BlogGang.com : : สุริยาอัสดง : สัญญาน..มิคสัญญี ?

สัญญาน..มิคสัญญี ?

ไม่ว่าใครก็ตามที..นับตั้งแต่ฝ่าย"อำนาจรัฐ" ลงมาจนถึงฝ่ายปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องและมีส่วนเชื่อมโยงในสถานการณ์ อย่าได้หลบเลี่ยงละเลยที่จะยอมรับว่า เหตุการณ์วันอาทิตย์ที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๐ ที่ผ่านมาไม่ใช่"บาดแผล"(อันสำคัญ)ของประเทศไทย ที่ทุกคนในยุคสมัย(นี้) ต้องร่วมกันรับผิดชอบ ในผลกระทบถัดไปที่จะเกิดขึ้น และรวมถึงความเป็นไปในอนาคต ที่"ลูกหลาน"จะถามไถ่กลับมาว่า..เราท่านที่อยู่ร่วมในสถานการณ์ความเป็นไป ไยปล่อยให้มันเกิดขึ้น..

ภาพของประชาชน ตาดำๆที่ส่วนใหญ่เป็น"คนแก่"และ"ผู้หญิง"และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยปราบจราจล ในสภาพ บาดเจ็บเลือดอาบ...ไปทั้ง ๒ ฝ่าย

ควรหรือไม่ที่เราจะไปกล่าวหาเขา(ประชาชน)ว่าเป็น"พวกรับเงิน"เป็นพวก"กลุ่มอำนาจเก่า"เป็น"พวกทักษิณ" มีวาระแฝงเร้นในการเข้าก่อกวนปั่นป่วนเพื่อทำลายอำนาจรัฐ ที่อยู่ภายใต้ คมช.เพื่อให้"ทักษิณ"กลับมา...

นี่คือ"ข้อสงสัย-กล่าวหา"ที่ฝ่ายหนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามหรือจะเรียกได้ว่า"เลือกข้าง"มานานแล้ว ซัดทอดเข้าใส่ ชายชรา และหญิงชรา รวมไปถึงคนหนุ่มสาวที่เลือดอาบ..แบบ"สมน้ำหน้า"ประมาณว่าโดนลูกหลงจาก ก้อนอิฐก้อนหินที่เป็น"อาวุธ"(ของฝ่ายเดียวกัน)ในการห้ำหั่นกับฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมือง

ที่ผลที่สุด เพียงแค่ภาพในมิติเดียวที่นำเสนอผ่าน"สื่อ"(ที่ฝ่าย นปก.เชื่อว่า อยู่ในความควบคุมของอำนาจรัฐ-ทหาร) แต่ก็ดูเหมือนจะเพียงพอที่"พล.อ.สนธิ"ผบ.ทบ."ประธานคมช."จะได้รับ"ความชอบธรรม"จากประชาชน มิบรวมไปถึงปฏิบัติการทาง"จิตวิทยา"ด้วยส่งความเห็นใจ ไปยัง"ตำรวจ"ที่ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์การปะทะกับประชาชน (ที่มีอาวุธ ไม้หน้าสาม ก้อนอิฐ และคำผุสวาท)

ขณะเดียวกันด้วยเนื้อหาการให้สัมภาษณ์ของ"พล.อ.สนธิ"ปฏิเสธไม่ได้ว่าลึกลงไปใน"ความหมาย"เสมือนหนึ่งจะบ่งชัดไปถึงจังหวะเวลาแห่ง"ความชอบธรรม"ของ"กองทัพ"ในการจะออกมาปฏิบัติการในบรรทัดถัดจากนี้ หากสถานการณ์"ม็อบ"ยังไม่รามือ และถึงจุด"อิ่มตัว"ที่ภาษาม็อบเรียกกันวาา"สุกงอม"โดย"พล.อ.สนธิ"ระบุทำนองว่า" ประชาชนดูเหมือนกำลังถาม และเรียกร้องให้ทหารออกมาควบคุมสถานการณ์บ้านเมืองให้สงบ"

ที่หากเทียบเคียง ก็อาจจะ เหมือนที่"ประชาชน"(ม็อบพันธมิตร)เคยเรียกร้องให้ทหารออกมา"ปฏิวัติ"ยึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของ"ทักษิณ ชิณวัตร"ที่ถูกกล่าวหาว่ามีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย อันเป็นที่มาของฉาก"ดอกไม้ที่ปลายปืน"อันสวยงาม(๒๐ก.ย.๔๙)

