Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
14 ธันวาคม 2557
 
All Blogs
 
นิยายรัก ตอนที่ 7 ล่าข่าว

COPY WRIGHT : สงวนลิขสิทธิ์ทั้ง ปกหนังสือ และ เนื้อหาค่ะ

ดวงใจเจ้าเวหา


ผู้เขียน :วรรณรวี

พิมพ์ครั้งแรก : กรกฎาคม ๒๕๕๗

copy.jpgสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ ๒๕๓๗

ไม่อนุญาตให้คัดลอกเนื้อหาส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดเพื่อสร้างฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เป็นเอกสารรูปเล่ม หรือเพื่อการใดๆเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้น

ISBN : ๙๗๘ – ๖๑๖ – ๓๖๑ - ๙

ราคา ๒๕๐ บาท



***********************************************************

ตัวอย่างค่ะ

ล่าข่าว

ข่าวการยุบสภาเพื่อแก้ปัญหาทางตันทางการเมืองช่วงชิงพื้นที่ข่าวใหญ่บนสื่อต่างๆ แทบทุกฉบับ และคนที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษก็คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ข่าววงในแว่วว่ากำลังจะถูกเสนอชื่อให้เป็นหัวหน้าพรรคแทนหัวหน้าพรรคคนปัจจุบันที่มีผลงานและภาพลักษณ์ไม่ดีนักโดยว่าที่หัวหน้าพรรคคนใหม่ บัญญัติ มงคลพัฒน์อาจจะได้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ถ้าหากว่าพรรค ‘พลังเพื่อชาติ’ ชนะการเลือกตั้งในสมัยหน้า

“ความจริงรัฐมนตรีบัญญัติเองก็ใช่ว่าจะภาพดีมากนะคะบอกอ จอมตามข่าวยาเสพติดอยู่ มีข้อมูลน่าเชื่อถือได้ว่าสถานบันเทิงที่ลูกชายของเขาเป็นหุ้นส่วนใหญ่มีการซื้อขายยาให้กับดารานางแบบแล้วก็เหล่าไฮโซชื่อดังของเมืองไทยหลายๆ คน แต่ก็ยังไม่เคยมีการดำเนินคดีใดๆได้เลย”

“ธรรมดาของนักการเมืองล่ะมั้งจอมก็ต้องดูว่าใครมันจะกินมากน้อยกว่ากัน แต่ก็ไม่แน่อีกนั่นแหละ บางทีพ่อลูกกันก็ใช่ว่าจะต้องรับรู้พฤติกรรมของอีกฝ่ายส่วนรัฐมนตรีบัญญัติ จะว่าไปแล้วเขาก็ไม่ขี้เหร่นักหรอกถ้าจะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคจริงๆผมเองเคยทำข่าวการเมืองมาก่อน กิตติศัพท์ของเขาพอได้ยินอยู่บ้าง ยอมหักไม่ยอมงอ”บอกอหนุ่มใหญ่นามทศพลเอ่ยจริงจังตามประสบการณ์ในอาชีพนักข่าวสายการเมืองมาหลายปี

“บอกอจะแน่ใจได้ยังไงคะว่าพ่อลูกไม่เกี่ยวข้องกันวันก่อนจอมไปที่ผับ หวังจะไปสืบหาข่าวสักหน่อย นายปรารภนั่นก็เข้ามาคุยแล้วเขายังรู้อีกด้วยว่าจอมเป็นนักข่าว เขารู้ได้ไงแถมยังโอ่อีกว่ามีเพื่อนเป็นนายตำรวจใหญ่หลายคน”

นักข่าวสาววิเคราะห์หากสีหน้าของเธอเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัดเพราะชื่อนายตำรวจที่ผ่านริมฝีปากของลูกชายรัฐมนตรีคนดังคือสารวัตรหนุ่มคนที่เธอสนิท

“แต่ยังไม่ทันจะได้คุยอะไรกันหรอกค่ะ น้องจีจี้ก็แผลงฤทธิ์ซะก่อนชีคงกลัวว่าจอมจะอ่อยแฟนชี จอมเองก็ขี้เกียจมีเรื่อง เหนื่อยด้วยก็เลยรีบกลับ”

“ก็น่าคิดนะ พ่อคุมมหาดไทยลูกก็ทำธุรกิจได้สะดวกมากขึ้น” คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามเริ่มคล้อยตาม“แต่ถ้าเขาจะรู้จักคุณก็ไม่แปลก คุณน่ะออกจะดังรู้ตัวหรือเปล่าตอนคุณทำข่าวการจ้างวานฆ่านักการเมืองท้องถิ่นเมื่อสองปีก่อน ข่าวดังครึกโครมเราเป็นฉบับแรกที่โยงประเด็นภรรยาน้อยของผู้ตายกับมือปืน”

คนที่ขยับร่างท้วมของตัวเองพิงพนักเก้าอี้เอ่ยชมเขาภูมิใจกับผลงานชิ้นโบว์แดงของลูกน้องคนโปรดเพราะเธอสามารถตีแผ่ข่าวและชี้เบาะแสให้กับตำรวจจนสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ในที่สุดจากข่าวนั้นทำให้สำนักข่าวเล็กๆ อย่างเดอะสยามนิวส์เป็นที่กล่าวถึงในแง่การนำเสนอข่าวที่เชื่อถือได้ตรงไปตรงมาและมีคุณภาพ

หากก่อนที่ความชื่นชมต่อลูกน้องคนโปรดซึ่งแสดงออกผ่านสีหน้าบอกอหนุ่มใหญ่ก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยเตือน

