การเดินทางด้วยรถไฟ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่นักท่องเที่ยวเท่านั้นที่เลือกใช้รถไฟเป็นยานพาหนะในการไปเยือนยังที่ต่าง ๆ แต่ก็ยังมีประชาชนทั่วไปที่โดยสารรถไฟเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางโดยมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน อาทิ ไปโรงเรียน ไปทำงาน หรือแม้กระทั่งเดินทางเพื่อกลับภูมิลำเนา
โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว ประชาชนที่ไม่สามารถจองตั๋วรถโดยสารประจำทางได้ทันหรือมีงบประมาณจำกัด ก็มักที่จะเลือกรถไฟเป็นสารถีพาเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ ตามที่ตั้งใจไว้ วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอพาไปเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการ "จองตั๋วรถไฟ" กันค่ะ เผื่อใครที่ยังไม่เคยโดยสารรถไฟ หรือไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจองตั๋วรถไฟได้อย่างไร...มาดูทางนี้กันได้เลย
วิธีการจองตั๋วรถไฟ มี 2 วิธีหลัก ดังนี้
ภาพจาก Kao Singha / shutterstock.com
1. การซื้อตั๋วรถไฟที่สถานีรถไฟทั่วประเทศ
นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางโดยรถไฟ ไม่ว่าจะสายเหนือ สายตะวันตก สายตะวันออก หรือสายใต้ ท่านสามารถที่จะไปซื้อตั๋วโดยสารรถไฟได้โดยตรงที่สถานีรถไฟทั่วประเทศ (สถานีที่มีช่องจำหน่ายตั๋วโดยสาร) หรือตัวแทนที่เปิดจำหน่ายตั๋วล่วงหน้าทุกแห่ง
ก่อนที่จะทำการซื้อตั๋วรถไฟต้องทราบก่อนว่าตัวเองจะขึ้นที่สถานีไหน แล้วสถานีปลายทางคือที่ใด เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบที่นั่ง พร้อมกับตรวจสอบราคาสำหรับรถไฟแต่ละประเภทให้กับผู้โดยสารได้สะดวกและรวดเร็ว ในกรณีที่ท่านไม่ทราบว่าจะสามารถขึ้นรถไฟได้ที่สถานีใดบ้างให้ตรวจสอบตารางการเดินรถไฟก่อนได้ที่ railway.co.th
ตรวจสอบกำหนดเวลาเดินรถในแต่ละเส้นทาง
1. สายเหนือ ตารางเดินรถ 2. สายตะวันออกเฉียงเหนือ ตารางเดินรถ 3. สายใต้ ตารางเดินรถ 4. สายตะวันออก ตารางเดินรถ 5. สายชานเมือง ตารางเดินรถ 6. สายวงเวียนใหญ่-มหาชัย ตารางเดินรถ 7. สายบ้านแหลม-แม่กลอง ตารางเดินรถ 8. สายโรงพยาบาลศิริราช-ศาลายา ตารางเดินรถ
แผนที่เส้นทางรถไฟของประเทศไทย
2. การซื้อตั๋วรถไฟโดยการโทรสำรองที่นั่ง
การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถสำรองที่นั่งผ่านโทรศัพท์หมายเลข 1690 ได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีข้อกำหนดว่าท่านจะต้องทำการโทรจองก่อนวันเดินทางไม่น้อยกว่า 5 วัน ซึ่งผู้ที่ทำการโทรสำรองที่นั่งจะต้องไปรับตั๋วที่สถานีรถไฟที่กำหนดก่อนเวลา 22.00 น. ของวันรุ่งขึ้น หากไม่ไปรับตั๋วตามเวลาที่กำหนด ระบบจะทำการยกเลิกอัตโนมัติทันที
การจองตั๋วรถไฟผ่านโทรศัพท์ในแต่ละครั้งจะสามารถสำรองที่นั่งได้ไม่เกิน 10 ที่นั่ง และสามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ถึง 60 วัน
ภาพจาก sarayuth3390 / shutterstock.com
การโทรจองตั๋วรถไฟ จะไปรับตั๋วโดยสารได้ที่สถานีใดบ้าง
ท่านที่โทรสำรองที่นั่งผ่านโทรศัพท์ สามารถไปรับตั๋วโดยสารได้ที่สถานีดังต่อไปนี้
1. กรุงเทพฯ, สามเสน, ชุมทางบางซื่อ 1, ชุมทางบางซื่อ 2, บางเขน, หลักสี่, ดอนเมือง และรังสิต
2. มักกะสัน, แม่น้ำ, คลองตัน, หัวหมาก, บ้านทับช้าง, ลาดกระบัง และหัวตะเข้
3. ธนบุรี, บางบำหรุ, ชุมทางตลิ่งชัน, ศาลาธรรมสพน์ และศาลายา
4. วงเวียนใหญ่และตลาดพลู
ขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทยกำลังปรับปรุงระบบการจองตั๋วโดยสารรถไฟออนไลน์ ผู้โดยสารจึงยังไม่สามารถจองตั๋วโดยสารผ่านระบบออนไลน์ได้ด้วยตัวเอง (ข้อมูล ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2558)
ภาพจาก Matyas Rehak / shutterstock.com
ถ้าจะจองตั๋วหมู่คณะต้องทำอย่างไร
สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางเป็นหมู่คณะ สามารถติดต่อซื้อตั๋วล่วงหน้าได้เกินกว่า 60 วัน ผ่านทั้ง 2 ช่องทางข้างต้น แต่จะสำรองที่นั่งได้ไม่เกิน 40% ของที่นั่งที่มีอยู่ในขบวนรถนั้น ๆ และไม่มีส่วนลดค่าโดยสารใด ๆ
ส่วนกรณีของนักเรียนและนักศึกษา จะต้องมีหนังสือรับรองของหัวหน้าสถานศึกษา โดยในจดหมายจะต้องระบุสถานีต้นทาง-สถานีปลายทาง วันเดินทางไป-กลับ และจำนวนนักศึกษาอย่างชัดเจน ซึ่งจะต้องมีอาจารย์ควบคุมไปด้วยหนึ่งคนต่อนักเรียน หรือนักศึกษา 10 คน และอาจารย์ที่ควบคุมไปด้วยจะได้คิดค่าโดยสารเท่ากับนักเรียนหรือนักศึกษา 1 คน
สำหรับคณะของนักเรียน นักศึกษา หากเป็นตั๋วโดยสารเที่ยวเดียวจะได้ลดค่าโดยสาร 25% ของราคาค่าโดยสาร แต่คิดค่าธรรมเนียมเต็มราคา ส่วนตั๋วโดยสารไป-กลับ จะลดให้เฉพาะค่าโดยสารชั้น 3 โดยคิดค่าโดยสารเพียงเที่ยวเดียว
ซื้อตั๋วโดยสารแล้วแต่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงทำอย่างไรดี
ท่านสามารถเปลี่ยนแปลงการเดินทางของตั๋วโดยสารได้ทุกชนิดทุกประเภท (ยกเว้นตั๋วเดือน ซึ่งไม่อนุญาตให้เปลี่ยนแปลงการเดินทาง และไม่คืนเงินค่าโดยสาร) แต่จะเปลี่ยนแปลงได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. การเปลี่ยนแปลงวันเดินทาง ท่านสามารถเลื่อนวันเดินทางออกไปได้ไม่เกิน 60 วัน นับจากวันที่ระบุไว้ในตั๋ว และไม่เกินระยะเวลาที่เปิดจำหน่ายตั๋วล่วงหน้า ส่วนการเลื่อนวันเดินทางเข้ามา สามารถทำได้ไม่จำกัดวัน
2. สำหรับตั๋วไป-กลับ สามารถเปลี่ยนแปลงการเดินทางเที่ยวไปได้ 1 ครั้ง และเที่ยวกลับได้ 1 ครั้ง
3. การเปลี่ยนแปลงการเดินทาง ให้นำตั๋วมาแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ ก่อนขบวนรถออกไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง ในวันและเวลาที่ระบุในตั๋ว หากเลยเวลาดังกล่าวจะไม่รับเปลี่ยนแปลง ไม่คืนตั๋วโดยสาร และไม่รับคำร้อง
สำหรับการขอเลื่อนชั้นโดยสารสูงกว่าตั๋วฉบับเดิม หรือเลื่อนสถานีปลายทาง สถานีต้นทางให้มีระยะทางไกลกว่าเดิม สามารถทำการเลื่อนได้ โดยต้องชำระค่าโดยสารในส่วนที่แตกต่างกันระหว่างชั้นโดยสารเดิมให้ครบ
ทั้งนี้ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงเรื่องใด ๆ จะมีค่าธรรมเนียมเปลี่ยนแปลงการเดินทาง ดังนี้
1. ตั๋วทุกชั้น รถนั่งธรรมดา คิดคนละ 20 บาท 2. ตั๋วทุกชั้น รถปรับอากาศ คิดคนละ 50 บาท
ส่วนการคืนเงินค่าตั๋วโดยสาร และประเภทของตั๋วโดยสารชนิดต่าง ๆ ท่านสามารถดูรายละเอียดได้ที่ railway.co.th
ภาพจาก LightCooker / shutterstock.com
นอกจากการรถไฟแห่งประเทศไทยจะให้บริการรถไฟในขบวนโดยสารทั่วไปแล้ว ยังมีการจัดขบวนท่องเที่ยวอีกด้วย ซึ่งได้จัดทำเส้นทางท่องเที่ยวในหลากหลายเส้นทาง มีทั้งแบบเช้าไป-เย็นกลับ และแบบค้างคืน ถ้าอยากไปเที่ยวโดยรถไฟแบบชิค ๆ ต้องคลิกที่นี่เลย ท่องเที่ยวทางรถไฟ
หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเส้นทางการเดินรถไฟ การจองตั๋วรถไฟ หรือคำถามอื่น ๆ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ railway.co.th หรือโทรสอบถามโดยตรงได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 1690
Create Date : 12 มกราคม 2560 |
Last Update : 12 มกราคม 2560 15:19:24 น. |
|
1 comments
|
Counter : 978 Pageviews. |
|
|