Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
3 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
ศีลข้อที่ทำได้ง่ายและยากที่สุด

ศีลข้อ 4 มุสาวาท เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ
เว้นจากการพูดเท็จ โกหก หลอกลวง ไม่เป็นความจริง


           มนุษย์ทุกคนชอบรักความจริงทั้งนั้น คงไม่อยากให้ใครมาหลอกลวงตน ซึ่งหมายถึงสิ่งที่แทนคำพูดด้วยก็ได้ เช่น แสดงกิริยาท่าทางให้คนดูเข้าใจผิด เขียนหนังสือหลอก จดหมายโกหก รายงานเท็จ การทำเครื่องหมายให้คนดูหลงเชื่อ เข้าใจผิด การทำหลักฐานปลอม ทำการบุ้ยใบ้ให้คนอื่นหลงเชื่อ เข้าใจผิด รวมถึงการสั่นหัว พยักหน้า โบกมือแทนคำพูดด้วย ทั้งหมดกำหนดที่เจตนา ถ้าเจตนาโกหก พูดมุสา แม้จะไม่เปล่งเสียงออกมา ก็ถือว่าผิดศีลข้อนี้ทุกกรณี.....


          ศีลข้อ 4 นี้น่าจะเป็นข้อที่มนุษย์ทำได้ง่ายที่สุด  ขณะเดียวกันก็กลายเป็นเรื่องที่ยากที่สุด  หากผิดศีลข้อนี้แล้ว  อีก 4 ข้อไม่มีเหลือ เพราะเขาเห็นว่าการพูดเท็จ พูดคำหยาบ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล เป็นเรื่องเล็กน้อย ก็เลยทำให้จิตเคยชินกับความชั่ว เห็นบาปกรรมอะไรๆเป็นเรื่องเล็กน้อยไปหมด  ก็เลยทำผิดศีลข้ออื่นๆไปได้ง่ายๆ ทั้งหมด 5 ข้อได้



ตรวจศีลข้อ4


ศีลข้อ 4 มุสาวาท เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ
ศึกษาสมาทานเพื่อการลด งด เว้นขาด จากความเท็จ ความไม่แท้
เจตนารมณ์ศีลข้อ 4 เพื่อลดมุสา พัฒนาสัจจวาจา
ศีลขาด
คือ เจตนากล่าวคำเท็จ โกหก หลอกลวง บิดเบือนไปจากความจริง หรือสัจจะ
ศีลทะลุ
คือ เจตนากล่าววาจา ระบายโทสะ บำเรอโลภะ บำรุงราคะ เป็นคำหยาบ
ศีลด่าง
คือ มีวาจาส่อไปในทางเสียด เสียดสีเชิงโทสะบ้าง เสียดสีเชิงโลภะบ้าง เสียดสีเชิงราคะบ้าง เสียดสีเชิงมานะทิฏฐิบ้าง เสียดสีเชิงมานะอัตตาบ้าง แม้จางบางเบา หรือพูดกบคนโน้นทีคนนี้ที เพื่อให้เกิดวิวาทบาดหมาง แยกก๊ก แบ่งเหล่า ก็จัดเข้าอยู่นัยนี้ เป็นวาจาส่อเสียด
ศีลพร้อย
คือ มีวาจาเรื่อยเปื่อยเฉื่อยฉ่ำไป เพ้อไป พล่อยไป พล่ามไป จะโดยแรงเร้าจากโทสะที่จางบางเบา โลภะที่จางบางเบา ราคะที่จางบางเบา หรือมานะทิฏฐิที่จางบางเบา มานะอัตตาที่จางบางเบา ก็จัดเข้าอยู่นัยนี้ เป็นวาจาเพ้อเจ้อ
เป็นไทโดยศีล
ขัดเกลาตนจนอิสระเสรี มีวาจาประชาสัมพันธ์ เป็นไปโดยสามารถของตนไร้อิทธิพลจากโทสะ โลภะ ราคะ มานะทิฏฐิ มานะอัตตามาครอบงำ หรือไม่มีความพร้อย ความด่าง ความทะลุ หรือขาดทางศีลธรรม โดยเฉพาะเรื่องราว ลดมิจฉาสู่สัมมา หรือลดมุสา (วาจาอันเป็นเท็จจากสัจจะ) พัฒนาสัจจวาจา
ไม่ผิดศีลข้อ 4 จะได้รับอานิสงส์ผลบุญอะไรบ้าง?