“คุณเป็นผู้หญิง ไม่ควรไปสถานที่แบบนั้นคนเดียวผมรู้ว่าคุณน่ะเก่ง ขาบู๊ แล้วก็เอาตัวรอดได้สบายๆ แต่ผมว่าถ้าคุณจะไปสืบข่าวหรืออะไรรบกวนแจ้งผมหน่อยจะดีมาก ผมไม่ต้องการจะรู้เป็นคนสุดท้ายแล้วก็พาใครไปเป็นเพื่อนสักคนสองคน ป้องกันไว้ก่อน” หัวหน้างานออกคำสั่งเสียงเข้ม

“ยกกันไปทั้งสำนักพิมพ์จะได้เรื่องอะไรล่ะคะบอกอเหยื่อไหวตัวทันกันพอดี”

“คุณก็...พูดเป็นเล่นไป ผมไม่ได้บอกว่าให้ยกกันไปหมดแต่ระวังตัวไว้หน่อยก็ดี นายปรารภนั่นน่ะไม่ธรรมดานักหรอก หล่อ รวย ครบสูตรแถมเป็นคาสโนว่าตัวพ่ออีก การที่เขาเข้ามาคุยกับคุณแล้วยังรู้อีกว่าคุณเป็นนักข่าวทั้งที่คุณไม่ได้แนะนำตัวก็แสดงว่าเขาคงจะได้กลิ่นบางอย่างไม่แน่เขาอาจจะกำลังติดตามการทำงานของคุณอย่างใกล้ชิดอยู่ก็ได้อย่าลืมสิจอมคอลัมน์ล่าสุดของคุณที่เขียนถึงเมลิซ่า โมนิค ก็เฉียดเขาไปมาถึงคุณจะไม่ได้เขียนตรงๆ แต่คนอ่านเดาไม่ยากหรอก ผมเองก็หวั่นๆว่าจะโดนเขาฟ้องอยู่เหมือนกัน ”

“นั่นไงล่ะคะบอกอ จอมถึงต้องตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดที่สุด”

นักข่าวสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังใบหน้าเรียบเฉยของเธอแต่แรกเปลี่ยนเป็นเข้มขึ้นเมื่อนึกถึงความหลัง

“จอมล่ะเกลียดจริงๆคนมีเงินมีเกียรติในสังคมทำชั่วก็สามารถแก้ผิดเป็นถูกได้แถมยังได้รับการนับหน้าถือตาเพราะมีเงิน ส่วนเหยื่อก็ถูกลืมถูกกระทำเหมือนคนชั้นต่ำคนไร้ค่า ชีวิตถูกประเมินด้วยราคาเพียงน้อยนิด มันแลกไม่ได้เลยกับความผิดหวังเสียใจ ตรอมใจของคนในครอบครัวของพวกเขา ทุกอย่างบนโลกนี้ซื้อได้ด้วยเงิน ด้วยอำนาจจอมจะพิสูจน์และถามหาความยุติธรรมให้เหยื่อ”

เสียงที่เคยห้าวของหญิงสาวเบาลงเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีตน้องสาวคนเดียวของเธอตกเป็นเหยื่อของคนมีเงิน และจากโลกนี้ไปโดยถูกกระทำเหมือนคนไร้ค่าเงินแลกไม่ได้กับความทุกข์ ความเสียใจที่เกาะกินใจและทุกข์ตรมของบิดา มารดาและพี่สาวที่ยังเรียนไม่จบ เธอไม่สามารถช่วยเหลือน้องสาวได้ในเวลานั้น ในที่สุดรอยยิ้มและเสียงหัวเราะก็ไม่เคยปรากฏขึ้นอีกเลยในครอบครัวเล็กๆของเธอ และมันก็หายไปตลอดกาลเมื่อความตรอมใจพรากบุพการีทั้งสองท่านของเธอไปในระยะเวลาใกล้เคียงกัน

สิ่งที่สามารถทดแทนและเยียวยาหัวใจตัวเองได้ก็คือการทำงานเธออุทิศชีวิตเพื่อการทำงาน การทำให้คนชั่วได้รับผลจากการกระทำคือสิ่งที่ถูกต้อง เธอจะทำทุกวิถีทางโดยใช้อาชีพเป็นเครื่องมือแม้ว่าคนที่ตกเป็นเหยื่อจะเป็นใครในสังคมก็ตามเขาเหล่านั้นก็ควรจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม

หากก่อนที่นักข่าวสาวจะกลับไปจมกับความทุกข์ในอดีตบอกอหนุ่มใหญ่ก็ดึงเธอกลับมาในปัจจุบัน

“ผมรู้ว่าคุณทุ่มเทกับงานมาก แต่คุณก็ต้องไม่เสี่ยงด้วยทุกคนเคยมีอดีตและมีความหลังที่เจ็บปวด แต่ชีวิตของเราก็ต้องเดินต่อไปข้างหน้านะจอมผมเตือนคุณในฐานะหัวหน้างาน รุ่นพี่ แล้วก็ในฐานะอาจารย์”

คนที่เอ่ยเตือนอย่างอ่อนโยนเอื้อมมื้อข้ามโต๊ะไปตบไหล่เล็กๆของนักข่าวสาวเบาๆเขาคือหนึ่งในจำนวนไม่กี่คนซึ่งรับรู้อดีตอันแสนเจ็บปวดที่เคยเกิดขึ้นกับครอบครัวของเธอ

“ขอบคุณมากค่ะบอกอ แล้วจอมจะระวังตัวให้มากขึ้น”คนที่กำลังปรับสีหน้าให้เป็นปกติเอ่ยพลางยิ้มให้แล้วเงียบไปก่อนจะส่งเสียงร่าเริงขึ้นอีกครั้ง “ถ้างั้น...จอมขอตัวก่อนนะคะบอกอดูสิจากข่าวยาเสพติดไปโผล่เรื่องข่าวการเมืองอีกจนได้ ไม่เอาละ เดี๋ยวจะหลงประเด็นจอมกลับไปทำสกู๊ปต่อให้จบดีกว่า”

