Japan Trip 2014 Day4 Nagoya SCMAGLEV NORITAKE
30-Mar-14
Day4
วันนี้ตื่นเช้าหน่อยเพราะต้องรีบออกไปขึ้น Shinkansen รอบที่จองไว้ตอนแปดโมงครึ่ง
ตื่นมาจัดกระเป๋ากันก่อน คนตัวเล็กจัดของในเป้ใหม่ ส่วนคนตัวใหญ่ใช้เวลาจัดกระเป๋าเกือบครึ่งชั่วโมง
พร้อมแล้วครับ
ลากกระเป๋าไปสถานี Shinagawa ถึงสถานีก็ซื้อเบเกอรี่ไว้กินในรถไฟ ระหว่างทางขึ้นสถานีเห็นข้าวกล่องน่ากินดีเลยจัดมา 1 ชุด ระหว่างรอน้องทัณฑ์ก็ขอกินก่อน ช่วงที่ยุ่งๆกับน้องทัณฑ์ก็หยิบนู้นหยิบนี่จนรถไฟมา เราก็รีบขึ้นรถไฟกัน
วุ่นวายกับคุณย่าในรถไฟ
และวุ่นวายตอนรอ Shinkansen ซึ่งจะเป็นประเด็นตอนถึงนาโกย่าแล้ว
ของโปรดต้องครัวซองค์อร่อยมาก
ส่วนป๊ากับม๊าต้องลองข้าวกล่องรถไฟ
นั่งชั่วโมงกว่าก็มาถึง Nagoya ระหว่างกำลังหาทางออกอยู่นั้นก็เจอเรื่องไม่คาดฝัน คือ JR Pass ของป๊าหาย หาจนทั่วก็ไม่เจอนึกขึ้นได้ว่าต้องหล่นตอนช่วงชุลมุนหยิบของตอนน้องทัณฑ์กินแน่ ตอนจะถึงทางออกเลยแจ้งกับคุณตำรวจรถไฟ เราสื่อสารด้วยภาษามือกับอังกฤษที่คุยกันเป็นคำๆ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าถ้าหาเจอสถานีนี้ไม่เสียเงิน แต่ถ้าหาไม่เจอต้องเสียตังค์ด้วย และตั๋วที่จองไว้สามเที่ยวจะใช้ไม่ได้เลย(nagoya-kyoto kyoto-tokyo tokyo-narita) และเค้าออก JR Pass ให้ใหม่ไม่ได้ด้วย เราเลยแจ้งว่าน่าจะหล่นที่สถานี Shinagawa คุณตำรวจเลยเปิดสมุดโทรศัพท์เล่มใหญ่ค้นหาเบอร์โทรโทรไปสถานี ระหว่างเค้าคุยเราพยายามฟังไปด้วยพยายามจับคำพูดกับสีหน้า ในที่สุดก็เจออยู่ที่สถานีจริงๆ คุณตำรวจบอกว่าผ่านไปได้ไม่เสียเงิน แต่ถ้าอยากได้ JR Pass ต้องนั่งรถไฟกลับไปเอาที่ Shinagawa ไม่มีคนเอามาคืนให้ ก็เลยพยายามคุยว่าเราต้องไปต่อคืนนี้ต้องไปนอน Kyoto ต้องทำยังไง คุณตำรวจรถไฟบอกให้ไปแผนก Lost&Found เราก็แยกกันป๊าไปจัดการเรื่องของป๊า ส่วนคณะไปหา Locker เก็บของ ฝนก็ตกกระเป๋าก็ใหญ่ยังมีปัญหากันอีก พอเจอ Lost&Found ถ้าเป็นเมืองไทยคงต้องเล่าเรื่องใหม่อีกรอบ แต่นี่คือญี่ปุ่น พอเราแจ้งเรื่องคุณตำรวจก็รู้เรื่องอยู่แล้ว และคุยว่าจะทำยังไงถึงไปเอา JR Pass ได้ เราเลยแจ้งว่าคืนนี้นอนเกียวโต และนอนอีกสองคืน คุยไปก็วาดรูปให้ดูด้วย คุณตำรวจเลยบอกว่าถ้างั้นให้ส่งไปรษณีย์จะถึงภายในวันที่ 1 เมษา เค้าขอเบอร์โทรที่พักที่เกียวโต แล้วหายไปครู่ใหญ่ ได้ความว่าคุยกับทาง Shinagawa ให้ส่ง JR Pass มาที่โรงแรมในเกียวโต และคุยกับโรงแรมว่าจะมีของเราไปถึง สรุปตั๋วที่จะไปคืนนี้ต้องซื้อใหม่ แต่ที่เหลือยังใช้ได้ถ้า JR Pass มาทัน บริการประทับใจมาก
