Group Blog
 
 
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
19 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
พิภพอำพราง ตอนที่ 2

พิภพอำพราง
โดย อำพันเรขา



เสียงหัวหน้าชุดไล่ล่าตะโกนสั่งอีกครั้ง

“ยิง!”

ชายฉกรรจ์ คณะผู้ติดตามรัวห่ากระสุนไปยังร่างอสูรสัตว์เหล่านั้นทันที

ปัง...ปัง...ปัง...
เสียงปืนดังก้องทั้งแนวป่า ก่อนเงียบสงัดไปคล้ายไม่มีอะไรเกิดขึ้น

-------------------------------------------------


แสงแดดแผดกล้าบนฟ้าเปลือยเวลาเที่ยงวัน…
รถยนต์สีฟ้าน้ำทะเลคันมินิวิ่งตะบึงอ้อมตามถนนลูกรังที่ทอดยาวผ่านแนวป่าดิบเขาสูงสล้างเขียวขจีแม้ยามหน้าแล้ง ฝุ่นแดงตลบอบอวลม้วนเป็นเกลียวคล้ายม่านอาถรรพ์

“ไกลเหมือนกันนะ บ้านคุณเนี่ย เห็นสวยๆอย่างนี้ ไม่คิดว่าจะอยู่หลังเขา”

พัสสน... ชายหนุ่มผิวขาวหน้าเข้มผู้ทำหน้าที่เป็นสารถีจำเป็นเอ่ยขึ้น จมูกโด่งเป็นสันยิ่งทำให้หน้าตาคมเข้มนั้นดูเด่นยิ่งขึ้น

“บ่นไปได้ ยังไม่แก่สักหน่อย เลยโค้งข้างหน้านี้ไป ก็ถึงแล้ว”
พิมาลาค้อนวงใหญ่ พัสสนเหลือบมองแล้วอมยิ้ม หญิงสาวร่างเล็ก ผมยาวรวบตึง ที่นั่งอยู่ข้างๆมักทำกิริยาเช่นนี้เสมอเวลาไม่พอใจ แต่เขาก็ชอบมอง... เพราะยิ่งค้อน ก็ยิ่งน่ารัก

“เลี้ยวตรงนี้แหละ”
หญิงสาวชี้นิ้ว พัสสนหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าถนนแคบ

บ้านสองชั้นหลังใหญ่สไตล์คันทรีหลังหนึ่งตั้งตระหง่าน ประดับประดาด้วยต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ที่ออกดอกสีชมพูสะพรั่งห้อยระย้าเป็นพวงราวกับดอกซากุระ ไม้ดอกไม้ประดับที่ตกแต่งโดยรอบชี้ให้เห็นว่าเจ้าของบ้านเป็นคนมือเย็น...

พัสสนดับเครื่องที่ลานกว้างด้านหน้าใต้ต้นมะม่วงอกร่องต้นใหญ่
พิมาลาเปิดประตู ก้าวลงจากรถ พัสสนยังคงนั่งทอดอารมณ์มองบรรยากาศร่มรื่นของบ้านป่า ไม่ยอมลงจากรถ

“จะต้องให้เอาพรมแดงมาปูรับหรือเปล่าเจ้าคะ ถึงจะเสด็จลงมาได้” หญิงสาวกอดอก แกล้งลอยหน้าลอยตาถาม

พัสสนส่ายหัวอดหัวเราะไม่ได้ เขาล็อครถก่อนเดินตามหลังพิมาลาเข้าไปในตัวบ้าน

ที่ระเบียงไม้ที่ยื่นออกมารับลมด้านนอก หญิงชราคนหนึ่งนั่งถักโครเชต์อย่างชำนิชำนาญอยู่บนเก้าอี้โยก แม้อายุจะปาเข้าไปห้าสิบเศษแล้ว แต่ลดาก็ยังคงสนเข็มได้ไม่แพ้หนุ่มสาวบางคน

