เลือกอะไรดีระหว่าง เหล็กยาว, แฟร์เวย์วูด และ หัวไม้ไฮบริด

          นักกอล์ฟจะตัดสินใจเลือกซื้อหรือเลือกใช้อะไรดีระหว่าง เหล็กยาว (Long Iron), แฟร์เวย์วูด (Fairway Woods) และ หัวไม้ไฮบริด (Hybrid Clubs)
          ในกรณีที่ต้องหาอุปกรณ์สำหรับการตีไกลโดยมีระยะการตีที่รองลงมาจากไดร์ฟเวอร์แล้วละก็ .. เราจะนึกถึงอุปกรณ์อยู่ 3 อย่างด้วยกัน .. นั่นก็คือ .. เหล็กยาว, แฟร์เวย์วูด และ หัวไม้ไฮบริด (คำว่า “หัวไม้” ที่ถูกแล้วควรจะใช้เป็นความหมายของแฟร์เวย์วูด แต่ในที่นี้ผมขอเรียกตามที่นักกอล์ฟบ้านเราเรียกขานกันนะครับ)





          อุปกรณ์ทั้ง 3 ชนิดดังกล่าวถูกออกแบบและทำขึ้นมาด้วยจุดประสงค์ที่แตกต่างกันดังต่อไปนี้ครับ

1.   เหล็กยาว (Long Iron)
เรียกได้ว่าเหล็กยาวเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ตียากที่สุดของการเล่นกีฬากอล์ฟ .. ทั้งนี้เนื่องจาก เหล็กยาวถูกออกแบบมาให้มีองศาหน้าเหล็กที่ชัน และ มีพื้นที่ใบเหล็กเล็กเพียงนิดเดียว ..




ถ้าใครเคยเห็นเหล็ก 2 (ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยจะมีขายกันแล้ว) จะเห็นได้ว่าใบมันเล็กมากๆ .. แทบจะพอดีหรือใหญ่กว่าลุกกอล์ฟไม่เท่าไรเอง ..
ดังนั้น .. นักกอล์ฟที่มีสปีด หรือความเร็ววงสวิงไม่มากพอ จะประสบปัญหาในการใช้เหล็กยาว โดยผลของมันก็คือ จะทำให้ระยะของการตีไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง หรือ ก็คือตีกอล์ฟไม่ได้ระยะนั่นเอง

แต่ข้อดีของเหล็กยาวก็มีนะครับ .. ด้วยความที่เป็นเหล็กหน้าชัน .. หากว่าตีโดนดีละก็ .. ลูกที่พุ่งออกไปจะมีวิถีของลูกที่พุ่งต่ำ .. ซึ่งเหมาะกับการตีในสนามที่มีลมแรง และ เราต้องการตีให้ลูกพุ่งต่ำเพื่อหลบลมบน .. ผมเคยดู ไทเกอร์ วูด ใช้เหล็ก 2 ตีสติงเจอร์ ช๊อต (Stinger) ซึ่งเป็น ซิกเนเจอร์ช็อต ของเค้าในยูทูป .. ดูแล้วทึ่งมากเลยครับ




ข้อดีอีกอย่างของเหล็ก 2 ก็คือ .. ในกรณีที่มีอุปสรรคในสนามกอล์ฟเช่นบ่อทราย หรือ น้ำ .. หากตีโดนไม่ดี .. ลูกจะไม่พุ่งไปไกลมา .. ไม่เหมือนเราตีพวกแฟร์เวย์ หรือ พวกไฮบริด ซึ่ง ต่อให้ตีไม่ดี .. ลูกก็ยังไปได้ไกลแบบตกน้ำตกท่าเข้าป่าไปเลยก็มี ..
เหล็กยาวยังเหมาะกับการตีบนแฟร์เวร์ .. แฟร์เวย์บังเกอร์ และ ก็จากรัฟ




2.   แฟร์เวย์วูด (Fairway Woods)
ชื่อแฟร์เวย์วูด ก็บอกในตัวมันเองอยู่แล้วครับ ว่ามันถูกออกแบบและผลิตมาเพื่อให้เหมาะกับการตีในแฟร์เวย์ .. มักจะมีองศาหน้าไม้อยู่ที่ระหว่าง 15–17 องศา



ข้อดีของมันก็คือ .. พื้นที่หน้าแฟร์เวย์มีขนาดใหญ่ และ มวลของตัวมันเองก็มีมากพอที่จะส่งลุกให้ลอยออกไปได้อย่างง่ายดายกว่าการใช้เหล็กยาวเป็นอย่างมาก ..




