|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
### คนแก่(รึยังหว่า) อยากเล่า "ประสบการณ์รับน้อง"... ###
ก่อนอื่นก็ต้องขอไว้อาลัย กับ น้อง ที่เป็นข่าวอยู่ตอนนี้นะครับ... ... ต้องเกริ่นก่อนว่าผมไม่ได้เรียนที่สถาบันที่เป็นข่าวนะครับ... แต่ผมเคยผ่านประสบการณ์รับน้องมาเหมือนกัน... ที่หนัก ๆก็เป็นรับน้องหอครับ... เอาเป็นว่าด้วยอะไรหลาย ๆ อย่าง ขอเล่ายาวหน่อยละกันนะ ... ผมเป็นเด็กต่างจังหวัด สอบเอนฯได้ ก็เข้ามาเรียนในกรุงเทพเมื่อปี 38... พอดี โชคดี ได้รับพิจารณาเข้าพักที่หอพักของมหา'ลัย ... อาทิตย์แรกที่เปิดเทอม เพื่อน ๆ ต่างทยอยเข้าพักในหอพัก กัน เกือบครบ ผมก็ได้เริ่มทำความรู้จักกับรูมเมท และ ก็เพื่อนห้องข้างเคียง บรรยากาศก็ชื่นมื่นดีครับ แหม... เฟรชชี่ อะไรมันก็สวยงามไปหมด ... ... พอหมดอาทิตย์แรก ... วันเสาร์ ก็มีปฐมนิเทศน์ นิสิตใหม่หอพัก สถานที่ก็ไปยืมใช้ที่หอประชุมคณะวิศวะฯ อาจารย์ (อนุสาศก<=== เขียนผิดแน่เลย) ก็มาแนะนำกฎระเบียบ พี่ ๆ ก็มาแนะนำชมรม ... แหม... เท่มาก ตอนเรียนมัธยม ฝันมานานแล้วทำชมรมเนี่ย ... ในใจคิด ต้องสนุกแน่เลย อิอิ ... จบการปฐมนิเทศในห้องประชุม พี่ๆ ก็ประกาศขอให้น้อง ๆ ออกไปตั้งแถว เดินกลับหอ พี่ ๆ เตรียม พิธีรับน้องอยู่... ... ภาพในใจตอนนั้น ... มันต้องเป็นแบบ มี ร้องเพลง เต้น เอา สีเขียนหน้า เขียนตัว เล่นเกมส์ แน่เลย ... แต่เอ... นี่ก็เย็นแล้ว (ประมาณ หกโมง ผมจำเสียงเพลงชาติได้) หุ ๆ สงสัยเค้าจะบายศรี กลางแสงเทียน เล่นกงเล่นเกมส์ คงไม่มีแล้วมั้ง ... พอเดินแถวมาถึงหอ... เอ๊ะ หน้าตารุ่นพี่ที่ยินกั้นเป็นแถวให้เราเดิน ชักเริ่ม เครียดแฮะ และก็พร้อม ๆ กับ เสียงที่ตะโกนให้เรารีบเดิน (วิ่ง?) เข้าไปใต้ถุนหอพัก ... ต้องขออธิบายหน่อยนึง ... อาคานหอพักที่ว่านี่ เราเรียกกันว่าหอ 3 ช่วงรับน้อง จะมีการเอาแถบผ้า มาพาดจากชั้นสองลงมา ทำให้ บุคคลภายนอกไม่สามารถมองเห็นกิจกรรมใด ๆ ก็ตามที่เกิดขี้นภายใน ... พอเราเข้าไปนั่ง ขัดสมาธิกับพื้นกันจนครบ โดยมีพี่ๆ หอร่วมเจ็ดแปดสิบคน มายืนล้อมพวกเราไว้ ต่อมาก็มีพี่ ๆ ออกมา ทำหน้าเครียด ด่าทอเรา เรื่องคุยกันในห้องประชุม เรื่อง เดินแถวช้า และ บลา ๆ ๆ ... ด้วยภาษาพ่อขุนฯ ไอ้เราก็เอ๋อแ-ก ซิครับ ไม่เคยคิดว่าต้องเจออะไรแบบนี้... แล้วพี่ ๆ ก็ให้ออกไปแนะนำตัว ชื่อจริง นามสกุล ชื่อเล่น มาจาก จังหวัด คณะ (ตอนรับน้อง ให้เรียกว่าแผนกครับ เพราะทุกคนถือว่าอยู่"คณะหอ") อ้อ ... ห้องด้วย ... ถ้าเราออกไปรายงานตัว ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดซีเรียส ก็โดนด่า ว่า "ชีวิต เศร้า เหรอ มรึงอ่ะ" ...