“ครับ กลับไปทำงานเถอะ”

บอกอหนุ่มใหญ่อนุญาตหากไม่ทันที่นักข่าวสาวจะลุกเดินออกไป เสียงทุ้มของเขาปรับระดับสูงขึ้นราวกับว่าเพิ่งจะนึกเรื่องด่วนบางอย่างออก

“เห็นคนแถวๆ นี้เขาลือกันว่าเมื่อคืนคุณมีหนุ่มใหญ่สุดเพอร์เฟ็กท์มานั่งรอคุณเป็นชั่วโมงๆถ้าคราวหน้าเขามาอีก ผมอนุญาตให้เขาขึ้นมารอที่ห้องรับแขกบนออฟฟิศได้เลยนะจอม เพื่อนของคุณผมอนุญาต”

คนที่หันไปสนใจหน้าจอคอมพิวเตอร์มากกว่ามองหน้าคนที่ชะงักไปเพราะเธอคงไม่คิดว่าข่าวจะรวดเร็วเช่นนี้

“ข่าวเร็วจังเลยนะคะบอกอ แต่เขาคงไม่มาอีกแล้วล่ะจอมขอตัวไปทำงานก่อนดีกว่า”คนที่ไม่เคยมีชายหนุ่มมานั่งรอที่ออฟฟิศมาก่อนพยายามเอ่ยเสียงเรียบและปั้นหน้าให้เป็นปกติก่อนเดินออกไปจากห้องของหัวหน้างานโดยเร็ว...

คฤหาสน์สุดหรูของคนที่ถูกกล่าวถึงกำลังจัดเตรียมสถานที่สำหรับงานฉลองครบรอบวันเกิดของคุณหญิงปรารถนามงคลพัฒน์ ในคืนนี้ ซึ่งจะจัดอย่างยิ่งใหญ่กว่าทุกๆ ปี เพื่อเป็นการฉลองข่าวดีล่วงหน้าให้กับประมุขของบ้านในวาระที่เขาจะได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไปอย่างแน่นอน เพราะเขามีเสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรคเกินกว่าครึ่ง

“คุณหญิงอย่าลืมโทรตามตัวนายปราบให้มางานคืนนี้ให้ได้นะผมไม่เห็นหัวมันมาเป็นเดือนๆ แล้ว”เสียงทุ้มต่ำของว่าที่หัวหน้าพรรคคนใหม่กำชับภรรยาบนโต๊ะอาหารในตอนเช้า

“ลูกปราบต้องมาอยู่แล้วล่ะค่ะคุณลูกไม่เคยพลาดงานฉลองครบรอบวันเกิดของดิฉันเลยสักครั้ง” เสียงหวานของคนเป็นภรรยาตอบพร้อมรอยยิ้มอย่างภาคภูมิใจในตัวลูกชายคนเดียวของเธอ

“แต่ตอนนี้ลูกชายตัวดีของคุณหญิงเปลี่ยนไปแล้วถ้าผมอยากจะเจอหน้ามัน ก็ต้องไปคุ้ยนิตยสารก๊อซซิปดารามาอ่านเปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า คู่ควงคนก่อนของมันก็เพิ่งจะเสียชีวิตคู่ควงคนใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการมาได้ไม่นานก็มีแต่ข่าวฉาว มันเอาตัวเข้าไปพัวพันเรื่องข่าวฉาวๆแบบนี้ไม่รักษาหน้าผมเลยสักนิดเดียว”

“ลูกเป็นผู้ชายนะคะคุณมีข่าวกับพวกดารานางแบบก็เป็นเรื่องธรรมดาจะตายไป ลองไม่มีข่าวกับสาวๆ สิคะดิฉันว่าน่ากลัวกว่ากันตั้งเยอะ ลูกชายของเราทั้งหล่อทั้งรวย การศึกษาก็ดีครอบครัวก็ดี ใครๆ ก็จ้องจะจับทั้งนั้นดิฉันไม่เห็นว่าลูกปราบจะทำเรื่องเสื่อมเสียตรงไหน”ผู้เป็นภรรยาซึ่งขึ้นชื่อเรื่องถือหางลูกชายเอ่ยปกป้อง

“หึ! คุณคงไม่ได้ติดตามข่าวสินะคุณหญิง คอลัมน์ ‘เซ็กซ์ดาราและยาเสพติด’ของเดอะสยามนิวส์รายสัปดาห์ลงข่าวเฉียดไปมาลูกชายคนโปรดของคุณถึงจะไม่ได้ระบุชื่อว่าใครแต่ใครอ่านก็รู้ เป็นที่น่าสงสัยว่าผับของมันเป็นแหล่งปล่อยยาเสพติดอีกหน่อยถ้าตำรวจจับได้คาหนังคาเขาขึ้นมาจริงๆชื่อเสียงและโอกาสทางการเมืองของผมก็จบผมไม่ต้องการให้เรื่องฉาวโฉ่ของมันส่งผลกระทบต่อตำแหน่งหัวหน้าพรรคของผมคุณก็รู้นะคุณหญิงว่ากว่าผมจะมาไกลถึงจุดนี้ได้ต้องแลกด้วยอะไรบ้าง” คนที่นั่งอยู่ในตำแหน่งหัวโต๊ะเอ่ยถึงลูกชายโดยไม่สนใจความรู้สึกของภรรยาที่กำลังน้ำตาคลอ

“ใช่สิคะดิฉันเองที่อบรมลูกไม่ดีไม่มีเวลาให้ลูกจนต้องส่งลูกไปอยู่โรงเรียนประจำถึงต่างประเทศตั้งแต่เล็กแต่ถึงยังไงลูกชายของเราก็หอบใบปริญญากลับมาให้เราภูมิใจนะคะคุณ”

