Group Blog
 
 
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
20 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 
แจงแวง อินอเมริกา : ตอนที่ 2 : งาน


แจงแวงไกลบ้าน : ตอนที่ 2 : งาน

ในที่สุด สองสัปดาห์หลังจากนั้นก็มาถึงจนได้ เอาเข้าจริงๆ ตอนนั้นฉันยอมรับว่าโหวงเหวงและตื่นเต้นอยู่พอสมควร พี่เจ้าหน้าที่นัดเวลาตั้งแต่เช้า โดยช่วงเช้า จะเป็นการปฐมนิเทศขั้นต้น และตอนบ่าย จะเป็นช่วงชี้ชะตา คือสัมภาษณ์งานกันให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย ว่ายังไง แบบไหน อะไร



ฉันนั่งติดอยู่กับเพื่อนสนิท รอบข้างแวดล้อมไปด้วย ผู้คนอีกมากมายหลายหลากที่สมัครเข้าร่วมโครงการเดียวกับฉัน กะด้วยสายตาคร่าวๆตกอยู่ประมาณเกือบ 400 คนได้ เอาอีกละ ไม่รู้ว่าฉันแปลกเองหรือเปล่า แต่คนรอบข้างต่างก็ดูมั่นใจ เข้าใจ พร้อมๆกับที่หวาดกลัวว่าตัวเองจะสัมภาษณ์งานไม่ผ่านอีกแล้ว ทุกคนตั้งใจฟังการปฐมนิเทศและลงมือจดกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ประหนึ่งเรียนดาวองซ์



เท่าที่ฟัง ฉันไม่เห็นจะต้องจดอะไรเลย อาจจะเป็นเพราะว่า ฉันยังไม่มีความมั่นใจ หรือหลักประกันอะไรเลยก็ได้มั้ง ว่าจะได้ไปหรือเปล่า

มันดูเหมือนยังห่างไกลเหลือเกิน เอาเข้าจริงๆฉันว่าฉันไม่รู้จักอเมริกามากไปกว่าเทพีเสรีภาพ ทามแสควร์ แอลเอ ดิสนีย์ และฮอลลีวูด เลยมั้งน่ะ

หลังจากคำแนะนำของพี่เจ้าหน้าที่อันแสนจะยาวเหยียดแล้ว ก็เป็นการแนะนำนายจ้าง สามคน ที่บินตรงมาเพื่อสัมภาษณ์แรงงานต่างด้าวนักเรียนชาวไทยถึงที่ ฉันอดประทับใจไม่ได้ ถึงความทุ่มทุนสร้างของผู้จัดการของ แกรนด์แคนยอน เยลโลเนชันพาร์ค และ ฟิลลิปเรสเตอร์รอง

พี่เจ้าหน้าที่ ให้เราเลือกได้เองตามใจชอบ ว่าจะไปทำงานกับที่ไหน แล้วก็รอคิวสัมภาษณ์ ฉันกับเพื่อนไตร่ตรองกันหกสิบห้าตลบ แล้วเราก็เลือกที่จะสัมภาษณ์งานกับร้านอาหารดีกว่า อย่างน้อยก็น่าจะประหยัดค่ากิน -*-


คนเลือกไปสัมภาษณ์กับที่นี่เยอะเชียวหล่ะ
ต่อแถวกันยาว ไม่แพ้ที่แกรนด์แคนยอนเลย
ข้อแม้คือ สามารถเลือกได้ที่ใดที่หนึ่งในสามที่นี้เท่านั้น
ถ้าพลาด ก็วืดเลย...


คิวของฉันใกล้เข้ามาทุกที ฉันนั่งอยู่ข้างๆกับเพื่อน คุยกันไปเบาๆว่า ถ้าได้เสริฟ์นะ คงจะได้ทิปดีมากๆ จะตื่นเต้นเป็นภาษาอะไรดีเนี่ย 5555 แต่ไม่ใช่แค่เรื่องที่ฟังแล้วดูดีมีสุขขนาดนี้เรื่องเดียว การหวังมันย่อมจะมีผิดหวังด้วย หลายๆคนที่ออกมาจากห้องสัมภาษณ์ ก็ไม่ได้งานอะไรก็มี ทั้งๆที่ดูแล้ว ภาษาดี บุคลิกก็ไม่ได้เลวร้าย

ฉันคิดในใจ สงสัยเขาวัดจากการถูกชะตา -*-


ฉันถูกเรียกสัมภาษณ์พร้อมๆกับเพื่อนสนิทพอดี..
เอาละวุ้ย ใจมันเริ่มเต้นส่ำๆร่ำๆระรุมพิกล มืออยู่ดีๆก็เหมือนมันกลายเป็นปลาสดที่แช่ในน้ำแข็ง เย็นเฉียบขึ้นมาซะอย่างนั้น



ฉันและเพื่อนเปิดประตูเข้าไป ถูกเชิญให้ไปนั่งต่อหน้า ตัวต่อสองตัว ผู้สัมภาษณ์เป็นชายวัยกลางคน รูปร่างสูงโปร่ง หนวดเคราขึ้นครึ้มพอที่จะทำให้เสียงที่เปล่งออกมา มันขมุกขมัวนัก และนั่น... มันทำให้ฉันเกิดปัญหา........




