|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
เขายังคงอยู่รอบตัวเรา?
หากว่าเรารับรู้ถึงเขาได้ เราคงรู้ว่าเขาต้องการอะไร... หรือยังคงอยู่ที่ตรงนั้นเพื่ออะไร...
สมัยมัธยมต้น...บ้านเพื่อนเป็นที่ซ่องสุ่มหลังเลิกเรียน นอกเหนือจากรวมตัวไปเดินห้าง หรือแม้แต่หนีเรียนไปเล่นสเก็ต... เพื่อนสนิทที่สุด กลับเป็นเพื่อนต่างห้อง รู้จักกันโดย เพื่อนคนนี้เข้ามาทักบนรถเมล์ (อะไรดลใจมันก็ไม่รู้เนอะ ..) บ้านของมันเป็นตึกแถวอยู่หลังวังบูรพา อยู่หัวมุมตรงสามแยกที่จะทะลุไปดิโอลด์สยาม ในตอนนี้ ข้างล่างสมัยก่อนเปิดเป็นร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า มีบันไดขึ้นไปชั้น 3 ที่ครอบครัวของมันเช่าอยู่ ในตรอกด้านหลังตึก ทุกครั้งที่ไปบ้านมัน ถ้าหากโดนปล่อยทิ้งไว้คนเดียว จะรู้สึกเหมือนกับมีคนอยู่ด้วย แต่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าแค่นั้น แม้จะไปเกือบทุกวันจนแทบจะเป็นบ้านตัวเอง แต่ก็ยังเป็นทุกครั้ง ช่วงเวลาที่จะเดินเข้าห้องน้ำ ก็จะกลัวเป็นที่สุด แบบไม่มีสาเหตุ ผ่านไปหลายปี.... ครอบครัวของมันก็ย้ายไปเช่าบ้านไปอยู่อีกหลัง ในตรอกด้านหลังวังบูรพาอีกด้าน กับบ้านเพื่อนหลังนี้ .. ก็รู้สึกเหมือนเดิม แต่ความรู้สึกกลัวกับเป็นแบบเฉพาะบางที่ในบ้านเท่านั้น ห้องนอนพ่อมันที่ชั้น 2 ทุกครั้งที่จะต้องขึ้นไปชั้น 4 ที่มันนอน จะต้องวิ่งขึ้นบันไดช่วงชั้น 2-3 ทุกครั้ง แม้แต่มันเองก็ยังเป็นไปด้วย แต่ก็บอกเราเรื่อยว่าไม่มีอะไร รวมทั้งแม่มันก็ว่าเราเป็นโรคกลัวผีขึ้นสมอง แต่ช่วงนึง อยู่ดี ๆ เราก็กลัวเวลาเดินขึ้นบันได จากชั้น 3 ไปชั้น 4 ที่มันนอน ตัวบรรได จะทำชิดติดหน้าต่างด้านหลังตึก เดินขึ้นไป 4-5 จะเป็นชานพัก แล้วก็ถึงจะเป็นขั้นบันไดทอดยาวจนถึงชั้นบน นอกหน้าต่างเป็นตรอก มองเห็นตึกแถวอยู่ด้านหลัง กลัววววว หน้าต่างบานนั้นมากแบบหาสาเหตุไม่เจอ มองออกไป มีความรู้สึกเหมือนมีคนยืนอยู่ แต่จริงๆ มันไม่มี ได้แต่บ่นกับเพื่อนว่าไม่รู้ทำไม แต่ที่รู้ ๆ บางครั้งเพื่อนมันก็พาวิ่งขึ้นบันไดช่วงที่เป็นจุดที่เรากลัวเหมือนกัน บางทีก็ทำเป็นแกล้งวิ่งหนี บางทีก็แกล้งทำเป็นรีบ แต่เราก็ไม่เคยสนใจอะไร คิดว่ามันทำเล่น ๆ แกล้งเรา เพราะแม่มันประกาศ บ้านนี้ไม่มีผี ผีมีที่ไหน (ถึงจะประกาศแค่ไหนหนูก็ยังกลัวน่ะแม่ ) หลายปีต่อมา.... มันแต่งงาน ไปอยู่บ้านแฟนที่ชลบุรี บ้านแฟนมันเป็นตึกแถว ถ้าเลี้ยวขวาตรงแยกเฉลิมไทย วิ่งไปจนถึงทางแยก ตรงนั้นเหมือนเป็น 5 แยก มีวัดอยู่ทุกทางแยกเลยก็ว่าได้ บ้านมันอยู่ตรงนั้น หน้าก็วัด หลังก็วัด ขวามือถัดไปหน่อยก็วัด ซ้ายมือถัดไปหน่อยก็วัด แทบจะเรียกว่าบ้านมันอยู่กลางดงวัด ที่บ้านหลังนี้ จุดที่เรากลัวเป็นชั้น 2 ห้องเหล่าก๋ง (ปู่ของแฟนมัน) เหล่าก๋งซื้อบ้านหลังนี้หลายปี วันนึงจำเป็นที่จะต้องไปค้างบ้านมัน ถ้าเข้าห้องนอนไปแล้ว อยากเข้าห้องน้ำ ก็ต้องเดินออกมาเข้าห้องน้ำที่อยู่ติดบันได เราดันมีความรู้สึกว่า เหมือนมีผู้ชายคนนึงยืนอยู่ตรงหน้าห้องน้ำ ซึ่งทั้งที่จริงมันไม่มีใครหรอก แต่มันรู้สึกแบบนั้น และมั่นใจด้วยว่าเป็นผู้ชาย รูปร่างไม่ผอมบาง สูงประมาณไหน ใส่ชุดสีดำ ๆ ทึม ๆ ถ้าถามว่าเรากลัวไหม ถามมาด้ายยย... ไม่น่าถามเลย จนวันนึงเราก็บ่นกับอาอี๊พี่เลี้ยงลูกมัน ว่าเราเป็นคนกลัวผี ... เขาเลยบอกว่าถ้างั้นเราอยู่บ้านหลังนี้ไม่ได้แน่ แล้วก็เริ่มเล่าเรื่องให้ฟังว่า เพื่อนเรากับแฟน เปิดร้านขายเฟอร์นิเจอร์ สมัยเปิดร้านใหม่ ๆ ถ้าสองคนยังไม่ตื่น จะมีเสียงทุกประตูห้องนอนมันที่ชั้น 4 แต่พอมันตื่นออกมาดู กลับไม่มีใครเลย จนมันสงสัยเดินสำรวจทุกชั้น แต่เหล่าก๋งไปออกกำลังกาย อาอี้ที่เป็นพี่เลี้ยงเด็กยังไม่ตื่น ช่วงที่เหล่าก๋งไม่สบายหนัก อาการทรุด ก็จะได้ยินเสียงเรียกของเหล่าก๋ง ดังขึ้นไปถึงห้องนอนมัน ทั้ง ๆ ที่ เหล่าก๋งป่วย แต่ก็ทำให้มันพาเหล่าก๋งไปโรงพยาบาลได้ทัน พร้อมทั้งตบท้ายว่า โอ๊ย ... ใช่เลย หน้าห้องน้ำที่เรากลัวน่ะ มีคนเห็นเป็นผู้ชายยืนอยู่จริงๆ ยังไม่พอ อาอี๊เล่าต่อด้วยความเมามันว่า ... บ้านที่เพื่อนเราเคยอยู่แต่ละหลังก็ใช่ย่อย... พร้อมทั้งหันไปบอกว่า ไม่เชื่อถามมันสิ จนเพื่อนเรายอมพูดให้ฟังว่า.... บ้านหลังแรก.... จะเห็นคนแปลกหน้าอยู่ในบ้านมันเยอะมาก ถึงขนาดน้องมันออกจากห้องจะเข้าห้องน้ำ แต่แล้วกลับมาเข้าห้องโดยที่ยังไม่ได้เข้าห้องน้ำ พร้อมบอกว่า ใครไม่รู้วิ่งแย่งเข้าห้องน้ำไปแล้ว ทั้งบ้านมีมันกับน้องอยู่กันแค่สองคน มันก็เลยออกไปพิสูจน์ว่าใครอยู่ในห้องน้ำ แต่ก็ไม่เจอใครเลย น้องชายคนเล็ก ตกบันไดแบบเอาหัวลงมา สไลด์ลงมาจากชั้น 3 ที่ทอดยาวลงมาถึงชั้นล่าง แต่กลับไม่มีแผลสักนิด เหมือนมีคนคอยรับไว้ แถวบ้านมัน ในสมัยสงครามโลก โดนทิ้งระเบิด มีคนเสียชีวิตเยอะมาก บ้านหลังที่ 2..... ห้องนอนพ่อมันที่เรากลัว มีคนเห็นมาเยอะแล้ว ไม่มีคนอยู่ในห้องแต่มีเสียงเหมือนกับมีคนอยู่ในห้องประจำ ส่วนบันไดที่เราอยู่ดีๆ กลัวขึ้นมา มันเป็นคนเห็นเองกับตา....พร้อมเก็บงำไว้ไม่ปริปากบอกเราเลย วันนั้นมันกลับจากช่วยพ่อขายของ เกือบเที่ยงคืน เดินขึ้นบันไดแต่ตามันเหลือบเห็นผู้ชายคนนึง ยืนติดหน้าต่างจ้องมาในบ้าน (แทบจะเรียกได้ว่าในระยะเผาขนทีเดียวแหละ) มันช๊อคและตกใจ เดินขึ้นบันไดไปร้องไห้ที่ชั้นบน ด้วยความที่แม่มันชอบประกาศว่า บ้านนี้ไม่มีผี ผีไม่มีในโลก มันตัดสินใจเดินกลับลงมาพิสูจน์คำประกาศของแม่มัน แต่สิ่งที่เจอคือความว่างเปล่า..... แล้วมันก็ต้องช๊อคยิ่งกว่าเดิมเพราะนึกได้ว่า ตึกแถวที่มันอยู่ด้านหลังตีกเป็นผนังเรียบบบบบบบ ไม่มีที่ให้คนยืนอยู่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว ใครล่ะ? จะสามารถยืนอยู่นอกหน้าต่าง บนความสูงระดับตึก 3 ชั้น ได้ล่ะ ..... พอมันเล่าเรื่องให้ฟังจนจบ ด้วยการกระตุ้นให้ต้องเล่าจากการเปิดเผยของอาอี๊ เราก็เริ่มโวยวาย สิบกว่าปี... แกปล่อยให้ชั้นกลัวมาสิบกว่าปี.... ถ้าอาอี๊เค้าไม่พูดออกมาแกก็คงไม่เล่าให้ฟัง มันหันมาตอบแบบหน้าตาเฉยว่า "ถ้าเล่าให้ฟัง...แกก็กลัวจนไม่ยอมมานอนค้างบ้านชั้นสิ ปรกติแกก็แทบไม่ยอมค้างบ้านใครอยู่แล้ว" มันช่างเป็นเพื่อนที่น่ารักจริงๆ เห็นด้วยไหม??
Create Date : 31 มีนาคม 2550 |
Last Update : 15 เมษายน 2550 19:46:46 น. |
|
0 comments
|
Counter : 232 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|