ชีวิตหลังการรัฐประหาร ช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่ว่างที่สุดตั้งแต่ก้าวเข้ามาสู่อาชีพนักการเมืองมากว่า 8 ปีก็ว่าได้ ผมจึงมีเวลาให้กับครอบครัวมากหน่อย เดือนที่ผ่านมาเรียกได้ว่าเป็นเดือนแห่งการเที่ยวเลย ทั้งเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ เป็นช่วงเก็บเกี่ยวประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนี้อย่างเต็มที่ อรรถวิชช์กล่าวเมื่อเราเริ่มเปิดประเด็นถึงชีวิตหลังการรัฐประหาร โดยนอกจากเที่ยวแล้วก็มองแผนระยะไกลไว้ด้วย เริ่มคุยๆ กับภรรยาเรื่องหันมาพัฒนาที่ดินที่ถือครองอยู่ เพราะก่อนหน้านี้ผมกับภรรยาหาซื้อที่เก็บไว้เรื่อยๆ แต่ยังไม่ได้ทำอะไรเพราะงานทางการเมืองผมก็ยุ่งมาก ตอนนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะเอามาปัดฝุ่น ดูว่าจะไปพัฒนาเป็นอะไรได้บ้าง จะทำตึกหรือคอนโดมิเนียม หรือโครงการอะไร แต่อีกใจหนึ่งก็กลัวเหมือนกันว่า สถานการณ์ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เพราะก็ต้องยอมรับว่า เหตุการณ์บ้านเรามันยังไม่นิ่งสงบจริงๆ ถ้าเกิดลงมือทำโครงการไปแล้ว มันมีการเปลี่ยนแปลงอีกก็จะลำบาก คือถ้าเมื่อไรกลับมาสู่ระบบเลือกตั้งอีก ผมก็ต้องกลับมาโฟกัสทางการเมือง ซึ่งเรื่องของธุรกิจก็อาจจะต้องหยุดไป เพราะจะให้ผมทำงานการเมืองไปพร้อมกับการทำธุรกิจนี่ผมไม่อยากทำ เพราะแค่งานการเมืองอย่างเดียวก็หนักอยู่แล้ว มันต้องทุ่มเทเวลาและพลังงานค่อนข้างมาก ทำงานเต็ม 7 วัน แบบไม่มีวันหยุด อย่างที่ทำมาตลอด 8 ปี ถึงแม้ช่วงนี้ที่เกิดการรัฐประหาร แต่อดีตผู้แทนคนนี้ก็ไม่ได้หยุดทำงานเหมือนกับสถานการณ์การเมืองที่ยุดนิ่งไปด้วย แต่ก็ยังมีภาระหน้าที่ให้ทำอยู่ทุกวัน การเป็น ส.ส. มันไม่มีวันหยุดครับ เราต้องดูแลประชาชนในพื้นที่อยู่ตลอด และอีกอย่าง ในเขตผมนี่ ทั้ง ส.ก. และ ส.ข. ก็เป็นทีมงานของเรา ก็ต้องมีการประชุมพูดคุย ช่วยกันแก้ปัญหาต่างๆ อย่างโครงการก่อสร้าง หรือพวกทำถนนอะไรที่เราเคยเริ่มไว้ตอนอยู่ในตำแหน่ง เราก็ต้องคอยตามงาน คอยดูความคืบหน้า ดูแลให้งานต่างๆ ดำเนินการได้สำเร็จและรวดเร็ว ไม่ใช่หมดหน้าที่ก็ไม่สนใจ เพราะที่ผมทำไม่ใช่ทำเพราะตำแหน่ง แต่เราทำเพราะอยากให้ความเป็นอยู่ของคนในชุมชนเราดีขึ้นอย่างแท้จริง อย่างช่วงหน้าฝนนี้ พอมีการทำถนนมันก็ดินเละ เป็นหลุมบ่อ เดินทางลำบาก เราก็ต้องเข้าไปช่วยร้องเรียนให้ผู้มีอำนาจลงมาดูแลแก้ไขปัญหา เพราะเราก็เป็นคนที่พอจะเป็นปากเป็นเสียงให้เขาได้ รู้ว่าต้องเข้าไปคุยกับใคร หน่วยงานไหน และยังมีคนเกรงใจบ้าง ถ้าปล่อยให้ชาวบ้านไปร้องเรียนเองมันสำเร็จยาก หรืออย่างในเรื่องมหภาค ผมก็ยังติดตามอยู่ ทั้งเรื่องพลังงาน และโครงการจำนำข้าว เราก็เข้าไปช่วยให้ข้อมูลทีมงานของ คสช. ที่ทำเรื่องเหล่านี้ เพราะผมตามเรื่องนี้มานาน มีข้อมูลเยอะ แต่จะให้เข้าไปช่วยเต็มตัวก็คงไม่ เพราะยังไงผมก็เป็นนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ถ้าจะให้กลับเข้าไปทำงานก็จะเข้าไปด้วยวิธีเลือกตั้งเท่านั้น นั่นคือสิ่งที่ตั้งใจ ตอนนี้เลยทำได้แค่ให้ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ช่วยประคองไป อย่างปัญหาจำนำข้าว ก็เข้าไปแนะนำว่าในทางการคลังแล้ว ควรจะจ่ายเงินชาวนาอย่างไรให้เร็ว ช่องทางไหนเหมาะสม จากประสบการณ์ที่เราศึกษาและทำงานด้านนี้มา
|