คนเป็นภรรยาเอ่ยเสียงสั่นเครือก่อนจะเงียบไปเพียงครู่เดียวใบหน้าขาวที่แสดงริ้วรอยแห่งกาลเวลาหากยังคงความงดงามเธอมองหน้าสามีก่อนส่งเสียงหวานปนเศร้า

“คงจะมีแต่ดิฉันเพียงคนเดียวสินะคะที่ภาคภูมิใจในตัวลูกปราบ ถึงยังไงเขาก็เป็นเด็กดีของดิฉัน ถึงลูกจะแย่ในสายตาใครๆเขาก็ยังคงเป็นลูกชายคนดีของดิฉัน”

“ผมไม่ได้หมายความแบบนั้นนะคุณหญิง”น้ำเสียงของคนเป็นสามีอ่อนลงเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าหมองของภรรยา “แต่ยังไง…คุณหญิงก็ต้องตามตัวลูกมาให้ได้ก็แล้วกันมีผู้ใหญ่ในพรรคหลายท่านที่ผมอยากจะแนะนำให้ลูกรู้จัก จะได้ฝากฝังกันเผื่อในอนาคตนายปราบจะได้มีโอกาสลงเล่นการเมืองบ้าง”

คนเป็นสามีเอ่ยจบพลางยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มเพียงครู่เดียวเขาก็ลุกออกไปจากโต๊ะอาหารโดยมีคนรับใช้หิ้วกระเป๋าเอกสารและถือเสื้อสูทเดินตามหลังไปยังรถยนต์ซึ่งจอดรออยู่หน้าประตูทิ้งให้ภรรยาจมอยู่กับความน้อยใจเพียงลำพัง

บรรยากาศที่เคยสงบในอาณาจักรฮอตอีเกิ้ลคุกรุ่นอีกครั้งเมื่อเลขาสาวรีบเข้ามารายงานตรงต่อเจ้านายของเธอว่ามีการรวมตัวประท้วงของพนักงานในไลน์ผลิตจำนวนหนึ่งสาเหตุไม่ระบุแน่ชัด หากคนที่ควรจะกังวลกว่าใครกลับเอ่ยเสียงเรียบและผ่อนคลายเพราะมันไม่เกินจากที่เขาคาดการณ์เอาไว้

“หัวโจกคือนายมงคล หัวหน้าสหภาพแรงงานใช่ไหมครับคุณสาวิตรี”เสียงทุ้มห้าวของพญาอินทรีหนุ่มเอ่ยถามเลขาสาว

“ค่ะท่านเป็นคนเดียวกันกับที่เคยเป็นแกนนำนำพนักงานประท้วงครั้งก่อนด้วยค่ะ”

“แล้วสาเหตุของการประท้วงล่ะครับเขาแจ้งหรือเปล่า”

“ไม่ได้แจ้งค่ะท่าน แต่นายมงคลยืนกรานว่าจะขอเข้าพบเพื่อเจรจากับท่านคนเดียวเท่านั้นเพราะไม่เช่นนั้นแต่ละแผนกจะหยุดทำงานสามวันค่ะ"

“ได้ครับถ้าอย่างนั้นคุณช่วยแจ้งนายมงคลให้มาพบผมบ่ายนี้ได้เลย”

“ค่ะท่าน” เลขาสาวรับคำสั่งก่อนเดินออกไปจากห้องโดยเร็ว

วินาทีที่ประตูห้องทำงานปิดสนิทมือแกร่งของพญาอินทรีหนุ่มหยิบโทรศัพท์แล้วกดเบอร์ของคนที่เขาคิดถึงมาทั้งวันหากต้องผิดหวังเมื่อฟังเสียงรอสายอยู่นานก็ไม่มีคนรับ

เป็นช่วงเวลาเดียวกับหญิงสาวเจ้าของเบอร์ที่ลืมไปแล้วว่าได้ปิดเสียงเรียกเข้าเอาไว้ตั้งแต่เธอเข้าไปปรึกษางานกับบอกอหนุ่มในช่วงเช้าและกลับออกมาทำสกู๊ปข่าวรายสัปดาห์อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานหลายนาทีแล้วหากก่อนที่นิ้วเรียวจะกดเซฟบทความเสียงหวานของนักข่าวสาวรุ่นพี่ก็ดังมาจากด้านหลัง

“คืนนี้ว่างไหมจอม ไปกินฟรีกัน!” มรกตซึ่งเป็นนักข่าวสายการเมืองเอ่ยชวนรุ่นน้อง

“กินฟรีที่ไหนกันพี่กตนี่ก็เพิ่งจะต้นเดือนเองนะ ต้องหาแหล่งกินฟรีแล้วเหรอพี่”

จอมขวัญเอ่ยถามทีเล่นทีจริงเธอเข้าใจโดยทันทีว่า ‘กินฟรี’คือมันอาจจะส่งผลให้พวกเธอได้ข่าวสำคัญกลับมา

“ก็คืนนี้จะมีงานเลี้ยงครบรอบวันเกิดของคุณหญิงปรารถนาภริยาท่านบัญญัติ เขาส่งการ์ดเชิญไปให้ทุกสำนักข่าวเลยนะเห็นว่าเป็นงานเลี้ยงส่วนตัวไม่เกี่ยวกับการเมือง บอกอก็เลยส่งพี่ไปเป็นตัวแทนน่ะแต่พี่ไม่อยากไปคนเดียวว่ะ มันเหวอ...จอมไปด้วยกันนะไม่แน่อาจจะได้ข่าวลูกชายของเขามาเขียนเรื่องที่จอมกำลังตามอยู่ก็ได้ ไปนะจอม กินฟรีแถมได้ข่าวด้วยโคตรจะคุ้ม"คนที่เอ่ยชวนยักคิ้วให้รุ่นน้องพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เพราะเธอมั่นใจว่าถ้าหากเอางานมาล่อโอกาสที่จอมขวัญจะปฏิเสธแทบเป็นศูนย์

