ปัญหา "ช้างไทย" สัตว์ประจำชาติ ก่อนจะไม่มีเหลือให้อนุรักษ์
เรื่องโดย... กรฎา นิกูลรัมย์ , นภสร บูรณสมภพ
ปัจจุบัน "ช้าง" สัตว์ประจำชาติของไทย ได้มีจำนวนลดน้อยลงมาก เมื่อเทียบกับในอดีต ทั้งช้างป่าและช้างเลี้ยง และยังประสบปัญหาหลายด้านทั้งด้านความขัดแย้งระหว่างคนกับช้าง การถูกภัยคุกคาม การถูกบุกรุกพื้นที่อยู่อาศัย การทำลายระบบนิเวศ และการลักลอบล่าเพื่อการค้า อันจะต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
ด้วยเหตุนี้ ทางคณะวนศาสตร์ และคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงได้ตระหนักและเห็นภาพประเด็นปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับช้าง โดยการมีส่วนร่วมคิด ร่วมศึกษารวบรวมข้อมูลวิชาการ และจัดทำแผนการอนุรักษ์ และแก้ไขปัญหาช้างในประเทศไทย กับคณะทำงาน
ซึ่งสืบเนื่องมาจากการบรรยายพิเศษ การจัดการช้างป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ "ใครฆ่าช้าง....ทำไมที่แก่งกระจาน" เมื่อ 19 เมษายน ที่ผ่านมา จึงเกิดเป็นโครงการขึ้น เพื่อรวบรวม ศึกษาข้อมูลจากเอกสารและแหล่งข้อมูลต่างๆ การติดตามสภาพปัญหา และรับฟังการถ่ายทอดจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงกรณีช้างป่า - ช้างเลี้ยง
ก่อนจะลงพื้นที่ศึกษา รับทราบปัญหา และแลกเปลี่ยนความรู้กับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน อุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคอลงเครือหวาย เฉลิมพระเกียรติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติกุยบุรี และอุทยานแห่งชาติกุยบุรี
รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและสัมภาษณ์ตัวแทนประชาชนในพื้นที่ซึ่งมีปัญหาความขัดแย้งเรื่องช้างป่า และนำเสนอต่อที่ประชุม ในวันที่ 21 มิถุนายน นี้ เพื่อรับฟัง นำข้อคิดเห็นต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาร่าง แผนการอนุรักษ์และแก้ไขปัญหาช้างในประเทศไทย ที่คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงเปิดการประชุม โดยมีการถกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากหลายภาคส่วน เช่น การที่มีประชาชนมาบุกรุกพื้นที่ในเขตอุทยานอันเป็นที่อยู่อาศัยของช้างป่าเพื่อทำการเกษตร หรือการที่มีช้างเร่ร่อนมาเดินอยู่บนถนนซึ่งกีดขวางทางคมนาคม ปัญหาการสวมทะเบียนช้าง
ซึ่งได้มีการวางแนวทางแก้ไขรวมทั้งดำเนินการตามแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ในแต่ละพื้นที่ที่เกิดปัญหาแล้ว แต่ปัญหาก็ไม่ได้จบลง ทำให้ต้องมีการวางแผนอนุรักษ์และแก้ไขปัญหาช้างในประเทศไทยขึ้น
โดยมีการเสนอถึงแนวทางแก้ไขในประเด็นช้างป่าที่พบปัญหาในแง่ที่ช้างออกนอกพื้นที่อาศัยและเข้าบุกรุกพื้นที่การเกษตรด้วยการสร้างเครื่องกีดกั้น แนวรั้วไฟฟ้า คูกันช้าง และกลิ่นขับไล่
ส่วนในแง่ของช้างเลี้ยงนั้น พบปัญหาการสวมทะเบียนซึ่งทำให้ไม่สามารถสร้างฐานข้อมูลดีเอ็นเอเพื่อระบุไอดีในการตรวจสอบช้างทั้งหมดตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้ซึ่งกำลังหาหนทางแก้ไขต่อไป
และมีการเสนอแผนงานกำหนดจำนวนช้างเลี้ยง ที่บุคคลครอบครองขึ้นซึ่งปัจจุบันมีเพียงการกำหนดจำนวนช้างในประเทศ เพียงอย่างเดียวเพื่อให้เกิดการดูแลที่ดีและเหมาะสม
ในด้านภาพรวมทางหน่วยงานได้เสนอให้มีการพัฒนาบุคลากรที่ใช้ในการสอดส่องดูแลและเฝ้าระวังควบคุมรวมถึงการสร้างขวัญและกำลังใจ การจัดการพื้นที่โดยจัดการจำแนกพื้นที่ป่าสงวน พื้นที่เกษตร และประกาศพื้นที่อย่างชัดเจน
โดยทั้งนี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายสร้างเครือข่ายให้ความร่วมมือและต้องมีหลากหลายวิธีการเพื่อจะทำให้ปัญหาต่างๆ ลดน้อยลง
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องจำเป็นต้องมีการติดตามดูผล และปรับปรุงแผนงาน โดยมีการเสนอให้หน่วยสัตวแพทย์ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมเพื่อรับฟังปัญหาและหาแนวทางแก้ไขร่วมกันในครั้งต่อไป
ขอบคุณ มติชนออนไลน์ คุณกรฎา นิกูลรัมย์ คุณนภสร บูรณสมภพ
สวัสดิ์สิริศนิวารค่ะ
Create Date : 22 มิถุนายน 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 22 มิถุนายน 2556 11:42:19 น. |
Counter : 2549 Pageviews. |
|
|
|