การเสด็จออกมหาสมาคมเบื้องหน้าพสกนิกรเป็นครั้งแรก

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น ณ สีหบัญชร กับการเสด็จออกมหาสมาคมครั้งแรก 3 ธ.ค. 2533 ตรวจพลสวนสนามเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ลานพระราชวังดุสิต 30 พ.ย. 2516 มีพระราชปฏิสันถารอย่างใกล้ชิดกับราษฎร อำเภอปัว จังหวัดน่าน 28 ก.ค. 2512 ในโอกาสพระราชทานเลี้ยงเพื่อเป็นเกียรติแต่ประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน พ.ศ.2535 24 ต.ค. 2516 ทรงนมัสการพระมหาพุทธพิมพ์ ณ วัดไชโยวรวิหาร และทรงเยี่ยมราษฎร อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง ทุกครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมาแสดงพระบรมราโชวาท มอบพระราชดำรัสแก่พสกนิกรชาวไทยในวโรกาสพิเศษต่างๆ หากใช้คำศัพท์ตามภาษาทางการแล้วจะเรียกรวมว่า “การเสด็จออกมหาสมาคม”         ซึ่งหมายถึงการเสด็จออกอย่างเต็มพระเกียรติยศในวาระสำคัญทั้งที่เป็นพระราชพิธีประจำปี คือในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา และพระราชพิธีในโอกาสพิเศษซึ่งจัดขึ้นในสถานที่ต่างๆ เช่น ในพระที่นั่ง สีหบัญชร มุขเด็จ และพระที่นั่งองค์พิเศษ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง                 การเสด็จออกมหาสมาคมครั้งแรกของพระองค์ เกิดขึ้น ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง ในวันที่ 28 เม.ย. 2493 คือ หลังจากทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ซึ่งมีพระบรมวงศานุวงศ์ ทูลละอองธุลีพระบาท จากนั้น เสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ซึ่งมีคณะบุคคลเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอยู่                         ส่วนวันที่ 7 พ.ค. 2493 คือการเสด็จออกมหาสมาคม ณ "สีหบัญชร" ครั้งแรก ในครานั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท พระบรมมหาราชวัง ในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก นับเป็นการเสด็จออกมหาสมาคมเบื้องหน้าพสกนิกรทุกหมู่เหล่าเป็นครั้งแรก เป็นอีกหนึ่งประวัติศาสตร์ความประทับใจที่ต้องจารึกเอาไว้                         หลังจากนั้น พระองค์ก็เสด็จออกมหาสมาคมในวาระสำคัญต่างๆ เรื่อยมา โดยในกรณีที่เสด็จออกที่ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม เป็นบริเวณที่ต่อเนื่องกับลานพระราชวังดุสิต หรือลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งมีพื้นที่ที่กว้างขวาง ภาพที่พบเห็นได้ทุกยุคทุกสมัยก็คือพสกนิกรชาวไทยจำนวนมากมายมหาศาลต่างไหลหลั่งกันมาเฝ้าชมพระบารมี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทกันอย่างท่วมท้นมาโดยตลอด                         ในวันที่ 5 ธ.ค. 2530 เป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ หรือ 60 พรรษา รัฐบาลและประชาชนชาวไทยจึงพร้อมใจกันจัดงานเฉลิมฉลองอย่างสมพระเกียรติ เนื่องจากองค์เหนือหัวรัชกาลที่ 9 เป็นกษัตริย์องค์ที่ 2 ที่อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้แก่แผ่นดินไทยได้ยาวนานถึงเพียงนี้ (พระองค์แรกซึ่งมีพระชนมพรรษาครบ 5 รอบคือพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) งานเฉลิมฉลองในครั้งนั้น จึงถือเป็นการจัดงานพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ เป็นครั้งที่ 2 ในพระบรมราชจักรีวงศ์                นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานกว่ากษัตริย์พระองค์ใดๆ ในอดีต จึงเกิดเป็นพระราชพิธีกาญจนาภิเษกขึ้น ในวันที่ 8-12 มิ.ย. 2539 เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติยาวนานถึง 50 ปี  ในงานนี้พระองค์ยังได้โปรดเกล้าฯ ให้จัดพระราชพิธีบวงสรวงสมเด็จพระมหากษัตริย์ในอดีต และเสด็จออกมหาสมาคม รับการถวายพระพรชัยมงคล ณ พลับพลามณฑลพระราชพิธี พระที่นั่งกาญจนาภิเษก ท้องสนามหลวงอีกด้วย                ขอบคุณภาพและข้อมูลจากเพจ Information Division of OHM        (แฟนเพจเพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจและข้อมูลความรู้เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์)        ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ LIVE ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์ สวัสดิ์สิริชีววารค่ะ

Create Date : 06 ธันวาคม 2555
Last Update : 6 ธันวาคม 2555 6:04:14 น.		0 comments
Counter : 1642 Pageviews.
Share Tweet