ยิ้มแย้มแจ่มใส ก็โดนด่าว่า " กูเป็นเพื่อนเล่นมรึงเหรอ" ลืมพูดครับก็โดนด่า ... ไม่พูดคำว่านามสกุลก็โดนด่า ... บางคนชื่อตลกก็โดนหัวเราะเยาะ ... บางคนรุ่นพี่เค้าถูกชะตา ก็จะเปลี่ยนชื่อ เป็นชื่อ ตลก ๆ (ลามก) ให้ ...โอว...ว...ว !!! พระเจ้าช่วยกล้วยทอด... แบบว่าทำอะไรก็ไม่ถูกใจพี่ ๆ หน่ะครับ... ... พอเรารายงานตัวกันเสร็จ พวกพี่ ๆ ก็ยังมีการด่าทอ แบบไร้เหตุผล (และแกอธิบายว่าไม่ต้องมีเหตุผล... แค่เก็บกด จะมาเอาคืน อะไรทำนองนั้น) พวกเราทุกคนคงพอรู้กันแล้วว่า มันคงไม่จบง่าย ๆ ... ก่อนปล่อยขึ้นนอน รุ่นพี่สั่งให้ทุกคน ล็อคประตูหลังห้อง ทางออกระเบียง แต่ประตูหน้าห้ามล็อค... (พออาบน้ำจะนอนแล้ว ก็มีรุ่นพี่มาตรวจจริง ๆ แฮะ) จากนั้น พวกเราก็หลับกันไปด้วยความอ่อนเพลียและขวัญผวา... ... พอตอนเช้า ประมาณตีสี่กว่า ๆ (มั๊ง) ผมก็ตกใจตื่นครับ ... จะไม่ให้ตื่นได้ไง ก็พวกพี่ ๆ เค้าวิ่งเคาะปี๊บ กันตามห้อง พร้อมตะโกนไล่เราลงไปรวมกันข้างล่าง... (ตอนหลังถึงได้ทราบว่าต้องปิดล็อคประตูระเบียง เพราะกลัวรุ่นน้อง ที่ตกใจจะโดดออกทางระเบียง ตกลงมา) พอมารวมกันเสร็จ ก็มีการว๊าก (อีกเช่นเคย) และก็แจ้งกฎระเบียบ อะไรห้าม... และแน่นอน ก็ไม่มีเหตุผล รวมถึงเวลาที่ต้องเข้าเชียร์ คือ ตอนเช้า ตีห้า ถึง โมงเช้า และตอนเย็น หกโมง ถึง สามทุ่ม เย็นวันเสาร์และเช้าวันอาทิตย์ ไม่มีประชุมเชียร์ ... ผ่านไปวันสองวันแรก ด้วยความเป็นเด็กต่างจังหวัด ผมยอมรับ ว่า ช็อคพอสมควร ... ไม่เคยได้รู้มาก่อนว่ามีแบบนี้ด้วย... แอบ โทร กลับไปที่บ้าน (จริง ๆ พี่เค้าห้ามหล่ะครับ ... แล้วก็บอกว่าถ้าจำเป็นต้องคุย... ให้บอกที่บ้านว่า "เรื่อย ๆ") ตอนคุยกับแม่ ผมก็พยายามเล่าแบบไม่มีอะไร ก็เล่าบ้างเรื่องต้องประชุมเชียร์ ตอนเช้าตอนเย็น (จริง ๆ อันนี้ ก็ห้าม) แต่แม่ก็ฟังออกว่าน้ำเสียงผมไม่ค่อยสบายใจกับการประชุมเชียร์นัก... แม่บอกว่า "ถ้าไม่ไหว ออกมาอยู่หอนอกก็ได้ลูก" ... ... ... ตอนแรกว่า จะเล่าว่า เราต้องทำอะไรกันบ้างในการเข้าประชุมเชียร์ ... แล้วก็มันจบลงอย่างไร แต่คิดไปคิดมาไม่ดีกว่า ... ผมคิดว่าเก็บส่วนนี้ไว้ให้น้อง ๆ ใช้ในการทำเชียร์ละกัน (คงมีคนเล่ามาบ้างแล้ว แต่ผมขออณุญาต ไม่เล่าละกัน เอาเป็นว่าก็สบักสบอม จบถึงมิดเทอมหล่ะครับ) ... มาดูกันดีกว่าว่า หลังจากที่ประชุมเชียร์ ของ "คณะหอ" จบแล้ว พี่ ๆ ได้รับเป็นน้องแล้ว เกิดอะไรขึ้นกับผมบ้าง ลองมาไล่กันดูนะ... ... 