ละสายจอดคนละจุดนะคะ เราต้องดูตรงพื้นว่าสายไหนจอดช่องไหนแล้วไปรอช่องนั้นค่ะ บางที่มี 2 สายที่ไปได้แต่จอดคนละจุด ถ้าอีกสายนึงมาก็ต้องวิ่งหน้าตั้ง หรือไม่ก็ทำใจรอสายเดิมไปอ่ะค่ะ ส่วนการขึ้นรถเค้าจะขึ้นกันประตูหน้า ลงประตูหลังกันนะคะ แต่ก็จะมีพวกลักไก่ขึ้นประตูหลังเพื่อความสะดวกค่ะ ขึ้นรถก็ต้องจ่ายตังค์ ถ้ามีการ์ดก็แปะการ์ดค่ะค่ารถ 40 เหมา ถ้้าไม่มีก็จ่ายค่ารถเมล์กับคนเก็บเงินคนละ 1 หยวนค่ะ
  • รถไฟฟ้า ที่นี่มีหลายสายนะคะ ค่าโดยสารก็ 2 หยวน ตลอดสายไม่ว่าคุณจะต่อรถกี่สายก็ตาม แต่การเปลี่ยนสายรถนี่เดินกันขาลากเหมือนกันค่ะ แถมจะเดินไปทางไหน ขึ้นฝั่งไหนก็มีงงเหมือนกันค่ะ ทางที่ดีควรศึกษาเส้นทางก่อนแล้วดูว่าสถานีที่เราจะไปมีสถานีอะไรบ้าง ต่อกี่สายบ้าง ต่อที่ไหนยังไง ในสถานีมีป้ายบอกทั้งภาษาจีน และอังกฤษค่ะ ไม่ต้องอายหรือกลัวว่าจะดูเป็นบ้านนอกเข้ากรุง เพราะคนจีนแท้ๆ ก็ต้องดูป้ายบอกทางกันทุกวันค่ะ
    การขึ้นรถของคนจีนนี่เหมือนเล่นเก้าอี้ดนตรีนะคะ ใครไวก็ได้นั่ง ไม่เข้าใจทำไมต้องแย่งที่นั่งกันนัก แฟนบอกว่าบางคนนั่งไกลค่ะ ก็เลยต้องรีบแย่ง มาแรกๆ ก็ไม่สนใจค่ะ ใครจะแย่งก็แย่งกันไปชั้นยืนได้ แต่หลังๆ เริ่มเหลืออดค่ะ แย่งกันนักใช่มั๊ย ดันชั้นนักใช่มั๊ย ชั้นดันบ้าง แย่งบ้างเพื่อความสะใจ 5555 แต่ถ้ามีเด็ก สตรีมีครรภ์ และคนชรา เราก็ลุกให้นั่งปกตินะคะ ส่วนคนจีนบางคนก็นั่งหน้าตาเฉยไม่รู้สึกรู้สา หรือบางคนนั่งปุ๊บเฮียหลับปั๊บ เห็นเค้าแย่งกันแล้วก็ตลกค่ะ บางคนไปแค่ 2 สถานี ประตูเปิดได้นี่ยิ่งกว่าผึ้งแตกรังค่ะ ตัวเองได้นั่งไม่พอ ยังกางแขนกางขาจองให้เพื่อนที่มาด้วยค่ะ มาหลายคนนอนได้มันก็นอนค่ะ หรือบางทีที่เต็มก็เดินคอตกออกไปรอคันถัดไป ทั้งๆที่ตัวเองไป 2 สถานี ระยะเวลายืนรอขบวนถัดไป กับการยืนในรถเพื่อไป 2 สถานีก็พอๆ กัน แต่ไม่ได้ค่ะ ชั้นต้องได้นั่งชั้นยอมยืนรอ หรือบางคนก็นั่งตามซอกหลืบ หรือบนกระเป๋าเดินทางที่ขนกันมา ไม่สนใจใครขอแค่ข้าได้นั่งแค่นี้ชั้นก็ฟินแล้วSmiley
     ส่วนสิ่งที่ต้องระวังคือมือถือค่ะ ดูดีๆ เพราะคนมือถือหายบนรถเมล์ รถไฟกันเยอะค่ะ และอีกสิ่งที่สำคัญมาก จำไว้เลยนะคะ อย่าพยายามเข้าใกล้ใคร หรือใกล้ชิดใครเป็นพิเศษค่ะ คนจีนไม่ค่อยอาบน้ำค่ะ บางคนขยับหัวทีรังแคร่วงกราว แค่นั้นไม่พอเสื้อผ้าก็ไม่ค่อยซักค่ะ ยิ่งถ้าวันฝนตกนะ เหม็นอับกันมาทั้งคันเชียว บางวันเรานี่อาบน้ำแต่งตัวมาซะสวย ฉีดน้ำหอมซะหอมฟุ้ง แต่ขึ้นรถไปเรียนไม่ถึงชั่วโมงตัวนี่เหม็นไปหมด อีกอย่างที่ต้องระวังคือ กลิ่นปากค่ะ อย่าได้นั่งใกล้ ยืนใกล้คนคุยกัน หรือคุยโทรศัพท์อยู่เชียวนะคะ เคยนั่งหลังชะนีจีนนั่งคุยโทรศัพท์ตลอดทาง ลมโกรกผ่านหน้าต่างเข้ามาทีแทบอ้วกค่ะ ลุกหนีแทบไม่ทัน บางวันก็เจอป้าตะโกนถามป้ายกับกระเป๋ารถเมล์ โอ้ยยย ยิ่งกว่ารถส้วมเข้าอยู่ในปากซัก 10 คันอ่ะค่ะ อยากจะร้องไห้ 

