Group Blog |
ไหว้พระ - ทำบุญ ปีใหม่ 2559 วัดดอนคา จ.ราชบุรี หลังจากที่ปี 2557-2558 งานแน่นมากๆ ทำให้ Yui ไม่มีโอกาสได้เขียน Blog เลย จนกระทั่ง ฤกษ์ดีปีใหม่นี้ ได้มีโอกาสแวะเข้ามาเยี่ยมเยียน Blog อีกครั้ง ไม่คิดเหมือนกันนะคะ ว่าจะได้เขียน Blog แนวนี้ เริ่มด้วย 2 ปีที่ผ่านมีเรื่องราวเข้ามาในชีวิตเยอะมาก ทั้งเรื่องดีๆ และเรื่องไม่ดี เลยคิดว่า ไหนๆ ก็เข้าปีใหม่แหละ ถือโอกาสไปไหว้พระทำบุญสักหน่อย ซึ่งจริงๆ ที่บ้านก็เป็นครอบครัวที่เข้าวัดทำบุญบ่อยแล้ว โดยส่วนใหญ่ก็จะไปวัดประจำของครอบครัว มีอยู่ 3 วัดหลักๆ ที่ครอบครัวเราไปบ่อยมาก วัดองค์พระปฐมเจดีย์ : วันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเทศกาลใหญ่ๆ ที่วัดจัดงาน ถึงได้ไปสักการะพระร่วงโรจนฤทธิ์ พระคู่บ้าน คู่เมืองนครปฐม วันนี้คนนครปฐม ต้องเคยไปแน่นอน  (ขอบคุณรูปภาพจาก Internet) วัดที่ 2 นี่ก็ใกล้บ้านเช่นกัน วัดไผ่ล้อม วันนี้ก็คงไม่ต้องบรรยายอะไรมากอีกเหมือนเดิม เพราะไปทุกวันพระ แม่จะไปไหว้ตา-ยาย หรือบรรพบุรุษที่นี่ ที่มีมี "หลวงพ่อพูล" เป็นเกจิอาจารย์ชื่อดัง ที่คนนครปฐมนับถือ ซึ่งท่านได้มรณะภาพไปแล้ว ลูกศิตย์ก็ยังคงไปกราบไหว้หลวงพ่อพูลเช่นเดิม ปัจจุมีเจ้าอาวาสองค์ใหม่ ซึ่งดูแลบูรณะวัด ก่อสร้างสถานที่มากมาย  (ขอบคุณรูปภาพจาก Internet) วัดไร่ขิง เป็นอีกหนึ่งวัดที่ได้ไปค่อนข้างบ่อยมาก เนื่องจากที่วัดนี้มีกิจกรรมที่สามารถไปทำได้หลายอย่าง ผู้ใหญ่สามารถไปไหว้พระทำบุญได้ปกติ ส่วนเด็กๆ ก็มีสถานที่ให้ไปเล่นไปสนุกได้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการให้อาหารปลา หรือได้นั่งเรือไปตลาดน้ำ น่าจะเป็นกิจกรรมที่เด็กๆ ชอบ   มาถึงไฮไลท์ของการกลับมาเขียน blog ในครั้งนี้ก็คือมีรุ่นน้องสมัยเรียนได้ไปบวชที่วัดๆหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้เคียงจังหวัดนครปฐม ใช้เวลาเดินทางไม่มาก แถมได้บรรยากาศแบบที่เราไม่ค่อยได้คุ้นชินสักเท่าไหร่ ก็คือวัดดอนคา ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ในจังหวัดราชบุรี แต่ก็ไม่ได้ ยากกับการเดินทางเดิน เดินทางสะดวก ไม่ว่าจะจากกรุงเทพฯ หรือ นครปฐม เริ่มเลยแล้วกัน ไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้ เริ่มต้นเลยนะ ถ้ามาจากกรุงเทพฯ ให้เดินทางมาเส้นเพชรเกษม เหมือนเดินทางไปนครปฐม ขับง่ายมาก ดูป้ายไปนครปฐมเป็นหลัก จนเลยแยกนครชัยศรี มาสักประมาณ 10 กม. (โดยประมาณนะ ไม่แน่ใจ จะเริ่มเห็นป้ายบอกทางไป "บ้านแพ้ว" ให้เตรียมตัวได้เลยนะคะ   แปลว่าให้เตรียมตัวเลี้ยวซ้าย เข้าเส้นบ้านแพ้วได้เลย ทางเลี้ยวเข้าจะประมาณนี้นะคะ  หลังจากนั้นก็ขมับรถได้สบายแหละ เพราะเป็นถนนที่ทำใหม่ช่วงน้ำท่วมกรุงเทพฯ ที่ผ่านมา ขับไปสักประมาณ 15 กิโลเมตร ให้สังเกตุฝั่งขวามือจะมีซุ้มทางเข้าวัด แต่ก่อนหน้านั้นจะขับผ่านวัดประมาณ 2-3 วัดที่อยู่ริมถนน แต่ป้ายที่จะให้สังเกตุก็คือ ป้ายวัดสระแกราย ซึ่งจะอยู่ทางขวามือ  ก็เตรียมยูเทรินได้เลยลนะคะ หลังจากนั้นจะมีป้ายบอกทาง "วัดดอนคา" ตลอดเส้นทางเลยคะ ไม่ต้องกัวหลง ระหว่างทาง ก็ได้สัมผัสบรรยากาศชาวบ้านแบบเต็ม 2 ข้างทางจะเต็มไปด้วยบ่อกุ้ง ที่เป็นวิถีชีวิตของชาวบ้านระแวกนี้  เลี้ยวสัก 3-4 โค้งก็ถึงวัดดอนคา วัดเป้าหมายที่จะเดินทางไปวันนี้คะ ถึงแล้ว แค่ทางเข้าก็เห็นถึงความน่าสนใจของวัดนี้แล้วล่ะ  เลี้ยวเข้าวัดปุ๊ป ก็มีคำถามมากมายเลยนะคะ ประเด็นแรก ทำไมวัดนี้เอากระบือ หรือ ควายมาต้อนรับญาติโยม มาดูหน้าตากันเลยคะ   เก็บความสงสัยนี้ไว้ก่อน เดี๋ยวเจอชาวบ้านค่อยสอบถาม เพราะว่าต้องมีอะไรแน่ๆ (อย่าลืมถามนะ อิอิ) มาถึงวัดแล้ว สิ่งที่ชอบมากเลย คือบรรยากาศภายในวัดที่โปร่ง โล่ง ทำให้เรารู้สึกสบายมาก อีกทั้งบรรยากาศช่วงปลายปีแบบนี้ ยิ่งทำให้สบายไม่ร้อน ช่วงเวลาที่เดินทางมา ไม่ใช่เวลาเช้า สิ่งที่จะเจอก็คือ พระแล้วก็บรรดาสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย เอางี้แล้วกัน เดี๋ยวปฏิบัติภารกิจก่อน เผื่อว่าเจอใครจะได้สอบถาม เดินตรงไปที่โบสถ์เลยคะ สักการะพระประจำวัดก่อน  ในวัดกำลังจัดเตรียมสถานที่เพื่อที่จะจัดงาน ปิดทองฝังลูกนิมิตร ในวันที่ 6-14 กุมภาพันธ์ 2558 ภายในโบสถ์เลยมีข้าวของวา่งไว้อยู่ประมาณนึง  ไหว้เสร็จขอเดินสำรวจพื้นที่ เผื่อจะได้ถามข้อสงสัยที่ยังค้างอยู่อีก เดินออกมาปุ๊บก็เจอเจ้าควายอีก 2 ตัวเหมือนเดิม แปลว่าต้องมีอะไรแน่ๆ  ต้องมีอะไรที่เกี่ยวกับควายแน่ๆ เลยวัดนี้ สักพักก็เห็นพระรูปนึง เลยถือโอกาสสอบถาม เพื่อให้หายสงสัยดีกว่า คำถามแรกที่เริ่มถามคือ "ควาย" เกี่ยวข้องอะไรกับวัดหรอคะ? คำตอบทีไ่ด้ทำให้ถึงบางอ้อเลยคะ หลวงพ่อท่านตอบว่า อ่อ...มันชื่อ "ไอ้โพ" น่านนนนนน มีชื่อด้วยนะคะ ส่วนที่มาของมันก็คือ สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 18 (สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน)) เป็นผู้ไถ่ชีวิตเจ้าโพมา แล้วให้ "หลวงพ่อวัน" ซึ่งหลวงพ่อวัน และสมเด็จพระสังฆราชฯ มีความสนิทสนมกันเป็นอย่างมาก โดยหลวงพ่อวันเอง ซึ่งเป็นพระที่มีความเมตตาสูง เพราะชาวบ้านบอกกันว่า โดยปกติพระกับควายจะไม่ถูกกัน แต่หลวงพ่อวันเอง สามารถเลี้ยงเจ้าโพได้ และหลวงพ่อวันเองก็เอ็นดูเจ้าโพเป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่เคยนั่งสมาธิบนหลังเจ้าโพด้วย  (ขอบคุณหลวงพ่อที่มีโอกาสให้เข้าไปถ่ายรูปนี้มานะคะ) ซึ่งหนึ่งในรูปปั้นควาย ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังมีการลงมติกันอีกว่า มีตัวนึงที่เหมือนเจ้าโพต้นฉบับมากๆ ตัวนี้เลยคะ  และหลวงพ่อยังเล่าให้ฟังต่อว่า วันดอนคาเป็นวัดเก่าแก่ ของตำบลบางแพ จังหวัดราชบุรี ซึ่งมีหลวงพ่อวันเป็นเจ้าอาวาส ซึ่งตัวหลวงพ่อวัน ลูกศิตย์ที่เคารพอยู่ส่วนใหญ่เป็นทหาร โดยมีพระประจำวัดก็คือ "หลวงพ่อแดง" ซึ่งชาวบ้านแถวนี้ให้ความเคารพ และมาสักการะบูชากันเยอะมาก โดยชาวบ้านชอบมาบนบานศาลกล่าว กับหลวงพ่อแดงเป็นอย่างมาก  ถือโอกาสไว้พระตรงจุดนี้ไปด้วยเลย แถมต่อด้วยเจ้าแม่กวนอิม อีก 1 องค์คะ  จริงๆ ตรงจุดนี้มีพระหลายรูปให้เราได้สักการะบูชาเลยนะคะ  กลับมาคุยกับหลวงพ่อกันต่อ แอบถามไปอีก 1 เรื่อง ไหนๆ ก็มีหลวงพ่อแดงที่ชาวบ้านให้ความเคารพกันแล้ว เลยถามหลวงพ่อต่อว่าทีวัดมีเครื่องรางของขลังอะไรมั้ยที่เป็นทีเด็ดของที่นี่ คำตอบที่ได้ก็คือ "ตะกรุด" และ "ร็อคเก็ต" แคล้วคลาดปลอดภัย แต่ถามว่าหน้าตาเป็นยังไง ไม่รู้นะคะ ไม่มีโอกาสได้เห็นคะ หลังจากเดินสำรวจไปรอบๆ วัดก็ได้เจอต้นไทรต้นใหญ่ ซึ่งคิดว่าต้องมีอะไรเกี่ยวกับต้นไทรนี้แน่นอน สิ่งที่ได้คำตอบจากหลวงพ่อก็คือ สมเด็จพระสังฆราชฯ (องค์ที่ 18) เป็นคนปลูกไว้  เรียกได้ว่าการมาวัดครั้งนี้ได้รู้ข้อมูลอะไรมากมายเลยนะคะ ไหนๆ มาถึงแล้ว ก็ขอแนะนำเพื่อนๆ ที่ยังไม่มีโอกาสได้มาทำบุญแถวๆ นี้ แอบช่วยวัดโปรโมทงานที่จะถึงซะเลย เป็นช่วงปีใหม่และเทศกาลตรุษจีนพอดี  หรืออยากเป็นเจ้าภาพมีดตัดหวายก็ได้นะ  ส่วนวัตถุมงคลก็มีมากมายนะคะ    หลังจากที่รบกวนเวลาหลวงพ่อมาสักระยะเวลานึงแล้ว ก็ถึงเวลาอันสมควรที่เราจะต้องเดินทางกลับแล้ว ขอบคุณหลวงพ่อมากๆ เลยนะคะที่ให้ข้อมูล และตอบคำถามที่หนูสงสัย และอาสาหลวงพ่อ ว่าจะช่วยเขียน ช่วยโปรโมทให้นะคะ หลวงพ่อทิ้งท้ายประโยคเด็ดก่อนจบการสนทนา.... "ช่วยๆ กันนะโยม อย่าถือว่าช่วยพระ หรือช่วยวัดเลย ถือซะว่าช่วยศาสนา" จบประโยคนี้ปุ๊บ ไม่ต้องคิดอะไรมาก ตั้งใจไว้ว่า เดี๋ยวเราต้องกลับมาเขียน Blog เพื่อช่วยทะนุบำรุงศาสนาของเราแน่นอน เรามันก็สายบุญอยู่แล้วด้วย รีบพูดดังๆ เลยค่ะ สาธุค่ะหลวงพ่อ ได้เวลาให้น้องฟ้าพากลับบ้านแล้ว... ขับรถออกมาปากทางเจออีก 1 ประโยคเด็ดของวัดดอนคา "บุญนำท่านมา กุศลพาท่านกลับ" สาธุดังๆ อีกครั้ง  หวังว่าการกลับมาเขียน Blog ครั้งนี้ จะช่วยบำรุง สืบต่ออายุศาสนาของเรา ได้ไม่มากก็น้อยนะคะ และเมื่อมีโอกาสดีๆ แบบนี้จะกลับมาเขียน Blog อีกครั้งนะคะ แล้วเจอกันใหม่ เมื่อชาติต้องการ บ๊ายยยยบายยยยยยย
|
YuiYumikoOta
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Link |
||||||||||||