1.มีคนรักชอบพอ อยากคบหาสมาคมด้วย


2.ตายไปเกิดในสุคติภูมิ คือ มนุษย์


3.หลังจากเกิดมาเป็นมนุษย์อีก จะได้รับอานิสงส์แถมพกมาอีกถึง 14 ประการ คือ


1)มีอินทรีย์ทั้ง 5 ผ่องใส 2)มีวาจาไพเราะ อ่อนหวาน 3)มีฟันเสมอกัน ชิดเรียงกันสวยงาม และขาวสะอาด 4)ไม่อ้วนจนเกินไป 5)ไม่ผอมจนเกินไป 6)ไม่สูงจนเกินไป 7)ไม่เตี้ยจนเกินไป 8)กลิ่นปากหอมเหมือนดอกบัว 9)ได้สัมผัสแต่ที่เป็นสุข 10)มีบริวารล้วนแต่ขยันขันแข็ง 11)มีถ้อยคำที่คนอื่นเชื่อถือได้ 12)ลิ้นบาง แดง อ่อนเหมือนกลีบดอกบัว 13)ใจไม่ฟุ้งซ่าน 14)ไม่เป็นใบ้ ไม่พูดติดอ่าง




ขอบคุณข้อมูลจาก: //www.buddhadhamma.com


//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=pat-naja&month=07-2008&date=03&group=8&gblog=5




Create Date : 03 กันยายน 2551
Last Update : 8 กันยายน 2551 17:20:33 น. 4 comments
Counter : 978 Pageviews.

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ค่ะ คุ้น ๆ ว่าสถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้จะเป็นเหมือนขาดศีลข้อ 4 หรือเปล่าเนี่ย

ให้กำลังใจนะคะ


โดย: fulgurant วันที่: 3 กันยายน 2551 เวลา:23:17:28 น.  

 
ขอบคุณมากๆเลยจ๊ะ คุณเหมี่ยว fulgurant คิดถึงนะจ๊ะ


โดย: sangseetong วันที่: 4 กันยายน 2551 เวลา:1:30:44 น.  

 
ถูกต้องที่สุดแล้วครับ
สิ่งที่เราไม่ได้นำออกมาใช้เลยคือ สติ
สติ มีหลายระดับ
ระดับโสดาบัน สติระลึกได้เพียงแค่เว้นการพูดเท็จได้
เด็ดขาด แต่ ส่อเสียด หยาบ เพ้อเจ้อ ยังมีอยู่บ้าง
แต่เบาบางกว่าคนทั่วไปมาก ๆ
ระดับอนาคาทีขึ้นไป จึงละวจีทุจริตได้สมบูรณ์

ปกลจ..ให้คับ


โดย: อัสติสะ วันที่: 4 กันยายน 2551 เวลา:8:21:54 น.  

 
*** คุณ อัสติสะ ขอบคุณที่มาเติมเรื่องสติ เมื่อมีสติทำให้ระลึกรู้ตัว รู้จักพินิจพิจารณาสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะการรับข้อมูลข่าวสารที่เป็นข้อเท็จจริง ข้อมูลที่บิดเบือน หลอกลวงให้ผู้อื่นหลงเชื่อคล้อยตาม เกิดการเข้าใจผู้อื่นผิดไป หรือตีความผิดๆ ซึ่งเข้าข่ายผิดศีลข้อ 4
อย่าเชื่อเพราะฟังกันต่อๆมา
อย่าเชื่อเพราะทำกันมานาน
อย่าเชื่อเพราะคำเล่าลือ
อย่าเชื่อเพราะมีอยู่ในตำรา
อย่าเชื่อเพราะเข้ากันได้
อย่าเชื่อเพราะตรงกับใจ
อย่าเชื่อเพราะมีเหตุผล
อย่าเชื่อเพราะตรงแนวคิดของคุณ
อย่าเชื่อเพราะดูกิริยาน่าเชื่อถือ
อย่าเชื่อเพราะท่านเป็นครูของเรา

ต่อเมื่อใดพิจารณาด้วยปัญญาว่า สิ่งใดยังประโยชน์แก่ผู้อื่นควรทำ สิ่งใดป็นอกุศลควรละให้สิ้น


โดย: sangseetong วันที่: 5 กันยายน 2551 เวลา:16:35:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sangseetong
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






my blog

มุมพักผ่อน ยามว่าง
มุมอ่านหนังสือ
มุมสบายๆ
มุมทักทายกับเพื่อนๆ
มุมจับฉ่ายอะไรก็ได้









ขอบคุณคำแนะนำ
การแต่งบล็อกดีๆจาก
เพื่อนที่น่ารัก คุณ colchigue
และเพื่อนๆคนอื่นด้วยค่ะ



Friends' blogs
[Add sangseetong's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.