4. ห้องน้ำ
    เรื่องห้องน้ำนี่คลาสสิคมากอย่างที่เรารู้ๆ กัน อย่าให้ต้องบรรยายกันมาก เอาเป็นว่าถ้าไม่จำเป็นก็อย่าเข้าค่ะ ถ้าไม่อยากเห็นภาพบาดตาบาดใจ อย่าไว้วางใจกับร้านอาหารที่ดูดี บางร้านดูดีแต่ส้วมนี่สุดยอด แต่ก็มีบางร้านที่สะอาดอย่างคาดไม่ถึง ซึ่งหาได้น้อยค่ะ แต่ห้องน้ำสาธารณะในสถานีรถไฟฟ้าพอไหวค่ะ เพราะมันออโต้ฟลัช เสร็จปุ๊บ ลุกปั๊บมันฟลัชเองค่ะ แต่กลิ่นนี่ก็ไม่ไหวเหมือนกัน แต่ถ้าทนไม่ไหวจริงๆ ก็เตรียมตัวค่ะ เอายาดมป้ายๆ จมูกก่อน แล้วอุดจมูกด้วยกระดาษทิชชู่ หรือผ้าเช็ดหน้าอุดได้อุดเลยค่ะ แต่หาได้มีแต่มลภาวะทางอากาศไม่ มันมีมลภาวะทางสายตาด้วยค่ะ สิ่งไม่พึงประสงค์ลอยตุ๊บป่อง หรืออุนจิติดโถ อะไรประมาณนี้ค่ะ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะคะ คนจีนทำไมชอบไปปล่อยทุกข์นอกบ้านกันนัก เพราะเข้าห้องน้ำข้างนอกทีไรเจอหมวยปล่อยทุกข์อยู่ทุกที เล่นโทรศัพท์ไปอึ๊ไปสบายใจเฉิบ มีคนเข้าไปนางก็ไม่สะทกสะท้านอะไร (ที่นี่ห้องน้ำไม่ค่อยมีประตูนะคะ เซย์ฮัลโหลกันได้สบาย) เป็นเราซะอีกที่รีบหนีออกมาแทบไม่ทันSmiley