Lost&Found
คุยกันไม่รู้เรื่องต้องเขียน&วาดรูป
ถ่ายเบอร์โทรไว้ก่อนเผื่อเกิดปัญหา
หลังจากจัดการเสร็จไปเจอคณะ ปรากฎว่าไม่มี Locker ว่างเลย เราเลยตัดสินใจเที่ยวทั้งกระเป๋า นั่งรถไฟไปลง Kinjofuto แล้วลากกระเป๋าใบใหญ่ลงสถานีก็เจอฝน ลากกันจนมาถึง SCMAGLEV พิพิธภัณฑ์รถไฟ เจ้าหน้าที่เห็นเราลากกระเป๋าใหญ่มาเค้าเลยส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่อีกคนมาช่วยเราเอากระเป๋าไปเก็บในห้องให้ ส่วนคุณลุงกับน้องทัณฑ์ไปกดซื้อตั๋วเข้าชมกับตู้กด เสร็จแล้วเราเข้าพิพิธภัณฑ์กัน ใหญ่มากและมีรถไฟรุ่นเดอะหลายรุ่น(ที่เมืองไทยยังใช้อยู่) คนญี่ปุ่นเค้าให้ความสำคัญกับเด็ก ประวัติศาสตร์มาก เพราะขนรถไฟอันยักษ์มาเพียบพร้อมให้เข้าไปดูด้านในอีก มีประวัติต่างๆ หลังจากเราเดินชั้น1 จนหมดก็ขึ้นไปชั้นสองหาของหม่ำ น้องทัณฑ์ได้ข้าวผัดกล่องรถไฟ หม่ำเสร็จเดินดูชั้นสองต่อ แล้วออกมาตรงที่ซื้อของที่นี่ของแพงกว่าที่ tokyo เลยไม่ได้อะไรติดมือ เราออกจากที่นี่พร้อมกระเป๋ายักษ์ฝ่าฝนกลับไปสถานี
มาถึงแล้ว
เข้าคิวรอ
ได้ตั๋วแล้ว เข้าไปเลย
รถไฟเต็มไปหมด
ข้างในรถไฟ
ถ่ายหน่อยว่าเรามาเมื่อไหร่
ข้าวกล่องรถไฟ
สีหน้าคนกิน
ประวัติรถไฟรุ่นต่างๆ
ห้องรับรองเด็กๆ
แบบจำลอง
เดินกลับไปสถานี ฝนยังตกนิดหน่อย
แล้วนั่งรถต่อประมาณครึ่งชั่วโมงไปลงสถานี Nagoya ตามแผนต้องนั่งรถไฟไปเพื่อจะไปสวน Noritake แต่คุณลุงบอกว่าดูใน googlemap 500 เมตรเอง ฝนก็หยุดแล้วด้วย เดินไปเดินมาหลง ทั้งเย็นและหนักแถมหลงอีก สุดท้ายเลยเรียก Taxi ค่าขึ้นแค่ 580 เยนก็มาถึงแล้วโชคดีที่นั่ง Taxi เราเดินเข้าประตูข้างเกือบๆ 4 โมงเย็นแล้วคนก็ไม่ค่อยมีลากกระเป๋ามาเรื่อยๆ ยังไม่เจอที่ฝากกระเป๋าแต่เจอ shop แล้ว สุดท้ายป๊าเลยบอกว่าเราเอากระเป๋าไปรอตรงโซน Cafe แล้วสั่งของกินมา ส่วนใครอยากช้อปหรือดูดอกไม้ก็ตามสบาย ที่นี่ดอกไม้สวยมาก ขนาดเมฆครึ้มๆยังถ่ายออกมาได้สวย คุณลุง คุณย่า น้องทัณฑ์ได้ผลิตภัณฑ์กระเบื้องเคลือบมากันครบ