พิมาลากับพัสสนเดินตรงเข้ามาหาลดาแล้วยกมือไหว้

“คุณแม่คะ”

ลดาละสายตาจากผ้าพันคอที่กำลังถัก เงยหน้าขึ้นมอง

“ลูกพิม”

หญิงชราเผยยิ้มอย่างดีใจ พิมาลาตรงเข้าไปกอด ผู้เป็นมารดาหอมแก้มลูกสาวฟอดใหญ่ด้วยความคิดถึง ลูบศีรษะไปมาด้วยความเอ็นดู

“จะมาทำไมไม่บอกแม่ก่อนล่ะลูก”

“หนูไม่อยากให้คุณแม่ยุ่งยากน่ะค่ะ พอดีปิดเทอมใหญ่ หนูก็เลยชวนเพื่อนที่มหาลัยมาเที่ยวบ้าน นี่...พัสสนเพื่อนหนูค่ะ”

“สวัสดีครับ คุณแม่”

พัสสนยกมือไหว้หญิงชราด้วยความนอบน้อม

“ไหว้พระเถอะลูก”

ลดามองหน้าพัสสนอย่างพินิจพิจารณา แล้วหันมายิ้มกับพิมาลาอย่างรู้ทันตามประสาผู้ใหญ่ที่อาบน้ำร้อนมาก่อน หญิงสาวรีบก้มหลบตาลงต่ำแก้มแดงเขินอาย

“เหนื่อยไหมลูก ขับรถมาไกล” ลดาถามพัสสน

“นิดหน่อยครับ”

“บ้านป่าบ้านดอยก็อย่างนี้แหละ หนทางกันดาร ยังไงก็เชิญตามสบายเลยนะ”

“ขอบพระคุณครับ” พัสสนยิ้มรับ เผยลักยิ้มน้อยๆที่แก้ม

“พิมาลา”
หญิงนางหนึ่งอายุไล่เลี่ยกับพิมาลาเดินลงมาจากบันไดชั้นบน พร้อมอุ้มทารกน้อยไม่ถึงขวบจ้ำม่ำน่ารักน่าชังมาด้วย พี่เลี้ยงที่ดูหน้าตาแม้ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านเดินตามมาข้างหลัง

“พี่แพร... หวัดดีค่ะ” พิมาลากล่าวทักทายกับเธออย่างสนิทสนม
“จ้า มานานแล้วเหรอ”
“เพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้เองค่ะ”

พิมาลารับหลานชายมาอุ้มจากพี่สาว หอมแก้มเด็กน้อยซ้ายทีขวาทีด้วยความหมั่นเขี้ยว

“เจ้าตัวน้อยมานี้ซะดีๆอยากฟัดจะแย่อยู่แล้ว”

เหมือนแพร...เข้ามากระซิบที่ข้างหู
“แล้วนี่พาใครมาด้วยล่ะ จะไม่แนะนำให้พี่รู้จักหน่อยเชียวเหรอ”

“แนะนำสิคะ นี่ พัสสนเพื่อนพิมค่ะ... พัส นี่พี่แพร พี่สาวรัก”

“หวัดดีครับ”

“สวัสดีค่ะ”
เหมือนแพรยิ้มใส พลางนึกในใจว่า... หนุ่มคนนี้มีอะไรดีหนอ ถึงได้พิชิตใจพิมาลาน้องรักจอมเรื่องมากของเธอคนนี้ได้ ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นพิมาลาพาเพื่อนผู้ชายมาที่บ้าน!!!

