โรงเรียนลูกผู้ชาย , ขุนพลประจัญบาน , นักเรียนนายร้อยเดนตาย หรือ สำนักบุรุษเหล็ก
โดย ฟ้าธานี โรงเรียนลูกผู้ชาย , ขุนพลประจัญบาน , นักเรียนนายร้อยเดนตาย หรือ สำนักบุรุษเหล็ก คือการ์ตูนเรื่องเดียวกันตามแต่สำนวนแปลของสำนักพิมพ์ไม่มีลิขสิทธิ์ในขณะนั้น ต้นฉบับมีชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า Sakigake!! Otokojuku อากิระ มิยาชิตะ เริ่มเขียน Sakigake!! Otokojuku เพื่อลงตีพิมพ์ในนิตยสาร Weekly Shōnen Jump ตั้งแต่ปี 1985 และจบชุดลงในปี 1991 กับจำนวนฉบับรวมเล่ม 34 เล่ม เป็นผลงานที่เรียกว่าโด่งดังอยู่พอสมควร ถูกดัดแปลงเป็นวิดีโอเกม และการ์ตูนอนิเมะ ด้วย แต่ถ้าจะวัดที่โด่งดังที่สุดก็คงไม่มีรูปแบบใดที่สำเร็จเท่ากับหนังสือการ์ตูนต้นฉบับอีกแล้ว เนื้อเรื่องของการ์ตูนนั้นกล่าวถึงโรงเรียนชายล้วน ที่รับเด็กประเภท เหลือเดน เข้ามาศึกษาฝึกฝนวิทยายุทธ์, การต่อสู้, ความอดทน กล่าวคือเรียนรู้ความเป็นลูกผู้ชายในแบบญี่ปุ่นขนานแท้ อย่างการลงโทษอันสุดขั้ว แบบทดสอบความแข่งแกร่งของร่างกาย วิดพื้นสองพันครั้ง, ขังคุกมืด หรือเอาตัวเองลงไปต้มลงในกระทะเดือด ก็มีให้เห็น โดยในเล่มแรก ๆ ผู้เขียนเน้นไปที่ส่วนของมุขตลกประเภท จบในตอน ในลักษณะของ การ์ตูนแก๊ก ก่อนจะเริ่มเข้มข้นผูกเรื่องประลองยุทธของเหล่านักเรียนโรงเรียนลูกผู้ชาย กับเหล่ารุ่นพี่ ต่อมาก็ได้รวมตัวกัน ไปสู้ศึกนอกโรงเรียน ในทัวร์นาเมนต์ประลองยุทธ์ประเภทยกทีม 16 คน ที่เรียกว่ายาวเหยียด เด็กในยุคนั้นต้องตามอ่านกันอยู่หลายปี จึงจะได้บทสรุป เช่นเดียวกับการ์ตูนแนว ประลองยุทธ์ ส่วนใหญ่ Sakigake!! Otokojuku มีเนื้อเรื่องบาง ๆ แต่เน้นไปที่การสร้างตัวละครอันหลากหลาย ทั้งในแง่บุคลิกภาพ และกลเม็ดเด็ดพลายฝีไม้ลายมือ แต่ที่ขโมยซีนกลายเป็นตัวละครอันดับ 1 ของการ์ตูนเรื่องนี้กลับกลายเป็น ผอ. ประจำโรงเรียนที่ชื่อว่า เอดาจิม่า เฮฮาจิ ผู้ไร้เทียมทาน ที่หากจะกล่าวถึงโรงเรียนลูกผู้ชาย ก็ต้องพูดถึงตัวละครบ้าพลังตัวนี้เป็นอันดับแรก นอกจากนั้นงานชิ้นนี้ยังมีชื่อเสียงในหลายด้าน ทั้งการเป็นการ์ตูนที่มีตัวละครหญิงน้อยมาก (เกือบจะไม่มีเลยก็ว่าได้), การแทรกข้อมูลประเภท จดหมายเหตุ เพื่ออธิบายให้ข้อมูลเกี่ยวกับทั้ง วิทยายุทธ์ และประวัติศาสตร์เชื่อมโยงต่าง ๆ ที่ปรากฏในเรื่อง ที่เมื่อก่อนเด็ก ๆ หลายคนเชื่อกันเป็นจริงเป็นจัง (แม้หมายเหตุที่ว่าบางอันจะดู ทะแม่ง ๆ อย่างที่ว่า กีฬากอล์ฟ มีจุดกำเนิดจากประเทศจีนโบราณ) โตมาถึงมั่นใจได้ว่าตาคนเขียนแกมั่วเอาเองทั้งนั้น หรือการตายยากตายเย็นของเหล่าตัวละคร กับสุดยอดวิชาแพทย์ที่สามารถชุบชีวิตได้กระทั่งคนที่ตกลงไปในลาวา หรือถูกหั่นจนขาดครึ่งตัว นอกจากนั้นก็ยังมีความ โอเวอร์ ต่าง ๆ นานาให้เห็นกันตลอดทั้งเรื่อง เรียกว่าทุกรายละเอียดล้วนน่าจดจำ เหมาะจะเป็นหัวข้อสนทนาของเพื่อนเก่าที่ไม่ได้พบกันนาน หรือคนหนุ่มรุ่น "90s" ที่เคยผ่านช่วงเวลาของ "เดอะ ทาเลนต์" หรือ "ซีโร่" มาทุกคน ส่วนเนื้อหาสาระนั้นจะบอกว่าไม่มีอยู่เลย ก็คงจะพูดไม่ได้เสียทีเดียวนัก อย่างน้อยผู้เขียนก็ใส่ประเด็นเรื่อง "ชาตินิยม" เข้ามาได้อย่างน่าสนใจ Sakigake!! Otokojuku มีตัวละครเอก เป็นครูใหญ่อดีตทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้ทนเห็นญี่ปุ่นยุคแพ้สงคราม แต่เจริญทางวัตถุ กำลังเดินไปสู่หนทางแห่งความอ่อนแอไม่ได้ จึงก่อตั้งโรงเรียนแห่งนี้ขึ้นมา ฝึกฝนเด็กที่ เหลือขอ มาจากที่อื่น ให้รู้สึกถึงความเป็น ญี่ปุ่น ที่แท้จริง แต่ดูเหมือนว่าตามท้องเรื่อง Sakigake!! Otokojuku นั้นเหล่าเด็กหนุ่มคนรักชาติ ผู้พยายามรักษาค่านิยมความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมเอาไว้ จะเป็นได้เพียงแค่ ตัวประหลาด เป็นกลุ่มบุคคลผู้แปลกแยกออกจากสังคม ฝึกฝนและให้ความสำคัญอยู่กับการต่อสู้อันไร้ค่า หาสาระใด ๆ ไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ในอดีตอุดมคติประเภทนี้แท้ ๆ ที่เคยเป็นเหมือนเลือดเนื้อของชาติญี่ปุ่น แต่กลับแทบไม่มีที่ยืนยันสังคมปัจจุบัน
แม้จะเป็นเสี้ยวหนึ่งของการ์ตูนที่ไมได้เน้นย้ำอะไรให้เด่นชัดนัก แต่ถือเป็นอารมณ์ประเภทตลกร้ายปนขมขื่นที่ทำออกมาได้น่าสนใจดี อย่างที่หลายคนทราบกันดี เมื่อไม่กี่ปีก่อน อากิระ มิยาชิตะ ได้หยิบเอา Sakigake!! Otokojuku กลับมาเขียนภาคต่อ ที่บู๊น้อยลง, ภาพสวยน้อยลง, ตลกโปกฮา และติดจะทะลึ่งตึงตังขึ้น ซึ่งก็ไม่รู้เพราะด้วยวัยที่มากขึ้นด้วยรึเปล่า หลายคนเลยไม่สนุกกับการ์ตูนภาค 2 อีกแล้ว ซึ่งก็อย่าว่าแต่ภาคสองเลยนะครับ บางคนแค่หยิบภาคแรกกลับมาอ่านใหม่ก็ไม่ค่อยสนุกเหมือนเดิมแล้ว
ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์ ฟ้าธานี สวัสดิ์สิริชีววารค่ะ
Create Date : 19 เมษายน 2555 |
Last Update : 19 เมษายน 2555 12:25:11 น. |
|
0 comments
|
Counter : 6536 Pageviews. |
|
|