“เชิญนักข่าวไปงานเลี้ยงส่วนตัวแบบนี้ไม่ถือว่าติดสินบนหรือพี่ นี่ก็เพิ่งประกาศยุบสภาไปหมาดๆ เดี๋ยวใครจะหาว่าเราไม่เป็นกลางเอาได้”คนเป็นรุ่นน้องเอ่ยถามแกมกังวล เพราะเธอรู้ดีว่าถ้าไม่ระมัดระวังตัว ก็อาจจะถูกโยงไปสู่เรื่องการเมืองได้

“พี่ว่างานนี้น่าจะขี้เหร่น้อยกว่าตอนที่นายกจัดทริปให้นักข่าวบางสำนักไปทัวร์ต่างประเทศว่ะจอมเพราะในการ์ดเชิญก็ระบุชัดเจนถึงวัตถุประสงค์ของงาน ใครๆ ก็รู้ว่าท่านบัญญัติรักภรรยามากจัดงานนี้ขึ้นก็เพื่อภรรยา ปีนี้คุณหญิงปรารถนาจะครบห้ารอบแถมเชิญนักข่าวทุกสำนักประชาชนคงจะเข้าใจ” คนเป็นรุ่นพี่ให้เหตุผล เพราะนี่คือคำถามที่เธอถามบอกกอหนุ่มตอนที่เขามอบตำแหน่งตัวแทนให้เธอ

“ไม่ต้องห่วงหรอกน่าเรื่องนี้พี่ถามบอกอถึงความเหมาะสมมาแล้ว”

“...”

คนเป็นรุ่นน้องเงียบไปครู่หากสีหน้าราวกับคนคิดหนักซึ่งสวนทางกับความรู้สึกของเธอความจริงแล้วเธอคิดว่าการได้เข้าถ้ำเสือในคืนนี้อาจจะทำให้เธอได้ลูกเสือ นั่นหมายรวมถึงข้อมูลเด็ดๆและแบล็กกราวด์บางอย่างที่ไม่เคยมีการเปิดเผยออกสื่อมาก่อนของครอบครัว ‘มงคลพัฒน์’ ติดมือกลับออกมาบ้างเพราะภาพความอบอุ่นของครอบครัวนี้ที่ปรากฏผ่านสื่อต่างๆเป็นที่น่าอิจฉาของคนทั่วไป หากสัญชาตญาณนักข่าวของเธอยังคงแคลงใจว่า ภาพดีๆที่ปรากฏกลับสวนทางกับพฤติกรรมของลูกชายคนเดียวของพวกเขา เพราะข้อมูลล่าสุดที่เธอได้รับจากเพื่อนสนิทของเมลิซ่า โมนิค ทำให้เธอมั่นใจยิ่งขึ้นว่าคนที่อยู่เบื้องหลังการตายและเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่คนหนึ่งของเมืองไทย จะต้องมีรายชื่อ ปรารภ มงคลพัฒน์อยู่ในบัญชีดำอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่เคยมีใครเอาผิดเขาได้

“ตกลงค่ะพี่กต จอมไปชุดนี้เลยนะขี้เกียจกลับคอนโดฯ ไปเปลี่ยน ถึงจะเปลี่ยน ก็ออกมาแนวๆ นี้อีกอยู่ดี”หญิงสาวเอ่ยถามรุ่นพี่พลางก้มมองตัวเอง

“ได้อยู่แล้ว จอมใส่อะไรก็เท่ทั้งนั้นแหละแต่ล้างหน้าล้างตาเติมเมคอัพหน่อยก็ดี ช่วงนี้คงทำงานหนักสิท่า หน้าตาซีดเซียวเชียว”คนเป็นรุ่นพี่เอ่ยพลางเอื้อมมือมาตบไหล่รุ่นน้องเบาๆ อย่างเอ็นดู

“ได้เลยค่ะพี่กต ถ้าจะไปกี่โมงพี่ก็โทรมาที่โต๊ะจอมก่อนสักครึ่งชั่วโมงก็แล้วกันจอมจะได้มีเวลาแต่งหน้าทาปากให้สวยงาม จะได้ไม่เป็นซอมบี้ไปงานเลี้ยงให้แขกคนอื่นๆแตกตื่น”

“จอมคงจะเป็นซอมบี้ที่น่ายื่นคอให้กัดที่สุดในศตวรรษนี้น่ะสิไม่ว่า”มรกตแซวรุ่นน้องที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน

หลังจากนั้นทั้งคู่ก็พยักหน้ากับข้อตกลงก่อนที่นักข่าวสาวรุ่นพี่จะเดินกลับไปทำงานของตัวเอง...

เวลาบ่ายโมงตรงตามเวลานัดพญาอินทรีหนุ่มกำลังเผชิญหน้ากับหัวหน้าสหภาพแรงงานนามว่า มงคล เหนือเมฆเขาเป็นหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบปี รูปร่างสูง ผิวเข้มหากมีหน้าตาเป็นมิตรสวนทางกับพฤติกรรมหัวรุนแรงและปลุกระดม

“สวัสดีครับ เชิญนั่งก่อน” ซีอีโอหนุ่มเอ่ยพลางผายมือเพื่อเป็นสัญญาณให้คนตรงหน้านั่งลงที่เก้าอี้หนังฝั่งตรงข้าม

“ขอบคุณครับ” เสียงเหน่อหากก้องกังวานตอบ

“ผมขอตรงประเด็นเลยแล้วกันการประท้วงครั้งนี้คุณต้องการอะไร”

