"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
11 พฤศจิกายน 2555
 
All Blogs
 
นิทานสอนใจ : ราชาหัวใจลำพอง

 

พระราชาพระองค์หนึ่งทรงมีทรัพย์สมบัติในครอบครองมากมาย อีกทั้งราชอาณาจักรของพระองค์ก็ขยายเขตแดนกว้างใหญ่ไพศาล ใคร ๆ ก็รู้จักพระองค์ในฐานะ "พระราชาผู้ครอบครองดินแดนทั่วหล้า และมหาทรัพย์ทั่วแผ่นดิน" การเลื่องลือนามของพระองค์ในแง่นี้ ทำให้ความเย่อหยิ่ง ลำพองตนเข้าเกาะกุมหัวใจของพระราชาอย่างง่ายดาย
       
       นับวันความลำพองตนของพระราชาจะสะสมพอกพูนขึ้นเรื่อย ๆ ความถือพระองค์ว่าเป็นที่หนึ่ง ทำให้พระราชาปฏิเสธที่จะเจริญสัมพันธไมตรีกับบ้านเมืองอื่น ด้วยเหตุผลว่า ไม่มีบ้านเมืองใดยิ่งใหญ่และคู่ควรพอที่พระองค์จะติดต่อด้วย ครั้งมีราชฑูตจากเมืองไกลมาขอเข้าเฝ้า พระองค์ก็จะรับสั่งผ่านมหาดเล็กว่า
       
       "ไปบอกฑูตเมืองนั้นว่าเราไม่สนใจราชสาสน์ของกษัตริย์แห่งเขา เราเป็นพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ว่างพอที่จะอ่านข้อความเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนั้นหรอก"
       
       เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ นานวันเข้าจึงไม่มีใครส่งราชฑูตมาเจริญสัมพันธไมตรีอีก รวมทั้งตัดขาดการติดต่อทางด้านการค้าไปด้วย พระราชาไม่ทรงแยแสเรื่องนี้ แต่ทรงลืมนึกถึงความเดือดร้อนของประชาชน เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของราชอาณาจักรแห่งนี้เป็นเมืองท่า ประชาชนส่วนใหญ่จึงมีอาชีพค้าขาย และส่วนหนึ่งที่ทำให้บ้านเมืองของพระองค์มั่งคั่งร่ำรวยได้ก็เพราะภาษีที่เก็บได้จากการค้าขายกับต่างแดน
       
       เหล่าเสนาอำมาตย์ต่างกลัวพระอาญา จึงไม่มีใครกล้าทูลพระราชาเกี่ยวกับวิกฤตนี้ ประชาชนจำต้องก้มหน้าก้มตารับความข้นแค้นขัดเคืองอย่างน่าสงสาร
       
       กระทั่งวันหนึ่ง มีนักบุญท่านหนึ่งเดินทางผ่านราชอาณาจักรของพระราชาผู้ทรงลำพองตน นักบุญรู้สึกแปลกใจที่อาณาจักรแห่งนี้ไม่คึกคักเหมือนแต่ก่อน ประชาชนก็ดูอดอยากและมีแต่ความเศร้าหมอง นักบุญจึงสอบถามความจากชาวเมืองคนหนึ่ง จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปทางพระราชวังเพื่อเข้าเฝ้าพระราชา
       
       แม้พระราชาจะทรงลำพองในความยิ่งใหญ่ของตนมากแค่ไหน แต่พระองค์ไม่เคยปฏิเสธนักแสวงบุญ ดังนั้นเมื่อทรงทราบว่ามีนักบุญพเนจรมาขอเข้าเฝ้า พระราชาก็รับสั่งให้ต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี แต่นักบุญบอกว่า ตนเองไม่ต้องการการต้อนรับที่เอิกเกริก เพียงแต่มีคำถามที่อยากทราบจากพระโอษฐ์ของพระราชาเท่านั้น เมื่อพระราชาทรงทราบความต้องการของนักบุญท่านนี้ พระองค์ก็เสด็จมาที่ท้องพระโรงทันที
       
       "ผู้ทรงศีล..ท่านมีคำถามอันใดเร่งด่วนนักหรือ จึงปฏิเสธการต้อนรับ ซึ่งน้อยคนนักจะได้จากเรา เพียงเพื่อต้องการทราบคำตอบนั้น" พระราชาตรัสถามทันทีที่พบหน้านักบุญ นักบุญมิได้ตอบคำถามของพระองค์ แต่กลับพูดขึ้นว่า
       
