พัฒนาแหล่งน้ำเพื่อชาวบ่อเกลือ สนองพระราชดำริสมเด็จพระเทพฯ จังหวัดน่าน
พัฒนาแหล่งน้ำเพื่อชาวบ่อเกลือ
พัฒนาแหล่งน้ำเพื่อชาวบ่อเกลือ สนองพระราชดำริสมเด็จพระเทพฯจังหวัดน่าน เป็นหนึ่งในหลายจังหวัดภาคเหนือของไทย ทิศที่ตั้งเบี่ยงไปทางตะวันออก หรือเหนือเฉียงตะวันออกติดประเทศเพื่อนบ้านอย่างสปป.ลาว ตรงกันข้ามกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดภาคเหนือที่เบี่ยงไปทางตะวันตกหรือเหนือเฉียงตะวันตก ติดกับประเทศเพื่อนบ้านคือพม่าหรือเมียนม่า
ว่ากันว่าครั้งโบราณเป็นป่าไม้ดงดิบธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ อย่างเช่นป่าสัก มาถึงวันนี้พื้นที่แม่ฮ่องสอน ยังพอเป็นป่าดงดิบป่าสักป่าสนหนาแน่น แต่พื้นที่จังหวัดน่านเป็นเทือกเขาหัวโล้นไปซะเกือบหมดแล้ว คุณอุดร แสวงผล นายช่างโยธาอาวุโสทรัพยากรน้ำภาค 9 นำคณะประชาสัมพันธ์ จากกรมทรัพยากรน้ำส่วนกลาง ไปดูโครงการพัฒนาอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำสนองแนวพระราชดำริ
เพื่อประโยชน์แก่ชาวบ้านในท้องถิ่นกันดารห่างไกล ที่มีปัญหาเรื่องน้ำมาโดยตลอดไม่ว่าจะด้านการเกษตร การอุปโภค-บริโภค เพื่อให้สามารถผ่อนคลายในการดำรงชีวิต คือมีน้ำใช้ในการทำอาชีพได้อย่างไม่ขาดแคลน
อันนับเป็นกิจกรรมหนึ่งในโครงการเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศลโครงการ ทำดีเผื่อแผ่นดินถวายพระเจ้าแผ่นดิน เป็นการสนองพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงห่วงใยเรื่องน้ำอันเป็นปัจจัยหลักของสรรพชีวิต โดยเฉพาะการประกอบอาชีพทางการเกษตร
โดยได้ทรงทุ่มเทพระองค์ทรงคิดค้นทดลองการบริหารจัดการน้ำที่ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งป้องกันหรือชะลอน้ำท่วม และกักเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้งหรือมีน้ำใช้ตลอดทั้งปี แล้วพระราชทานเป็นแนวทางให้ทุกภาคส่วนร่วมกันดำเนินการผ่านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเกินกว่า 2,000 พันโครงการ
คณะล่ำลาฝายมหัศจรรย์บ้านฝายมูล ตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา ที่เป็นกิจกรรมพัฒนาแหล่งน้ำ ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เชื่อมโยงมาจากพระราชดำริ หนึ่งในหลายจุดในพื้นที่โครงการภูฟ้าพัฒนาฯ แหล่งน้ำที่จะไปสัมผัสถัดไป
คือแหล่งน้ำที่ได้ปรับปรุงพัฒนาเพื่อสนองพระราชประสงค์ ที่จะทรงให้ช่วยแก้ปัญหาชาวบ้านใน อำเภอบ่อเกลือในหลายหมู่บ้านตำบลภูฟ้า
คณะบ่ายหน้าไปยังแหล่งน้ำที่มีต้นสายมาจากลำน้ำมาง ที่ส่วนหนึ่งไหลผ่านหมู่บ้านตำบลภูฟ้า เป็นน้ำที่ไหลมาจากเทือกเขาหลายลูกจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา และอุทยานแห่งชาติขุนน่าน
ที่ไหลทะยอยสะสมเป็นแหล่งน้ำสำคัญของพื้นที่ แล้วมารวมกันเป็นลำน้ำมาง ก็มีลำห้วยแป้น แม่น้ำว้า ห้วยสะลี ห้วยหัก น้ำแม่เมือง ห้วยขะเม่น ทั้งหมดไหลไปบรรจบพบรวมกันเป็นแม่น้ำน่านในที่สุด
การเดินทางต่อเพื่อที่จะขึ้นไปยังโครงการภูฟ้า พัฒนาตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ใช้เส้นทางท่าวังผ่า บ่อเกลือ ปัว ถนนไต่เขาสูงขึ้นไปเรื่อยๆ มีคดมีโค้งโค้งมากโค้งน้อยว่ากันไป แต่ถ้าจะเทียบกับแม่ฮ่องสอนหลายโค้งพอเทียบกันได้ แต่จำนวนโค้งน่าจะมากน้อยกว่ากันเยอะ
ส่วนจุดการพัฒนาแหล่งน้ำตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพฯ นั้นอยู่สูงขึ้นไปอีกจากที่ตั้งศูนย์ฯ ที่ต้องผ่านคือพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา แล้วก็ผ่านต้นชมพูภูคา ต้นไม้หนึ่งเดียวในโลกของไทย โดยถนนเส้นทางปัว-บ่อเกลือ