“พวกเราเพิ่งทราบข่าวว่าท่านจะเชิญคุณวีรปัจน์เข้ามาเป็นที่ปรึกษาในส่วนการผลิต พนักงานทุกคนรู้ดีว่าคุณวีรปัจน์ทำงานผิดพลาดไม่เก่งจริง จนทำให้พนักงานชั้นผู้น้อยสูญเสียผลประโยชน์ที่พึงจะได้รับเป็นการตอบแทนจากความทุ่มเทของพวกเราไปเป็นค่าปรับที่เขาวางแผนงานผิดพลาดพวกเราชื่นชมเขาที่แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกแต่ถ้าเขาจะกลับเข้ามาเพื่อทำให้พวกเราได้รับผลกระทบในการใช้ชีวิตแล้วล่ะก็พวกเรามีความประสงค์จะให้ท่านทบทวนเรื่องนี้ใหม่อีกครั้งครับ พวกเราทุกคนต้องการความมั่นใจว่าพลังแห่งการทุ่มเทของพวกเราจะไม่กระทบกระเทือนเพราะคนที่ไม่มีศักยภาพ”

เสียงเหน่อหากฉะฉานและท่าทางมั่นใจของคนตรงหน้าส่งผลให้พญาอินทรีหนุ่มนึกชื่นชมในความตรงไปตรงมาของเขา

“ผมมีคติประจำใจอยู่หนึ่งอย่าง และผมก็จะไม่ปล่อยผ่านก็คือการหยิบยื่นโอกาสให้กับพวกลูสเซอร์[1] ได้แก้ไขสิ่งที่เคยทำผิดพลาด” เสียงทุ้มห้าวของคนที่จ้องดวงตาคมกริบไปยังคู่สนทนา“และผมก็ยังมีความเชื่ออีกว่าความผิดพลาดมันไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากคนเพียงคนเดียว ทุกอย่างมีเหตุผลในตัวของมันคุณเองก็ทำงานที่นี่มานานน่าจะพอทราบ ถึงคุณวีรปัจน์เก่งและวางแผนงานดีอย่างไรแต่ถ้าเขาไม่ได้รับความร่วมมือจากพวกคุณ ซึ่งกั๊กกำลังคนพร้อมกับปล่อยข่าวลือผิดๆไม่ร่วมแรงร่วมใจกันในยามที่บริษัทประสบภาวะวิกฤต ผมเชื่อว่าปัญหาส่วนหนึ่งมาจากความบกพร่องในหน้าที่ของพวกคุณด้วยแต่คุณวีรปัจน์ได้แสดงความเป็นสุภาพบุรุษด้วยการลาออกโดยที่เขาไม่โยนความผิดให้ใครเลยนั่นต่างหากที่เรียกว่าลูกผู้ชายตัวจริง” พญาอินทรีหนุ่มเอ่ยเสียงเข้มขึ้นดวงตาคมกริบของเขาแฝงประกายจริงจังชัด ขณะเดียวกันเขาก็สังเกตท่าทีของคู่เจรจา “ถึงผมจะใหม่มากในสายตาของพวกคุณแต่ผมมั่นใจว่าไม่มีใครรู้จักที่นี่ได้ดีเท่าผมอย่างแน่นอน”

“แล้วท่านจะการันตีกับพวกเราได้อย่างไรล่ะครับว่าถ้าคุณวีรปัจน์ทำงานผิดพลาดด้วยตัวของเขาเองแล้วจะไม่ลากพวกเราเข้าไปร่วมรับผิดชอบเงินเดือนของพนักงานในไลน์ผลิตก็น้อยอยู่แล้ว แต่ละคนก็มีภาระต้องรับผิดชอบ”

คนที่เริ่มคล้อยตามกับคำพูดของชายหนุ่มเอ่ยถามและสิ่งที่เขาได้ยินจากคนตรงหน้าก็ไม่เกินความเป็นจริง ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าในโรงงานที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้มีปัญหาการเมืองภายในระหว่างคนในระดับผู้บริหารและตัวเขาเองไม่ใช่หรือที่ได้รับคำสั่งจากใครบางคนให้ปล่อยข่าวลือเรื่องความไม่มั่นคงของบริษัทและสร้างความขัดแย้งระหว่างแผนกแม้กระทั่งการเสนอแต่งตั้งคนของตัวเองขึ้นมาเป็นหัวหน้าทั้งที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นานจนทำให้พนักงานหลายคนลาออกไปเพื่อมุ่งหน้าหาอนาคตใหม่ให้ตัวเอง

หากก่อนที่วีรกรรมที่เขาเคยร่วมมือกับใครบางคนจะขยายผลไปสู่อีกหลายสิ่งที่เขาเคยร่วมกระทำเสียงของซีอีโอหนุ่มคนใหม่ก็ดึงเขากลับมา

“ถูกต้องครับผมรู้ดีว่าทุกคนมีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ตัวผมเองก็ต้องใช้ชีวิตฉะนั้นผมจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนสร้างความหายนะให้กับอู่ข้าวอู่น้ำของผมเช่นกัน”คนพูดหยุดมองหน้าคนฟังนิ่งก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายลง “เรามาร่วมมือกันไม่ดีกว่าหรือครับผมรับรองว่าถ้าพวกคุณทุ่มเทแรงกายและแรงใจ แล้วให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับคุณวีรปัจน์ผมจะชดเชยคืนให้ในส่วนที่พวกคุณควรจะได้รับ โดยที่ไม่น้อยไปกว่าเดิมหรือมากกว่าเดิมผมเองมีแผนขยายตลาดในอีกหลายๆ ประเทศ นั่นเท่ากับว่าพวกคุณจะมีงานทำมากขึ้นค่าตอบแทนก็จะมากขึ้นตามลำดับ ส่วนเรื่องสวัสดิการผมมั่นใจว่าที่นี่ให้พวกคุณเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดอย่างแน่นอนเงินค่าขนมแก่บุตรของพนักงานสองเปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนนอกเหนือจากเบี้ยขยันที่เราให้ทุกเดือนผมมั่นใจว่าเราให้พนักงานมากกว่าสถานที่ประกอบการอื่นๆ ส่วนเรื่องโบนัสไม่ต้องห่วงครับผมตระหนักดีว่าการขับเคลื่อนองค์กรให้ไปข้างหน้าได้นั้นต้องมาจากฟันเฟืองเล็กๆที่สำคัญอย่างพวกคุณอย่างแน่นอน”