5. การซื้อของ
    มาอยู่แรกๆ เราเลือกซื้อของในห้างหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตค่ะ เพราะไม่ต้องพูดอะไรมาก ไม่ต้องต่อราคา ดูราคาตามหน้าจอแล้วก็เอาเงินให้เค้า แต่ก็ไม่วายแคชเชียร์จะต้องถามว่ามีบัตรสมาชิกมั๊ย จะเอาถุงใส่ของมั๊ย เราก็สั่นหัวอย่างเดียวค่ะ อ้อ...เวลาไปซื้อของตามซุปเปอร์พกถุงผ้าไปเองดีกว่าค่ะ เอาพับใส่กระเป๋าไปทุกวัน แต่ถ้าไม่มีก็ซื้อถุงก๊อปแก๊บตรงแคชเชียร์ค่ะ ส่วนสิ่งที่ต้องระวังก็คือ เวลาทอนเงินดูดีๆ เลือกแบงค์ดีๆ ค่ะ แคชเชียร์บางคนก็ดีช่วยเราเลือกแบงค์ บางคนก็ฉวยโอกาสเอาแบงค์ 5 เหมา มาทอนเป็นแบงค์ 5 หยวน อันนี้โดนเองกับตัว สงสัยด้วยว่าจะโดนแต่ก็ไม่ได้ถาม กลับมาบ้านคิดอีกที เฮ้ย...โดนโกงจริงๆ ด้วย แอบแค้นอยากไปร้องเรียน แต่แค่ 25 บาท ก็ปลงถือซะว่าซื้อประสบการณ์เนอะ

6. การสั่งอาหาร
    เราไม่ค่อยได้ไปทานอาหารนอกบ้านเองค่ะ ส่วนใหญ่ก็ทำกับข้าวกินเองที่บ้าน หรือถ้าิออกไปทานข้างนอกก็ไปกับแฟน และเพื่อนๆ แฟน ก็ให้พวกเค้าสั่งให้ค่ะ ก็คอยจำเมนูที่เรากินแล้วอร่อยเอาไว้เผื่อเวลาไปกินเองจะได้สั่งถูกค่ะ แต่ก็มีบ้างที่ไปกินข้าวกลางวันเองคนเดียวก่อนไปเรียน เราก็จะเข้าร้านที่เคยเข้า หรือไม่ก็พวก KFC, McDonald นั่นล่ะค่ะ ง่ายดี แต่นานๆ ทานทีก็อร่อยดีเหมือนกัน แก้เลี่ยนอาหารจีนค่ะ เวลาจะสั่งถ้าไม่อยากพูดภาษาจีนก็บอกเค้าว่า "คั่นปู้ต่ง" อ่านไม่ออก "ช่ายตัน" พร้อมทำมือแบบดูเมนู เพื่อขอดูเมนูค่ะ จะไปพูดภาษาอังกฤษเค้าก็ไม่ค่อยเข้าใจกันค่ะ ก็ชี้เอาค่ะว่าอยากได้อะไรภาษามือไป ส่วนร้านอาหารจีนก็เหมือนกันค่ะ บางร้านมีเมนูที่มีรูปให้ดูก็ชี้เอา มีทั้งแบบสั่งเป็นกับ และแบบราดข้าวค่ะ ราคาก็เริ่มประมาณ 15 หยวน ได้มาจานเบ้อเร่อ ทานคนเดียวไม่หมดค่ะ ส่วนพวก KFC ที่เป็นชุดก็ประมาณ 15 หยวนเหมือนกันค่ะ ส่วนก๋วยเตี๋ยวที่นี่ไม่เหมือนก๋วยเตี๋ยวบ้านเรานะคะ มีแต่เส้นกับน้ำซุป หมูเนื้อมีประปราย เราไม่ค่อยชอบทานค่ะ เหมือนแฟนเราไปไทยก็ไม่ค่อยชอบก๋วยเตี๋ยวไทยค่ะ คงเป็นเพราะมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ส่วนใหญ่ตามร้านอาหารเค้าจะเก็บเงินเราก่อนกินค่ะ ก็จ่ายเงินเค้าไปแล้วรออาหารมา กินเสร็จก็ลุกออกได้เลยค่ะ คนจีนส่วนใหญ่จะพกน้ำเข้าไปดื่มเองค่ะ หรือบางคนก็ซื้อร้านขายของชำเพื่อเข้าไปกินในร้าน เพราะถูกกว่า ถ้าร้านนั้นไม่ได้เก็บเงินก่อนกิน พอกินเสร็จก็เรียก "ฝูอู้หยวน หม่ายตัน" น้องๆ เก็บตังค์ค่ะ 