แต่ก็นั่นแหละครับ .. ข้อดีมาพร้อมกับข้อเสียนั่นก็คือ .. มันไปได้ไกลก็จริง แต่ถ้าวิถีของการกระทบในการตีผิดพลาดไปละก็  มันจะทำให้ทิศทางมารวมกรับระยะทางที่ไกลของมันพาลูกกอล์ฟพุ่งผิดเป้าหมายไปไกลเลยทีเดียว ..
แต่ถึงอย่างไร .. แฟร์เวย์วูดก็ถูกนำมาใช้เป็นอุปกรณ์อันดับสองรองจากไดร์เวอร์ในกรณีที่นักกอล์ฟต้องการจะเลย์อัพ หรือที่เรียกกันว่า ตีวาง เพื่อจะได้เล่นช็อตต่อไป ..

3.   หัวไม้ไฮบริด (Hybrid Clubs)
ไฮบริด หรือที่เรียกว่า หัวไม้ไฮบริด ที่มักจะมีองศาหน้าไม้อยู่ระหว่าง 19-21 องศา .. หัวไม้ไฮบริดถูกออกแบบ และ ผลิตขึ้นมาจากการมองเห็นข้อดีและข้อบกพร่องของทั้งเหล็กยาว และ แฟร์เวย์วูด ..



โดยจับเอาข้อดีของทั้งสองชนิดมาผสมรวมกันกลายมาเป็นอุปกรณ์ที่เรียกว่า Hybrid Club .. เหมือนที่เราเรียกรถยนต์ที่วิ่งได้ทั้งระบบไฟฟ้าและระบบน้ำมันว่ารถยนต์ไฮบริดนั่นแหละครับ ..






หัวไม้ไฮบริด ตีได้ไกล .. ลูกกระทบหน้าไม้แม้ว่าจะไม่โดนดี ก็ยังพุ่งออกไปไกล  ไม่เหมือนการตีด้วยเหล็กยาวที่ถ้าพลาดจุดกึ่งกลางหน้าไม้เพียงนิดเดียวก็จะสูญเสียระยะในการตีไปเลย ..
หัวไม้ไฮบริด .. ให้วิถีของลูกที่ต่ำกว่าแฟร์เวย์วูด (ในองศาหน้าไม้เดียวกัน) และ มีวิถีของลูก สูงกว่าเหล็กยาว .. นั่นก็คือ ถ้าพูดในเรื่องวิถีของลูก ไฮบริดจะอยู่ตรงกลางระหว่างแฟร์เวย์วูด กับ เหล็กยาว .. ซึ่งตีแล้วไม่โด่งแบบแฟร์เวย์วูด แต่ก็ ไม่พุ่งถึงขนาดแบบเหล็กยาว ..

จากที่กล่าวมาข้างต้น .. นักกอล์ฟก็สามารถเลือกซื้อหาอุปกรณ์ทั้งสามอย่างมาใช้ได้ตามความถนัดของแต่ละท่านได้เลยครับ .. ซึ่งก็มีนักกอล์ฟจำนวนไม่น้อย .. เลือกที่จะมีทั้งแฟร์เวย์ และ ไฮบริด หรือ อาจจะมีเหล็กยาวรวมอยู่ในถุงกอล์ฟด้วยซ้ำไป ..

ขอจบบทความนี้ด้วยภาพวงสวิงสวยๆของโปรแหวนขวัญใจชาวไทยของเรานะครับ




ขอให้สนุกกับการใช้งานทั้งเหล็กยาว, แฟร์เวย์วูด และ ไฮบริดครับ ..

Create Date : 23 มิถุนายน 2558 Last Update : 23 มิถุนายน 2558 22:58:25 น. Counter : 6599 Pageviews.		0 comments
Share Tweet