ศีลข้อที่ทำได้ง่ายและยากที่สุด
ศีลข้อ 4 มุสาวาท เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ เว้นจากการพูดเท็จ โกหก หลอกลวง ไม่เป็นความจริง มนุษย์ทุกคนชอบรักความจริงทั้งนั้น คงไม่อยากให้ใครมาหลอกลวงตน ซึ่งหมายถึงสิ่งที่แทนคำพูดด้วยก็ได้ เช่น แสดงกิริยาท่าทางให้คนดูเข้าใจผิด เขียนหนังสือหลอก จดหมายโกหก รายงานเท็จ การทำเครื่องหมายให้คนดูหลงเชื่อ เข้าใจผิด การทำหลักฐานปลอม ทำการบุ้ยใบ้ให้คนอื่นหลงเชื่อ เข้าใจผิด รวมถึงการสั่นหัว พยักหน้า โบกมือแทนคำพูดด้วย ทั้งหมดกำหนดที่เจตนา ถ้าเจตนาโกหก พูดมุสา แม้จะไม่เปล่งเสียงออกมา ก็ถือว่าผิดศีลข้อนี้ทุกกรณี..... ศีลข้อ 4 นี้น่าจะเป็นข้อที่มนุษย์ทำได้ง่ายที่สุด ขณะเดียวกันก็กลายเป็นเรื่องที่ยากที่สุด หากผิดศีลข้อนี้แล้ว อีก 4 ข้อไม่มีเหลือ เพราะเขาเห็นว่าการพูดเท็จ พูดคำหยาบ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล เป็นเรื่องเล็กน้อย ก็เลยทำให้จิตเคยชินกับความชั่ว เห็นบาปกรรมอะไรๆเป็นเรื่องเล็กน้อยไปหมด ก็เลยทำผิดศีลข้ออื่นๆไปได้ง่ายๆ ทั้งหมด 5 ข้อได้
ตรวจศีลข้อ4 ศีลข้อ 4 มุสาวาท เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ ศึกษาสมาทานเพื่อการลด งด เว้นขาด จากความเท็จ ความไม่แท้ เจตนารมณ์ศีลข้อ 4 เพื่อลดมุสา พัฒนาสัจจวาจา ศีลขาด คือ เจตนากล่าวคำเท็จ โกหก หลอกลวง บิดเบือนไปจากความจริง หรือสัจจะ ศีลทะลุ คือ เจตนากล่าววาจา ระบายโทสะ บำเรอโลภะ บำรุงราคะ เป็นคำหยาบ ศีลด่าง คือ มีวาจาส่อไปในทางเสียด เสียดสีเชิงโทสะบ้าง เสียดสีเชิงโลภะบ้าง เสียดสีเชิงราคะบ้าง เสียดสีเชิงมานะทิฏฐิบ้าง เสียดสีเชิงมานะอัตตาบ้าง แม้จางบางเบา หรือพูดกบคนโน้นทีคนนี้ที เพื่อให้เกิดวิวาทบาดหมาง แยกก๊ก แบ่งเหล่า ก็จัดเข้าอยู่นัยนี้ เป็นวาจาส่อเสียด ศีลพร้อย คือ มีวาจาเรื่อยเปื่อยเฉื่อยฉ่ำไป เพ้อไป พล่อยไป พล่ามไป จะโดยแรงเร้าจากโทสะที่จางบางเบา โลภะที่จางบางเบา ราคะที่จางบางเบา หรือมานะทิฏฐิที่จางบางเบา มานะอัตตาที่จางบางเบา ก็จัดเข้าอยู่นัยนี้ เป็นวาจาเพ้อเจ้อ เป็นไทโดยศีล ขัดเกลาตนจนอิสระเสรี มีวาจาประชาสัมพันธ์ เป็นไปโดยสามารถของตนไร้อิทธิพลจากโทสะ โลภะ ราคะ มานะทิฏฐิ มานะอัตตามาครอบงำ หรือไม่มีความพร้อย ความด่าง ความทะลุ หรือขาดทางศีลธรรม โดยเฉพาะเรื่องราว ลดมิจฉาสู่สัมมา หรือลดมุสา (วาจาอันเป็นเท็จจากสัจจะ) พัฒนาสัจจวาจา ไม่ผิดศีลข้อ 4 จะได้รับอานิสงส์ผลบุญอะไรบ้าง? 1.มีคนรักชอบพอ อยากคบหาสมาคมด้วย 2.ตายไปเกิดในสุคติภูมิ คือ มนุษย์ 3.หลังจากเกิดมาเป็นมนุษย์อีก จะได้รับอานิสงส์แถมพกมาอีกถึง 14 ประการ คือ 1)มีอินทรีย์ทั้ง 5 ผ่องใส 2)มีวาจาไพเราะ อ่อนหวาน 3)มีฟันเสมอกัน ชิดเรียงกันสวยงาม และขาวสะอาด 4)ไม่อ้วนจนเกินไป 5)ไม่ผอมจนเกินไป 6)ไม่สูงจนเกินไป 7)ไม่เตี้ยจนเกินไป 8)กลิ่นปากหอมเหมือนดอกบัว 9)ได้สัมผัสแต่ที่เป็นสุข 10)มีบริวารล้วนแต่ขยันขันแข็ง 11)มีถ้อยคำที่คนอื่นเชื่อถือได้ 12)ลิ้นบาง แดง อ่อนเหมือนกลีบดอกบัว 13)ใจไม่ฟุ้งซ่าน 14)ไม่เป็นใบ้ ไม่พูดติดอ่าง
ขอบคุณข้อมูลจาก: //www.buddhadhamma.com //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=pat-naja&month=07-2008&date=03&group=8&gblog=5
Create Date : 03 กันยายน 2551 |
Last Update : 8 กันยายน 2551 17:20:33 น. |
|
4 comments
|
Counter : 978 Pageviews. |
|
|
ให้กำลังใจนะคะ