วันนี้ทาง admin มีทิปน่ารู้เกี่ยวกับการเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเองมาฝากกัน แนะนำตั้งแต่เรื่องตั๋วเครื่องบินไปเกาหลี ด่าน ตม. มหาโหด เกมวัดดวง, สถานที่ท่องเที่ยวและช็อปปิ้ง,  ซึ่งในบทความนี้เราจะเจาะลึกกนที่กรุงโซลอย่างเดียว เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

ไปเกาหลีไม่ต้องขอวีซ่านะจ๊ะ

คนไทยที่ไปอยู่ที่เกาหลีสามารถอยู่ได้ถึง 90 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่าใดๆเลย โดยใช้ Passport ที่มีอายุเกิน 6 เดือนก็พอ เพราะฉะนั้นหากใครคิดอยากไปเที่ยวเกาหลีแบบอยู่ยาวๆหน่อย 20-30 วัน ไม่ต้องกลัวจะอยู่ไม่ได้นะ อยู่ได้สบายเลย ไม่ต้องขอวีซ่าด้วย

ตั๋วเครื่องบินไปเกาหลีด้วยตัวเอง ซื้อกับสายการบินไหนดี

ตรงนี้เน้นแบบถูกสุดละกัน ถ้าถูกสุดๆคงเป็นสายการบินที่บินแล้วจอดพัก อย่าง Air Asia (เปลี่ยนเครื่องที่มาเลเซีย) หรือ China Airlines (เปลี่ยนเครื่องที่ไต้หวัน) สายการบินพวกนี้หากบินช่วงโปรโมชั่นราคาจะถูกมากๆ ไม่ถึงหมื่นหรือหมื่นต้นๆเท่านั้น (บางทีถูกกว่านี้อีก)

แต่ถ้าชอบบินตรงมากกว่าเพื่อลดเวลาและความยุ่งยากแนะนำให้ใช้ JinAir, Jeju Airlines หรือ T’way สายการบินพวกนี้เป็นสายการบินสัญชาติเกาหลี Low Cost ที่บินตรงไปเกาหลีเลย ไม่ต้องแวะจอดที่ไหนๆ ราคาก็ไม่แพงมากไม่เกิน 15,000 แน่นอน ซึ่งหากมีโปรโมชั่นก็อยู่ที่ 10,xxx หรือต่ำกว่า

แต่ถ้าใครอยากบินตรงไปเกาหลีเลยแบบนั่งไปกับสายการบินแบบบริการฟูลเซอวิส แนะนำให้ไปกับ การบินไทย, Korean Air หรือ Asiana Airlines สามสายการบินนี้เป็นแบบ Full Service บริการประทับใจ แต่ราคาก็แพงไปด้วย

ถ้าบินไปเกาหลีแบบตรงนั้นให้เลือกเดินทางตอนกลางคืนเพราะจะถึงตอนช่วงเช้าพอดี มีเวลาเที่ยวมากขึ้นเยอะเลย เพราะเวลาบินนั้นประมาณ 5 ชั่วโมงเท่านั้นไม่นานมาก ถ้าบินแบบเปลี่ยนเครื่องก็ให้บินตอนเช้า เพราะจะไปถึงตอนเย็นมีเวลาทำนู้นทำนี้บ้าง เดินเล่นยามค่ำคืนสวยๆ

สนามบินที่ลงนั้นมี 3 ที่คือ อินช็อน กินเฮ และ เกาะเจจู แนะนำให้เลือกไปที่อินช็อน สามารถดู ตั๋วราคาถูก ได้ที่ 

ผ่าน ตม. สุดโหดของประเทศเกาหลีอย่างไร

เพื่อนๆหลายคนคงได้ยินกันมาแล้วว่าการไปเกาหลีนั้น มักมีคนไทยโดนส่งกลับอยู่เป็นประจำไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม หรือไม่ว่าจะไปกับทัวร์หรือไปเที่ยวด้วยตัวเอง ก็มักจะมีคนโดนส่งกลับอยู่เสมอๆ ส่วนมากจะด้วยเหตุผลที่ว่ากลัวคนไทยจะลักลอบเข้าไปทำงานและแย่งงานคนประเทศเขา หรือเข้าไปทำงานผิดกฎหมาย (ซึ่งก็เป็นจริงส่วนหนึ่ง) อีกอย่างคือคนเกาหลีมองคนไทยต่ำกว่าคนบ้านเขา (เหมือนเรามองคนลาวหนะแหละ) เขาจึงต้องเข้มงวดกับคนไทยซักหน่อย

ถ้าอยากให้ผ่าน ต.ม. เกาหลีง่ายที่สุด ก็คือการ พูดภาษาอังกฤษให้เป๊ะ สำเนียงให้เหมือนฝรั่ง อันนี้แหละ การันตีเลยว่าคุณสามารถเข้าเกาหลีได้ง่ายมากๆ เพราะคนเกาหลีส่วนมากจะเคารพคนที่พูดภาษาอังกฤษได้เป๊ะๆ แต่ถ้าหากคุณภาษาอังกฤษอ่อนแอ หรือ แค่ขั้น งูๆ ปลาๆ อันนี้เราขอแนะนำว่า