1.รู้จักและสนิทกับเพื่อน ประมาณ 60-80 คน ไม่ใช่รู้แค่ชื่อเล่นนะ รู้ว่าเรียนคณะอะไร ห้องไหน มาจากจังหวัดไหน (ถ้าไม่มีการบังคับกัน คงเป็นไปได้ยาก) ถามว่ามันจำเป็นไหม อืม... อาจจะ หรือ อาจไม่ แต่สำหรับ เด็กต่างจังหวัดที่ไม่เคยมาใช้ชีวิตลำพังอย่างผม มันดีมากเลยหล่ะ
2.รู้จักรุ่นพี่ มีความสนิทสนม รู้ว่า เวลามีปัญหาในการใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ ต้องปรึกษาใคร เรื่องไหน ไปติดต่อที่ไหน
3.สามารถร้องเพลงเชียร์ ซึ่ง ผมว่า มันโบราณมากเลย แบบทำนอง โบราณจริง ๆ แล้วก็ มีเพลงภาษาเขมรด้วย โดยทุกคนร้องได้ และผมเชื่อว่าตอนนี้หลายคนก็ยังร้องได้... เหมือนผม...
4.ไอ้เรื่องความกดดัน ที่เค้า(อ้าง)ว่ากันว่า เพื่อปรับตัวให้เข้ากับ ชีวิตต่อไปที่จะต้องไปเผชิญ ตอนทำงาน ... จริง ๆ ผมว่ามันไม่ขนาดนั้นนะแต่ที่ผ่านมาก็มีบ้าง แบบตอนที่ทำงานที่แรก เข้าไปเป็นคนเดียวในทีมงาน (สิบคน) ที่ไม่ได้มาจาก สามพระจอมฯ ตอนแรกหน่ะเหรอ ... ก็มีโดนเขม่นบ้าง แต่เรารู้ว่าไอ้แบบไร้เหตุผลที่หนักกว่านี้(หมายถึงตอนรับน้อง) ก็เจอมาแล้ว แค่นี้ไม่เห็นจะเป็นไร ... ต่อมาเหรอครับ ... ผมก็ได้รับการยอมรับ และเป็นหนึ่งในทีมได้ ... ไม่ใช่ครับ ! ไม่ใช่ฝีมือและความสามารถหรอกเพราะผมไม่มีขนาดนั้น เป็น "ใจ" ต่างหาก... เป็นนิสัยใจคอ และ พฤติกรรม ซึ่งผมยอมรับว่า มันก็มีส่วนหนึ่งมาจากชีวิตในมหา'ลัย และ ส่วนหนึ่งของส่วนหนึ่งคือความอดทนจากการรับน้อง
(###อ่านให้ดีนะ ผมไม่ได้ว่า การกดดันตอนรับน้องมันจำเป็นมากนะ... ตรงนี้ผมว่ามันไม่needขนาดนั้น และการสอนอย่างนี้คงถูกจริตแค่เฉพาะบางคน ในส่วนความคิดของผม กิจกรรม"กดดัน"ต่าง ๆ ที่พี่ๆ ประเคนให้เนี่ย มันเป็นลักษณะของการ"ละลายพฤติกรรม" ของคนร้อยพ่อพันแม่มากกว่า ซึ่งผลก็ได้ดังในขอ 1 ที่กล่าวมาแล้ว###) ... ... และตอนหลัง ผมมารู้ว่า ส่วนใหญ่ที่สั่ง ใช่จะไม่มีเหตุผล ... (เกือบ)ทุกอย่างมันมีเหตุของมัน แต่ด้วยความตกใจ และความไม่รู้ ทำให้เราคิดไม่ถึง เช่น... ... ห้ามโทรกลับบ้าน หรือโทรกลับ ก็ห้ามเล่าให้ที่บ้านฟัง เรื่องเชียร์ ... อันนี้ดูจากผมเองก็ได้ เวลาเราเล่าอะไรให้ พ่อ แม่ฟังเนี่ย ผมเชื่อว่า ท่านจะ ทุขใจมากกว่าเรา ร้อยเท่า พันเท่า ช่วงแรกเค้าเลยออกคำสั่ง แบบไม่ฟังเหตุผลว่าห้ามโทร ห้ามเล่า แต่พอ สองสามอาทิตย์ เราเริ่มปรับตัวได้ และเริ่มมี รอยยิ้มระหว่างการประชุมเชียร์ ไอ้กฎอันนี้ก็เลิกไปเอง ... ถ้าเพื่อนในห้อง(รูมเมท) เพื่อนข้างห้อง (ฝาเมท) และเพื่อนห้องตรงข้าม (ออพโพสิทเมท) ไม่เข้าประชุมเชียร์ เราไม่รู้ว่าเค้าไปไหน... โทษหนัก ถ้ารู้และเหตุผลไม่สมควร ก็ยังมีโทษ ... อันนี้ สำคัญครับ... เพื่อนไปไหน ไม่สบายรึป่าว มีปัญหาอะไรไหม... ถ้าไม่มีคำสั่ง ใครจะกล้า(เสือก)ถามคน เพิ่งรู้จักกัน ครับ ... ผมว่าอันนี้เค้าบังคับให้เราดูแลกันเอง โดยเรา "จำเป็น" ต้อง"เสือก" เรื่องของเพื่อน เพราะเป็นคำสั่ง ... ห้ามเดินคนเดียว นอกหอ ไม่ว่าที่คณะ ที่ห้าง ที่ไหน ๆ ถ้าเจอ... หนัก ... อันนี้ก็เช่นกันครับ พอจะไปไหน (เช่นไปซื้อ เครื่องเขียนที่ห้างใกล้มหา'ลัย) ก็ต้องวานเพื่อนที่ว่าง (บางทีต้องเคาะตามห้องกันเลยหล่ะ) ไปเป็นเพื่อ ... ผมว่า มันได้สองอย่างนะ ได้มีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้นด้วย รวมถึงถ้าไป คนเดียวอาจ ถูกหลอก หรือ หลงทาง หรือ อะไรอื่น ๆ ตามที่จะเกิดกับเด็กต่างจังหวัด อย่างพวกผม ถ้าไปถูกหลอก สองคนขึ้นไปอย่างน้อยพูดได้ว่า "กรูไม่ได้โง่คนเดียวเว้ย... อิอิ"..... -.-" กำ ... จริง ๆ คงมีอีกนะ แต่คิดตอนนี้ ได้เท่านี้อ่ะ... ... สิ่งที่อยากฝาก... ผมอยากจะใช้พื้นที่ตรงนี้ ถ้ามีใครผ่านมา แล้วได้อ่าน สำหรับ คนที่กำลังเป็นรุ่นพี่อยู่ตอนนี้ ผมอยากให้ "คิด"อย่างคนที่กำลังจะ เป็นบัณฑิต ... กิจกรรมทุกอย่างควรตั้งอยู่บนเหตุผล ... แม้คุณจะไม่ได้บอกน้อง แต่ คุณจะสามารถบอกตัวเองได้ ว่า สิ่งที่ทำอยู่มันมีค่าแค่ไหน กับน้อง ๆ ... อะไรที่เรายังตอบตัวเองไม่ได้ว่า มันจะให้ผลดีอะไรกับน้อง ๆ แล้วสามารถตัดออกไปได้ ยังไง ก็อย่าไปทำเลย (อันนี้พูดง่าย แต่ คงทำกันยากใช่ไหมครับ) ... ... อีกอย่าง ถึง คนที่เป็นผู้ปกครอง เป็นญาติ หรือ เป็นคนที่กำลังต้องเข้าไปสู่ขบวนการรับน้องเอง... ผมไม่อยากให้กลัวหรือตกใจจนเกินเหตุ ผมเชื่อว่า ไม่มีรุ่นพี่ที่ไหนที่ไม่อยากมีรุ่นน้อง (ตอนผมเป็นรุ่นพี่ปีสอง ผมเห่อน้องจะตาย... พูดแล้วคิดถึง ดร.