แน่นอน ณ หนนี้ หลังวันที่ ๒๒ ก.ค.๕๐ หากมีปฏิกริยาที่รุนแรงยากควบคุม จะด้วยเพราะ"หน่วยจรยุทธ์"ที่มีการจัดเตรียมไว้ของฝ่ายใดก็ตามที กระทำการในแบบ"น้ำผึ้งหยดเดียว"อย่างที่เคยเกิดขึ้นในเหตุการณ์"พ.ค.ทมิฬ"เมื่อปี ๒๕๓๕ ต่อเชื่อมกับ"สัญญานรุนแรง"ที่สื่อออกมาแล้ว แบบทำร้าย และทำลายทุกสรรพสิ่งที่ขวางหน้า ที่ ณ เวลานี้ ยังไม่มีใครรู้ว่าไอ้ที่ไปขว้างอิฐตัวหนอน และเอาไม้หน้าสามไปทุบกระจกสโมสร ทบ.หนุ่มๆหัวเกรียนๆนั้นเป็นใครกันบ้าง เพราะมีแต่เพียงการจับกุมบรรดาแกนๆที่ปราศรัยบนหลังคารถ และบรรดา หน่วย รปภ.รวมไปถึง"มวล"ของ"ม็อบ"บางส่วนไป

แน่นอน ว่า ปฏิบัติการของทหาร ในหนที่จะเกิดขึ้นครั้งนี้ มิอาจไม่ถูกมองว่า ย่อมเหนือกว่าปฏิบัติการของตำรวจ(ในคืนวันที่ ๒๒ก.ค.๕๐)ที่อยู่ในระดับ"แผนพิทักษ์เมือง"ขั้น๓ ที่ในความเทียบเคียง ในสภาวะเครียดขึงของอารมณ์ประชาชน อาจถึงระดับ"แผนปฐพี๑๔๙"ที่เคยนำมาประยุคใช้ในการ"รัฐประหาร"(๑๙ก.ย.๔๙)ด้วยเหตุผล(ขณะนั้น)ว่า ณ วันที่ ๒๐ ก.ย.๔๙ มีรายงานจากหน่วยข่าวว่าจะมีการก่อจราจลและมีการปะทะระหว่างประชาชน ๒ ฝ่าย ทำให้ทหารต้องตัดสินใจ"ยึดอำนาจ"

ดังนั้นจึงน่าสนใจ ในคำพูดของ"พล.อ.สนธิ"เกี่ยวกับ"ความต้องการของประชาชน"ให้"ทหารออกมา"ณ พ.ศ.นี้ที่ดูจะมีนัยยะอันสำคัญ ที่"สำคัญ"พอๆกับการที่"พล.อ.สนธิ"เข้าพบ"พล.อ.เปรม"และปรากฎถัดมาในการให้สัมภาษณ์ของ"พล.อ.เปรม"กับ"ความเป็นห่วง"ใน"สถานการณ์วุ่นวาย"ของบ้านเมือง...

แน่นอนในความสำคัญอันเชื่อมโยง..ระหว่างกองทัพ.."พล.อ.สนธิ"-"พล.อ.เปรม"และ"พล.อ.สุรยุทธ์"ย่อมมิอาจปฏิเสธโดยความลืมเลือน"สัญญาน"ที่เคยส่งผ่าน"ทหารเก่าไม่เคยตาย"ภายใต้ สภาพการณ์ความสัมพันธ์ในกระบวนการความเคลื่อนไหวเมื่อก่อนหน้าวันรัฐประหาร(๑๙ก.ย.๔๙)สักหลายเดือน.ของ"ทหารเก่า"

ผิดแต่เพียงหนนี้"สัญญาน"ที่ถูกส่งนั้น"ปฏิปักษ์"แห่งการเข้าโรมรันที่แท้จริงนั้นอาจมิใช่"ทักษิณ" เพราะก่อนหน้าของ"สัญญาน"นี้ และก่อนหน้าเหตุการณ์"ม็อบนปก.บุกบ้านสี่เสาเทเวศน์" มีปรากฎการณ์อันต่อเชื่อมมากมายเกิดขึ้นในบ้านเมือง กระทั่งเป็นที่มาของ"คำสั่งลับ"จากใครคนหนึ่ง ณ ดีเดย์ ๒ ทุ่ม ค่ำวันที่ ๒๒ ก.ค.๕๐ ในการเข้าปฏิบัติการ ของ"กำลังแฝง"ที่ในทางการม็อบและการทหารเรียกว่า"หน่วยจรยุทธ์"ที่มีทั้งในสภาพเปิดและปิด

ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนจะนำมาซึ่งการสั่งปฏิบัติการของกำลังส่วนนี้(ที่ต่อมาตำรวจในชุดควบคุมฝูงชนตั้งแต่กลางวัน ยอมรับกับหลายส่วนว่าไม่รู้ว่ากำลังที่ออกมาจากสโมสร ทบ.ข้างๆบ้านสี่เสาที่ดูพรักพร้อมและดุดันนั้นมาจากหน่วยใด ย่อมเกี่ยวพันไปถึงเนื้อหาที"จักรภพ เพ็ญแข"กระพือโหมเข้าใส่"พล.อ.เปรม"(ที่นายทหารคนสนิทบอกว่า"พล.อ.เปรม"ได้ยินการปราศรัยโจมตีตลอดทุกเนื้อหา แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร)และ"พล.อ.สนธิ"ต่อประเด็น"แฝงเร้น"อัน"ไม่ธรรมดา"ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา และทำท่าว่าจะขยายความไปถึง"รัฐธรรมนูญ๕๐"ในหมวดต้นๆที่เชื่อมโยงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง

น่ากังวล กับสภาวะความโกรธแค้นของประชาชนซึ่งถูกระบุว่าเป็น"เสียงส่วนน้อย"ที่มีต่อคำคืน "มิสสัญญี" ที่แม้จะถูกบ่งหนองที่กลัดตัวอักเสบจนคลายไปในระดับหนึ่ง แต่สภาพการณ์และ"สัญญาน"ที่ออกมาดูจะยังไม่มีอะไรดีขึ้น แต่กลับจะทำท่าว่าจะบานปลายต่อไป กับสภาพ"ความอึดอัด"ของคนกลุ่มหนึ่งที่ถูกผลักดันให้ไปเป็น"เสียงส่วนน้อย"ในสังคม เพียงเพราะเจตจำนงค์ในการลุกขึ้นมาต่อสู้ของพวกเขาไปสอดรับกับทิศทางของ"กลุ่มอำนาจเก่า"ทั้งที่ในแต่ละขบวนการความเคลื่อนไหวล้วนแล้วแต่มี"จุดหมายปลายทาง"เพื่อชีวิต(ปากท้อง)ของพวกเขาในสภาวะที่"อำนาจอธิปไตย"(บริหาร-นิติบัญญัติ-ตุลาการ)ภายใต้รัฐบาล-คมช. ยังมิได้เป็นของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง ที่มันกำลังส่งผลกระทบถึงพวกเขา(ปัญหาค่าเงินบาท-เศรษฐกิจ-การตกงาน-เป็นหนี้-ปัญหาสังคม-อาชญากรรม)

นี่เป็นสภาพ"ความเป็นจริงของชีวิต"..ที่ในทางหนึ่งมิอาจปฏิเสธว่ามันจะถูกนำมาเป็น"เครื่องมือ"ในการที่"ม็อบ นปก." หรือม็อบนักวิชาการ-นักศึกษา ที่คัดค้านร่างรัฐธรรมนูญ๕๐ หรือแม้กระทั่งฝ่าย"อำนาจรัฐ"จะหยิบใช้...ในกระบวนการของการนำไปสู่ภวะ"สุกงอม"ของสถานการณ์ต่อต้านคณะ คมช.และคณะหรือกระบวนการสร้าง"ความชอบธรรม"แห่งพันธกิจ เพื่อเร่งนำไปสู่"สภาพปกติ"มีรัฐธรรมนูญ-เลือกตั้ง ..

ที่แน่นอน ถึงที่สุด สำหรับฝ่าย"ม็อบต้านรัฐประหาร"ย่อมติดตามมาด้วยกระบวนการของ"มวลชน"(ผู้ใช้แรงงาน-เกษตรกร -ผู้เดือดร้อนจากสารพัดปัญหาฯลฯ)ที่ย่อมมิใช่มีเพียงการถูก"จัดตั้ง"จากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจำเพาะแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ที่จะออกมาเคลื่อนตัวบนท้องถนนเส้นเดิมที่ใครต่อใครเคยย่ำเดินเพื่อเรียกร้อง ทวงถาม ขับไล่ ผู้มี"อำนาจรัฐ"มาแล้วในอดีต(ล่าสุดม็อบเครือข่ายหนี้สินเกษตรกรมากำลังทะยอยเข้ากรุงเทพฯชุมนุมหน้ากระทรวงเกษตรร่วมหมื่นคน-๒๗ก.ค.๕๐)