7. การพูดเสียงดัง
    อันนี้แค่จะบอกว่าคนจีนเค้าพูดเสียงดังฟังชัดค่ะ เหมือนโดนฝึกมาจากพระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ของพม่า เป็นอะไรกันไม่รู้พูดธรรมดากันไม่ได้ต้องตะโกนกัน คุยกันเสียงดัง ขึ้นรถเมล์แล้วมีคนคุยโทรศัพท์นี่จะดังไปทั่วรถ ถ้าฟังออกคงรู้หมดว่าเค้าคุยอะไรกัน แต่ไม่มีใครสนใจค่ะ เค้าเห็นเป็นเรื่องปกติ เวลาไปทานข้าวนอกบ้านถ้าเห็นคนโต๊ะอื่นคุยกันเสียงดังก็ไม่ต้องสนใจค่ะ เค้าคุยกันธรรมดา ไม่ได้ทะเลาะกันค่ะ แต่ระวังอย่าไปอยู่ใกล้มากนะคะ เดี๋ยวหูเราจะตึง หรือจะโดนน้ำลายกระเด็น พร้อมกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ค่ะ 





Create Date : 04 กรกฎาคม 2555
Last Update : 4 กรกฎาคม 2555 19:31:28 น.
Counter : 5365 Pageviews.

17 comments
  
ฮา พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ 555555555555555555

ชอบหน้านี้มากที่สุด ได้ความรู้แถมฮา
ปรับตัวได้สุดยอดจริงๆ
เอาแบบนี้อีก ชอบๆๆ
โดย: Giggy IP: 27.130.141.180 วันที่: 4 กรกฎาคม 2555 เวลา:19:49:35 น.
  
เจ้าของบลีอกเก็บกดจริงจััง 55+ เอาใจช่วยนะคะ นึกวาจีนรุ่นใหม่จะดีขึ้นแล้วซะอีก อ่านแล้วหลอนไปเลย
โดย: นางสงกรานต์ IP: 58.10.124.134 วันที่: 5 กรกฎาคม 2555 เวลา:0:03:21 น.
  
เอ่อ ..เอ่อ..เอ่อ... จากที่อ่าน ๆ มา แต่ยังไม่เคยไปจีนนะ ก็ขอบอกกับตัวเองว่า จีนจะเป็นประเทศสุดท้ายที่เราอยากไปเยือน .. เป็นประเทศที่สยองจริง จริง -_-
เอาใจช่วย จขกท. นะคะ ถ้าได้อยู่กับคนที่รักแล้ว สิ่งต่าง ๆ รอบตัวก็คงไม่มีผลกระทบเท่าไหร่ (มั้ง)
โดย: Jas IP: 221.128.75.77 วันที่: 5 กรกฎาคม 2555 เวลา:11:11:49 น.
  
เราพออยู่ได้นะ ยกเว้นอาหาร ต้องทำเอง ซื้อในศูนย์แพงมากกกก
โดย: อันติงเหมิน IP: 203.146.189.99 วันที่: 5 กรกฎาคม 2555 เวลา:15:14:44 น.
  
             i i i i i i i i i i i i 
       | | H | A | P | P | Y |  |
  __|_________________|__
| \\ / \\ / \\ / \\ / / \\ / \\ / \\ / \\ / \\ / \\ \\ / | 
| | B | I | R | T | H | D | A | Y | |
|,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,|
@@@@@@@@@@@@@
สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดค่ะ
สุขภาพแข็งแรงนะคะ
โดย: Sawnoy วันที่: 6 กรกฎาคม 2555 เวลา:0:34:24 น.
  
HBDค่ะ
โดย: chibifachan วันที่: 6 กรกฎาคม 2555 เวลา:7:43:13 น.
  
สุขสันต์วันเกิดค่ะ
ขอให้มีความสุขมากๆ คิดสิ่งใดขอให้สมปรารถนา
มีความก้าวหน้าทั้งในชีวิตและหน้าที่การงาน
สุขภาพแข็งแรงตลอดปี และตลอดไปค่ะ


โดย: pantawan วันที่: 6 กรกฎาคม 2555 เวลา:10:45:29 น.
  