1. แต่งตัวให้ดูดี เสื้อเชิตในกางเกง ผู้หญิงมีชุดคลุม ใส่ส้นสูงข่มและแต่งให้ดูมีระดับเข้าไว้ /// ห้ามใส่แบบเสื้อกร้าม ขาสั้น เท้าแตะ หรือผู้หญิงแต่งตัว โป๊ๆ ขาสั้น อันนี้โดนเรียกชัว แล้วถ้ายิ่งภาษาอังกฤษไม่แต่งแรงแล้วหละก็ ตัวใครตัวมันหละครับ

2. เตรียมนามบัตรไว้แสดงตำแหน่งการงาน อันนี้หากมีไว้รับรองเพิ่มโอกาสได้ผ่านเข้าง่ายๆแบบไม่โดนเรียก

3. พกเงินสดและบัตรเครดิตในกระเป๋าตัง อย่าใส่ถุงพลาสติกเป็นอันขาด

4. ฝึกประโยคพูดภาษาอังกฤษง่ายๆในชีวิตประจำวัน YES NO OK SORRY ให้เป๊ะ

5. ยิ้มเข้าไว้ อย่ายิ้มแหยงๆ ยิ้มแบบมั่นใจ แสดงความจริงใจด้วยสีหน้ากับ ต.ม. ว่า ไม่ได้มาขุดทองในประเทศเขานะ เรามาส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของคุณตะหาก

6. เตรียมใบจองที่พัก สถานที่อยู่ที่แน่นอน, แผนที่เดินทางในกรุงโซล, ตั๋วเครื่องบินขากลับเมืองไทยเอาไว้ เผื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับ ตม.

ไปเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเองไปฤดูไหนดี

ที่ประเทศเกาหลีนั้นจะแบ่งออกเป็น 4 ฤดูด้วยกัน คือมีฤดูใบไม้ผลิ, ฤดูร้อน, ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี, ฤดูหนาว ซึ่งแต่ละฤดูก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่ละฤดูนั้นสถานที่ท่องเที่ยวจะมีกิจกรรมแตกต่างกันไป หากชอบอากาศอุ่นๆพอดีๆต้องไปเที่ยวในช่วงเดือน 3-8 ช่วงนี้ต้นไม้ใบหญ้าสีสวยสดใส ท้องฟ้าแจ่มใส แต่งตัวสบายๆไม่หนาวมาก แต่หากเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็จะได้บรรยากาศโรแมนติก ฟีลดีๆ ไปกับคนรักหรือครอบครัว เป็นอะไรที่ฟินมาก ส่วนช่วงฤดูหนาวนั้น อากาศหนาวมาก หากอยากลองไปสัมผัสหิมะในเมืองหนาวจริงๆ เล่นสกี ทำกิจกรรมต่างๆของเมืองหนาว ก็ให้ไปช่วงเดือนธันวาถึงกุมภาดูรับรองหนาวได้ใจ

• ฤดูใบไม้ผลิ – ฤดูใบ้ไม้ผลิจะอยู่ในช่วงเดือน มีนาคม-พฤษภาคม ต้นไม้เริ่มผลิใบออกดอกสวยงาม ท้องฟ้าเปิด มีแสงแดด อากาศอุ่นๆเริ่มเข้ามาหลังจากที่เป็นหน้าหนาวอันแสนหดหู่ ในช่วงนี้อุณหภูมิจะอยู่ที่ราวๆ 10-19 c ซึ่งถือว่าเย็นๆค่อนไปทางหนาวนิดหน่อย แต่ก็ถือว่าสบายๆ ใส่เสื้อยืดกับแจ็คเก็ตซักตัวก็อยู่แล้ว ส่วนคุณผู้หญิงก็เช่นกันใส่เสื้อผ้าซักสองชิ้นจะดีกว่า เพราะอากาศระดับนี้ออกไปเดินเที่ยวด้วยขาสั้น กับ เสื้อตัวเดียว คงเป็นหวัดเอาได้ง่ายๆ

• ฤดูร้อน – อยู่ในช่วงเดือน มิถุนายน-สิงหาคม อากาศดีในช่วงนี้ไม่ร้อนมากสำหรับคนไทย แถมวิวของกรุงโซลนั้นยังสวยมากในช่วงนี้ด้วย ดอกไม้ใบหญ้าเขียวขจีไปหมด การใส่เสื้อผ้านั้นใส่เพียงชิ้นเดียว ชิลๆ ก็เดินไปไหนมาไหนได้สบายละ แต่ตอนกลางคืนอาจจะหนาวซักหน่อย และในหน้านี้ช่วงเดือน ก.ค. อาจจะมีฝนตกบ้าง ซึ่งทำให้อากาศเย็นลงไปอีกอาจจะต้องใส่เสื้อผ้าหนาๆกันซักหน่อยหากมีฝนตก

