|
|
| | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
| 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
| 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
| 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
| 28 | 29 | 30 | |
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
การดำเนินชีวิตภายใต้กฏธรรมชาติ
ไม่ค่อยได้พูดถึงเรื่องธรรมสักเท่าไรพักนี้ ไม่ใช่เบื่อหรอก แต่กลัวคนที่มาอ่านจะเบื่อมากกว่า เลยพาเที่ยวซะหลายที่
ตอนนี้ได้เวลากลับมาจริงจังกันต่อล่ะ เมื่อเช้านอนคิดเรื่องของธรรมทั่วๆ ไป แล้วก็ได้เป็นข้อสรุปออกมาที่เราคิดว่า มันน่าสนใจดี เลยอยากเอามาแปะไว้ เผื่อเป็นการจุดประกายความคิดอะไรให้ผู้อื่นได้บ้างค่ะ
หลายคนคงเคยสงสัยว่า เราเกิดมาทำไม มีจุดมุ่งหมายอะไร ต่างก็พยายามค้นหาคำตอบ บางคนก็เข้ารกเข้าพงไปเลยว่า เกิดมาเพื่อใช้ชีวิตให้คุ้มด้วยการ กิน ดื่ม เที่ยว เสพความสุขทางโลกให้มากที่สุด
ในมุมมองของเราเมื่อได้ศึกษามาพอเอาตัวรอดได้ เราคิดว่า การดำเนินชีวิตของคนเรา แท้จริงมันเป็นการเปลี่ยนแปลงของรูปและนาม ในลักษณะของการเกิดดับ โดยรูปนามเก่าเกิดแล้วดับไป รูปนามใหม่ก็เกิดต่อ เป็นการต่อเนื่องอย่างเร็ว
โดยการเปลี่ยนแปลงรูปนามนั้น หากมีเจตนากำหนดให้มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดผลบางอย่างขึ้น ชุดของการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ จะมีผลเกิดขึ้นหลายอย่าง ทั้งตามกฏแห่งกรรมและกฏธรรมชาติอื่นๆ
โดยชุดของการกระทำนั้นๆ มีทั้งเกิดขึ้นโดยมีเจตนาหรือตั้งใจให้เกิด กับไม่ได้เจตนาแต่เป็นอุบัติเหตุ หากมีเจตนา การกระทำนั้น เราเรียกว่า กรรม
หากเกิดขึ้นโดยมีเจตนาอันเป็นกุศล อันประกอบด้วยปัญญา ผลของกรรมหรือวิบากกรรมนั้น ก็จะเป็นวิบากที่ดี
และในทางตรงข้าม หากกรรมนั้นเกิดจากเจตนาเป็นอกุศล อันเนื่องมาจากกิเลส ผลกรรมหรือวิบากกรรมนั้น ก็จะเป็นวิบากไม่ดี
การกระทำต่างๆ ของคนเรานั้น มักจะอยู่ภายใต้กฏมากกว่าหนึ่ง คือนอกจากกฏธรรมชาติแล้ว ยังมีกฏแห่งกรรมอยู่ด้วย
แต่คนที่ชอบกล่าวว่า ทำดีแล้วไม่เห็นรวย แต่คนโกงสิรวยเอาๆ แบบนี้เหมือนกับทำดีไม่ได้ดี ทำชั่วกลับได้ดี
เป็นเพราะคนนั้นๆ มองแต่กฏของธรรมชาติข้ออื่น ซึ่งมันก็เป็นไปตามเหตุปัจจัยของมัน คือ ถ้าขโมยเขามาหรือซื้อมาถูก แล้วขายแพง แน่ล่ะ กำไรมันย่อมมากกว่า เพราะมันก็เป็นไปตามกฏ
แต่กฏแห่งกรรมมันซ้อนอยู่อีกทีหนึ่ง คือ เจตนาที่คนเราจะเลือกวิธีขโมยแล้วเอาไปขายนั้น เป็นเจตนาอันมาจากกิเลสคือ ความโลภ ดังนั้นวิบากกรรมที่คนนั้นจะได้รับ ก็ย่อมเป็นวิบากไม่ดี อย่างเช่น ในอนาคต ทรัพย์สินของคนนั้นๆ ก็จะถูกขโมยบ้าง หรือเสียหาย
แต่เนื่องจากการแสดงผลของกรรมนั้น เป็นเรื่องซับซ้อนมาก ไม่อาจบอกได้ว่า ผลจะเกิดเมื่อไร อย่างไร กรรมบางอย่างทำในชาตินี้ แต่ผลอาจจะไปเกิดในชาติหน้าหรือต่อๆ ไป ก็ได้
เมื่อผลของกรรมไม่ได้ปรากฏให้เห็นในทันทีทันใด ไม่เหมือนกับกฏธรรมชาติอื่นๆ ก็ย่อมจะทำให้คนหลายคนไม่เชื่อในเรื่องของกฏแห่งกรรม
ดังนั้น คงต้องกล่าวว่า เป็นเรื่องของศรัทธาหรือความเชื่อของแต่ละบุคคลในการเลือกทางเดินของชีวิตว่า จะอิงกับกฏของธรรมชาติเฉพาะที่สามารถพิสูจน์ จับต้องได้ด้วยแต่เพียงกฏเดียว หรือ ตระหนักถึงกฏแห่งกรรมที่ซ้อนทับอยู่ด้วยค่ะ
ขอความเจริญในธรรมจงบังเกิดกับทุกๆ ท่านนะคะ
ขอบคุณค่ะ
| Create Date : 25 พฤศจิกายน 2553 |
| Last Update : 28 มกราคม 2554 13:46:44 น. |
|
6 comments
|
| Counter : 651 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
ต้องเตือนตัวเองไว้เนือง ๆ ว่านี่มันเป็นแค่ want นะ ไม่ใช่ need (กรอบแล้วยังไม่เจียมอีกง่ะ T_T)
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [
อรุณสวัสดิ์นะคะคุณ good thinking