ดังนั้น ด้วยภาพความเป็นจริงของชีวิต(ปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้อง) ที่กำลังเกิดขึ้น และนำไปสู่การบรรจบ"ความสุกงอม"..ด้วยฉากภาพ เลือด-น้ำตา-ความรุนแรง (๒๒ก.ค.๕๐)ระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่บ้านเมือง..กับ"ภาพเชิงซ้อน"ซึ่ง"อำนาจ"ที่กำลังดำเนินไปในจุดของ"ความเปลี่ยนแปลง"และ"ภาพซ้ำๆ"ในวัฎจักรเดิมๆอันวนเวียนทางการเมือง-กองทัพ และระบบการปกครองอันมีแนวโน้มจะพลิกย้อนกลับไปสู่รูปแบบเมื่อก่อน ๑๕ ปีก่อน (พ.ค.๒๕๓๕) ที่ล้วนแล้วแต่มี"ตัวละคร"หน้าเดิมๆ(อายุมากขึ้น)ยังคงวนเวียน ในสภาพเดิมแห่ง"ผู้รับผล"(ในทางร้าย)ไม่ว่าจะออก"หัว"หรือ"ก้อย"ก็ล้วนแล้วแต่มาลงที่"ประชาชน"วันยังค่ำ

สถานการณ์ที่ยังคงมีการ"แบ่งฝ่าย" อันกำลังบ่มเพาะไปสู่ความ"สุกงอม" สภาวะแห่ง"อารมณ์" และสภาวะ"ความจริงของชีวิต(ปากท้อง)"และ"สัญญาน"(ฝ่ายอำนาจ) อย่างนี้ จึง น่าห่วงกับสภาวะการ"จุดติด" อันอาจนำไปสู่ภาวะ"มิคสัญญี"ของบ้านเมืองได้ หากไม่มีใครลดราวาศอกแก่กัน

ที่สำคัญ เมื่อถึงเวลาเกิดอะไรขึ้น(ภาวนาให้อย่าไปถึงจุดนั้น) หนนี้ดูท่าจะยากที่จะ"หยุด"โดยง่าย เหมือนที่ผ่านมาที่เรายังหา"คนกลาง"มาเป็น"กรรมการ"ห้ามได้ - ตราบจนกว่าทุกฝ่าย(ทั้งผู้ใหญ่-ผู้น้อยในผู้มีอำนาจ)จะรู้จัก"พอ"และรู้จักการ"ให้"(ประชาชน)อย่างแท้จริง(จริงๆ)นั่นแหล่ะ!!
-----------------
หมายเหตุ จากคอลัมน์"ดอกไม้หลายสี"โดย "ศักดา จิวัธยากูล" จาก เวปไซต์ สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น.
//www.innnews.co.th

Create Date : 29 กรกฎาคม 2550

Last Update : 29 กรกฎาคม 2550 10:20:08 น.

3 comments

Counter : 1346 Pageviews.

ฝากไว้นิด
สมญาพล.อ.เปรม คือ "นักฆ่าลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา"
ที่ไม่ได้มาเพราะท่าเอียงคอหรือพูดเนิบๆพูดน้อยๆ
แต่เพราะอะไร ก็ใช้สมองไตร่ตรองเอาแล้วกัน...

งานนี้จบไม่จบไม่ทราบได้

Whatever will be will be!!!!!!

โดย: จอมยุทธไร้เงา (เฒ่าน้อย

) วันที่: 29 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:04:25 น.

• นี่ๆตัวเองอ้วนมากไปแล้วขาก็ใหญ่พุงก็โย้แขนยังกะนักมวยปล้ำมาที่นี่นะเราช่วยได้//goodlife.blog.ac

โดย: Sirikarm IP: 125.24.44.112 วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:09:03 น.

ครูจูหลิง เหยื่อโจรใต้ สิ้นใจแล้ว

" ครูจูหลิง " เหยื่ออำมหิตโจรใต้ สิ้นใจแล้ว หลังนอนเป็นเจ้าหญิงนิทรา มานานกว่า 7 เดือน

ความคืบหน้าอาการของครูจูหลิง ปงกันมูล ซึ่งเริ่มทรุดหนักลงตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา(8ม.ค.2550) ขณะนี้ได้เสียชีวิตแล้ว ท่ามกลางความเศร้าสลดของทุกฝ่าย โดยเฉพาะนายสูน และนางคำมี พ่อ-แม่ ของครูจูหลิง ที่เฝ้าดูอาการของลูกสาวที่เตียงคนไข้จนถึงวาระสุดท้าย ทั้งนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่อย่างสุดความสามารถนับตั้งแต่เข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์นานกว่า 8 เดือน หลังจากที่ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ปีที่แล้ว

โดยขณะนี้ทางคณะแพทย์ได้ถวายรายงานให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับทราบ และกำลังอยู่ระหว่างเตรียมการในเรื่องของการส่งตัวกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.เชียงราย ตามความต้องการของพ่อ-แม่
************************

Last Update : 8 มกราคม 2550 17:57:00 น.

โดย: ฝากไว้ในลายมือ 0 coment IP: 125.25.167.209 วันที่: 3 สิงหาคม 2550 เวลา:12:13:24 น.