พญาอินทรีหนุ่มให้ความมั่นใจกับคนตรงหน้าดวงตาคมเฉียบสังเกตท่าทีลังเลของคู่เจรจา และราวกับเขาต้องการชนะน็อคในหมัดนี้เขาจึงเอ่ย

“พวกคุณก็จะได้พิสูจน์ตัวเองด้วยและทำให้ผมเห็นว่าผมเองที่คิดผิดโดยการที่พวกคุณแข่งขันกันทำงานและร่วมมือกันอย่างเต็มที่และถ้าหากผลลัพธ์ยังคงเหมือนเดิมหรือแย่กว่าเดิมคุณวีรปัจน์ก็จะไม่มีโอกาสอีกเป็นครั้งที่สามผมสัญญา”

หลังจากประโยคสุดท้ายของเขาจบลงบรรยากาศภายในห้องก็เงียบไปหลายนาทีโดยคนที่เริ่มคล้อยตามข้อเสนอก็เอ่ยเสียงเหน่อทำลายความเงียบ

“ตกลงครับพวกผมจะทำงานให้ดีที่สุดเพื่อพิสูจน์ตัวเอง”

หัวหน้าสหภาพแรงงานรับข้อเสนอ โดยเขามองตาซีอีโอหนุ่มใหญ่อย่างมีคำถามซึ่งสายตาเช่นนี้ไม่ยากเกินกว่าที่พญาอินทรีหนุ่มจะอ่าน

“ดูเหมือนว่าคุณจะมีคำถาม เชิญครับเปิดอกได้เลย”

“แต่สิ่งที่พวกเราได้ยินจากปากคุณประจักษ์ตรงกันข้ามกับวันนี้”

“คุณได้ยินอะไรมาเล่าได้หรือเปล่าเราจะได้ช่วยกันแก้ข่าวลือให้ถูกต้อง”

เมื่อมงคลได้ยินดังนั้นบวกกับท่าทางของคนตรงหน้าที่แสดงออกเด่นชัดถึงพลังแห่งอำนาจหากดูติดดินในคราวเดียวกันเสียงทุ้มห้าวเจือความจริงใจ สุภาพและไม่ถือตัวเขาจึงไม่ลังเลเลยที่จะเล่าถ้อยคำของคนที่อยู่เบื้องหลังตัวจริงในการประท้วงครั้งนี้

กว่าหลายนาทีที่พญาอินทรีหนุ่มนั่งฟังข้อมูลบิดเบือนซึ่งสวนทางกับสิ่งที่เขาได้มอบหมายให้ผู้จัดการฝ่ายผลิตคนปัจจุบันทำความเข้าใจกับพนักงานทุกคนและมันไม่เกินการคาดเดาของเขาอีกเช่นกัน

“ขอบคุณมากครับคุณมงคลที่แจ้งผมเรื่องนี้เอาเป็นว่าคุณนำสิ่งที่เราคุยกันวันนี้ไปแจ้งต่อกับพนักงานในไลน์ผลิตทุกคนได้เลยผมขอยืนยันด้วยเกียรติของลูกผู้ชายว่าผมจะไม่เพิกเฉยต่อปัญหาและละทิ้งพนักงานถ้าตราบใดที่พวกเขายังรักเชื่อมั่นและทุ่มเทให้กับที่นี่”

“ครับท่าน” คนถูกมอบหมายหน้าที่รับคำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

กว่าหนึ่งชั่วโมงที่การเจรจาจบลงคนที่เดินเข้ามาในห้องด้วยใจอคติในตอนแรกกลับออกไปจากห้องพร้อมความรู้สึกตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงในขณะที่คนนั่งเอนหลังพิงพนักอย่างผ่อนคลาย หากในใจของเขาคิดการใหญ่บางอย่าง

“กำจัดคนที่ชอบสร้างความหายนะก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”

เมื่อเรื่องงานผ่านไปแล้วเรื่องหัวใจก็จำเป็นอย่างยิ่งยวดที่เขาจะต้องสานต่อในสิ่งที่ค้างคามือแกร่งหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอีกครั้งกดเบอร์เดิมแล้วรอยยิ้มก็ระบายไปทั่วใบหน้าคมเข้มเมื่อได้ยินเสียงห้าวหากสุภาพเอ่ยทักมาในสาย

“สวัสดีค่ะ”

“สวัสดีครับ”

“ไม่ทราบว่าคุณคือใครฉันจำได้ว่าไม่เคยมีเพื่อนชื่อ ‘ดาร์ลิ้ง’ มาก่อน”

“ผมอินทรี พินิจพงษ์ ครับผม”

“คุณนั่นเองฉันเพิ่งรู้ว่าชื่อเล่นของคุณน่ารักขนาดนี้ แต่ดูไม่ค่อยจะสมตัวคุณเท่าไหร่”หญิงสาวเอ่ยเสียงเรียบกลบเกลื่อนอารมณ์บางอย่าง ทำไมเธอจะไม่รู้ว่า ‘ดาร์ลิ้ง’ ที่เขาบันทึกไว้ในโทรศัพท์ของเธอในคืนนั้นแปลความหมายว่าอย่างไรแล้วชื่อของเธอในโทรศัพท์ของเขาล่ะ เธอหวังว่าจะเป็นชื่อจอมขวัญซึ่งเป็นชื่อจริงของเธอ

