มกราคม 2564

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
30
31
 
 
วันนี้ลงครัวกับอาหารตามช่วงเวลา "สะเดา-น้ำปลาหวาน"
กราบ...สวัสดีคุณผู้อ่านทุกๆ ท่านเลยนะคะ

วันนี้มาพร้อมกับเมนูอาหาร
"สะเดา-น้ำปลาหวาน" อาหารที่จะได้กินช่วงต้นๆ ปี (ช่วงเวลาที่สะเดาออก) 

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกันก่อนว่า สะเดา คืออะไร น้องๆ รุ่นใหม่ๆ อาจจะยังไม่รู้จักว่าสะเดาคืออะไร?

สะเดา คือ สะเดาเป็นต้นไม้ที่ขึ้นชื่อเรื่องสรรพคุณทางยา เป็นผักสมุนไพรพื้นบ้านที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการเต็มเปี่­­­ยม อุดมไปด้วยสารอาหารโปรตีน แร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย นอกจากนี้ ยังพบว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายที่จะทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพตามมาได้ เช่น ภาวะความจำเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ ระบบภูมิคุ้มกันลดลง และโรคมะเร็ง โดยรวมคือ มีประโยชน์ มีคุณค่ามาก คนสมัยก่อนชอบทาน (แต่ส่วนตัว Yumiko กินไม่เป็นน๊าาาาาาา) เอาเป็นว่าเบื้องต้นประมาณนี้เลยนะคะ 

มาดูส่วนผสมต่างๆ ที่ต้องเตรียมเลยนะคะ ด้วยความที่ไม่ได้เตรียมเนื้อปลาแห้งนะคะ มาเปลี่ยนเป็นเนื้อกุ้งแทนล่ะกัน เคยลองแล้วมันอร่อยเหมือนกัน ถือว่าใช้ได้ค่ะ 5555 (อันนี้คือในส่วนครอบครัวที่เราที่สอนมานะ) 

139สิ่งที่ต้องจัดเตรียม 139
1. น้ำตาลปีป
2. น้ำมะขามเปียก
3. น้ำปลา
4. หัวหอมแดง
5. พริกแห้ง
6. กระเทียม (ถ้าไม่อยากซอยลำบากให้เลือกกลีบใหญ่ๆ)
7. เนื้อกุ้งสับละเอียด (อันนี้เอามาแทนปลาแห้งบดละเอียด)

เริ่มต้นวิธีการเลยนะคะ เอาตามสูตรของเรานะคะ 

เริ่มต้นด้วยการแช่มะขามเปียกกับน้ำอุ่น ในบปริมาณไม่ต้องเยอะมาก เอาแค่พอคลุกคลิก ให้ได้น้ำผสมเนื้อนิดๆ  



หลังจากนั้น ขั้นตอนที่ใช้เวลายาวนานที่สุดก็คือ การซอยหัวหอมแดง และ กระเทียม หั่นให้บางที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากนั้นก็เริ่มทอด กระเทียม หัวแหอมแดง ที่ซอยไว้แล้ว ให้เป็นสีเหลืองทองสวยงาม (พอเริ่มเหลืองก็ดับไฟได้เลยจะได้สีสวยงามพอดีกว่าที่เราจะตักขึ้นจากกระทะ) และ ทอดพริกกับน้ำมันที่เหลือได้เลย ไม่ต้องให้เกรียมมากนะคะ



หลังจากนั้นเริ่มขั้นตอนในการเคี่ยวน้ำตาลปีปกับน้ำดื่ม จนน้ำตาลปีปละลาย หลังจากนั้นก็เอาน้ำมะขามเปียก เลือกเฉพาะน้ำ เอาไปเคี่ยวไฟอ่อนๆ จนเริ่มหนืด หลังจากนั้นก็ปรุงรส โดยการใส่น้ำปลาลงไป ชิมให้รสชาติที่ได้ 3 รส เค็ม เปรี้ยว หวาน ไม่มีรสชาติใด โดดเกินไป

ขั้นตอนสุดท้าย น้ำเนื้อกุ้งสับที่เตรียมไว้ ใส่และทำให้เนื้อกุ้งกระจาย ไม่จับตัวเป็นก้อน หลังจากนั้นก็เคี่ยวไฟอ่อนๆ ให้เข้ากัน จนมีความข้นตามความพอใจที่เราต้องการ 



สะเดาลวกน้ำเดือด และเอามาพักไว้กับน้ำเย็น เพื่อไม่ให้สะดาเละเวลาทาน สำหรับผักสะเดานี้ คนที่ทานไม่เป็นสามารถใช้ผักชีแทนในเมนูนี้ได้ ซึ่ง Yumiko จะถนัดกับผักชีมากกว่า



หลังจากนั้นก็กินกันได้ตามอัธยาศัย บางครอบครัวก็สะดวกที่จะตักน้ำปลาหวานแล้วเอาของทอดโรยหน้า แต่สำหรับที่บ้านเรา ก็เลือกหยิบใส่เวลาทานได้เลย เพราะแต่ละคนกินไม่เหมือนกัน บางคนไม่กินพริก บางคนไม่กินหอม บางคนไม่กินกระเทียม จะได้เลือกตักกันตามชอบเลยค่ะ ไม่บังคับนะ 105  

บางครอบครัวก็จะมีเนื้อสัตว์แกล้มเช่น ปลาดุกย่าง หรือ กุ้งลวก ปรับเปลี่ยนได้ตามสไตล์เลยนะคะ 



หลังจากนี้ ก็ Happy กันทั้งครอบครัวค่ะ ....เพราะเมนูนี้จะได้กินกันแค่ช่วงเดือน มกราคม-กุมภาพันธ์ เท่านั้น

หลังจากนี้จะมีเมนูอะไรมาแนะนำอีก ติดตาม Blog กันต่อไปนะคะ 



 



Create Date : 29 มกราคม 2564
Last Update : 29 มกราคม 2564 16:56:11 น.
Counter : 776 Pageviews.

3 comments
  
เห็นเเล้วอยากกินเลย ชอบสูตรนี้คะ เพราะเราก็ๆได้สูตรกุ้งสับมา จากพี่คนสวย(yuiyumiko) ตั้งเเต่นั้นก็สูตรนี้ตลอด
โดย: Aui@sanook IP: 49.237.18.144 วันที่: 29 มกราคม 2564 เวลา:18:24:29 น.
  
มาเก็บสูตรค่ะ
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 29 มกราคม 2564 เวลา:21:37:31 น.
  
ไว้ลองไปทำทานค่า
โดย: สมาชิกหมายเลข 3450494 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:13:30:07 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

YuiYumikoOta
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]