ข้อมูลมีว่าต้นชมพูภูคา ไม้หนึ่งเดียวในโลกของไทย เป็นไม้หายากใกล้สูญพันธุ์มีดอกสีชมพูอมขาว งดงามบานสะพรั่งช่วงเดือนกุมภาฯ- มีนาคม
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานให้ชมพูภูคาเป็นดอกไม้สัญลักษณ์ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริลำน้ำมาง
โดยรวมแล้วเห็นว่ารับน้ำมาจากห้วยแป้น ต้นตอน้ำของโครงการพัฒนาปรับปรุง การจัดหาน้ำระบบกักเก็บน้ำตามพระราชดำริ ในโครงการแหล่งน้ำเพื่อพื้นที่ตำบลภูฟ้า ที่มีโครงการภูฟ้าพัฒนาฯ อยู่ในพื้นที่ด้วย มีราษฎรส่วนใหญ่มีอาชีพการเกษตร โดยเฉพาะการปลูกชาเพื่อผลิตชาอู่หลงอาศัยอยู่จำนวนมากและขาดแคลนน้ำมาอย่างต่อเนื่อง
คุณอุดรจึงบอกว่า ได้มีการก่อสร้างฝายที่ลำห้วยแป้น สร้างระบบบ่อพักน้ำขนาดความจุ 100 ลูกบาศก์เมตร (ล.ลบม.)11 แห่งก่อนหน้านั้นแล้วโดยกรมชลประทาน พร้อมท่อส่งน้ำ พื้นที่รับน้ำคือบ้านผากสุกเป็นหลัก แต่เมื่อนานเข้ามีตะกอนไหลไปปิดทางน้ำหน้าฝาย
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี จึงมีพระราชดำริให้กรมทรัพยากรน้ำหาทางแก้ไข กรมน้ำจึงไปทำที่ดักตะกอนเหนือฝายห้วยแป้นขึ้นไป แล้วก็ทำที่ห้วยอื่นๆอีกรวมทำที่ดักตะกอนในแต่ละฝาย 13 จุด และซ่อมแซมระบบส่งน้ำเช่นท่อที่แตกที่ตัน ให้สามารถรองรับแรงดันน้ำจากที่สูงลงที่ต่ำได้อย่างมั่นคงแข็งแรง
เพื่อให้น้ำจากลำห้วยต่างๆ ไหลสะดวกถึงพื้นที่ภาพรวมของศูนย์ภูฟ้าพัฒนาฯ ส่งเสริมโครงการปลูกชาตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพฯ ไม่ขาดแคลนน้ำ ผลผลิตไม่เสียหาย แล้วน้ำยังสามารถผันน้ำสู่ชุมชนในบ้านผาสุกให้เกษตรกรปลูกชารายย่อย และการเกษตรอื่นๆ ฝายที่ว่าก็มีห้วยสะลี ห้วยทบศอก ฝายห้วยเมือง ฝายห้วยลอย ในตำบลภูฟ้าทั้งหมดดำเนินในลักษณะเดียวกัน
ในส่วนพื้นที่ลำน้ำมางกรมทรัพยากรน้ำได้สนองพระราชดำริโดยการทำโครงการขุดลอกลำน้ำที่ตื้นเขินเป็นช่วงๆ ไปพร้อมๆกันด้วย โดยเฉพาะในส่วนพื้นที่บ้านห่างทางหลวงมีห้วยขุมคำ ห้วยขมิ้น ห้วยกอก ที่ห้วยกอกมีหลายจุดเป็นต้น เป็นการสร้างฝายหินเกเบรียนและฝายหินก่อปูนแข็งแรงชะลอน้ำกักเก็บน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างอีกจุดหนึ่งของการพัฒนาแหล่งน้ำ ในโครงการสนองแนวพระราชดำริสมเด็จพระเทพฯ คือการพัฒนาลำน้ำปัน บ้านนากอก ตำบลภูฟ้า เป็นการลอกตะกอนที่ทำให้ลำน้ำตื้นเขิน อันเป็นต้นเหตุของน้ำท่วมและการขาดแคลนน้ำในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นลำน้ำที่แตกแขนงมาจากลำน้ำมางนั่นเอง
การสนองแนวพระราชดำริในการปรับปรุงพัฒนาแหล่งน้ำนี้ก็คือการลอกตะกอนช่วงบริเวณพื้นที่ติดกับชุมชนซึ่งเดิมตื้นเขิน มีไม้น้ำหนาแน่นไม่อาจรองรับน้ำที่ไหลบ่ามาในช่วงเวลาหน้าฝนทำให้น้ำท่วมหมู่บ้าน ในหน้าแล้งก็ไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ได้เช่นกัน
อย่างเช่น ลำน้ำปันสภาพตอนนี้ลอกแล้วปรับปรุงพัฒนาแล้ว กว้างมาก ในหน้าฝนเมื่อไหลบ่ามาสามารถรับน้ำเยอะ ทำให้ไม่ไหลบ่าท่วมชุมชน แล้วก็ยังกักเก็บไว้ได้เยอะ แล้วที่เห็นสภาพเป็นทรายน้ำไหลตลอด
น้ำจะใสมากแล้วเห็นไหมปลานอนหงายท้องใต้น้ำ มันเล่นน้ำนอนแล้วพลิกตัวเยอะมากเลย คุณอุดรชี้ให้ดูปลาอาการเหมือนคนนอนพลิกคว่ำพลิกหงายไปมาดูแปลกตามากทีเดียว
พระมหากรุณาธิคุณ / เสกสรร สิทธาคม
Submitted by seksan on Mon, 04/07/2011 - 17:39 king
ขอขอบคุณ สยามรัฐออนไลน์
สิริสวัสดิ์จันทรวาร เปรมปรีดิ์มานรมณีย์ค่ะ
Create Date : 04 กรกฎาคม 2554 |
|
0 comments |
Last Update : 4 กรกฎาคม 2554 18:45:38 น. |
Counter : 1157 Pageviews. |
|
|
|