“ถ้าจอมจะเรียกพี่ว่า พี่อินทร์ หรือ ดาร์ลิ้งก็ไม่มีปัญหาครับ” เสียงทุ้มห้าวหากนุ่มนวลของคนที่ไม่นำพาคำพูดค่อนขอดของหญิงสาวหากสิ่งที่เขาได้รับกลับมาคือความเงียบ เขาจึงรีบเอ่ยบทสนทนาต่อก่อนที่อีกฝ่ายจะวางสายไปเสียก่อน

“พี่โทรหาจอมตั้งแต่ตอนเที่ยงแต่ก็ไม่มีคนรับ”

“พอดีฉันปิดเสียงโทรศัพท์เอาไว้น่ะ เพิ่งจะเปิดไม่กี่นาทีนี่เองก็เห็น missed call อยู่แต่ชื่อไม่คุ้นเลยไม่ได้โทรกลับ”

“จอมเลิกงานกี่โมงครับเราไปทานมื้อค่ำที่ร้านเฮียโก้กันอีกดีไหม” ชายหนุ่มเอ่ยชวนเสียงนุ่ม

“คืนนี้ไม่ว่างมีงานต้องทำแล้วก็คงจะกลับดึกมากด้วย” นักข่าวสาวปฏิเสธตามความจริง“แต่อย่างคุณ...ถ้าจะหาคนกินมื้อค่ำด้วยก็ไม่น่าจะยากเย็นอะไรนักนะ ไม่เห็นต้องลำบากโทรมาชวนฉันเลย”

“แต่พี่อยากกินข้าวกับจอมนี่ครับ”

น้ำเสียงผิดหวังของคนปลายสายชัดเสียจนหญิงสาวต้องรีบเสริมถึงงานที่เธอหมายถึงในคืนนี้เพื่อต้องการจะบอกเขากลายๆ ว่าเธอไม่ได้หาเหตุผลมาปฏิเสธเขา โดยที่เธอเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าทำไมต้องห่วงความรู้สึกของเขาเช่นนั้น

“คืนนี้ฉันต้องไปงานเลี้ยงที่บ้านรัฐมนตรีน่ะคุณคงกลับดึกมากๆ เอาไว้วันหลังก็แล้วกันนะ แต่ความจริงถ้าคุณติดใจรสมือเฮียโก้คุณก็ไปคนเดียวได้นี่นา จะกินคนเดียวหรือสองคนก็อร่อยเหมือนกันแหละคุณ”

“กินข้าวกับจอมอร่อยกว่าพี่ไม่ชอบกินข้าวคนเดียว...เหงา” คนที่ไม่เคยเหงากับการรับประทานอาหารคนเดียวมาก่อนอ้อนคนปลายสาย

“ห้ามพูดเสียงแบบนั้นกับฉันนะคุณ ฟังแล้วขนลุกเพิ่งจะรู้ว่าผู้ใหญ่อย่างคุณก็ขี้เหงากับเขาด้วย โธ่เอ๊ยอย่ามาอ้อนเป็นเด็กๆไปหน่อยเลยน่า ใครได้ยินเข้าจะหัวเราะเอาเปล่าๆ”

“พี่อ้อนจอมคนเดียว”

“...”

จอมขวัญเงียบไปเลยเพราะเธอไม่ชินกับการกระทำที่เรียกได้ว่าเหมือนกำลังโดนจีบตรงๆ เช่นนี้มาก่อน

“โอเคๆ ครับ คืนนี้จอมไม่ว่างก็ไม่เป็นไรแต่พรุ่งนี้ทานมื้อค่ำกันนะ จอมรู้ไหม ปล่อยให้คนแก่ขี้เหงารอเก้อมันบาป”

“นี่คุณ พูดเองเออเอง ชักจะเอาใหญ่ละ”หญิงสาวเอ็ดไปตามสาย หากเบื้องหลังโทรศัพท์เครื่องจิ๋วคือรอยยิ้มบางๆบนใบหน้าที่ซ่านสีชมพู

“นะครับ ร้านเฮียโก้ก็ได้หรือร้านอื่นที่จอมชอบทานแล้วอยากจะแนะนำคนที่เพิ่งจะมาอยู่เมืองไทยได้ไม่นานอย่างพี่หรือเราจะเปลี่ยนบรรยากาศไปทานอาหารจีนในโรงแรมกันก็ได้”

“อาหารจีนในโรงแรมก็ไม่เลว แต่...”

หญิงสาวชะงักไปเพราะเวลานี้ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะตอบรับคำชวนของเขาหากก่อนที่เธอจะผูกมัดคำชวนเธอก็เอ่ยออกไปด้วยประโยคที่ไม่เข้าตัวมากนัก

“อือๆ ดูอีกทีก็แล้วกัน ตอนเย็นๆ คุณก็ลองโทรมาก่อนถ้าฉันไม่ติดธุระอะไร อาจจะไปกินข้าวด้วยก็ได้”

“โอเคครับผม ถ้างั้นพรุ่งนี้เจอกันครับ”

พญาอินทรีหนุ่มรับคำแล้วรีบกดวางสายไปก่อนที่นางในดวงใจของเขาจะเปลี่ยนใจ



[1] Loser คือ คนขี้แพ้ คนไม่เอาไหน


*****************************************************

มีวางจำหน่ายแล้วในรูปแบบ E-BOOK ค่ะ ตามลิ้งก์ค่ะ


//www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=9773


ส่วนรูปเล่มใครสนใจแจ้งเข้ามาได้ทีที่: wikky7ster@gmail.com ค่ะ

หรือแฟนเพจ 




Create Date : 14 ธันวาคม 2557
Last Update : 14 ธันวาคม 2557 11:15:01 น. 0 comments
Counter : 550 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wikky_78
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add wikky_78's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.