แป๋ง) หรืออยากให้รุ่นน้อง บาดเจ็บ เสียชีวิต (แต่ถ้าสังเกตเห็นว่ามีใครเป็นแบบนั้นก็อยู่ห่าง ๆนะครับ) ... โดยเฉพาะคนที่เคยทำเชียร์จะรู้(ผมไม่เคยนะ) มันไม่ได้เหนื่อยน้อยกว่ารุ่นน้องหรอก มากกว่าด้วยซ้ำ งานในคณะ โปรเจ็ค รายงาน อะไร ก็ซีเรียสกว่าเด็กปีหนึ่งเยอะ ดังนั้น น้อง ๆ จ๋า ฉกฉวยโอกาสที่ได้เข้าทำกิจกรรมรับน้องนี้ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ และ ความรัก แบบ พี่น้อง ไว้เถอะนะ มันไม่ได้มีโอกาสอย่างนี้บ่อย ๆ หรอกนะครับ... ... ... ... ... เฮ้อ ... พูดแล้วอยากกลับไปให้พี่ ๆ รับใหม่จัง... ... ... ...
จาก เด็กหอซีมะโด่ง RCU 78
Create Date : 11 มิถุนายน 2548 |
|
17 comments |
Last Update : 11 มิถุนายน 2548 1:46:37 น. |
Counter : 2118 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: zaesun 11 มิถุนายน 2548 3:08:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: wmvcore IP: 210.86.217.12 11 มิถุนายน 2548 19:44:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: DARKCYCLONE IP: 210.86.184.20 11 มิถุนายน 2548 23:09:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: the_fool 11 มิถุนายน 2548 23:50:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมาน้อยคอยรัก IP: 202.183.159.189 12 มิถุนายน 2548 16:07:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: pa jang IP: 202.183.173.1 12 มิถุนายน 2548 21:47:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: หมาน้อยคอยรัก IP: 202.183.159.176 12 มิถุนายน 2548 22:55:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: ช่างไม้ IP: 202.12.73.11 14 มิถุนายน 2548 11:13:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: K.J. IP: 203.209.43.60 15 มิถุนายน 2548 13:38:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: ช่างไม้ IP: 202.12.73.11 15 มิถุนายน 2548 15:43:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: the_fool IP: 221.228.141.203 15 มิถุนายน 2548 16:21:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: K.J. IP: 203.209.43.17 15 มิถุนายน 2548 18:07:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: the_fool 15 มิถุนายน 2548 18:35:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: RCU 81 IP: 61.91.218.208 10 พฤศจิกายน 2548 17:59:42 น. |
|
|
|
|
|
|
|