“พิมขอตัวพาพัสขึ้นไปที่ห้องพักก่อนนะคะ”

เหมือนแพรหันไปสั่งสาวใช้ที่ตามมาด้วย
“แจ๋น...เอาของที่รถคุณพิมขึ้นไปเก็บด้วย”

“ค่า”
สาวใช้สำเนียงพูดไทยไม่ค่อยชัด รีบคลานเข่าออกไป
พัสสนหัวเราะในท่าทางเซ่อๆซ่าๆของเธอ

“แจ๋นเป็นเด็กที่นี่น่ะค่ะ เป็นคนซื่อๆ ไม่มีพิษมีภัย แต่บางทีซื่อเกินไปจนทำให้ปวดหัวก็มี”

พิมาลาพาพัสสนขึ้นบันไดไปยังห้องพักรับรองที่อยู่ชั้นสอง
“พักห้องนี้นะ ผนังด้านโน้นทำเป็นกระจกโปร่งใส ไว้ชมวิว”

พิมาลารูดสายผ้าม่านเผยให้เห็นประตูกระจกใสบานใหญ่ มองออกไปเห็นทิวเขาปกคลุมด้วยผืนป่าเขียวชอุ่มสลับซับซ้อนเป็นฉากหลัง

“โอ้โห วิวสวยมากเลยจริง ๆ”

พัสสนเลื่อนประตูกระจกใสออก เดินออกไปนอกระเบียง

“คอยดูตอนเย็นสิ ยามพระอาทิตย์ตกน่ะ ยิ่งสวย”

“มีบ้านบนดอยในที่สวย ๆ อย่างนี้ ไม่น่าหนีไปเรียนที่กรุงเทพเลยนะ”

“พิมก็อยากไปเปิดหูเปิดตา เรียนรู้โลกภายนอกมั่งสิ จะให้เป็นสาวป่าสาวดอย เข้าป่าล่าสัตว์จนตายเลยหรือไงคะ”

น้ำเสียงเหน็บแนมแกมประชดของพิมาลาเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่พัสสนฟังเท่าไรก็ไม่เบื่อ

เขาจ้องหน้าพิมาลา ส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้ม ชนิดสาวคนไหนถ้าได้เห็น คงต้องระทดระทวยยอมทอดร่างเป็นแน่

ทั้งสองสบตากัน นิ่งอึ้งไปทั้งคู่...

พิมาลารู้สึกวูบวาบ เลือดในตัวร้อนผ่าว จนต้องรีบตัดบท

“เอาล่ะ พักผ่อนซะ นั่งรถมาทั้งวัน”

พิมาลาหันหลังลุกลี้ลุกลนจะออกจากห้อง

“เดี๋ยว...” พัสสนเรียก

พิมาลาหันกลับมา มองที่ชายหนุ่มอย่างสงสัย

“คืนนี้มานอนเป็นเพื่อนหน่อยสิ นะ... พิมนะ” พัสสนกระเซ้าเสียงออดอ้อน

“บ้า...คนเค้าจะได้ลือกันทั้งดอยว่าชั้นผิดผีน่ะสิ”
พิมาลาค้อน รีบออกจากห้องอย่างไม่ทันระวังจนเผลอชนขอบประตูจังเบ้อเร้อ

เธอค่อยๆหันมามองว่าพัสสนเห็นความเปิ่นของเธอหรือเปล่า

พัสสนจ้องพิมาลาตาไม่กะพริบ กลั้นหัวเราะแทบตาย เพราะกลัวแฟนโกรธ

“ขำอะไร ไม่เคยเห็นคนเดินชนประตูหรือไง”
พิมาลาขึ้นเสียงดัง แก้เขิน ก่อนรีบสะบัดหน้าออกจากห้องไป

พัสสนส่ายหน้าคิดในใจ... รู้จักกันมาเกือบ 2 ปี ยังไม่เคยมีอะไรเกินเลยกับเธอเลยสักครั้ง... พอจะเข้าได้เข้าเข็มทีไรเป็นอย่างนี้ทุกที !!!



Create Date : 19 เมษายน 2553
Last Update : 14 พฤษภาคม 2553 7:51:14 น. 0 comments
Counter : 302 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดับตะวัน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ดับตะวัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.