       "มหาราชา พระราชอาณาจักรของพระองค์ช่างกว้างใหญ่ไพศาลเสียยิ่งกว่าอาณาจักรใด ๆ ที่ข้าพเจ้าเคยสัญจรผ่าน ข้าพเจ้ารู้สึกอัศจรรย์ในความปรีชาของพรองค์โดยแท้..มหาราชา"
       
       "ไม่เพียงเท่านั้น ผู้ทรงศีล" พระราชาแย้มพระโอษฐ์กว้าง และตรัสด้วยเสียงทะนงตนว่า "ตัวเรายังมีทรัพย์สมบัติทั้งแก้วแหวนเงินทองอีกเป็นร้อยเป็นพันโกฏิเก็บไว้ในท้องพระคลังอีกด้วย"
       
       นักบุญยิ้ม และกล่าวว่า "พระองค์ทรงภาคภูมิใจในราชอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ และทรัพย์สมบัติมากมายก่ายกองเหล่านี้เสียเหลือเกินสินะ มหาราชา"
       
       "แน่แท้ผู้ทรงศีล..จะมีสิ่งใดแสดงความเป็นมหาราชาได้ดีเท่าความกว้างใหญ่ไพศาลของเขตแดนประเทศ และทรัพย์สมบัติที่พระราชาผู้นั้นมีไว้ในครอบครองอีกเล่า"
       
       "ถ้าเช่นนั้น ข้าพเจ้าขอบังอาจถามอะไรพระองค์สักหน่อยเถิด" นักบุญกล่าว
       
       "ถามมาเถิด เรายินดีตอบท่านผู้นำสิริมาให้" พระราชาตรัสอนุญาต นักบุญจึงถามพระองค์ว่า
       
       "พระองค์คิดว่าบ้านเมืองของพระองค์มีค่ามากเท่าไร"
       
       พระราชาสนเท่ห์ที่นักบุญถามเช่นนั้น และไม่มีคำตอบที่จะตอบ เพราะพระองค์มิเคยประเมินค่าบ้านเมืองของพระองค์มาก่อน นักบุญเห็นพระราชานิ่งเงียบไปจึงถามต่อว่า
       
       "แล้วแก้วแหวนเงินทองมากมายที่กองอยู่ในท้องพระคลังเหล่านั้น มีค่าเท่าไร"
       
       พระราชาทรงส่ายพระพักตร์ "คำถามของท่านยากที่จะตอบ" ทรงตรัสแก่นักบุญ "เพราะเราไม่เคยตีราคาราชอาณาจักรของเรา และไม่เคยนับทรัพย์สมบัติที่เรามี แต่ท่านแน่ใจเถิดว่า สิ่งเหล่านั้นมีค่ามากเกินกว่าจะนับออกมาเป็นจำนวนที่เที่ยงแท้ได้ และก็ไม่มีอาณาจักรใดจะมีมากเท่าที่เรามีอีกแล้ว"
       
       นักบุญยิ้ม และถามต่อไปว่า "สมมติพระองค์เดินหลงทางอยู่ในทะเลทรายโดยไม่มีทั้งอาหาร ไม่มีน้ำติดตัว โชคดีมีคนพเนจรผู้ตระหนี่เดินผ่านมา ทั้งเนื้อทั้งตัวเขามีเพียงน้ำบริสุทธิ์เพียงแก้วเดียว พระองค์ยินดีที่จะจ่ายให้เขาเท่าไร เพื่อแลกกับน้ำแก้วนั้น และชีวิตของพระองค์เอง"
       
       พระราชานิ่งตรึกตรอง ก่อนจะตอบว่า "เราอาจจะยกราชอาณาจักรของเราให้เขาสักครึ่งหนึ่งเพื่อแลกกับน้ำแก้วนั้นกระมัง"
       
       นักบุญถามต่อว่า "แล้วถ้าพระองค์ประชวรด้วยโรคร้ายที่ไม่มีทางรักษาได้ ทุกวันต้องทรงร้องครวญครางด้วยความทรมานจากพิษของโรคนั้น แต่แล้ว พระองค์ก็ทรงทราบว่า ทั่วแผ่นดินนี้มียาอยู่เม็ดหนึ่งที่สามารถรักษาพระอาการประชวรนั้นได้ แน่ล่ะว่า เจ้าของยาคงไม่มอบยาที่มีสรรพคุณวิเศษเช่นนี้ให้แก่พระองค์โดยง่าย เมื่อเป็นเช่นนั้นพระองค์จะมอบสิ่งใดแก่เขาเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนที่คู่ควรกับยาหนึ่งเม็ดนั้นเล่า"
       