ฟังไม่รู้เรื่องเลย -*-



ไม่ใช่ว่าฉันไม่เข้าใจความหมายที่เขาพูด แต่ฉันไม่ได้ยินชัดนักว่าเขาพูดว่าอะไรนี่สิ ทำให้ฉันต้องคอยบอกให้เขาพูดอีกครั้งหนึ่ง อีกครั้งหนึ่งตลอด ทั้งๆที่เขาก็พูดช้าแล้วนะ แต่ฉันก็ไม่ได้ยินอยู่ดีว่า คำช้าๆที่เข้าพูดออกมาน่ะ ...มันถามว่าอะไร



ไม่ต้องสงสัย......เอาแห้วไปกินทั้งคู่สิคะท่านผู้อ่าน - -*



ไม่ต้องอธิบายว่าจะจ๋อยขนาดไหน ฉันและเพื่อนเดินออกมาจากห้องพี่เจ้าหน้าทีปรี่เข้ามาถามว่า เป็นอย่างไรบ้าง ได้งานไหม ตำแหน่งไหน เมื่อฉันส่ายหน้า พี่เข้าก็พาไปอีกห้องหนึ่ง เป็นห้องที่จะให้เซ็นชื่อว่า ไม่ผ่านสัมภาษณ์ และจะกลายเป็นว่า ต้องรองานจากการเลือกของนายจ้างอีกทีหนึ่ง ซึ่งบอกไม่ได้ว่าจะรู้เมื่อไหร่


สมองฉันว่างเปล่า เซ็นชื่อไปกับเพื่อน ตามองดูในกระดาษ มีอีกหลายสิบ ดีไม่ดีเป็นร้อยคนก่อนหน้าฉันที่ไม่ผ่านเหมือนกัน...


“น้องเป็นเพื่อนกันใช่ไหมคะ ถ้าอยากไปด้วยกัน น้องช่วยเขียนชื่อและระบุเลขประจำตัวน้องไว้ด้วยละกัน เวลาพี่ส่งใบสมัครไปที่โน่น จะได้ส่งของน้องไปพร้อมๆกันทุกที่”



ฉันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นในใจอีกครั้ง...มีความหวังแปลกๆอีกหน พี่เจ้าหน้าที่อธิบายว่าจะต้องส่งใบสมัครไปหลายๆที่ และรอให้ที่โน่นเลือกมา ช้าเร็วบอกไม่ได้ และอาจจะโดนจับแยกก็ได้ แล้วแต่ความพอใจของฝ่ายโน้น ฉันรู้สึกเหมือนซูชิจานเวียน ถ้าเขาอยากกิน เขาถึงหยิบสินะ โอ้ววววววววว ฉันเป็นซูชิส่งออก..



หลังจากนั้น เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จากคืนเป็นวัน วันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน และกลายเป็นหลายเดือน ระหว่างนั้น ฉันยังต้องดำเนินเรื่องจัดการเอกสาร เพื่อเตรียมของวีซ่า ฉันสงสัยว่า ในเมื่องานยังไม่ได้ตอบรับมา ฉันต้องเสียเงิน 4000 บาท ขอวีซ่าไปเพื่ออะไร แต่ฉันก็เตรียมๆไป อย่างน้อยที่สุด ก็ได้เตรียมพร้อม ถ้าถึงเดือนกุมภาพันธ์แล้วยังไม่มีการติดต่อใดๆกลับมาอีก ก็แค่ไม่สั่งจ่ายธนาณัติ - -*
เท่านั้นล่ะ......