.
HBD จ้ะ

เกิดวันเดียวกันเลย ..อิอิ..

ขอให้ จขบ. พบและเจอแต่ความสุขและเรื่องดีดีนะคะ ^^

.
โดย: อาร์ลาฟองค์ วันที่: 6 กรกฎาคม 2555 เวลา:17:51:36 น.
  
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ และคำอวยพรวันเกิดนะคะ ขอให้ทุกสิ่งดีๆ กลับไปหาทุกคนค่ะ
โดย: x-eleven วันที่: 9 กรกฎาคม 2555 เวลา:14:57:19 น.
  
ถ้าโตมาในบ้านคนเชื้อสายจีนในไทย อาจเจอculture shock น้อยหน่อย :)
โดย: Overseas วันที่: 21 กรกฎาคม 2555 เวลา:2:58:41 น.
  
เราเรียนจีนเป็นวิชาโท ตอนเรียนตรี แต่ไม่เคยได้ใช้อย่างจริงจังเลย อ่านแล้วนั่งนึกอยู่ว่าถ้าตัวเองไปอยู่จีน จะได้ใช้แค่ไหน?!?
โดย: Overseas วันที่: 21 กรกฎาคม 2555 เวลา:3:02:57 น.
  
อยากรู้จักเจ้าของกระทู้เพื่อไดัคุยปรึกษากัน ไม่ทราบขออีเมล์ได้มั๊ยคะ หรือสไกด์เป้ก็ได้ค่ะ เนี่ยอีเมล์ของเราnumkati2530@hotmailหรือskype :num.kati
โดย: พอดีคุยกับคนจีนอยู่เหมือนกันคะ IP: 118.172.78.254 วันที่: 2 มกราคม 2556 เวลา:11:03:30 น.
  
มีสาระมากค่ะ อ่านแล้วฮ่ามาก
โดย: ขวัญ IP: 49.48.165.40 วันที่: 31 มกราคม 2556 เวลา:1:54:24 น.
  
มาจีนได้สองอาทิตย์แล้ว จริงตามนี้เลย อดกันผอมเลย สาวสวยๆ เดินดีๆ ขิ๊กกกตุยยย จาอ๊วก กลิ่นโห ไปบ้านเราโครตดูดีเลย
โดย: รงค์ IP: 218.200.243.217 วันที่: 8 มีนาคม 2556 เวลา:19:42:14 น.
  
อยากรู้จักกับเจ้าของกระทู้จักเลยคะ ว่าจะไปที่จีนอยู่พอดี ไปตามหารักแท้ 555 แล้วก็ว่าจะไปเรียนอยู่ที่นั้น แต่ไม่รู้จักใคร อาม้า อาอี่ ที่นั้นหนูก็ไม่เคยเห็นหน้า อยากให้เจ้าของกระทู้แนะนำหลายๆอย่างเลยคะ dreamhigh1808@gmail.com เมลล์หนูนะคะ
โดย: dreamhigh IP: 1.2.252.94 วันที่: 21 กันยายน 2556 เวลา:14:18:41 น.
  
อ่านไปด้วยยิ้มและหัวเราะไปด้วย คุณพูดได้ดีมากคราฟฟ
โดย: โท IP: 27.55.239.110 วันที่: 30 กรกฎาคม 2557 เวลา:23:32:39 น.
  
ได้ความรู้มากเลยครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่อยาไปเที่ยวจีนมาๆเลย
โดย: ton IP: 223.205.206.157 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2557 เวลา:16:28:52 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

x-eleven
Location :
Beijing  China

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



สาวไทยผู้มีหน้าที่การงานมั่นคง แต่ต้องละทิ้งทุกสิ่งและบินไกลถึงปักกิ่งเพื่อพิสูจน์รักแท้ ภารกิจครั้งนี้จะเป็นเช่นไรจะได้เป็นสะใภ้จีนหรือไม่? ความเป็นอยู่จะเป็นอย่างไร? เค้าจะทนได้หรือไม่? มาลุ้นกันไปพร้อมๆ กันค่ะ ^^