• ฤดูใบไมเปลียนสี อยู่ระหว่างเดือน 9 – 11 อุณภูมจะลดลงไปถึง 5- 15 C ในฤดูนี้ท้องฟ้ายังคงแจ่มใส ใบไม้เริ่มร่วงโรย เปลี่ยนสีจาก เขียว > เหลือง > ทอง แดง น้ำตาล ก่อนที่จะร่วงมากองเต็มพื้นไปหมดในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ช่วงนี้เหมาะจะเป็นช่วงที่มาเที่ยวประเทศเกาหลีที่สุด เพราะบรรยากาศต่างๆดีมากๆ เรียกว่าประทับใจสุดๆ อากาศก็เย็นสบาย แต่ช่วงนี้จะค่อนข้างคับคั่งไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่รับรองว่าหากคุณมาเที่ยวในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีคุณจะประทับไม่มีวันลืมเลย

• ฤดูหนาว อยู่ในช่วงเดือนธันวาคมไปถึงเดือนกุมภาพันธ์ ฤดูนี้อาจจะหนาวเกินไปสำหรับคนไทยขี้หนาวเพราะอุณภูมิจะติดลบ 10 องศาเลยในช่วงกลางคืน และ มีหิมะตกอีกด้วย แต่ถ้าใครคิดว่าทนความหนาวได้ ให้เตรียมเสื้อกันหนาวหนาๆไปด้วย ในช่วงนี้นั้นคุณยังจะได้ทำกิจกรรมเมืองหนาวอย่างการเที่ยวรีสอร์ทบนยอดเขาที่มีหิมะปกคลุมและได้เล่นสกีหิมะด้วย อาคารต่างๆ รวมทั้งบ้านเรือนจะเปิดฮีตเตอร์ตลอด เพราะอากาศนั้นหนาวจริงๆ

ภาษาที่ใช้กันในกรุงโซล

เรื่องภาษานั้น คนที่เกาหลีสมัยนี้เริ่มพูดภาษาอังกฤษกันเก่งแล้วโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ แต่ถ้าเจอกับคนสูงวัย ไม่ต้องพยายาม SPEAK ENGLISH กับพวกเขา เน้นภาษามือเข้าไว้ เครื่องคิดเลขพกไว้ก็ดี จะได้สื่อสารกันรู้เรื่องเกี่ยวกับว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ อะไรยังไง เวลาซื้อของ (จำเป็นมาก เพราะถ้าสื่อสารกันไม่รู้เรื่องเวลาจ่ายเงิน นี่มีปัญหาแน่ๆ) – เที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง

จะให้ดีที่สุดแนะนำให้ฝึกภาษาเกาหลีแบบพื้นฐานไว้บ้าง เช่น อันยองฮาเซโย (สวัสดี) คัมซามิดา , โคมาวา (ขอบคุณ) , ซันเซงเกตโซ, เยปโป, เยปโปดา (หล่อ,สวย เอาไว้ชมคนเกาหลี), โตกีโย้ (ประมาณว่า excuse me. เรียกเด็กเสริฟ)

พักที่กรุงโซลพักที่ไหนดี ถ้าไปเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง

คนที่อยากไปเที่ยวเกาหลีกันเองเนี่ย การหาที่นอนเป็นสิ่งสำคัญเกือบที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่เอาเข้าจริงๆแล้วที่พักหาง่ายมากๆ คุณอาจจะไปที่ดองแดมุนแล้ว Walk-In เข้าไปหาที่พักสไตล์ Back Packer ก็ได้ ราคาก็ไม่แพงเลยตั้งแต่ 600-1500 บาท เท่านั้นเอง ถูกมาก แต่ถ้าอยากเตรียมตัวก่อนก็ง่ายอีกเช่นกัน ที่พักมีให้เลือกมากมายตั้งแต่ โรงแรม 4-5 ดาว, Guest House, Home Stay, Motels แนวแบ็คแพคเกอร์ ที่พักที่ราคาถูกสำหรับคนงบจำกัดจะเป็นพวก Guest House, Home Stay และ Motel ถ้าอยากรู้ว่าเป็นยังไง จองยังไงลองเข้า AGODA ดู มีให้เลือกเป็นร้อยๆ จนตาลายเลยหละ

หรืออาจะเลือกแบบ Guest House, Home stay  เป็นบ้านพัก ที่คนเกาหลีเปิดให้บริการนักท่องเที่ยว ซึ่งบางที่ก็เป็นที่พักของชาวเกาหลีนี่แหละ แค่เปิดห้องให้เช่า หากเราไม่คิดอะไรมาก ก็อยู่ได้สบาย   ถ้าว่าอาจจะลำบากในการสื่อสารหน่อยนะครับ เพราะว่าชาวเกาหลีสนทนาภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ แต่ถ้าเอาหนังสือท่องเที่ยว ที่มี 2 ภาษา จะช่วยได้มาก  หากเป็น Motels ความหมายก็จะเหมือนกับ ม่านรูดบ้านเรา  จะไปพักที่นี่ต้องระวังหน่อย  อาจจะนอนไม่หลับก็ได้

แหล่งข้อมูล Premiumworldtour

Create Date : 06 ธันวาคม 2559
Last Update : 6 ธันวาคม 2559 18:57:34 น.		0 comments
Counter : 525 Pageviews.
Share Tweet