กองทุนรวมมีลักษณะเด่นประการหนึ่ง คือนักลงทุนไม่สามารถทราบองค์ประกอบของกองทุนว่าประกอบไปด้วยหุ้นอะไร สัดส่วนเท่าไร ณเวลาหนึ่งๆ จึงมีการพยายามสร้างเครื่องมือเพื่อตรวจวัดผลการดำเนินการ (Ranking)เครื่องมือตรวจสอบหา Pattern หรือสไตล์การลงทุนและ เครื่องมือการแบ่งกลุ่มกองทุน โดยมีแนวคิดที่ว่าการลงทุนไม่ควรพิจารณาผลตอบแทนที่ได้รับเพียงอย่างเดียวแต่ควรจะพิจารณาระดับความเสี่ยงควบคู่กันไปด้วยเนื่องจากบางครั้งผลตอบแทนที่ได้รับอาจจะไม่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ใช้ไปการหาผลตอบแทนหลังปรับค่าความเสี่ยง (Risk-Adjusted Return) จึงเป็นวิธีการที่ทำให้เราสามารถเปรียบเทียบผลการดำเนินงานของกองทุนได้เหมาะสมชัดเจนมากยิ่งขึ้น
สำหรับ Ranking ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ได้นำเครื่องมือที่ตรวจวัดประสิทธิภาพการดำเนินงานของกองทุนที่เป็นที่นิยมใช้ 3 แบบ ได้แก่ Historical Return, Information Ratio และ Sharpe Ratio มาจัดอันดับโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักลงทุนได้มีข้อมูลผลการดำเนินงานกองทุนย้อนหลังตามเครื่องมือตรวจวัดในรูปแบบต่างๆซึ่งเป็นแนวทางเบื้องต้นในการตัดสินใจเลือกกองทุนรวมที่เหมาะสมกับสไตล์การลงทุนของแต่ละท่านครับ
1. ผลสรุป Risk Map โดยวิธี Historical Return (อ่านบทความการเลือกกองทุนรวมอย่างรวดเร็วโดยใช้Risk Map ได้ที่ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=topstock&month=12-2012&date=29&group=2&gblog=5)