ภูกระดึง.. ไปเก็บเมเปิ้ลอีกรอบก่อนเดินลง..
28 พ.ย. 2552
วันนี้ตื่นสายค่ะ เพราะเมื่อวานเล่นเดินทั้งวัน ขาระบมไปหมดเลย..แล้ววันนี้ต้องลงแล้ว ก็เลยเก็บของก่อนที่จะไปทานข้าว ประมาณ 10 โมง ก็เอาสัมภาระไปชั่งนน. แล้วค่อยไปทานข้าวเช้ากัน
ประมาณ 10.30 น. ก็เดินเข้าไปเส้นทางน้ำตกอีกครั้ง.. ทีแรกนิดเข้าใจว่า ต้นเมเปิ้ล ที่เห็นมันอยู่แถวๆน้ำตกวังกวาง ก็คิดว่าแค่ไม่กี่ร้อยเมตร..เดินแป๊บเดียวเดี๋ยวก็ออกมาแล้ว..
แต่ปรากฎว่า จำผิดค่ะ..
ต้นเมเปิ้ลมันอยู่ที่น้ำตกเพ็ญพบใหม่ ต้องเดินเช้าไปเกือบ 2 กม. แต่ตั้งใจแล้วว่าจะมาเก็บเมเปิ้ล.. ก็เลยต้องเดินเข้าไปอีกรอบค่ะ..
คงเพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ด้วย คนเลยค่อนข้างเยอะ.. พอเดินเข้าไปถึง..โอ้โห..ยิ่งกว่ารู้งานอีก.. แดงเต็มต้นแล้วค่ะ..
นี่ก็แดง..
มัวแต่เก็บเมเปิ้ลเพลิน..ใกล้เที่ยงแล้วเลยต้องรีบเดินออกมา..
ลาก่อนนะ ภูกระดึง..ถ้ามีโอกาส..ฉันจะกลับมาอีก..
เพราะเมื่อวานเดินเยอะไป วันนี้เท้าเริ่มเจ็บ กว่าจะเดินลงมาถึงตีนภูก็สี่โมงเย็น.. วันหยุดคนก็ขึ้นไปเยอะกว่าวันธรรมดา..
ลูกหาบที่กำลังรอคนลงมา..
ภูกระดึงทำให้รู้ว่าน้ำใจมีค่ามากมายแค่ไหน..ถึงบางอย่างจะสามารถตอบแทนด้วยเงินทองได้.. แต่น้ำใจและมิตรภาพระหว่างการเดินขึ้นและเดินเที่ยวบนภูกระดึง ไม่รู้จะตอบแทนด้วยอะไร.. นอกจากคำว่า "ขอบคุณ" ด้วยความจริงใจ..
การเดินขึ้นภูกระดึง ..ไม่ได้เป็นแค่การพิสูจน์ ความแข็งแรงของร่างกายเท่านั้น.. แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจ..ที่เพื่อนสามารถจะให้เพื่อนได้.. แม่ค้า ที่อยู่ระหว่าง ก็หยิบยื่นกำลังใจให้ผู้เดินทาง..ให้แวะพักและทักทายด้วยรอยยิ้ม.. ลูกหาบที่เดินสวนมา ก็ช่วยถ่ายรูปให้..แถมให้กำลังใจว่าอีกนิดเดียว..จะถึงแล้ว.. เพื่อนร่วมทาง..ที่ต่างก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน.. รวมทั้งคนที่เดินทางสวนลงมา..ต่างให้คำแนะนำและกำลังใจในการเดินขึ้นไปให้ถึงข้างบนจนได้..
อยากขอบคุณ ทุกคนที่พบมาบนภูกระดึง.. และขอบคุณน้องชายที่ยอมลำบากพาพี่สาวไป..ถึงแม้จะไม่ใช่ที่ท่องเที่ยวที่เค้าจะอยากไปก็ตาม.. ยอมแบกกล้องกว่าสิบโล ไปตลอดทริปทั้งเดินขึ้นและเดินลง..คอยดูแลตลอดทุกย่างก้าวที่พี่สาวเดิน.. ยอมอดทน ขับรถทั้งไปและกลับ..งานนี้ถ้าไม่มีน้องชายพี่สาวคนนี้คงไม่มีโอกาสได้ไปภูกระดึงแน่ๆ..
ที่ลืมไม่ได้ คือผ้ารัดเข่า และไม้เท้ากายสิทธิ์ ของเพื่อนน้องชายที่เอามาให้ใช้.. ถ้าไม่มี 2 อย่างนี้ สงสัยคงเดินไม่เป็น เป็นแน่แท้...
แม้จะเจอบางสิ่งบางอย่างที่ขัดใจบ้าง..เช่น.. ยังคงเจอถุงพลาสติคในกองขี้ช้าง.. เจอขวดน้ำอัดลมในพุ่มไม้ที่ไกลทางเดิน(ทำให้ไม่สามารถเดินเข้าไปเก็บได้) และยังเจอกองดอกไม้+หม้อข้าวหม้อแกงลิงที่ถูกคนเด็ดเอามาวางทิ้งไว้ตามทางที่น้ำตก.. แต่เมื่อไม่ได้เจอคนที่กระทำแบบนั้น..ก็ได้แต่บ่นไปตามประสาคนแก่ที่เสียดาย..
เสียดายที่คนข้างหลังจะไม่มีโอกาสได้ชมดอกที่อยู่บนต้น.. แต่ต้องมาชมดอกไม้เหี่ยวๆที่อยู่ข้างทางแทน..
ขากลับทีแรกคิดว่าจะไปนอนค้างขอนแก่นอีก 1 คืน แต่วันลงเกิดเปลี่ยนใจ..ถามน้องว่าขับกลับบ้านไหวมั้ย??.. ถ้าไหวก็กลับบ้านเลย..ใช้เส้นทางสาย 201 ชุมแพ ภูเขียว แก้งคร้อ ชัยภูมิ จัตุรัส ด่านขุนทด แวะเข้าปั๊มปตท. ที่ด่านขุนทด พร้อมซื้อของฝาก..เข้าสีคิ้ว ปากช่อง มวกเหล็ก สระบุรี และเข้ากรุงเทพฯ
ทางนี้บางช่วงจะเป็นเลนสวนกัน 2 เลน บางช่วงเป็น 4 เลน ..ถ้าคนไม่ชอบขับแซงอาจจะไม่ชอบ เพราะบางช่วงจะมีรถวิ่งสวนมา.. แต่ระยะทางจะไม่อ้อมเท่าทางที่ไปทางขอนแก่น..ร่นระยะเวลาไปได้เกือบชั่วโมง..วันนั้นถึงบ้านเกือบเที่ยงคืนค่ะ..
Create Date : 12 ธันวาคม 2552 |
|
31 comments |
Last Update : 12 ธันวาคม 2552 14:53:22 น. |
Counter : 2739 Pageviews. |
|
|
|
เอ..คนไปที่ไหนกัน ตอนที่ราไปนะเพิ่งลงมาราวๆห้าพันกว่าคน
อาบน้ำเป็นไงบ้าง
เค้าทำห้องน่ำใหม่ยังคะ
อยากไปอีกจัง
รูปสวยมากเลยค่า