เมื่อเวลาล่วงถึงเดือนกุมภาพันธ์ ค่อนไปทางปลายเดือนได้ วันหนึ่ง หลังจากที่ฉันนั่งกลุ้มว้าวุ่นกับชีวิตตัวเองและตัดสินใจได้ในเช้าวันนั้นแล้ว ว่าจะบอกเพื่อนสนิทว่า.. ฉันไม่ไปแล้วล่ะ ไม่ไปขอวีซ่า ทำไมต้องไป เปลืองเงิน ฉันเอาเงินไปแบคแพคสิงคโปร์ดีกว่า 4000น่ะ เกือบครึ่งหมื่นนะเว่ย เอาไปเสี่ยงกับอะไรที่ไม่รู้ชะตากรรม ฉันตัดสินใจแน่วแน่....


แต่....เหมือนว่าเขาจะรู้ (ใคร? -*-) เอาน่ะ ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพอดี กับที่มันจะร้องเตือนเสียงดัง .....


มือไม้ถึงกับอยู่ไม่สุข หลังจากที่พี่เขาโทรมาบอกว่าน้องได้รับการติดต่อมาแล้วจากที่นู่น สถานที่ที่จะได้ๆไปคือ
“บอยเน่ เม้าเท่นรีสอร์ท รัฐมิชิแกน”
ตำแหน่งคือ Housekeeping ค่าแรง ชั่งโมงละ 7 เหรียญ
และพี่เขาร่ายยาวอะไรต่อมิอะไรมาอีกเยอะแยะ แต่ฉันไม่ได้ยินอะไรแล้วตอนนั้น มัวแต่งง สับสน ตื่นเต้น ตกใจ และยิ่งไปกว่านั้น คือ เพื่อนฉันมันไม่ได้ไปด้วย.....



ฉันอาจจะได้ไปคนเดียว หรือไปกับใครก็ไม่รู้...

ยังไงต่อล่ะทีนี้..





to be continued



Create Date : 20 ธันวาคม 2550
Last Update : 20 เมษายน 2551 18:11:36 น. 8 comments
Counter : 333 Pageviews.

 
Merry Christmas Happy New Year ka


โดย: saralove&Dan วันที่: 20 ธันวาคม 2550 เวลา:14:37:02 น.  

 
Merry X mas ja

เหมือนจะไม่ได้ แต่ได้ซะงั้น อาการนี้เคยเจออ่ะ งานที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็เหมือนกัน


โดย: กบ IP: 61.19.242.176 วันที่: 20 ธันวาคม 2550 เวลา:17:12:13 น.  

 
แล้วไง ต่อ คะ อยากรู้


โดย: chawarin วันที่: 20 ธันวาคม 2550 เวลา:19:31:32 น.  

 
นี่คืออดีตใช่มะ?


โดย: kirofsky วันที่: 20 ธันวาคม 2550 เวลา:23:02:01 น.  

 
อือ รอตอนต่อไป


โดย: ก้อนหินน้อย IP: 58.10.93.206 วันที่: 20 ธันวาคม 2550 เวลา:23:56:12 น.  

 
โอ้วว

ดีใจมีคนรออ่าน ^^~

รอไปก่อนนะจ๊ะ - -*




โดย: สะบะละเฮ่ยแจงแวง วันที่: 21 ธันวาคม 2550 เวลา:13:04:04 น.  

 
สนุกดี


โดย: อาร์ตตะลอน IP: 58.181.129.244 วันที่: 25 มกราคม 2551 เวลา:8:50:59 น.  

 
ไปมิชิแกนซะด้วย
เค้าว่าทะเลสาบอะไรก็ไม่รู้ที่สวยๆ
ท่าจะสนุกนะคะ


โดย: amp IP: 222.123.26.214 วันที่: 19 มิถุนายน 2551 เวลา:22:22:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สะบะละเฮ่ยแจงแวง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




^ - ^

..Welcome to Super Rainnie's World..

มีคนมาดูบลอกเกินสองหมื่นละ

ดีใจยังไงไม่รู้ T^T



แจงแวงอ่ะนะ

ก็เป็นคน ฉลาด ใจดี ขี้งก ตลกเฮฮา
สะระเยอะ เคอะเขิน ขี้อาย
ร้องไห้ง่าย ใจแข็ง - -*


เป็นผู้หญิงไม่เท่ - -*

ไม่เรื่องมาก

ไม่ง๊องแง๊ง ไม่งี่เง่า - -*

มีสิ่งเฝ้าฝันอยู่อย่างเดียวคือเที่ยวรอบโลก ^^~


เป็นผู้หญิงที่หาความสุข
เล็กๆน้อยๆในชีวิต ได้ง่ายมาก
เช่น กินโกโก้ร้อนแก้วนึง
กะ ฟังเพลง Owner of my heart ทุกเช้า
ก็สุขแล้ว


เย่ๆๆ




^^~

Friends' blogs
[Add สะบะละเฮ่ยแจงแวง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.