คุณลุงผู้ช่วยชีวิต
ถ่ายป้ายหน่อย
ดูแผนที่ก่อน พร้อมกองกระเป๋า
เมนูน่ากิน
ของกินก็น่ากิน
แต่มีคนกินไอติม
นางเอกของสวน
บรรยากาศทั่วไป
คนเฝ้ากระเป๋า
มาเจอคู่แต่งงาน กำลังถ่ายรูปกันอยู่ สงสัยช่วงที่เราไปจะเป็นฤกษ์ที่ดีของคนญี่ปุ่น แต่ถ้าจัดงานที่นี่คงแพงเอาเรื่อง
แอบถ่ายตอนเค้ากำลังจะกลับ
หลังจากช้อปเสร็จ เราเดินออกด้านหน้าเป็นอู่ Taxi พอดี เรียกแป๊บนึงถึงสถานี Nagoya ก่อนอื่นป๊าต้องซื้อตั๋วรถก่อน ไปถึงคิวยาวเหยียดเลยถามเจ้าหน้าที่แถวนั้นว่ากดจากเครื่องได้ไหม เค้าบอกว่าได้ ก็ลองไปกดดูมีภาษาอังกฤษด้วย กดไปตั๋วก็ออกมา 1 ใบ แต่ก็รู้สึกแปลกที่ค่าตั๋วมันแค่ 2 พันกว่าเยน เลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่คนเดิม เค้าบอกต้องมีอีกใบ บริการดีมากเดินมาถึงตู้กดและกดให้อีกใบ บอกว่าพอจะเข้า Gate ให้ใส่สองใบพร้อมกัน เสร็จเรื่องป๊าเราไปกินไก่ยามะจังอันลื่อชื่อของเมืองนี้ซะหน่อย สั่งมาสองจาน กับพวกเสียบไม้ อร่อยดีแต่เขรอะไปหน่อย หม่ำเสร็จไปรอขึ้น Shinkansen ไป Kyoto
เมนูข้างฝา
รอไก่ยามะจัง
มาแล้วน่ากิน
ข้างบนสถานีนาโกย่า
เหนื่อยมาทั้งวัน สุดท้ายก็หลับระหว่างรอ Shinkansen
รถไฟมาก็ตื่น ไปหม่ำครัวซองค์ต่อในรถ
วิวข้างทางไปเกียวโต
มาถึง Kyoto ออกจากสถานีเราลากกระเป๋าจะเดินไปโรงแรม แต่ข้างนอกทั้งหนาวและมีลม เดินไปแป๊บนึงเลยเรียก Taxi ดีกว่า meter ที่นี่ขึ้นมา 640 เยน ถึงโรงแรม ระหว่างเช็คอินเจ้าหน้าที่โรงแรมแจ้งว่าคุณตำรวจรถไฟบอกว่าจะมีพัสดุมาส่งป๊าและเรียกเก็บเงินปลายทาง ให้เราวางมัดจำไว้ 1500 เยน ป๊าเลยเอาเงินให้เค้า เสร็จแล้วขึ้นห้องพักกัน อยู่ในที่พักวางกระเป๋าเสร็จชวนคุณลุงไป 7 ใกล้ๆโรงแรม ได้บะหมี่สำเร็จรูป ขนมปัง และกาแฟกระป๋องมา บะหมี่แบบแห้งอร่อยมากกินกันสามคนยังไม่หมดเลย ขนมปังก็อร่อยกินเปล่าๆได้เลย เป็นวันที่ยาวนานสำหรับเรามาก
ถึงโรงแรมแล้ว Sakura Terrace
นึกว่าจะง่วง
ป๊าซื้อบะหมี่สำเร็จรูปมาลอง UFO แบบแห้งอร่อยสุด
จบวันที่แสนลำบากของเรา น่าจะเป็นวันอึดที่สุดของหาย ฝนตก ลากกระเป๋า เดินทาง 3 เมืองด้วย วันต่อไปเราก็จะเที่ยวในเกียวโตแล้วครับ
Create Date : 11 เมษายน 2557 |
Last Update : 26 ธันวาคม 2559 14:13:11 น. |
|
2 comments
|
Counter : 2473 Pageviews. |
|
|