       พระราชาตรัสตอบโดยไม่ต้องคิดว่า "จะมีสิ่งใดสำคัญกว่าชีวิตของคนเราอีก หากเราต้องเป็นดังเช่นท่านว่า เราก็จะยอมแบ่งทรัพย์สมบัติของเราให้แก่เขา อย่าว่าแต่ครึ่งหนึ่งเลย แม้หมดท้องพระคลังเราก็จะยกให้ ถ้ายาของเขาวิเศษจริง"
       
       สิ้นคำตรัสของพระราชา นักบุญก็หัวเราะเสียงดังก้องท้องพระโรง พระราชาไม่ทรงเข้าพระทัย ตรัสถามว่า "ท่านหัวเราะทำไม มีเรื่องใดน่าขันอย่างนั้นหรือ"
       
       นักบุญตอบว่า "ข้าพเจ้าหัวเราะเพราะในตอนแรกพระองค์บอกว่า ราชอาณาจักรและทรัพย์สินที่พระองค์มีเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ แต่บัดนี้ข้าพเจ้ารู้แล้วว่าราชอาณาจักรและทรัพย์สมบัติของพระองค์ มีค่าเพียงแค่น้ำหนึ่งแก้วและยาหนึ่งเม็ดเท่านั้น..นั่นเองล่ะ คุณค่าของมัน"
       
       กล่าวจบนักบุญก็เดินหัวเราะออกไปจากท้องพระโรง ทิ้งให้พระราชาต้องทรงขบคิดถึงบทเรียนสำคัญที่เขาทิ้งไว้
       
       บทสรุปของผู้แต่ง
       
       คนเรามักเข้าใจว่า คุณค่าของการเกิดเป็นมนุษย์อยู่ที่ว่าใครมีสมบัติในครอบครองเท่าไร อันที่จริงถ้านั่นคือผลจากความขยันหมั่นเพียรจนทำให้เขาก่อร่างสร้างตัวได้สำเร็จ ก็ไม่ผิดเสียทีเดียวที่เราจะยกย่องให้เขาเป็นคนมีคุณค่าคนหนึ่ง
       
       แต่ก็ต้องไม่ลืมว่านั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งและส่วนน้อยกระจิดริด ไม่ใช่ทั้งหมดที่จะเอามาวัดได้ว่าใครมีคุณค่ามากมายแค่ไหน เว้นแต่จิตใจของเรา สมบัติอื่น ๆ ล้วนไม่ใช่ของเราอย่างแท้จริง แม้กระทั่งกายของเรา อันที่จริงก็ไม่ใช่ของของเรา เพราะสิ่งเหล่านี้จะไม่อยู่กับใครคนใดคนหนึ่งไปตลอด ถึงแม้คนๆ นั้นใช้ความพยายามทั้งชีวิตเพื่อค้นหามัน ด้วยเหตุนี้หากใครเอาเงินทองมาวัดความยิ่งใหญ่ สุดท้ายเขาจะตายไปโดยไม่เหลือคุณค่าใดๆ เพราะเมื่อถึงเวลาที่แผ่นดินกลบหน้า ใครเล่าจะมีสิทธิ์ในทรัพย์สมบัติเหล่านั้นอีก
       
       ดังนั้นคุณค่าที่แท้จริงของมนุษย์จึงควรอยู่ที่คุณธรรมประจำใจของเขา อยู่ที่ความดี อยู่ที่การเสียสละ อยู่ที่ความรับผิดชอบ อยู่ที่ความคิดว่าจะเอื้อเฟื้อผู้อื่นได้มากเท่าไร มิใช่ทำอย่างไรจึงจะเอามาเป็นของตนให้ได้มากที่สุด
       
       บางคนยิ่งเป็นผู้ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งทำลาย บางคนยากจนแต่มีใจช่วยเหลือ ใครมีคุณค่าคู่ควรที่จะเป็นมนุษย์บนโลกนี้ คงคิดออกกันใช่ไหม
       
             ขอขอบคุณสำนักพิมพ์ฟรีมายด์ที่เอื้อเฟื้อนิทานสอนใจดีๆ ในชุดหนังสือนิทานสีขาวของ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

ขอบคุณ
ผู้จัดการออนไลน์
Life & Family

สิริสวัสดิ์อาทิตยวารค่ะ




Create Date : 11 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2555 11:25:53 น. 0 comments
Counter : 860 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.